ในที่สุดผมก็กลับมาตามคำเรียกร้องกันแล้วครับทุกคน อะไรนะ? ไม่ได้เรียกร้องผมกันหรอกเหรอ โอเค ผมสำคัญตัวผิดไปเองก็ได้ เอาเป็นว่าวันนี้ผมกลับมาแล้วจริง ๆ นะ กับ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนในพาร์ทที่ 2 หลังจากที่ได้มีการปล่อยพาร์ทแรกออกไปอย่างที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนชอบกันบ้างหรือเปล่า แต่ก็เอาเป็นว่าผมหวังจริง ๆ ว่าจะมีคนตามอ่านในพาร์ท 2 ที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ ใครที่พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับผม!!
Tulip
ทิวลิปถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 1000 ปีก่อนโดยประมาณ ในป่าของเปอร์เซียใกล้ Kabul แถมยังมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันมากถึง 33 ชนิด ภาษาตุรกีแปลว่าธุรกิจ ในขณะที่ชาวเปอร์เซียนำทิวลิปมาเป็นส่วนหนึ่งในการสรรเสริญศิลปินของพวกเขา ทั้งภาพวาดและเพลงทั้งหมดจนถูกมองว่าทิวลิปคือสัญลักษณ์ของจักรวรรดิออตโตมันไปเสียแล้ว และในปี 1610 ที่เริ่มมีการนำเข้าของใช้ต่าง ๆ ที่มีลวดลายของดอกทิวลิป ทั้งเสื้อผ้า หรือแม้แต่โคมไฟก็ทำให้ดอกทิวลิปกลายเป็นเหมือนกับเทรนด์ใหญ่ยอดนิยมมในสมัยนั้นจนผู้คนแทบจะทุกบ้านต่างก็ทิ้งงานของตนและหันมาปลูกดอกทิวลิปกันมากขึ้นจนดอกทิวลิปราคาสูงเสียยิ่งกว่าบ้าน 1 หลัง ภาวะเงินเฟ้อพุ่งจนถึงขีดสุดก่อนจะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจทำให้เงินฝืด เศรษฐกิจล้มตัว คล้ายกับว่าเป็นวิฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่และครั้งแรกของโลกเลยก็เป็นได้
Gladiolus
ในภาษาละติน ‘Gladius’ หมายถึงดาบ และในภาษากรีกชื่อ ‘Xiphos’ ก็หมายถึงดาบเหมือนกัน และด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้เองจึงทำให้ชื่อ Gladiolus ถือกำเนิดขึ้นมา ตั้งตามมาจากลักษณะที่คล้ายกับดาบ เป็นตัวแทนของนักสู้ชาวโรมัน นอกจากนี้ในทางการแพทย์ แกลดิโอลัสของอังกฤษในส่วนของโคนต้นก็นำมาทำเป็นยาพอกได้
Dahlia
คล้ายกับว่าเป็นเอกสารทางการแพทย์ใน 60 ปีต่อมา หลังจากที่โคลัมบัสกลับมา เอกสารฉบับนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าชาว Aztecs ใช้ Dahlia ในการรักษาโรคลมบ้าหมู และนอกจากนี้นักวิจัยในยุโรปช่วงปี 1840 ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า Dahlia สามารถทานได้หลังจากเหตุการณ์โรคติดต่อในมันฝรั่งของฝรั่งเศส ที่เป็นวิฤตเรื่องปากท้องเรื่องหนึ่งที่สำคัญ
Sun Flower
แต่เริ่มแรกดอกทานตะวันไม่ได้นิยมในเรื่องของความสวยงาม แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของประโยชน์ต่างหาก โดยการนำของฝั่งอเมริกากลาง แต่ในปี 1532 ก็มีการรายงานมากจาก Francisco Pizarro เหมือนกันว่าชาวเปรูในอาณาจักรอินคาบูชาดอกทานตะวันไซส์ยักษ์ นอกจากนี้นักบวชอินคาก็ยังสวมดอกทานตะวันบนเสื้อผ้าที่มีทองคำด้วยเหมือนกัน เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง
Delphinium
เดลฟิเนียมมาจากภาษากรีกแปลว่าปลาโลมา เพราะว่าดอกเดลฟิเนียมมีลักษณะคล้ายจมูกของปลาโลมา ชาวอเมริกันนิยมนำดอกเดลฟิเนียมมาสกัดเป็นสีย้อมผ้าสีน้ำเงิน และในฝั่งยุโรปก็นิยมนำเดลฟิเนียมมาทำหมึก แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยโบราณมาก ๆ เดลฟิเนียมถือเป็นเหมือนยาไล่แมงป่องชั้นดี (ไม่รู้ว่าจริงหรืออุปโลกกันไปเอง)
จบกันไปแล้นะครับกับพาร์ท 2 ของ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรุ้มาก่อน ใครที่สนใจและอยากจะตามติดในพาร์ทที่ 3 (พาร์ท 2 ยังไม่รอดเลย) ผมก็อยากจะขอให้ทุกคนไม่ต้องรอนะครับ เพราะผมจะเขียนก็ต่อเมื่อผมมีอารมณ์นั่นเองล้อเล่นครับ เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรน่าสนใจผมก็จะรวมมาลงให้อีกที แต่สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่ติดตามกันมาก ๆ เลยนะครับ แล้วเจอกันใหม่จ้า!!
ที่มาภาพ : Beaconboy Travel Company Limited, Gardenia, gardening Know how, BCC, Wallpaperflare
#ดอกไม้กับประวัติศาสตร์โลก #เรื่องดอกไม้ที่คุณไม่รู้