Categories
Uncategorized

“มังกรทะเลใบไม้” สัตว์ทะเลสายม้าน้ำสุดแปลกแหวกพลิ้ว

ขอย้อนกลับไปตามกระแสบุพเพสันนิวาสก่อนที่พรหมลิขิตจะมากันสักหน่อย เมื่อคำพูดที่แม่หญิงการะเกดกับคุณพี่หมื่นยังติดอยู่ในหัวของเราแม้จะเป็นในเวลานานแล้วก็ยังจำได้ว่า พวกเขาทั้งสองเคยบอกว่า “ชาติหน้าหากอีกฝ่ายจะเกิดเป็นม้าน้ำ ตนก็จะเป็นม้าน้ำเกี่ยวกระหวัดหางคู่กันไปตลอดด้วย” แต่บอกเลยว่าคุณรักคู่บุพเพสันนิวาสสุดโรในติกอย่างคุณพี่ทั้งสองหากจะไปเกิดเป็นสัตว์น้ำสปีชีส์ม้าน้ำก็ดูจะธรรมดาไปหน่อย เราขอแนะนำให้ลองเกิดเป็นม้าน้ำสุดงดงามอย่าง “มังกรทะเลใบไม้”ยังจะดูมีออร่ากว่าด้วย แค่เห็นรูปก็ชวนให้อยากพลิ้วเกี่ยวตามตัวเธอทุกชาติไปแล้วหนาออเจ้า อ๊ะ ๆ แต่หลายคนคงจะยังสงสัยว่าเจ้ามังกรทะเลใบไม้ที่เห็นกันในรูปนี่มีตัวตนจริงในโลกไหม แน่นอนว่าถ้าไม่มีเราก็คงไม่เอามาพูดกันวันนี้หรอกค่ะ หากอยากรู้ว่ามันคือสัตว์ที่มีความสวยงามวิเศษจนน่ารู้จักอย่างไรบ้างก็มาดูเลย

ทำความรู้จักกับ “มังกรทะเลใบไม้”

“มังกรทะเลใบไม้” เป็นปลาสีเหลืองส้มสุดแปลกในวงศ์ Syngnathidae ประเภท Hippocampus ที่มีครีบเป็นก้านยาวแผ่ออกเป็นแขนง 30 เซนติเมตรและมีใบมากมายเป็นสีเขียวทำให้คล้ายกับใบไม้ที่เคลื่อนไหวได้มากมายทั่วลำตัว โดยบริเวณอกจะใช้สำหรับการว่ายน้ำเป็นหลัก หัวป้อมใหญ่ตัดกับปากที่เล็กแบบม้าน้ำซึ่งปากของมังกรทะเลใบไม้สามารถดูดจับเหยื่อเข้าปากได้ง่าย ตามตัวจะมีลักษณะไปทางขรุขระลายพาดสีขาวเรียงกันตามหลังทั่วร่าง พบได้ตามแถบชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลียจึงถือเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำพื้นเมืองของชาวออสเตรเลียที่ไม่มีสัตว์ใดเหมือนเลย และบางตัวก็จะมีสีสันหลากหลายแบบอัญมณีด้วย

การดำรงชีวิตของ “มังกรทะเลใบไม้”

“มังกรทะเลใบไม้” มักจะชอบอยู่กับการดักจับเหยื่อและกินตลอดเวลาจนถูกเรียกว่า “สัตว์กินจุ” และแต่ละตัวก็มักจะชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่นิยมรวมตัวกันเป็นฝูงเหมือนปลาชนิดอื่น ซึ่งค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูงมากเลยทีเดียว และเมื่อมังกรทะเลใบไม้เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ อายุประมาณ 28 เดือน มันจะมีการผสมพันธุ์กัน โดยตัวเมียจะฝากไข่ลักษณะสีชมพูนับร้อยฟองไว้ที่หางของตัวผู้เพื่อความปลอดภัย สามารถยึดติดไข่ไว้กับหางพร้อมคอยให้ออกซิเจนตลอด 9 สัปดาห์จนไข่ฟักตัวด้วย ซึ่งก็เป็นการดำรงชีวิตช่วงมีลูกที่แปลกดี แต่ไข่ของมังกรทะเลใบไม้จะค่อนข้างบอบบาง ไม่มีความแข็งแรงต่อสภาพแวดล้อมพอจึงมีเพียงแค่ไม่กี่ฟองที่เหลือรอดซึ่งอาจด้วยเพราะพันธุกรรมของพวกมันก็เป็นได้

อาหารสุดโปรดของ “มังกรทะเลใบไม้”

“มังกรทะเลใบไม้” มีอาหารสุดโปรดปรานของพวกมัน ได้แก่ แพลงก์ตอน กุ้งขนาดเล็ก แอมฟิพอด และพืชทะเลต่าง ๆ ที่มีแร่ธาตุดีต่อร่างกาย อยู่ตามแนวปะการังและโขดหินซึ่งทำให้มังกรทะเลใบไม้มักจะชอบอยู่ตามแนวปะการังมาก โดยมันจะจู่โจมเหยื่อด้วยการดูดจับเหยื่อด้วยแรงมหาศาลจากปากนั้นเอง

เครดิตภาพ : board.postjung.com/

#สัตว์แปลก #ความรู้สัตว์ใต้น้ำ #มังกรทะเลใบไม้

Categories
Uncategorized สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“บุ้งทะเล” สัตว์ขนหนาโลกบาดาลพิษแรงที่คุณอาจไม่เคยรู้จัก

แค่พูดถึงบุ้งเราก็รู้สึกคันยุบยิบตามร่างกายแล้ว คิดว่าหากไปเที่ยวทะเลแล้วลงไปดำน้ำจะปลอดภัยจากบุ้งหรือสัตว์ที่ทำให้คัน แต่เปล่าเลย! ใครจะไปรู้ว่านอกจากแมงกะพรุนที่เราต้องระวังแล้ว ใต้ทะเลยังมี “บุ้งทะเล”ด้วยเสียอีก แถมบุ้งทะเลยังมีพิษที่ร้ายแรงเสียยิ่งกว่าบุ้งบกที่เราเห็นกันในชีวิตประจำวันเสียอีก แค่เห็นขนกับสีสันที่แปลกตาก็ทำให้รู้สึกขนลุกจนเผลอยกมือขึ้นมาเกาแขนขาอัตโนมัติทันที และหากถามว่าไทยเรามีบุ้งทะเลหรือเปล่า ขอบอกเลยว่ามีแน่นอน! แถมยังมีนักท่องเที่ยวที่เคยไปเล่นน้ำทะเลทางภาคใต้แล้วเจอพิษของบุ้งทะเลทำให้เป็นแผลมาแล้ว อีกทั้งไม่นานฤดูหนาวก็จะผ่านไปเข้าสู่ฤดูร้อน ใกล้ได้เวลาไปเที่ยวทะเลกันอีกแล้วแบบนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับความอันตรายของเจ้าบุ้งทะเลกันก่อน เพื่อที่ทริปดำน้ำเที่ยวทะเลของคุณจะได้มีแต่ความแฮปปี้ ไม่ต้องฝังใจหรือเจอกับอันตรายได้

ทำความรู้จักกับ “บุ้งทะเล”

“บุ้งทะเล” เป็นสัตว์ตระกูลปรสิตประเภทหนอนปล้องแม่เพรียงหรือไส้เดือนทะเลที่แม้จะมีลำตัวเพียงความยาวเฉลี่ย 15 เซนติเมตรซึ่งขนาดสั้นกว่า แต่ก็มีขนสีน้ำตาลแดงหรือสีขาวเทาที่หนาและยาวลักษณะแข็งยื่นออกทั่วลำตัวซึ่งขนของบุ้งทะเลนอกจากจะมีความโดดเด่นในการช่วยให้ว่ายน้ำได้ดีแล้ว ยังช่วยปกป้องตัวมันเองจากศัตรูและทำการไล่ล่าเหยื่อได้ด้วยโดยการสลัดขนให้แทงเข้าที่ผิวหนังของฝ่ายตรงข้ามจนเกิดอาการคันในระยะแรกและต่อมาจะแสบร้อนจนเป็นแผลไหม้ทำให้คนต่างชาตินิยมเรียกสัตว์ทะเลนี้ว่า “Fire worms” หรือ “หนอนไฟ” พบได้มากในมหาสมุทรแอตแลนติก ประเทศเขตร้อน และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยประเทศไทยมักพบเจอทางแถบภาคใต้ 

การดำรงชีวิตของ “บุ้งทะเล”

“บุ้งทะเล” มักใช้ชีวิตอาศัยและหาอาหารอยู่ตามแนวปะการัง หิน โคลน ทราย และบนขอนไม้ที่ลอยได้ตลอดจนเกาะตามใต้ไม้ฐานที่ตั้งของท่าเรือบริเวณทะเลระดับน้ำตื้นจากพื้นผิวถึงความลึก 40 เมตร มีความสามารถพิเศษในการค้นหาเหยื่อจากสัญญาณทางเคมีซึ่งถูกปล่อยมาจากซากสัตว์ที่ตายแล้วได้ด้วยประสาทสัมผัสผ่านขนกับลำตัวที่ไม่มีสัตว์ทะเลใดเหมือนได้ ซึ่งโดยปกติบุ้งทะเลมักจะไม่เป็นภัยกับใครและมันมักจะชอบอยู่เงียบ ๆ นอกเสียจากคุณจะเผลอว่ายน้ำเข้าไปใกล้มันและสัมผัสถูกขนของมันเองหรืออาจอยู่ใกล้ ๆ ด้วยความประมาท

อาหารสุดโปรดของ “บุ้งทะเล”

“บุ้งทะเล” มีอาหารสุดโปรด คือ ซากสัตว์ทะเลทุกชนิดที่ตายไปแล้ว โดยบุ้งทะเลจะใช้วิธีการกินโดยดูดดื่มเนื้อเยื่อของสัตว์ทะเลเข้าไปเป็นอาหารแทนการใช้ฟันกรามที่มันไม่มีเหมือนสัตว์อื่น ๆ ซึ่งเพียงแค่นี้ก็ทำให้มันมีพลังกายที่แข็งแรงมากพอในการใช้ชีวิตแล้ว

เครดิตภาพ : inaturalist.org, eurekalert.org

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์ใต้น้ำ #บุ้งทะเล

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“เสือดาวหิมะ” นักล่าผู้แกร่งด้านการฟาดและกระโดดสูง

เมื่อบอกเล่ากันถึงสถานที่ต่างแดนซึ่งปกคลุมด้วยหิมะทั่วทั้งอาณาเขต มีสภาพอากาศหนาวเย็นจัดแล้วล่ะก็หลายคนย่อมจะนึกถึงสัตว์แดนหิมะที่น่ารักอย่างเพนกวิน หมีขาว แมวน้ำ และสิงโตทะเลอย่างแน่นอน คงไม่มีใครที่จะพูดกันถึงสัตว์ที่มีความดุร้ายอย่าง “เสือดาวหิมะ” ซึ่งเป็นสัตว์ในแดนหิมะที่มีความเก่งกาจและน่าค้นหามากกว่าสัตว์แดนหิมะทั่วไปที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว แม้ว่าภาพลักษณ์ของเสือดาวที่เราเห็นกันตามข่าวสารหรือในภาพเป็นประจำจะอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร แต่พอมาเห็นเสือดาวหิมะผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่สีขาวโพลนอย่างนี้แล้วก็อดที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไรในอุณหภูมิหนาวเย็นหนักขนาดนี้ และมีจุดเด่นใดที่น่าสนใจบ้าง หากอยากรู้ล่ะก็ตามเรามาศึกษาเรื่องราวน่ารู้ของ “เสือดาวหิมะ” นักล่าผู้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยความหนาวเย็นสีขาวไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ทำความรู้จักกับ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” เป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ที่ใกล้สูญพันธ์จนถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์อนุรักษ์อีกชนิดหนึ่งของโลก มีความโดดเด่นบนลวดลายตามตัวสีพื้นเทาอมเหลืองที่มีลักษณะเป็นลายดอก ขนฟูยาวค่อนข้างนุ่ม และด้วยความที่บริเวณหน้ามีสีเทาอ่อนและดวงตาโตใหญ่ทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดบนใบหน้าที่มีความสุขุมเยือกเย็น ดูภายนอกไม่น่ากลัวเหมือนเสืออื่น ๆ ออกจากหน้าตาน่ารักเหมือนแมวด้วยซ้ำทว่าก็ไม่ควรไว้ใจเพราะเขาเป็นนักล่า หางของเสือดาวหิมะจะเป็นแบบพันรอบตัว อุ้งเท้ากว้างใหญ่แข็งแรงสามารถกระจายน้ำหนักตัวลงในเวลาที่เดินบนหิมะได้อย่างสม่ำเสมอ และปกป้องอุ้งเท้าจากความเย็นของหิมะได้เป็นอย่างดี เป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก คุณสามารถพบเห็นเสือดาวหิมะได้ตามภูเขาที่มีหิมะปกคลุมในภูมิภาคเอเชียกลางได้แทบทุกประเทศ โดยเฉพาะทิเบตและจีน

การดำรงชีวิตของ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” มีความสามารถพิเศษในการกระโดดได้ไกลและสูงมากถึง 15 เมตรเวลามันจะล่าเหยื่อเพื่อกินเป็นอาหารหรือกำจัดศัตรูซึ่งเมื่อใกล้ถึงตัวสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะทำการฟาดจนเหยื่อกระเด็นและกระโจนขย้ำจนเหยื่อสิ้นชีพในที่สุด แต่กลับกันเมื่อเสือดาวหิมะเห็นคนก็มักจะรีบหลบหนีด้วยความกลัวและความขี้อายต่อสิ่งมีชีวิตคนละสปีชีส์ที่ได้ไม่ได้อยู่ตามธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับมัน โดยที่อยู่อาศัยหลบภัยของเสือดาวหิมะจะอยู่ในรังของแร้งดำหิมาลัย มันจะนอนพักตอนกลางวันเพื่อเก็บแรงและค่อยออกล่าเหยื่อตอนกลางคืนหลังพระอาทิตย์ตกดินหรือเช้าตรู่ แต่เสือดาวหิมะก็จะย้ายถิ่นฐานรังนอนไปเรื่อย ๆ เมื่ออยู่รังหนึ่งครบ 7 – 10 วันแล้วก็จะย้ายถิ่นไปเรื่อย ๆ โดยวันหนึ่งใช้เวลาเดินทางไกลเฉลี่ยราว 1 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็เพื่อการหาอาหารที่หลากหลายและหลบหนีจากการถูกมนุษย์นำมันไปทำเสื้อขนสัตว์ด้วย

อาหารสุดโปรดของ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” มีอาหารสุดโปรดหลากหลายที่เป็นสัตว์เล็กและสัตว์น้อยมากมาย ไม่เลือกกิน ไม่ว่าจะเป็นกวาง บลูชีป ไอเบ็กซ์เอเชีย มาร์คอร์ และอาร์กาลี รวมไปถึงแพะกับแกะด้วย ยกเว้นมนุษย์ที่เสือดาวหิมะจะไม่ทำร้ายไม่ยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น จึงมีความแตกต่างจากเสืออื่นที่มีความดุร้ายกับทุกสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับเสือดาวหิมะจะดุร้ายเฉพาะในสัตว์ที่เป็นเหยื่อเท่านั้น

เครดิตภาพ : posttoday.com, board.postjung.com

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์แปลก #เสือดาวหิมะ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“นกเป็ดผี” นกตัวโตพฤติกรรมเล่นใหญ่สุดลึกลับ

เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของนกชนิดหนึ่งที่ถูกให้ฉายาว่า “นกเป็ดผี” ไม่ว่าใครที่พอได้ยินแล้วก็ย่อมต้องเล่าลือกันต่าง ๆ นานาเป็นแน่แท้ว่าเจ้าเป็ดตัวนี้อาจเป็นเป็ดในตำนานที่มีความเชื่อเรื่องโชคไม่ดีหรืออาจมีผีสิงอยู่ตามแบบปากต่อปากเหมือนคนโบราณ แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ตัวเป็ดจะน่ากลัวขนาดไหน ความจริงแล้วนกเป็ดผีไม่ได้เป็นสัตว์ในตำนานใด ๆ และไม่ได้มีลักษณะที่น่ากลัวเช่นนั้นจนถึงกับต้องหนีหัวซุกหัวซุนกัน แต่มันแค่เป็นนกเป็ดน้ำธรรมดาที่มีพันธุกรรมลักษณะเด่นด้วยดวงตาสีแดงเท่านั้นจึงถูกเรียกว่า “นกเป็ดผี” สามารถจ้องตาน้องได้ เพราะน้องไม่กัดและไม่ทรงพลังจิตแห่งความโชคร้ายใด ๆ มาอย่างแน่นอน และยิ่งหากคุณได้รู้เรื่องราวการดำรงชีวิตที่น่าอบอุ่นใจของนกเป็ดผีแล้วคุณอาจจะยิ่งชอบสัตว์ชนิดนี้มากขึ้นด้วยล่ะ เช่นนี้แล้วมาดูกันดีกว่าว่านกเป็ดผีจะมีความน่าสนใจในชีวิตของมันอย่างไรบ้าง?

ทำความรู้จักกับ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” เป็นนกเป็ดน้ำตระกูล Podicipedidae ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดอย่างทะเลสาบหรือบึงและมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์แยกย่อยออกไป โดยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนนกเป็ดน้ำตระกูลใด คือ นกเป็ดผีจะมีดวงตาสีแดงและบางตัวก็เป็นตาสีขาวกลมโตท่ามกลางร่างกายใหญ่ที่มีขนขาวอมสีน้ำตาลออกไปทางเกือบเทาจนเห็นประกายในดวงตาชัดเจนจากความมืด อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบเล่นใหญ่ผลุบหายลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปโผล่อีกจุดหนึ่งซึ่งมักอยู่ห่างออกไปราวกับผีหลอกดูลึกลับ

การดำรงชีวิตของ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” พบได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขตหนาวแม้แต่ประเทศไทยก็ยังมี ทว่าที่เราไม่ค่อยพบเห็นนกเป็ดผีก็เพราะว่านกชนิดนี้มักจะซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ไม่ค่อยออกมาบนบกนักยกเว้นเวลาที่มันจะวางไข่บนรังตามต้นไม้หรือเวลาที่เตรียมบินอพยพไปอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงฤดูหนาวหรือฤดูแล้งของเขตประเทศนั้น ๆ ซึ่งในฤดูอพยพบางทีเราก็จะพบเห็นมันเปลี่ยนวิถีชีวิตมาอยู่ในน้ำทะเลที่เป็นน้ำเค็มเพราะมีความอุดมสมบูรณ์และเย็นสบายเหมาะกับความอุดมสมบูรณ์มากกว่าแหล่งน้ำจืด ในชีวิต 1 วันมันมักจะว่ายน้ำอย่างเร็วเพื่อจับปลากินด้วยขาที่ยาวและคอที่ยื่นออกไปกินเหยื่อได้อย่างเร็ว และยังเป็นนักพรางตัวบนบกที่ดีด้วยเพราะมันมักจะหลบว่ายอยู่ตามผิวน้ำแถบที่มีกอหญ้าขึ้นหรือบริเวณที่มีเงาสะท้อนน้ำเป็นสีใกล้เคียงกับตัวมัน เป็นนกเป็ดน้ำอีกชนิดที่น่าทึ่งและดูขี้อายไม่น้อยจริง ๆ เห็นแบบนี้

อาหารสุดโปรดของ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” มีอาหารสุดโปรดที่นอกจากปลาตามแหล่งน้ำแล้วก็จะเป็นพวกสัตว์เล็กสัตว์น้อยสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้ เช่น กบ เขียด อึ่งอ่าง คางคก และแมลงที่บินเหนือผืนน้ำไม่มากอย่างแมลงปอ รวมถึงพืชน้ำบางชนิดที่ให้พลังงานกับมันด้วยอย่างสาหร่ายนี่คือพืชโปรดสุดอร่อยของนกเป็ดผีเลย

เครดิตภาพ : pixnio.com, vilabird.com

#สัตว์แปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #นกเป็ดผี

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สิ่งที่ช่วยเสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้ว

“นกแก้ว” เป็นนกที่สามารถอยู่กับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ทั้งในกรงและนอกกรง แต่เวลาอยู่นอกกรงส่วนใหญ่แล้วมันมักจะซุกซนเริงร่ากับความเป็นอิสระเกินนกชนิดอื่นจนอาจบินหนีได้หากไม่สอนให้เชื่องหรือคล้องโซ่ไว้กับตัว ซึ่งการที่คุณจะเลือกไม่พานกแก้วออกไปทำกิจกรรม Outdoor นอกบ้านเลยก็อาจไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะหากจะให้เขาคุ้นชิยกับกฎระเบียบของการมีเจ้านายเลี้ยงดูเวลาอยู่ข้างนอกก็ยิ่งต้องพาเขาออกไปทำกิจกรรมบ่อย ๆ ให้เกิดความคุ้นชินกับกติกาจนเชื่องได้ บางคนอาจใช้วิธีการบังคับนกแก้วให้เล่นกิจกรรมที่เราจัดให้ในขณะที่นกแก้วยังคงเอาแต่สนใจที่จะโบยบินแบบล่องลอยไม่หยุด ขอบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะจะทำกับนกแก้วมาก เพราะอาจทำให้นกแก้วหงุดหงิดและอารมณ์เสียง่ายเมื่อเจอน้ำเสียงที่สูงของคุณ ฉะนั้นเวลาพาไปทำกิจกรรม Outdoor คุณจึงต้องหาสิ่งที่ช่วยเสริมกิจกรรมสนุก ๆ ให้นกแก้วได้ แล้วจะมีอะไรทำให้นกแก้วสนุกกับกิจกรรม Outdoor บ้างล่ะ?

“เพลงจังหวะเร็ว” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“เพลงจังหวะเร็ว” เป็นเพลงที่มีความสนุกสนานดังก้องและมีจังหวะที่เร่งรีบ ทำนองพีคสูงสลับกับต่ำชวนให้เพลิดเพลินจนมีแรงจูงใจในกิจกรรม Outdoor ที่คุณจะจัดให้มาก เมื่อนกแก้วบางตัวได้ยินก็จะหยุดบินและเกาะอยู่ตามกิ่งไม้หรือจุดใดก็ได้ที่เขาสามารถยืนได้ก่อนที่จะโยกหัวไปมาหรืออาจมีการหมุนตัวด้วยความชื่นชอบตามจังหวะซึ่งเวลานั้นคุณก็สามารถจัดระเบียบนกแก้วให้ฟังกิจกรรมที่คุณจะให้ทำผ่านการชี้และมองซึ่งหากเปิดเพลงจังหวะเร็วไปเรื่อย ๆ นกแก้วจะทำกิจกรรม Outdoor ในจุดนั้นแบบเพลิน ๆ ได้ตลอดเลย

“นกหวีด” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“นกหวีด” เป็นหนึ่งในสิ่งของตัวช่วยซึ่งจะทำให้นกแก้วมีความตื่นตัวและมาหาเจ้าของอย่างเราพร้อมทำตามคำสั่งได้โดยที่เราไม่ต้องตะโกนเรียกหรือดุเขาให้โกรธเลย แค่เพียงคุณฝึกเขาตอนอยู่ที่บ้านด้วยนกหวีดก่อนเพื่อให้เขาเข้าใจสัญญาณของนกหวีดอย่างชัดเจนแล้วจึงค่อยพานกแก้วออกไปทำกิจกรรม Outdoor แล้วเขาจะเชื่องในการทำกิจกรรมกับคุณมาก

“การมีส่วนร่วมกับเจ้าของ” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“การมีส่วนร่วมกับเจ้าของ” จะช่วยส่งเสริมให้นกแก้วมีแรงผลักดันในการทำกิจกรรม Outdoor ที่ดีมาก เพราะนกแก้วเป็นนกที่ค่อนข้างรักเจ้าของ ยิ่งได้อยู่กับเจ้าของใจดี นำเขาทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วยกันก็จะทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากที่เจ้าของเป็นกันเองกับเขา ได้ทำกิจกรรมเหมือนเพื่อนกันมากกว่าเจ้านาย ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้านายเขายิ้มออก นกแก้วก็มีจิตใจนะขอบอก ถ้าคุณจัดกิจกรรมที่ทำด้วยกันได้ก็จะทำให้เขาเชื่อฟังและทำกิจกรรม Outdoor ได้อย่างมีความสุขแน่นอน

เครดิตภาพ : bbc.com, .retravision.com.au

#นกแก้ว #เพิ่มความสนุกให้นกแก้ว #ความรู้สัตว์ปีก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“มดถังน้ำผึ้ง” มดแปลกที่ก้นปล่องใหญ่ที่สุดในโลก

วันนี้บทความแนะนำสัตว์แปลกของเราอาจจะมาแปลกสมชื่อหมวดหมู่ไปสักหน่อย แน่นอนว่าคุณคงคิดว่ามาพูดเรื่อง “น้ำผึ้ง” แต่ทำไมจึงต้องมาบอกเล่าเกี่ยวกับมดกัน เพราะแม้มดจะชื่นชอบอาหารหวาน แต่ก็มีหลายอย่างที่มดกินได้ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล น้ำหวาน และอาหารอื่น ๆ ที่มีความหวานด้วย แต่เมื่อพูดถึงน้ำผึ้งก็ควรมาพูดเรื่องผึ้งไม่ใช่หรือ ทว่าใจเย็นกันก่อน! เราไม่ได้จะมาพูดกันเรื่องอาหารของสัตว์โดยตรง แต่จะมาแนะนำสัตว์แปลกที่ถูกเรียกว่า “มดถังน้ำผึ้ง” ต่างหาก ทุกคนคงจะเห็นภาพหน้าปกกันจนแทบจะสงสัยกันใหญ่แล้วว่านี่คือมดจริงหรือเป็นมดกำลังขนน้ำผึ้งหรือน้ำตาลก้อนไปกักเก็บไว้ที่รังกัน ขอบอกว่าภาพที่เห็นเป็นมดจริง…ไม่ใช่ตัวแสดง เพราะเจ้ามดถังน้ำผึ้งนี้เป็นมดที่มีก้นปล่องมาตั้งแต่เกิดจริง! แต่สิ่งที่อยู่ข้างในก็เป็นน้ำผึ้งจริงเหมือนกัน เอ๊ะ ยังไงกันแน่นะ หากอยากรู้ว่าทำไมเจ้ามดถังน้ำผึ้งจึงมีลักษณะดังที่เห็นในภาพล่ะก็มารู้จักความพิเศษของมันไปพร้อมกันกับเราเลย

ทำความรู้จักกับ “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” เป็นมดงานลำตัวขนาดใหญ่มากถึง 15 มิลลิเมตรที่จัดอยู่ในตระกูลของมดก้นปล่องซึ่งมดถังน้ำผึ้งถูกจัดอันดับให้เป็นมดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กระจายพันธุ์อยู่ตามแอฟริกาใต้, อเมริกาเหนือ และเกาะบางเกาะในประเทศอินโดนีเซียจนได้รับการขนานนามให้เป็นมดพื้นเมืองที่หาได้ยากด้วย โดยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนมดอื่นของมดถังน้ำผึ้ง คือ ท้องของพวกมันสามารถยืดหยุ่นให้มีขนาดใหญ่และสูงมากเมื่อต้องกักเก็บน้ำหวานและน้ำผึ้งจนเท่ากับลูกองุ่นเลย จึงทำให้ก้นกับท้องบริเวณด้านท้ายของตัวมันดูปล่องใหญ่พิเศษและไม่แตกออกมาง่าย ๆ ซึ่งด้วยตัวของมันที่ใสอยู่แล้วทำให้เมื่อรับปริมาณจำนวนมากของน้ำหวานหรือน้ำผึ้งจึงสามารถมองเห็นสีธรรมชาติของน้ำที่กักเก็บภายในได้อย่างสวยงาม

การดำรงชีวิตของ “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” มีการดำรงชีวิตแบบอยู่ในระเบียบมีเอกลักษณ์แบบมดงานท้องถิ่นซึ่งพวกมันจะกักเก็บน้ำหวานหลากหลายรูปแบบตามป่าไว้สำรองในฤดูแล้งที่อาหารขาดแคลนช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเป็นต้นไป โดยน้ำหวานที่พวกมันเลือกมักจะมาจากน้ำหวานของตัวเพลี้ยเป็นส่วนใหญ่โดยทำการดูดน้ำหวานใส่ในตัวเองจนเมื่อถึงฤดูแล้ง พวกมันก็จะมีน้ำหวานกักเก็บในตัวมากเพียงพอ ซึ่งมดฝูงอื่นก็สามารถมาขอน้ำหวานจากมดถังน้ำผึ้งในรังได้ โดยมดถังน้ำผึ้งจะทำการมอบน้ำหวานกับน้ำผึ้งให้มดฝูงอื่นผ่านการอ้าปากและใช้ลิ้นนำน้ำหวานให้ไหลออกมาผ่านตัวมันเข้าสู่มดอื่นได้อย่างรวดเร็ว มดถังน้ำผึ้งจึงเป็นมดที่สามารถดูแลเสบียงอาหารและน้ำหวานได้ปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้สถานที่ แต่ใช้การเก็บไว้ในตัว ไม่ต้องกลัวใครมาแย่งหรืออาหารหายไปได้ทั้งนั้น

อาหารที่มาจาก “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” เป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวอะบอริจินที่เป็นชนพื้นเมืองของออสเตรเลีย โดยพวกเขาจะหารังของมดถังน้ำผึ้งในฤดูแล้งและกินมันเพื่อรัยความหวานธรรมชาติจากน้ำหวานที่อยู่ภายในซึ่งดีต่อสุขภาพและทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาได้

เครดิตภาพ : blockdit.com, scimath.org

#มดถังน้ำผึ้ง #ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์อันตราย

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เนื้อดิบไม่เหมาะที่จะเป็นอาหารสุนัข

หลายคนคิดว่าการให้อาหารสุนัขด้วยเนื้อดิบอาจไม่เป็นอันตรายอะไรกับพวกมัน แต่จากการศึกษาพบว่า ในเนื้อดิบเต็มไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมากซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่อสุนัขได้

นักวิจัยชาวสวีเดนได้ทำการวิจัยผลิตภัณฑ์เนื้อดิบเลี้ยงสุนัข จำนวน 60 ยี่ห้อที่วางจำหน่ายในยุโรป พบการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อีโคไล ซัลโมเนลลา คลอสติเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ และแคมไพโลแบคเตอร์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดโรคได้ทั้งในสุนัขและมนุษย์ 

การพบเชื้ออีโคไลในเนื้อดิบเลี้ยงสุนัข แสดงถึงการปนเปื้อนของอุจจาระ เนื่องจากแบคทีเรียชนิดดังกล่าวพบได้ในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ อีกทั้งยังบ่งชี้สุขอนามัยที่ไม่ดีในกระบวนการแปรรูปเนื้อดิบด้วย

เนื้อดิบเลี้ยงสุนัข เป็นเนื้อดิบสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์โดยคุณภาพจะแตกต่างจากเนื้อสัตว์ที่มนุษย์บริโภค เพราะเนื้อที่มนุษย์บริโภคจะถูกควบคุมคุณภาพอย่างหนาแน่น ด้วยการทดสอบการปนเปื้อนของแบคทีเรียเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์ ขณะที่เนื้อสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์มักไม่ถูกควบคุมคุณภาพหรือผ่านกระบวนการทดสอบแบคทีเรียเท่าใดนัก

เนื้อดิบมีความเสี่ยงต่อมนุษย์อย่างไร

การให้สัตว์เลี้ยงกินเนื้อดิบเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดโรคได้ โดยสัตว์เลี้ยงจะสัมผัสกับของเหลวในเนื้อสัตว์ และปากของสุนัขเมื่อกินเนื้อดิบก็จะกักเก็บแบคทีเรียไว้ในปาก ถ่ายทอดสู่มนุษย์ผ่านการเลียและการจูบ ดังนั้น เมื่อคุณมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

สุนัขสามารถกินเนื้อดิบได้หรือไม่

สุนัขสามารถกินเนื้อดิบได้ เพราะกระเพาะอาหารและลำไส้ถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างจากมนุษย์โดยมันสามารถย่อยเนื้อดิบได้ ในขณะเดียวกันการกินเนื้อดิบก็อาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อแบคทีเรีย เช่น อีโคไล ซัลโมเนลลา คลอสติเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ และแคมไพโลแบคเตอร์ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษและท้องร่วงได้

เมื่อสุนัขกินเนื้อดิบและต้องเผชิญกับอาการป่วยทำให้มันต้องพึ่งการรักษาด้วยสเตียรอยด์หรือเคมีบำบัด ซึ่งจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม จึงไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงกินเนื้อดิบ เนื่องจากเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ท้องร่วง อาหารเป็นพิษได้ ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

การให้สัตว์เลี้ยงรับประทานอาหารจำพวกเนื้อ ควรปรุงให้สุก เพื่อสุขอนามัยที่ดีและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค นอกจากนี้ การได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของสุนัข จึงควรเสริมด้วยอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นหรือภาวะขาดสารอาหาร

แม้ว่าในประเทศไทยจะยังไม่พบปัญหาจากการใช้เนื้อดิบในการเลี้ยงสุนัข แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข จึงควรระมัดระวังในการปรุงอาหารจำพวกเนื้ออยู่เสมอ

เครดิตภาพ : playbarkrun.com, theconversation.com

#เนื้อดิบไม่ใช่อาหารสุนัข #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #การเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“ด้วงเต่าทอง” ด้วงสีประกายแสงใสที่น่าสนใจ

เมื่อโลกของเราอยู่ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเจริญมากขึ้น สัตว์มากมายก็ยิ่งต้องหลบซ่อนตัวเองเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของพวกมันอยู่ตามป่าลึกมากขึ้นจนสัตว์ที่เราเคยเห็นในชีวิตประจำวันสมัยก่อนบางชนิดก็ไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้วจนเราอาจคิดกันไปเองว่ามันอาจจะสูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว ทั้งที่ความจริงมันก็แค่พยายามจะซ่อนตัวจากอันตรายไม่ให้ผู้บุกรุกตามหามันจนเจอและทำร้ายมันก็เท่านั้น ฉะนั้นหากไม่ใช่สัตว์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับการอยู่กับคนได้ คุณก็ไม่ต้องคิดเลยว่าเพียงแค่ไปทำกิจกรรมตามเส้นทางเดินสำรวจป่าแล้วจะพบเจอกับสัตว์ที่ยากเจอได้ นอกเสียจากว่าคุณจะตั้งหมู่คณะแล้วเดินขึ้นเขาเข้าป่าลึกเพื่อผจญภัยตามหาความหมายของชีวิตที่แสนน่าเบื่อกับวงจรที่วนลูปเดิม ๆ ซึ่งได้ให้เวลาหยุดวงจรนั้นพักใหญ่แล้วบางทีไม่แน่หรอก ทันทีที่คุณเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นก็อาจจะยิ่งได้เห็นสิ่งที่อยากเห็นมากขึ้นก็ได้ อย่างน้อยก็มี “ด้วงเต่าทอง” ที่คุณมีโอกาสพบเห็นได้มากแล้วหนึ่งชนิด ยิ่งเข้าป่าก็ยิ่งเห็นด้วงเต่าทองแปลก ๆ เยอะซึ่งวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับโลกของความหลากหลายในเต่าทองมากขึ้น

ทำความรู้จักกับ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” หรือ “ด้วงเต่าลาย” เป็นแมลงปีกแข็งสีสันสดใสเป็นประกายที่นอกจากจะมีสีสันแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง สีส้ม และสีน้ำตาลที่เหมือนธรรมชาติแล้ว ทุกตัวยังจะมีลายจุดสีดำอยู่บนหลังของมันที่เป็นสีสันแต่งแต้มด้วย ซึ่งถือเป็นแมลงที่งดงามที่สุดในวงศ์ Coccinellidae และไม่น่าเชื่อว่าตามป่าเขาจะมีด้วงเต่าทองที่ตัวใสจนเห็นร่างกายอ้วนป้อมภายในของมันด้วยจนทำให้มันถูกจัดอยู่ในแมลงที่มีความหลากหลายในสายพันธุ์ซึ่งแปลกที่สุดในโลกแม้จุดจะเหมือนกัน เมื่อหุบปีกเข้าหากันจะจดกับด้านหลังทำให้มองคล้ายหลังเต่า มีหนวดแบบลูกตุ้ม และหากเป็นด้วงเต่าทองตามบ้านจะเข้ากับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

การดำรงชีวิตของ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” ,มีวงจรชีวิตที่สั้น พวกมันมักจะชอบพรางตัวอยู่ตามใบไม้หรือก้านดอกไม้ในสวนหรือตามป่าลึก โดยวัฏจักรของมันจะเริ่มจากการเป็นตัวหนอนที่เมื่อฟักออกจากไข่จะใช้วิธีการเจาะและดูดอาหารแร่ธาตุจากเหยื่อ และเมื่อโตมันก็เป็นนักล่าที่เก่งกาจในการจู่โจมได้โดยไม่เกรงกลัวใครแม้จะเป็นแมลงที่ใหญ่เพราะมันบินได้เร็วและมีไหวพริบเฉพาะตัว

อาหารสุดโปรดของ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” มีอาหารสุดโปรดปรานที่มันชื่นชอบมากมาย ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอย เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน ไข่ของผีเสื้อ หนอนขนาดเล็ก และแมลงหวี่ขาว รวมถึงพืชบางชนิดและเชื้อราที่มีความชื้นจะมีแร่ธาตุชั้นดีที่ทำให้มันเติบโตแข็งแรงมาก

เครดิตภาพ : pixabay

#ด้วงเต่าทอง #ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก