Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สุนัขบีเกิ้ล

         บีเกิ้ล (Beagle) เป็นสุนัขล่ากระต่ายขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขจิ้งจอกแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก บีเกิ้ลเป็นสุนัขที่มีจมูกซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อการล่ากระต่ายโดยเฉพาะ 

บีเกิ้ลเป็นสุนัขพันธุ์หลักที่ใช้เป็นสุนัขตรวจจับการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรและอาหารที่ต้องห้ามในเขตกักกันทั่วโลก บีเกิ้ลมีความฉลาด เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมเนื่องจากขนาดของมัน เป็นสุนัขอารมณ์ดีและไม่ค่อยมีปัญหาด้านสุขภาพ

         บีเกิ้ลสายพันธุ์ใหม่ได้รับการพัฒนาในสหราชอาณาจักรในช่วงทศวรรษที่ 1830 เริ่มจากสุนัขหลายสายพันธุ์เช่น Talbot Hound, North Country Beagle, Southern Hound และอาจรวมถึง Harrier

         บีเกิ้ลปรากฏอยู่เป็นภาพทางวัฒนธรรมตั้งแต่สมัยเอลิซาเบธ ในวรรณคดีและภาพวาด  เมื่อไม่นานมานี้บีเกิ้ลปรากฏตัวในภาพยนตร์โทรทัศน์และหนังสือการ์ตูน

         จุดเริ่มต้นของสุนัขสายพันธ์บีเกิ้ลไม่มีใครทราบ ในศตวรรษที่ 11 กษัตริย์วิลเลียมผู้พิชิตได้นำสุนัขพันธุ์เซนต์ฮิวเบิร์ต (Saint Hubert) และสุนัขทัลบอต (Talbot) ไปยังอังกฤษ

ทั้งสองสายพันธุ์นี้ถูกผสมกับเกรย์ฮาวด์ (Greyhound) เพื่อเพิ่มความเร็วและความแข็งแกร่งในการล่ากวาง บีเกิ้ลมีลักษณะคล้ายกับ Harrier และ Southern Hound ที่สูญพันธุ์ไปแล้วแม้ว่าจะมีขนาดเล็กและช้ากว่าก็ตาม

         ตั้งแต่ยุคกลางบีเกิ้ลถูกระบุว่าเป็นสุนัขล่าเนื้อขนาดเล็ก แม้ว่าสุนัขเหล่านี้จะแตกต่างจากบีเกิ้ลสายพันธุ์สมัยใหม่มากก็ตาม

สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลขนาดเล็กเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และเฮนรี่ที่ 7 ในการล่าสัตว์สุนัขล่าเนื้อขนาดใหญ่จะวิ่งไล่เหยื่อลงสู่พื้นจากนั้นนักล่าจะปล่อยสุนัขตัวเล็กๆ เหล่านี้ เพื่อไล่ล่าผ่านพุ่มไม้ต่อไป

เมื่อถึงศตวรรษที่ 18 สุนัข 2 สายพันธุ์ได้รับการพัฒนาให้ทำหน้าที่ล่ากระต่ายได้แก่ Southern Hound และ North Country Beagle

สายพันธ์ Southern Hound เป็นสุนัขที่มีรูปร่างสูงและมีน้ำหนักมากที่มีหัวเหลี่ยมและหูยาวนุ่มมีอยู่ทั่วไปจากทางใต้ของแม่น้ำเทรนต์และอาจมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Talbot Hound

ที่แม้ว่าจะช้าแต่ก็มีความแข็งแกร่งและความสามารถในการดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม ส่วน North Country Beagle ซึ่งอาจเป็นลูกผสมระหว่าง Talbot และ Greyhound ได้รับการฝึกในยอร์คเชียเป็นส่วนใหญ่

และพบได้ทั่วไปในทางตอนเหนือ มันมีขนาดเล็กกว่า Southern Hound ซึ่งมีน้ำหนักน้อยกว่าและมีปากที่แหลมกว่า มันมีความเร็วกว่า แต่ความสามารถในการดมกลิ่นของมันยังพัฒนาได้น้อยกว่า

การพัฒนาบีเกิ้ลสายพันธุ์สมัยใหม่

         นายฟิลลิป ฮันนี่วูด ก่อตั้งกลุ่มบีเกิ้ลในเอสเซ็กซ์ในช่วงทศวรรษที่ 1830 และเชื่อกันว่ากลุ่มนี้จะเป็นพื้นฐานสำหรับบีเกิ้ลสายพันธุ์สมัยใหม่

แม้ว่าจะไม่มีการบันทึกรายละเอียดของเชื้อสายของสุนัขกลุ่มนี้ แต่ก็น่าจะเป็นไปได้ว่าคือ North Country Beagles และ Southern Hounds  นายวิลเลียม ยูแอตต์สงสัยว่าแฮริเออร์เป็นสายเลือดส่วนใหญ่ของบีเกิ้ล แต่ต้นกำเนิดของแฮร์ริเออร์นั้นคลุมเครือ

         แม้ว่าจะได้รับการยกย่องจากการพัฒนาสายพันธุ์ที่ทันสมัย ​​แต่นายฮันนี่วูดก็มุ่งเน้นไปที่การผลิตสุนัขสำหรับการล่าสัตว์และทิ้งให้โทมัส จอห์นสัน (Thomas Johnson)

ปรับแต่งสายพันธุ์เพื่อผลิตสุนัขที่มีทั้งความน่าสนใจและมีความสามารถในการเป็นนักล่า ในการพัฒนาสายพันธุ์สองสายพันธุ์คือ พันธุ์ที่ขนหยาบและขนเรียบ

บีเกิ้ลขนหยาบรอดชีวิตมาได้จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 และยังมีบันทึกว่ามีการปรากฏตัวในงานแสดงสุนัขเมื่อปลายปี 1969 แต่สายพันธ์เหล่านี้สูญพันธุ์ไปแล้วโดยอาจถูกดูดกลืนเข้าสู่สายเลือดบีเกิ้ลมาตรฐานในปัจจุบัน

         ในทศวรรษ 1840 บีเกิ้ลพันธ์มาตรฐานได้เริ่มพัฒนาขึ้นมา ความแตกต่างระหว่าง North Country Beagle และ Southern Hound ได้หายไป

แต่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงขนาดลักษณะและความน่าเชื่อถือในกลุ่มที่เกิดขึ้นใหม่ ปี 1856 จอห์น เฮนรี่ วอลช์ เขียนไว้ในคู่มือกีฬาชนบทของอังกฤษ

โดยยังคงแบ่งบีเกิ้ลออกเป็นสี่สายพันธุ์คือ บีเกิ้ลขนาดกลาง บีเกิ้ลแคระหรือแลปด็อก สุนัขจิ้งจอกบีเกิ้ล (Foxhound) และบีเกิ้ลขนหยาบ

         ในปี 1887 เมื่อภัยคุกคามของการสูญพันธุ์กำลังลดลง มีบีเกิ้ล 18 ตัวในอังกฤษโดย Beagle Club ก่อตั้งขึ้นในปี 1890

และเป็นผู้สร้างมาตรฐานแรกของบีเกิ้ลในเวลาเดียวกัน ในปีต่อมาได้มีการก่อตั้ง Association of Masters of Harriers and Beagles

ทั้งสององค์กรมีเป้าหมายที่จะสร้างมาตรฐานสูงสุดของสายพันธุ์นี้ และทั้งสองหน่วยงานต่างกระตือรือร้นที่จะเพาะพันธ์บีเกิ้ลชนิดมาตรฐาน ในปี 1902 จำนวนบีเกิ้ลเพิ่มขึ้นเป็น 44 ตัว

เครดิตภาพ AKC, MF, Mythaipet

#บีเกิ้ล #บีเกิ้ลน่ารู้ #สุนัขน่าเลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) สุนัขแสนซน ที่จะทำให้หัวใจคุณพองโต

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) สุนัขสายพันธุ์นี้มีขนาดเล็ก ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะว่ายอร์กเชียร์ เป็นสุนันที่ขนยาวสวยดูน่ารัก อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้เลี้ยง ที่มีพื้นเลี้ยงจำกัด นอกจากนี้ยอร์กเชียร์ยังมีความฉลาด อีกทั้งยังซุกซน แต่ค่อนข้างที่จะดุกับเด็ก ถ้าได้รับการปฏิบัตไม่ดีจากเด็กๆ ที่อาจจะหยอกล้อแรงไป หรือเล่นไม่ถูกวิธี อีกทั้งเจ้ายอร์กเชียร์นั้น ก็ยังเป็นสุนัขที่ชอบเห่ามากๆ แต่ผู้เลี้ยงนั้นสามารถที่จะฝึกสอน ให้เขาเห่าลดน้อยลงมาได้ 

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) เป็นสุนัทที่มีความน่ารักมากๆ จึงทำให้ผู้รักสุนัขหลายๆคน ก็พากันตกหลุมรักกับความน่ารักนั้น ด้วยความที่มีขนากตัวเล็กดูเหมือนว่าจะเลี้ยงง่าย อีกทั้งยังสามารถเลี้ยงได้แทบทุกจะพื้นที่ แต่การที่จะเลี้ยงเจ้ายอร์กเชียร์นั้น ก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเสมอไป เพราะยังไงเข้าก็ยังเป็นสุนัข ที่ยังต้องการความรัก และการดูและที่ดีจากผู้เลี้ยงอยู่ดี ดังนั้นการที่เราจะรับน้องมาเลี้ยง เราจะต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อที่จะส่งผลดีต่อทั้งตัวเร  และตัวน้องด้วย

ลักษณะโดยทั่วไปของเจ้าตัวน้อย ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)  จะเป็นสุนัขตัวเล็ก ที่มีลักษณะหูเป็นรูปตัววีตั้งตรง ในส่วนของช่วงตัวนั้น จะหลังหลังที่ตรง และจะมีขนที่ยาวตรง และนุ่มลื่นทั้งตัว ส่วนสีขนบนตัวและหางนั้น จะเป็นสีน้ำเงินเงา

ส่วนที่อื่นจะเป็นสีน้ำตาล และเมื่อโตเต็มวัยจะมีความสูงที่ 20 –23 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักโดยประมาณจะอยู่ที่ 1-5 กิโลกรัม และจะมีอายุขัยเฉลี่ยที่ 12-15 ปี ซึ่งถือว่าเป็นอายุ ที่จะอยู่กับผู้เลี้ยงค่อนข้างที่จะนาน ดังนั้นก่อนที่เราจะรับมาเลี้ยง จะต้องดูความพร้อมของเราให้ดีๆก่อน

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) กับวิธีการดูแลที่ต้องใส่ใจ

ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) เป็นสุนัขมีขนาดตัวที่เล็ก ดังนั้นการให้อาหารสายพันธุ์นี้ ก็จะมีความแตกต่างจากสุนัขพันธุ์ที่มีขนาดตัวใหญ่ โดยยอร์กเทียร์นั้นจะกินทีละน้อย แต่จะต้องแบ่งเป็นหลายมื้อ

ซึ่งก็จะต่างจากสุนัขพันธุ์อื่นๆ ที่กินอาหารเป็นมือใหญ่ๆได้ การให้อาหารของสายพันธ์ยอร์กเชียร์นั้น จึงต้องมีการคำนวณปริมาณอาหาร ให้เหมาะกับน้ำหนักตัวที่มี ซึ่งจะต้องชั่งให้ตรงมากที่สุด เพื่อที่จะได้คำนวณออกมาได้อย่างถูกต้อง ส่วนในเรื่องของขนนั้น ด้วยความที่เข้ามีขนที่ยาว ดังนั้นขนก็เป็นอีกที่ ที่ผู้เลี้ยงนั้นจะต้องดูแลเป็นพิเศษ 

การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier) จะไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก เพราะเป็นสุนัขที่มีขนาดตัวเล็ก ซึ่งก็อาจจะทำให้เขานั้นถูกทำตกได้ง่าย หรือเด็กๆนั้นอาจจะเข้าไปกอดน้องแน่นเกินไป อีกทั้งยังสามารถโดนเหยียบได้ง่ายมากอีกด้วย ถ้าหากว่าเรานั้นไม่ระวังให้ดี และก็จะทำให้ยอร์กเชียร์ออกทชอาการดุใส่เด็กๆได้ ยอร์กเชียร์จึงเหมาะกับผู้เลี้ยง ที่มีความระมัดระวัง และไม่เล่นรุนแรงกับเขามากจนเกินไป

วิดีโอเพิ่มเติม :

เครดิตภาพ

https://pixabay.com/th/photos ภาพที่ 1

https://pixabay.com/th/photos/yorkshire-terrier  ภาพที่ 2

https://pixabay.com/th/photos/  ภาพที่ 3

#ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ #สุนัขน่าเลี้ยง #สุนัขพันธ์ุเล็ก