ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรดังตามกระแส

ฟ้าทะลายโจร สมุนไพรดังตามกระแส มากด้วยสรรพคุณต่างๆ

ฟ้าทะลายโจร กลายเป็นสมุนไพรไทยตอนนี้ขึ้นเป็นชื่อที่มีการค้นหาเป็นอันดันต้นเลยทีเดียวที่ หลังการระบาดของโรค COVID-19 แม้ตอนนี้ผลของการป้องกันและรักษาโควิด 19 ด้วยฟ้าทะลายโจรยังไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากเป็นโรคที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่และต้องรอการวิจัยผลในคนเพิ่มเติม แต่ก็ถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาอาการป่วยอื่น ๆ ได้หลากหลายทีเดียว

ลักษณะฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจร (Kariyat, The Creat) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees  ในประเทศไทยนั้นมีชื่อเรียกเจ้าต้นฟ้าทะลายโจรอยู่หลายอย่าง ตามแต่พื้นที่ เช่น หญ้ากันงู เมฆทะลายฟ้าสะท้าน สามสิบดี ฟ้าสาง หรือน้ำลายพังพอน ฟ้าทะลายโจรนั้นจัดเป็นพืชล้มลุก ความสูงประมาณ 30-70 เซนติเมตร มีรสขมทุกส่วน กิ่งใบเป็นสี่เหลี่ยม ใบมีสีเขียวเข้มผิวมัน ดอกออกเป็นช่อ กลีบดอกสีขาว มีผลเป็นฝัก ซึ่งเมื่อแก่จะมีสีน้ำตาล ด้านในมีเมล็ดจำนวนมาก สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 3-5 เดือน ใช้ได้ทั้งต้น ใบสด และใบแห้ง

สายพันธุ์ฟ้าทะลายโจรที่นำมาปลูกมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ สายพันธุ์จาก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นสายพันธุ์ที่ให้ค่าน้ำหนักสดเฉลี่ยต่อต้นสูงสุด นอกเหนือจากนี้ก็มีสายพันธุ์จากระยอง และสายพันธุ์จากศรีสะเกษ

สภาพอากาศและดินที่ใช้เพาะพันธุ์ฟ้าทะลายโจร

สภาพอากาศ :

สภาพอากาศที่เหมาะกับการปลูก ต้นฟ้าทะลายโจร อากาศร้อนชื้น อุณหภูมิประมาณ 27 องศาเซลเซียส ควรปลูกไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไร เป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องให้น้ำเพียงพอตลอดฤดู

สภาพดิน :

ดินที่เหมาะกับการปลูกฟ้าทะลายโจร ควรเป็นดินร่วนซุย ที่สามารถระบายน้ำได้ดี ไม่ท่วมขังถึงจะเป็นพืชที่ชอบน้ำ

วิธีปลูกฟ้าทะลายโจรในกระถาง

         การปลูกฟ้าทะลายโจรในกระถางสามารถปลูกได้ 2 วิธี คือ ปลูกด้วยเมล็ดและปลูกจากต้นกล้า โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. นำเมล็ดจากฝักแก่ที่มีสีน้ำตาลแดงโรยในดินแล้วกลบด้วยดินอีกชั้นบาง ๆ หากใช้ต้นกล้า ควรเลือกต้นกล้าฟ้าทะลายโจรที่มีอายุเกิน 30 วันมาปลูกลงดิน
  2. วางกระถางในที่มีแสงแดดรำไร รดน้ำให้เพียงพอและสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้ก็เสร็จสำหรับการปลูก ทำได้ไม่ยากเลยนะคะ
  3. การกำจัดวัชพืช  ควรกำจัดวัชพืชทุก ๆ ครึ่งเดือน และระวังหอยทากกับโรคต่าง ๆ เช่น โรคโคนเน่า-รากเน่าจากเชื้อรา หากพบให้ถอนทิ้งและทำลายทันที

ทั้งนี้ จะเริ่มเก็บใบได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 5 เดือน เป็นช่วงที่มีสารสำคัญเยอะที่สุด สามารถนำไปตากแห้งและเก็บได้นาน 1 ปี  การเก็บใบมาใช้ควรตัดยอดอ่อนสัก 1 ฝ่ามือ แล้วเหลือตอไว้ อีกประมาณ 2 เดือน ก็จะเริ่มออกดอกอีกครั้ง ก็สามารถเก็บใบมาใช้ประโยชน์ได้อีกรอบ ฟ้าทะลายโจร 1 ต้น สามารถเก็บมาทำยาได้ 2-4 ครั้ง

เครดิต: กรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ, สถาบันวิจัยและพัฒนาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมูลนิธิสายใยแผ่นดิน

#ฟ้าทะลายโจร #สมุนไพรยอดนิยม #สมุนไพรไทย

OUR PARTNER