Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สัตว์เลี้ยงน่ารักวันนี้ เตรียมตัวให้ดีก่อนเลี้ยงเม่นแคระ

สำหรับปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์นั้นถือว่าเป็นงานอดิเรกของใครหลายๆคนไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานรวมไปถึงวัยทองหรือสูงอายุต่างคนต่างก็มีสไตล์สัตว์ที่ชอบไม่เหมือนกันและอีกอย่างราคาปัจจุบันถือว่าไม่แรงสามารถจับต้องได้และเป็นเจ้าของได้แบบง่ายๆ

มีตั้งแต่สัตว์เล็กจะไปถึงสัตว์ใหญ่สัตว์ปีกสัตว์บกสัตว์น้ำเป็นต้นในวันนี้จะมาแนะนำสัตว์เลื้อยคลานประเภทของหนูก็คือเม่นแคระโดยจะมาแนะนำวิธีเตรียมตัวให้ดีก่อนจะเลี้ยงต้องทำอย่างไรบ้างมาดูกัน

สถานที่

สิ่งแรกเลยคือสถานที่แนะนำให้ใช้สถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่มีขนาดที่เล็กจนเกินไปและไม่มีขนาดที่ใหญ่จนเกินไปอาจจะเป็นห้องนอนหรือห้องพัดลมก็สามารถทำได้หรือว่าไม่ถึงบริเวณหน้าบ้านหรืออะไรก็ได้ที่มีรั้วกั้นมิดชิด

ภาชนะ

สำหรับเม่นแคระนั้นนิยมเลี้ยงกันในกะละมังหรือเลี้ยงปลาในอ่างแก้วหรือลังไม้ไม่แนะนำให้ใช้กรงเพราะเนื่องจากน้องเม่นแคระนั้นค่อนข้างจะขี้ซนและชอบปีนป่ายไปทั่วอาจจะทำให้ขาหักหรือแขนหักได้ซึ่งมีหลายๆเคสมาแล้วที่เป็นแบบนี้เพราะฉะนั้นจึงนิยมเลี้ยงในกะละมังหรืออ่านง่ายๆแทน

อาหาร

สำหรับใครที่เอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษสำหรับสัตว์เลี้ยงของคุณแนะนำให้ใช้อาหารเม่นโดยตรงมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ราคาไม่แรงสามารถจับต้องได้ที่สำคัญถ้าหากใช้อาหารเล่นโดยเฉพาะจะทำให้ร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรคง่ายหรือถ้าหากเป็นผู้คนที่ไม่ค่อยมีงบประมาณแนะนำให้อาหารแมวเป็นต้นและควรใช้อาหารเสริมคือโครงสร้างของแมลงน่าจะเป็นหนอนน้อยหรือหนอนกรอบก็สามารถใช้ได้

น้ำ

สำหรับน้ำของเม่นแคระนั้นแนะนำให้ใช้น้ำผสมวิตามินหรือเป็นน้ำเปล่าก็ได้แนะนำอย่าใช้น้ำประปาหรือน้ำก๊อกแนะนำให้ใช้น้ำในขวดหรือถ้าหากคุณเป็นคนง่ายๆชิวๆก็สามารถใช้น้ำก๊อกได้เช่นกันในกรณีที่ใช้น้ำขวดหรือน้ำวิตามินเหมาะสำหรับผู้คนที่มีงบประมาณสูง

เงิน

แน่นอนว่าเงินเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการซื้อสัตว์เลี้ยงหรือการเลี้ยงสัตว์ชนิดต่างๆเพราะคุณจำเป็นต้องรู้จักออมเงินไว้เพื่อในส่วนต่างๆไม่ว่าจะเป็นส่วนรักษาพยาบาลส่วนของอาหารเสริมของอุปกรณ์เสริมหรือส่วนของอุปกรณ์รองโกงขี้เลื่อยซังข้าวโพดเป็นต้น

คนดูแล

คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของของเม่นแคระนั่นเองเพราะเจ้าของจะเข้าใจดีว่าแม่นต้องการอะไรและจะเล่นกับมันได้แบบไม่ต้องกลัวที่สำคัญวิธีเรียนนั้นสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตทั่วไปหรือจะดูจาก youtube รวมไปถึงโซเชียลมีเดียก็สามารถทำได้

วิดีโอเพิ่มเติม :

เม่นแล่ว EP.18 | 15 ข้อ ควรรู้ก่อนเลี้ยงเม่นแคระ

#เลี้ยงเม่นแคระ #รู้ก่อนเลี้ยง #แนะนำสัตว์เลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เมนคูน (Maine Coon) เจ้าเหมียวตัวยักษ์จอมขี้อ้อน

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุด ในบรรดาสายพันธุ์แมวบ้าน อีกทั้งยังเป็นแมวที่ผู้เลี้ยงนิยมกันมากๆ ดังนั้นเมื่อพูดถึงเจ้าเมนคูน ทุกคนจ้องรู้จักกันอยู่แล้วอย่างแน่นอน

และเมนคูนนั้นก็ยังมีชื่อเสียงในด้านความใจเย็น เรียบร้อย และมีจิตใจที่ดี นิสัยน่ารัก เป็นกันเองแถมยังฉลาด แสนรู้ ใครเห็นก็พากันเอ็นดู และหลงรักในความขี้อ้อนของเขา อีกทั้งยังเป็นแมวที่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี และยังมีความเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆและเด็ก ต่อมามีสายพันธุ์แมวเปอร์เซียเกิดขึ้น จึงทำให้เมนคูนได้รับความนิยมลดลงเป็นอันดับ 2 แต่อีกไม่กี่ปีก็กลับมานิยมกันอีกครั้ง

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดรัฐเมน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำเนิดมาจากชาวเรือที่ได้พาแมวไปด้วย แล้วได้ปล่อยไว้ช่วงตอนไปทอดสมอ แมวจึงได้ผสมพันธ์ุกับแมวท้องถิ่น

ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์เฉพาะขึ้นมา ด้วยลักษณะหางของเขาที่จะเป็นขนปุยๆ มีลายสีน้ำตาลคล้ายกับแรคคูนเท่านั้น “คูน” จึงเป็นที่มาของชื่อ ส่วนคำว่า “เมน” ก็จะมาจากถิ่นกำเนิดคือรัฐเมนนั่นเอง ก็เลยมีชื่อว่า “เมนคูน” ในสายพันธุ์แมวนี้

เมนคูน (Maine Coon) แมวเลี้ยงที่มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุด

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่ จึงทำให้มีหูและหัวที่ใหญ่เช่นกัน ส่วนช่วงอกนั้นจะกว้าง และขาจะหนา มีขนาดลำตัวค่อนข้างยาว ส่วนขนนั้นจะยาวหนาและนุ่ม

ทำให้เป็นแมวที่น่ารักน่ากอดมากๆ สีของขนก็จะมีหลายสี อาทิเช่น สีขาว สีดำ และน้ำตาล เป็นต้น และลักษณะของสีนั้นก็จะมีทั้งแบบสองสี สามสี สีเดียว หรืออาจจะไล่สีก็ได้ ส่วนน้ำหนักของแมวพันธุ์นี้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4-8 กิโลกรัม และจะมีความสูงอยู่ที่ 76-101 เซนติเมตร ส่วนในเรื่องของอายุขัยจะมีอายุเฉลี่ยที่ 9-13 ปี

เมนคูน (Maine Coon) กับอาหารการกิน

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่ตัวโต จึงทำให้เขานั้นต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งสามารถให้ได้ทั้งแบบแห้ง แบบเปียก และแบบที่ปรุงสุกเลย แต่จะต้องมีสารอาหารที่ครบ ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อเจ้าเมนคูนนั้น ก็คือ ทอรีน เพื่อจะเป็นโครงสร้างของโปรตีน โดยจะมีเฉพาะในเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลา ส่วนเวลาของการให้อาหารนั้น จะแบ่งให้เป็น 4 มื้อ โดยจะมีมื้อเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ในเรื่องของปริมาณที่เหมาะสมนั้น จะต้องให้พอกับความต้องการของเขา ซึ่งจะต้องไม่มากไปหรือน้อยไป

การเลี้ยงดูเมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนยาว ดังนั้น เราควรแปรงขนให้เขาอย่างน้องสัปดาห์ละสองครั้ง เพื่อที่จะเอาขนที่ตายออกไป และอีกอย่างที่ควรดูนั้น ก็คือขนตรงบริเวณหาง เพราะอาจมีอุจจาระ หรือสิ่งสกปรกติดอยู่ โดยถ้าหากว่ามีก็ให้เราทำความสะอาด ซึ่งจะต้องใช้ทิชชู่เปียกเช็ดตรงบริเวณนั้นเบาๆ ส่วนการอาบน้ำของเมนคูน ควรจะทำการอาบอย่างน้องสองอาทิตย์ต่อหนึ่งครั้ง

วิดีโอเพิ่มเติม :

5 เรื่องรู้หรือไม่ของแมวไซส์ยักษ์ “เมนคูน”

เครดิตภาพ

https://petmaya.com/  ภาพที่ 1,2

https://pixabay.com/th/photos/  ภาพที่ 3

#เมนคูน (Maine Coon) #แนะนำแมวน่าเลี้ยง #แนะนำสัตว์เลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

5 สัตว์เลี้ยงน่ารัก เลี้ยงง่าย เหมาะสำหรับเด็กหอที่อยากมีสัตว์เลี้ยงไม่กวนข้างห้อง

สัตว์เลี้ยงคืออีกสิ่งมีชีวิตที่เป็นทั้งเพื่อนที่ดี เป็นทั้งครอบครัวและเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับคนหลาย ๆคนที่อยากรักและต้องการความรักจากเหล่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองโดยสัตว์ชนิดต่าง ๆก็มีเอกลักษณ์และวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไป ซึ่งสำหรับคนที่อยู่บ้านเช่า อยู่คอนโด หรือเป็นเด็กหอที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ แต่ไม่อยากให้น้องมีเสียงดัง หรือสร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้าน วันนี้เราเลยมี 5 สัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆที่สามรถเลี้ยงในห้องได้ ไม่ส่งเสียงรบกวนและไม่สร้างความรำคาญมาเป็นไอเดียในการเลี้ยงสัตว์มาฝากกัน

1. งูข้าวโพด (Corn Snake)

งูข้าวโพด (Corn Snake) คือ สัตว์เลี้ยงที่เหมาะสำหรับหอพักที่ไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เพราะงูเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ส่งเสียงรบกวน ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อยและใช้เวลาในการดูแลน้อย ทำให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองแถมเจ้างูข้าวโพด (Corn Snake) ยังมีนิสัยเชื่อง ขี้อาย ชอบซ่อนตัว ไม่ดุร้าย ไม่มีพิษ ตัวลื่น เกล็ดแข็งเรียบ ลวดลายสวยงาม มีสีส้ม หรือเหลืองน้ำตาล และเลี้ยงง่ายเมื่อเทียบกับงูชนิดอื่น ๆด้วย

2. กุ้งแคระสวยงาม

สำหรับใครที่เบื่อการเลี้ยงปลา การเลี้ยง ‘กุ้งแคระ’ ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจเพราะเป็นสัตว์เลี้ยง ที่มีขนาดแค่ปลายนิ้วแต่มีสีสันสวยงาม มีหลากหลายสายพันธุ์ตั้งแต่สีพื้นสีเดียว เช่น แดง ส้ม ไปจนถึงลวดลายขาวสลับแดง เหมือนปลาคราฟ ก็มีให้เลือกซื้อกัน จึงนับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากมีตู้ปลาอยู่ในห้อง

3 .เต่าบก

เต่าบก คือ สัตว์เลี้ยง สำหรับคนรักความสงบ โดยเจ้าเต่าบก เหมาะสำหรับคนที่อยากหาเพื่อนอายุยืนเพียงพอจะอยู่เดินต้วมเตี้ยมด้วยกัน ไปจนแก่เฒ่า เพราะถ้าหากเลี้ยงอย่างถูกวิธีเต่าบกจะเป็นสัตว์เลี้ยงจะอยู่เป็นเพื่อนเรานานหลายสิบปีเลยทีเดียว

สัตว์เลี้ยงที่น่ารักคือสัตว์เลี้ยงที่เรารู้สึกรักแม้ว่าภายนอกจะมีหน้าตาที่น่ากลัว

4. ชินชิล่า

ชินชิล่าคือสัตว์เลี้ยงขนนุ๊มนุ่มที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเลี้ยงสัตว์น่ารัก ๆแต่เบื่อเลี้ยงหนูเลี้ยงกระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหนูผสมกระต่าย วิธีการเลี้ยงไม่ยากแถมยังเชื่องอีกต่างหาก แต่มีข้อพึงระวังนิดหน่อยคือ ด้วยความเป็นสัตว์ขนหนาจึงควรเลี้ยงในห้องแอร์หรือห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนอบอ้าวเพื่อให้น้องไม่เกิดอาการฮีท หรือไม่สบายตัวนั่นเอง

5. กิ้งก่าคาเมเลี่ยน

กิ้งก่าคาเมเลี่ยนหรือที่เรารู้จักกันในชื่อกิ้งก่าเปลี่ยนสีเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ ด้วยเสน่ห์ในเรื่องของสีผิวที่สามารถปรับเปลี่ยนตามอารมณ์และสภาพแวดล้อม  พร้อมกับดวงตาที่กรอกได้โดยรอบ ล้วนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่ทำให้กิ้งก่าคาเมล่อนเป็นอีกสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจเช่นกัน

เครดิตรูปภาพ petcitiz และ thaich8

#สัตว์เลี้ยงเด็กหอ #แนะนำสัตว์เลี้ยง #เลี้ยงสัตว์ในคอนโด

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สัตว์เลี้ยง

ถ้าพูดถึงความเหงาหลาย ๆ คนคงรู้สึกว่าไม่อยากจะพบเจอ เลยจะมาแนะนำเพื่อนแก้เหงากันค่ะ เพื่อนแก้เหงาในที่นี้คือสัตว์เลี้ยงสุดแสนจะน่ารัก แต่ว่าสัตว์เลี้ยงมีหลายประเภทแล้วสัตว์เลี้ยงแบบไหนกันล่ะที่น่าสนใจและเป็นเพื่อนแก้เหงาให้เราได้จริง ๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยเติมเต็มชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น วันนี้ขอแนะนำสัตว์เลี้ยงที่ทั้งน่ารัก ขี้อ้อน ดูแลง่ายเป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัยและยังเป็นที่นิยมมากอีกด้วย นั่นก็คือน้องแมวนี่เองค่ะ

แมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีช่วงลำตัวตั้งแต่จมูกถึงปลายหางยาวประมาณ 40 เซนติเมตร แมวที่เลี้ยงตามบ้าน จะมีรูปร่างขนาดเล็ก ขนาดลำตัวยาว ช่วงขาสั้น แมวเป็นสัตว์ที่มีความคล่องตัวสูงและจัดอยู่ในกลุ่มของประเภทสัตว์กินเนื้อ มีเขี้ยวและเล็บแหลมคมสามารถหดซ่อนเล็บได้ โดยทั่วไปจะมีการแบ่งพันธุ์แมวออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ แมวขนยาว (longhaired cat) และ แมวขนสั้น (shorthaired cats) แมวในโลกนี้มีมากมายหลายพันธุ์ ส่วนแมวที่น่ารักและเป็นที่นิยมเลี้ยง คือ แมวเปอร์เซีย (Persian Cat) แมวอเมริกัน ชอร์ตแฮร์ (American Short Hair) สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) แมวเอ็กโซติก (Exotic) และแมวหิมาลายัน (Himalayan)

นิสัยของแมว

แมวเป็นสัตว์หากินกลางคืนเป็นส่วนใหญ่ แมวอาจดูเหมือนกับเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างขี้เกียจนอนตลอดทั้งวัน แต่ความเป็นจริงแล้วแมวจะหลับๆตื่นๆ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ สลับกัน แมวตื่นขึ้นมาเพื่อจะสำรวจเสียงหรือสิ่งแปลกปลอมรอบตัว หากไม่มีอะไรน่าสนใจแมวก็จะหลับต่อ แมวมีจมูกที่ไวต่อกลิ่นและหูที่ไวต่อเสียง และจะพลิกหันไปหันมาอยู่เสมอเพื่อดักฟังเสียงแปลกๆไปด้วย โดยทั่วไปแมวเป็นสัตว์ที่รักอิสระมาก ๆ  ชอบทำอะไรตามใจตนเอง และคิดเสมอว่าตัวเองอยู่เหนือกว่ามนุษย์ เป็นนายเรา
เป็นเจ้าของเรามากกว่าที่เราจะเป็นเจ้าของมัน แมวจะรักตอบแค่คนที่รักตัวมันเท่านั้น แมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยค่อนข้างหยิ่ง มักไม่นั่งค่อยชอบนั่งเฝ้าคนหรือติดเจ้าของเหมือนกับสุนัข ชอบเที่ยวผจญภัย (บางบ้านกลางคืนแมวอาจจะแบบหนีเที่ยวเลยด้วยซ้ำ) แถมยังดื้อไม่ค่อยเชื่อฟังอีกด้วย ดังนั้นถ้าอยากให้แมวรักก็ต้องเอาอกเอาใจแมวสักหน่อย(เพื่อเพิ่มแต้มความรัก)  เพราะถ้าแมวรักคุณแล้ว แมวจะกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่สุดแสนจะน่ารักและขี้อ้อน น่าเอ็นดูสุดๆเลยทีเดียว เป็นยังไงบ้างคะ อยากจะเลี้ยงแมวขึ้นมาเลยใช่มั้ยล่ะ แต่อย่าลืมนะคะแมวแต่ละตัวอาจจะมีนิสัยต่างกันไป ยังไงก่อนจะเลี้ยงเจ้าตัวป่วนก็อย่าลืมที่จะศึกษานิสัยโดยธรรมชาติของแมวหรือสัญชาตญาณของมัน และวิธีการเลี้ยงเพิ่มเติมกันด้วยนะคะ

#รู้จักแมวก่อนเลี้ยง #นิสัยของแมว #แนะนำสัตว์เลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เทรนด์ หมูจิ๋ว ไมโครพิก (Micro pig)

หมูแคระ หมูจิ๋ว คงมีคนเคยเห็นและอยากที่จะมีไว้สักตัว เพราะ มีความน่ารักด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ กะทัดรัด หมูจิ๋ว เป็นทีนิยมเลี้ยงในต่าง ๆ ประเทศ  และในต่างประเทศก็จะเรียก เจ้าหมูจิ๋ว ต่าง ๆ กันไป เช่น Micro Pig , Mini pig  เพราะขนาดลำตัวที่เล็กพอ ๆ กับ หมาปั๊ก ซุกซน ขี้อ้อน และเลี้ยงง่าย

แต่เพราะความใหม่ที่เพิ่งมีเทรนด์นี้ราคาค่าตัวจึงยังสูงแตะหลักหมื่นเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนนี้เป็นการนำสายพันธ์เข้ามาจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันนี้สามารถเพาะพันธุในประเทศไทยได้แล้ว

ประวัติความเป็นมา  หมูจิ๋ว

               หมูจิ๋วมีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ในปีประมาณ 19921 ในฟาร์มเพาะเลี้ยงหมูคริสมอเรย์ ที่ใช้ความพยายามผสมพันธุ์หมูจิ๋ว โดยนำหมูสายพันธุ์ต่าง ๆ  เช่น หมูเวิร์ท หมูนิวซีแลนด์ จนได้เป็นหมูจิ๋ว ที่มีชื่อว่า Teacup ping เพราะขนาดที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กพอ ๆ กับถ้วยน้ำชา และขายให้กับผู้ที่ต้องการเลี้ยง ด้วยราคาถึงหลักหมื่น และเหล่าเซเลมคนดังต่างนิยมเลี้ยงหมูจิ๋วกันอย่างมาก ด้วยความน่ารัก และเลี้ยงง่าย ทำให้ฟาร์มจึงเพาะพันธุ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่ทันต่อความต้องการ จนมีอีกหลายฟาร์มเริ่มทำตาม

ลักษณะทั่วไปของหมูจิ๋ว

               หมูจิ๋ว เป็นหมูที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดปกติ สมตามชื่อ หมูจิ๋ว ด้วยขนาดที่เล็กทำให้มีน้ำหนักตัวที่เบา หมูจิ๋วจะโตเต็มที่ต้องใช้เวลาดูแลประมาณ 3 ปี และเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 25-30 กิโลกรัม มีส่วนสูง ที่10-15 นิ้ว หมูจิ๋วจะมีอายุขัยอยู่ราว 20 ปี  การเลี้ยงดูทำได้ง่าย หมูจิ๋วจะไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และไม่เห็บหมัด

ลักษณะนิสัย

                หมูจิ๋ว หรือ หมูแคระ เป็นหมูที่มีนิสัย ซุกซน ขี้อ้อน ชอบอยู่กับคนเลี้ยง มีความฉลาดมาก และเป็นสัตว์ที่รักสะอาดมาก และเข้ากับคนง่าย แต่หมูก็คือหมู ยังมีพฤติกรรมเดิมอยู่กับตัวอย่างพฤติกรรมการที่ชอบคุ้ยดิน อยู่ไม่ค่อยนิ่ง ชอบเดินไปรอบ ๆ  ดื้อ บ้างในบางครั้ง ผู้เลี้ยงจึงควรฝึกนิสัยให้เป็นระเบียบ หมูจิ๋วสามารถฝึกสอนได้

 การเลี้ยงและดูแลหมูจิ๋ว

               ปัจจุบันนี้หมูจิ๋วได้รับความนิยมมากเพราะมีความน่ารัก ฉลาด จนอดหลงรักไม่ได้ เลี้ยงง่าย มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เหมาะกับการเลี้ยงไว้คลายเหงา เพราะสามารถอยู่กับคนเลี้ยงได้นานถึง 20 ปี   เป็นสัตว์เลี้ยงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังมีปัญหากวนบ้างเล็กน้อย เกี่ยวกับโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับกีบเท้า และหาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาด และอาหารที่ให้ในการเลี้ยงดู       

อากาศร้อนเป็นอันตรายต่อหมูจิ๋ว หมูจิ๋วไม่ชอบอากาศที่ร้อนแดดจะทำให้หมูจิ๋วสามารถไหม้ได้ และอาจทำให้หมูจิ๋วช็อกตายได้

                  อาหารของหมูจิ๋ว นั้นไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมว สำหรับลูกหมูจิ๋ว ไม่ควรที่จะให้กินอาหารเยอะ เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลดีกับลูกหมูอาหารไม่ควรมีรสชาติเค็ม ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่ควรให้กินพืชผัก และผลไม้ เพื่อลูกหมูจะได้รับสารอาหารที่ครบ  ให้เพียงวันละสองมื้อ เช้าและเย็น

ตอนนี้หมูจิ๋วเป็นที่นิยมมากและราคาต่ำลงจากช่วงแรก ๆ มาก แต่ก็ควรเลือกให้ดีหลายคนที่เคยสั่งซื้อหมูจิ๋วจากออนไลน์ หรือร้านขายโดยหวังว่าจะได้ลูกหมูจิ๋วสักตัว แต่ต้องผิดหวังโดนหลอก จึงต้องพิจารณา ลักษณะเด่น ของหมูจิ๋วดังนี้ ควรเน้นเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี ยิ่งมีใบการันตีได้ยิ่งดี มีจมูกสั้น มีลำตัวที่ยาวไม่สูงมาก หูมีขนาดเล็กตั้งตรง ขาสั้นๆ

หากคุณคิดจะเลี้ยงหมูจิ๋วสักตัว อย่าลืมพิจารณาความพร้อมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ว่าพร้อมหรือยังที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงสักตัว เพราะไม่ใช่แค่ความชอบและอยากเลี้ยง แต่ต้องใส่ใจและมีเวลาให้กับเค้าเหล่านั้น เพราะสัตว์เลี้ยงทุกชนิดก็มีชีวติและจิตใจที่ต้องการความรักและความเข้าใจจากผู้เลี้ยง

#เลี้ยงหมูจิ๋ว #Micro pig #แนะนำสัตว์เลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เต่าซูคาต้า

นอกจากหมาแมวที่หลายคนเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อนแก้เหงา ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่น่านำมาเลี้ยง อย่างวันนี้จะนำเสนอสัตว์เลี้ยงที่ชื่อว่า เต่าซูคาต้า หรือ เต่าบก นั่นเอง

ทำความรู้จักเต่าซูคาต้า

เต่าซูคาต้า ก็คือเต่าบก ที่มีหน้าตาใสซื่อ บ้องแบ๊ว น่ารัก  เต่าซูคาต้า เป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวที่ใหญ่มาก เมื่อโตเต็มที่แล้ว มีถิ่นเกิดอยู่ที่แถว เนกัลป์ ซูดาน เอธิโอเปีย มีกระดองเป็นสีน้ำตาล และสีทอง ขาแข็งแรง กินจุ เดินไว เชื่องและตื่นตัวอยู่ตลอด ไม่ซึมเหมือนเต่าน้ำทั่วไป หากโตเต็มที่จะหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม ลำตัวรวมกระดองประมาณ 35 นิ้ว หรือมากกว่านั้น  มีอายุที่ยืนยาวถึง 70 ปี ไม่รู้ว่าใครจะไปก่อนกันเลยทีนี้ คนเลี้ยง หรือเต่า งานนี้ 

 เต่าซูคาต้านั้นมีความแข็งแรง อึด อดทน ไม่ค่อยป่วย แต่ถ้าป่วยจะไม่ค่อยแสดงให้เห็นนักจนกระทั่งมีอาการที่หนัก และเมื่อมีอาการหนักต้องรีบพาไปหาหมอทันที จึงต้องสังเกตคอยดูอยู่เสมอ

                  สำหรับการรักษานั้นเต่าซูคาต้า ยังมีคุณหมอที่ดูแลอย่างเชียวชาญยังมีน้อย จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องให้การดูแลอย่างถูกวิธี เพื่อที่เต่าซูค้าต้า จะได้มีสุขภาพที่ดี

วิธีการเลือกซื้อ

1. เต่าซูคาต้าที่ดีควรมีลักษณะของนิ้วเท้าครบ หน้า 5 นิ้ว หลัง 4 นิ้ว และต้องมีเล็บที่ครบ เพราะเต่าชนิดนี้เดินเก่ง ชอบขุด จึงต้องมีเท้าที่สมบูรณ์

2. มีกระดองที่สมบูรณ์ มีรูปแบบเฉพาะของแต่ละตัว กระดองของเต่าซูคาต้ามีความเป็นจุดเด่น จึงควรมีลวดลายที่สมบูรณ์ มีสีเหลืองที่ควรมีสีที่เป็นสีเหลืองชัดเจนที่เรียกได้ว่า (Hi Yellow)

3. กระดองต้องไม่เอียง แตก บิ่น ถลอก ที่กระดองจะต้องมีตราประจำตัว ที่ตรงกลางที่เรียกว่า Scute ซึ่งจะมี 5 จุด ที่ตรงกลางกระดอง ด้านข้างแถวข้างแถวละ 4 Sctue  ต้องสมดุลกัน

4. มีดวงตาใสแจ๋ว ไม่มีน้ำตาหรือขี้ตา ไม่มีน้ำมูกที่จมูก และต้องไม่แอบอยู่แต่ในกระดองทั้งวัน

5.  การแยกเพศ สังเกตบริเวณหางเป็นหลัก เพศผู้ ลักษณะยาวและแหลม เพศเมีย ใต้กระดองจะแบนเรียบหางจะมีลักษณะอ้วนและสั้นกว่า แต่ถ้าเต่ายังเด็กอาจมองยากจึงควรรอให้เต่ามีขนาด 5-6 นิ้วก็จะเห็นชัดขึ้น  

อาหารการกิน

เต่าชูคาต้า กินง่าย กินได้แถบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผักที่มีใบสีเขียว ผักบุ้งจีน ยอดมะระ ผักคะน้า ผักหวานบ้าน (อันนี้เจอในท็อป ซุปเปอร์ แคลเซียมสูงดี) แต่ควรงดเว้นพวกผักใบม่วงๆ เช่นกำหล่ำปลีม่วง

อาหารเม็ด ที่เป็นของหมา แมว นก ก็กินได้ แต่ต้องเน้นที่มีไขมันต่ำ เพราะมีผลต่อตับและไต และไม่ควรให้บ่อย เพราะอาจทำให้เป็น นิ่วได้

น้ำก็ให้เผื่อไว้บ้าง อย่างไรน้ำก็เป็นสิ่งที่ต้องมี เพราะแค่นั้นในผักผลไม้ ยังเพียงสำหรับเต่าซูคาต้า

สถานที่เลี้ยง

ควรมีพื้นที่ให้เต่าพื้นที่เดินได้เดินเล่นบ้าง มีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ควรมีพักสำหรับเต่า ควรมีต้นไม้พุ่มไม้เตี้ยๆให้เต่าหลบแดดได้

สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังสำหรับผู้เลี้ยงเต่าซูคาต้าต้องระวังเต่าจะกลืนกินทรายและกรวดเข้าไปปนกับอาหาร

เพราะจะเป็นอันตราย เพราะทำให้อุดตันลำไส้  สาเหตุของภาวะนิ่ม หรือ โรคที่เกี่ยวกับไตที่ในภายหลังได้

#เต่าซูคาต้า #เลี้ยงเต่า #แนะนำสัตว์เลี้ยง