Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เคล็ดไม่ลับ!! วิธีจัดสวนจากวัสดุเหลือใช้

สำหรับการตกแต่งบ้านและสวนบอกเลยว่าคนนั้นจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน กับการที่นำเอาวัสดุเหลือใช้มาทำเป็นวัสดุในการตกแต่งให้สวยงาม ซึ่งแน่นอนเลยว่าวัสดุเหล่านั้นคุณอาจจะเอาไปทิ้งหรืออาจจะเอาต้องเอาไปทำลายแต่หาคนนั้นนำมาใช้ประโยชน์ ให้ได้มากที่สุด นอกจากจะช่วยให้คุณภูมิใจในฝีมือในการตกแต่งสวนของคุณแล้ว ยังทำให้คุณนั้นสามารถในวัสดุที่ดีและมีคุณภาพที่คุณได้เลือกด้วยตัวของคุณเองนั่นเอง หากใครอยากรู้ว่าวิธีจัดสวนจากวัสดุเหลือใช้ ก็สามารถเข้ามาดูกันได้เลย

วิธีจัดสวนจากวัสดุเหลือใช้

  1. การนำเอาไม้พาเลทเหลือใช้มาทำผผนังแขวนไม่กระถาง ซึ่งการนำเอาไม้มาทำในที่โล่งๆแจ้งนั้น คุณจะต้องทำใจในเรื่องของระยะเวลาของไม้ ซึ่งอาจจะไม่เกิน 2 ปี อยากจจะต้องมีการซ้องบำรุงกับบ้าง โดยเฉพาะใครที่เลี้ยงไม้กระถามที่ชอบน้ำเป็นพิเศษ ไม้นี้อาจจะต้องโดนน้ำเป็นประจำนั้นเอง แต่บอกเลยว่าหากแรกความความคลาสสิคและความสวยงาม มันคุ้มค่ามากๆที่จะเลือกใช้ไม้ชนิดนี้นั้นเอง
  2. การใช้โต๊ะไม้เก่าๆในการนำมาตกแต่งสวน ซึ่งแน่นอนเลยว่าคุณนั้นอาจจะมืองว่าไม่ค่อยลงตัวสักเท่าไหร่ แต่หากใครเลือกไม้กระถางได้เหมาะกับโต๊ะไม้นั้น บอกเลยมักจะยกระดับของสวนของคุณได้ทันที่ ซึ่งสวนที่ได้รับการประกวดว่าสวยเป็นอันดับต้นๆของบ้านเรานั้น ก็ใช้โต๊ะไม้โบราณเช่นกับในการนำมาวางประดับสวนนั้นเอง
  3. โครงเก้าอี้เหล็ก เป็นอีกหนึ่งวิธีจัดสวนจากวัสดุเหลือใช้ ที่แน่นอนเลยว่าหลายคนคิดว่าไม่มีประโยชน์อีกต่อไป บางคนอาจจะเอาไปทิ้งทันที่ แต่บอกเลยว่าครั้งต่อไปคุณจะเห็นคุณค่าของเก้าอี้เก่าทันที่ เมื่อคุณเอาเบาะนั่งออก จากนั้นก็นำเอากระถางดอกไม้มาวางไว้บนโครงเหล็กของเก่าอี้ ซึ่งนอกจากจะย้ายไปจัดส่วนไหนก็ได้ของสวนแล้ว ยังทำให้ส่วนของคุณดูสวยงามและเป็นระเบียบขึ้นอีกด้วย
  4. บันไดลิง แน่นอนเลยว่าไม้แขวนจะขาดไปไม่ได้เลย ซึ่งคุณสามารถนำเอามาแขวนไว้ในที่ร่มจากนั้นก็จำเอาพันธุ์ไม้ต่างๆมาแขวนประดับได้ตามใจชอบได้เลย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีจัดสวนจากวัสดุเหลือใช้ ด้วยการนำเอาวัสดุเหลือใช้มาตกแต่งสวน ซึ่งบอกเลยว่าคนนั้นจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน เนื่องจากหลายๆ คนนั้น กำลังไปซื้ออุปกรณ์ในการตกแต่งสวนด้วยราคาที่แพงแต่คนนั้นได้นำเอาวัสดุที่เหลือใช้นำมาประยุกต์ ให้เข้ากับส่วนของคุณก็จะช่วยให้คุณ นอกจากจะประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วยังสามารถจัดการตกแต่งสวนได้ตามดั่งใจคุณได้อีกด้วย

#แต่งสวนด้วยวัสดุเหลือใช้ #ทริคแต่งสวนแนะนำ #เทคนิคการแต่งสวน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เคล็ดลับ!! การตกแต่งสวนระเบียง

สำหรับใครที่มีความชื่นชอบในเรื่องของต้นไม้แต่อาจจะติดในเรื่องของสถานที่ที่อยู่ที่ไม่เอื้ออำนวยในการจัดสวนหรือปลูกต้นไม้สักเท่าไหร่ วันนี้เราได้นำเอาไอเดียที่น่าสนใจเกี่ยวกับการตกแต่งสวนระเบียงมาแนะนำการสำหรับใครที่มีพื้นที่น้อยแต่ยังมีพื้นที่ในส่วนของระเบียงอยู่บ้างก็สามารถที่จะนำเอาไอเดียที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ไปลองปรับใช้กันได้เลยลองไปดูกันซิว่าจะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

การตกแต่งสวนระเบียงสามารถได้อย่างไร 

  1. การใช้ไม้แขวน การใช้ไม้แขวนนั้นจะเหมาะมากกับการทำสวนที่สามารถนำมาแขวนกับผนัง เนื่องจากลักษณะของสวนไม้แขวนนี้ เป็นสวนที่สามารถประหยัดพื้นที่ได้ จึงทำให้การตกแต่งสวนสามารถจัดการได้ไม่ยากเลย โดยเฉพาะใครที่ทำสวนไม้แขวนในพื้นที่แนวตั้ง จะสามารถทำกับฉากหลังผนังที่ติดกับผนังคอนโดได้อย่างง่ายดาย แต่คุณจะต้องเลือกพันธุ์ไม้ให้ถูกต้องด้วย เพราะต้นไม้บางชนิดก็ไม่เหมาะที่จะนำเอามาแขวน พอจะทำให้ต้นไม้อาจจะตายได้ 
  2. การใช้กระถางและไม้กระถางในการจัดสวน แน่นอนเลยว่ะการใช้ไม้กระถางในการจัดสวนนั้น จะช่วยให้สามารถจำกัดพื้นที่ พร้อมด้วยการปลูกต้นไม้ชนิดใดก็ได้ ซึ่งคุณสามารถกำหนดการเจริญเติบโตของต้นไม้ได้ทุกอย่าง จึงทำให้ไม้กระถางเหมาะมากสำหรับการสร้างสวนในคอนโด แต่ไม้กระถางนั้นจะต้องมีการบำรุงดิน และการให้อาหารต้นไม้อย่างเช่นการเติมปุ๋ยเข้าไป เพราะเนื่องจากพื้นที่และจำนวนอาหารมีจำกัด เราจึงต้องมีการบำรุงและดูแลเป็นพิเศษนั้นเอง 
  3. การใช้หินในการตกแต่งสวนระเบียงแน่นอนเลยว่าความเป็นธรรมชาติในการใช้หินแต่งรอบๆระเบียง จะทำให้ผัวเรานั้นมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น 
  4. ใช้เฟอร์นิเจอร์หรือจะมุมพักผ่อนบนระเบียงคอนโด ซึ่งแน่นอนเลยว่าเมื่อเราสร้างสวนบนคอนโดแล้ว เราก็ต้องอยากได้ที่นั่งพักผ่อนในสวนของเรา การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้มีขนาดที่เหมาะสมกับส่วนของเรานั้น ช่วยให้สังคมเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น แต่หากเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่เกินไป อาจจะทำให้บดบังความเป็นธรรมชาติที่เราพยายามตกแต่งส่งของเราได้นั่นเอง 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการตกแต่งสวนระเบียงที่เรานำมาแนะนำกัน ใครที่กำลังมองหาไอเดียการจัดสวนสำหรับสถานที่ที่มีพื้นที่เล็กอยู่ก็สามารถที่จะนำเอาไอเดียที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปลองปรับใช้กันได้เลยนอกจากจะช่วยเปลี่ยนสภาพระเบียงที่เรียบง่ายของคุณให้มาสวยงามได้บอกเลยว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นไม้อะไรมาฝากกันอีกนั้นต้องติดตาม

ลิงก์เพิ่มเติม :

รีวิวสวนสวยในคอนโด เน้นต้นไม้เลี้ยงง่ายตายยาก! I ชวนมาช้อป I Plant Tour

#แต่งสวนระเบียง #สวนระเบียง #เทคนิคตกแต่งสวนสวย

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เคล็ดไม่ลับ!! เสริมฮวงจุ้ยด้วยจัดสวนทางเข้าบ้าน

มุมนอกบ้านของคุณเป็นอีกหนึ่งมุมที่คุณนั้นจะสามารถตกแต่งได้ตามสไตล์ของคุณได้เลย เนื่องจากมุมนี้หากคุณสามารถจัดแต่งได้ประสบผลสำเร็จจะทำให้บ้านของคุณนั้นน่าอยู่และดูดีขึ้นมาทันที โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบจัดสวน หรือตกแต่งบ้าน บอกเลยว่าการจัดสวนให้ถูกหลักตามโหราศาสตร์ นั้นจะช่วยทำให้บ้านของคุณนั้นร่มเย็นมากยิ่งขึ้น หากใครสนใจแนวคิดดีๆ ในการจัดมุมนอกบ้านให้ถูกหลักฮวงจุ้ยหรือ ให้ถูกหลักความถูกต้องและสวยงามก็ สามารถเข้ามา ดูกันได้เลย

เทคนิคง่ายๆ เสริมฮวงจุ้ยด้วยจัดสวน

  1. เพิ่มพลังชีวิตด้วยหวาย ทางเข้าบ้านนั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ ทางเข้าบ้านเป็นแบบไหนก็จะเป็นการสะท้อนถึงผู้อาศัย แนะนำให้เพิ่มพลังด้วยหวาย เพราะหวายเป็นพืชที่มีความยืดหยุ่นแต่มีระบบระเบียบ มีพลังในการปรับตัว ทำให้พลังงานอย่างธาตุไฟเฉิดฉายโดดเด่น จึงแนะนำให้จัดสวนที่มีความเป็นธรรมชาติ มีความร่มรื่นและเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์หวาย ก็จะทำให้บ้านมีลักษณะที่ดียิ่งขึ้น
  2. การปรับสมดุล การปรับสมดุลนั้นควรเริ่มจากห้องนั่งเล่น เป็นห้องมีส่วนใหญ่แล้วคนในบ้านมักจะทำกิจกรรมต่างๆร่วมกันภายในครอบครัว รวมถึงเป็นห้องรับแขกอีกด้วย ซึ่งการปรับสมดุลนั้นห้องนั่งเล่นควรจะเป็นทางทิศตะวันออกของบ้าน จะทำให้ได้รับอิทธิพลจากแสงแดดในช่วงเช้าเป็นเวลาสั้นๆ นอกจากนั้นควรประดับตกแต่งสวนทางเข้าเพื่อให้เกิดความสมดุลด้วยเฟอนิเฟอร์สีขาว
  3. ตกแต่งลานหน้าบ้านด้วยหิน ลานหน้าบ้านหรือทางเข้านอกจากจะตกแต่งไปด้วยสวนหรือต้นไม้เพื่อสร้างความร่มรื่นแล้ว การตกแต่งพื้นด้วยหินก็จะช่วยเสริมพลังงานของความมั่นคง เสริม ฮวงจุ้ย และอำนาจ หินที่ใช้ไม่ควรเป็นหินที่มีความแหลมคมมากนัก อาจจะเป็นหินแม่น้ำที่มีความหลากหลายของสี ทำให้ง่ายต่อการตกแต่งอีกด้วย
  4. กันร้อนด้วยระแนงไม้ สำหรับการตกแต่งบ้านโดยการลดพลังงานงานความร้อนด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มความร่มรื่นแล้วการใช้ระแนงไม้เพื่อกันความร้อนก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะเป็นการปรับสมดุลให้กับบ้านสร้างพลังความเย็น เป็นการซึมซับพลังแห่งความรู้สึกที่อบอุ่นได้ดีเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับมุมแต่ส่วนของเราซึ่งบอกเลยว่าคุณนั้นจะมีบ้านที่สวยงามและน่าอยู่อย่างแน่นอน เพราะว่าหลักการฮวงจุ้ยนั้นเป็นหลักการที่จะช่วยให้บ้านของคุณนั้นดูดีและอยู่แล้วมีความสุขได้นั่นเอง หากใครสนใจที่ต้องการแนวคิดดีๆ ในการจัดบ้านและสวนก็สามารถเข้ามาติดตามพวกเราได้เลย

ลิงก์เพิ่มเติม

การจัดสวน…ตามหลักฮวงจุ้ย l (1/3) รายการฮวงจุ้ย design

#จัดสวนเสริมฮวงจุ้ย #จัดสวนเสริมดวง #จัดสวนทางเข้าบ้าน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีจัดมุมปาร์ตี้ในพื้นที่จำกัดได้ง่ายๆ

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ชอบชอบในเรื่องของการ จัดมุมปาร์ตี้ แน่นอนว่าภายในบ้านควรจะต้องมีบริเวณส่วนหนึ่งที่จัดเอาไว้สำหรับที่จะสังสรรค์ หรือจัดงานปาร์ตี้ และวันนี้เราได้นำเอาไอเดียการจัดบ้านจัดสรรพื้นที่ที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณนั้น สามารถที่จะจัดปาร์ตี้ได้อย่างสบายๆมาแนะนำ ก็ลองไปดูกันซิว่าไอเดียการจัดบ้านให้มีพื้นที่สังสรรค์นั้น จะมีรายละเอียดอย่างไรกันบ้างไปดูกันเลย

ขั้นตอนการจัดมุมปาร์ตี้ในพื้นที่จำกัด 

  1. การใช้เคาน์เตอร์บาร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้หลายคนเลือกใช้เนื่องจาก ใช้เคาน์เตอร์บาร์นี้ จะช่วยให้มุมปาร์ตี้ของคุณนั้นดูเป็นรูปแบบมากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของมุมนี้ได้เป็นอย่างดี เพียงแค่หาโต๊ะเก้าอี้มาวางไว้ที่หน้าบาร์ ก็จะสามารถ จัดมุมปาร์ตี้ ในบ้านของคนได้อย่างง่ายดาย
  2. ใช้พื้นที่เปิด เป็นอีกหนึ่งวิธีของร้านอาหาร ที่มักจะใช้พื้นที่เปิดในการจัดโต๊ะ เนื่องจากพื้นที่เปิดนี้จะช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง แต่หลักการในความเป็นจริงแล้ว พื้นที่นั้นอาจจะไม่ได้มากอย่างที่ตาคุณเห็น เพียงแค่จัดโต๊ะเก้าอี้ลงไปในพื้นที่นั้นๆ ก็จะช่วยให้ดูมีความกว้างและน่าจัดงานสังสรรค์มากที่สุดนั่นเอง
  3. บรรยากาศดิบ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่หลายๆคนนั้นเลือกที่จะใช้ เพราะว่ามุมปาร์ตี้นั้นบางครั้ง บรรยากาศดิบดิบ มักจะเป็นมุมที่สบายตา จึงเหมาะมากที่จะทำการจัดงานปาร์ตี้ ซึ่งแน่นอนเลยว่ามุมนี้อาจจะเป็นมุมโปรดของใครหลายๆคน การใช้วัสดุสังกะสีมาแปะไว้เป็นผนัง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้คุณนั้นจัดบ้านหรือจัดมุมในสไตล์วินเทจได้นั่นเอง 
  4. การเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือโต๊ะเก้าอี้ ซึ่งแน่นอนเลยว่าคุณนั้นจะไม่เลือกโซฟาอย่างแน่นอนหากจับในพื้นที่เปิด เพราะนอกจากจะทำให้คุณลำบากที่จะต้องดูแลรักษาแล้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่างไม้พาเลทมาทดแทน ก็จะช่วยให้คุณนั้นสะดวกสบายในการขนย้ายหรือในการจัดแต่งได้นั้นเอง 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เราได้นำมาแนะนำการเกี่ยวกับไอเดียการจัดบ้าน ให้มีพื้นที่สังสรรค์ที่จะทำให้คุณนั้นชื่นชอบ และบ้านจะไม่เป็นพื้นที่ที่น่าเบื่ออีกต่อไป โดยเฉพาะใครที่มีหน้าที่การงานหรือมีเพื่อนฝูงมากมาย และมีการสังสรรค์กันบ่อยครั้ง ก็ควรที่จะ จัดมุมปาร์ตี้ บ้านให้ลงตัว เพื่อที่จะสังสรรค์กันได้อย่างเต็มที่แถมยังปลอดภัยอีกด้วย สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดบ้านมาฝากกันอีกนั้นต้องติดตาม

#จัดมุมปาร์ตี้ #แนะนำจัดสวน #แต่งสวนในพื้นที่จำกัด

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เคล็ด(ไม่)ลับกับวิธีดูแลแคคตัสให้สวย อวบน้ำ น่ารักอยู่เสมอ

แคคตัส ต้นไม้ประดับขนาดจิ๋วที่กำลังฮิตเป็นกระแสนิยมของคนเล่นต้นไม้อยู่ในปัจจุบัน เพราะด้วยกระแสการกักตัวแล้วเปลี่ยนบ้านให้เป็นป่าในยุคนี้จนเรียกว่าบ้านไหนที่ไม่ปลูกต้นไม้หรือไม่เลี้ยงแคคตัสเลยก็อาจดูเชยในยุคนี้กันเลยทีเดียว และสำหรับใครที่กำลังเริ่มที่จะเลี้ยงแคคตัสหรือกำลังสนใจอยากปลูกไว้ในมุมไหนของบ้าน วันนี้เรามีเคล็ดลับที่ไม่ลับมาให้อ่านกันเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการเลี้ยงแคคตัสให้สวยงามนั่นเอง

1. การรดน้ำแคคตัส

แม้ว่าต้นกระบองเพชรหรือแคคตัส จะเป็นต้นไม้ที่ขึ้นชื่อว่าทนแล้ง ทนแดด ทนฝนได้ดี นานๆ รดน้ำก็ยังได้ แต่ปัญหาที่คนส่วนใหญ่มักพบเจอในการปลูกต้นแคคตัสก็คือ การให้น้ำในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะโดยปกติแล้วแคคตัสจะต้องการน้ำในช่วงที่กำลังเติบโต ซึ่งจะตรงกับช่วงฤดูฝนที่อากาศมีความชื้นสูง แต่ในช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่แคคตัสต้องการน้ำน้อยมาก เพราะเหมือนอยู่ในช่วงพักตัว จำศีล ในช่วงฤดูฝนจึงควรให้น้ำประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

2. ตำแหน่งในการตั้งกระถางแคคตัส

ในการเลี้ยงแคคตัสนั้นนอกจากการให้น้ำเรื่องของตำแหน่งในการตั้งวางกระถางก็สำคัญเช่นกัน โดยควรวางไว้ในพื้นที่ที่มีแดดส่องถึงในช่วงใดช่วงหนึ่งคือไม่วางในที่ที่แดดจัดจนเกินไปเพราจะทำให้น้ำในดินระเหยได้เร็วกว่าปกติ จึงอาจต้องรดน้ำบ่อยมากกว่าการตั้งไว้ในพื้นที่ร่ม แต่ก็ไม่ควรให้แคคตัสตั้งอยู่ในร่มเป็นเวลานานมากเกินไป ควรมีการนำออกมาตั้งวางเพื่อแสงสว่างจากแสงแดดบ้างอย่างสม่ำเสมอ

การเลือกกระถางก็สำคัญให้แคคตัสก็สำคัญพอๆกับขั้นตอนอื่น

3. กระถางสำหรับปลูกแคคตัส

หากปลูกแคคตัสมาสักระยะหนึ่งแล้วพบว่าต้นแคคตัสไม่เจริญเติบโตและงดงามเหมือนเดิม นั่นอาจเป็นผลมาจากกระถางที่ใช้ในการปลูก โดยสามารถสังเกตได้จากรากเริ่มโผล่ออกมานอกกระถาง ซึ่งแสดงว่าคุณควรเปลี่ยนกระถางใหม่ให้ต้นแคคตัสได้แล้วเพราะนอกจากจะช่วยทำให้รากของต้นแคคตัสมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตแล้ว ยังช่วยทำให้รากสามารถดูดสารอาหารได้มากขึ้นกว่าเดิม

4. การให้สารอาหารแคคตัส

การใส่ปุ๋ยหรือการบำรุงต้นแคคตัส ควรเลือกปุ๋ยที่เป็นสูตรที่มีปริมาณธาตุฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมมากกว่าไนโตรเจน เพื่อเน้นการบำรุงต้นให้ออกดอก พร้อมช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ต้นมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยควรใส่ปุ๋ย 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ในปริมาณที่เจือจางกว่าอัตราปกติทั่วไปครึ่งหนึ่ง เสร็จแล้วให้ตามด้วยการรดน้ำตาม

หากทำตามจนครบขั้นตอนข้างต้นแล้วเราก้จะมีต้นแคคตัสที่สวยงาม อวบอิ่มให้เลี้ยงอยู่ตลอดแล้ว ถ้าเลี้ยงดีๆและใส่ใจมากขึ้นไปอีกเราก็จะได้ดูดอกสวยๆของแคคตัสอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ทั้งต้นไม้สวยๆไว้ประดับบ้านและได้เลี้ยงต้นไม้ในกระแสไว้อวดเพื่อนๆอีก

เครดิตรูปภาพ sanook.com

Youtube : แนะนำปุ๋ยที่นิยมใส่แคคตัสที่สุด? ใช้ยังไงให้ได้ผลดี? [How to Fertilize Cactus?]

#แคคตัส #เทคนิคการเลี้ยงแคคตัส #เลี้ยงแคคตัสให้ อวบน้ำ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 ต้นไม้ที่น่าปลูกไว้บริเวณรอบๆบ้าน เพื่อความอุดมสมบูรณ์และความน่าอยู่

ต้นไม้นั้นถือเป็น สิ่งมีชีวิต ประเภทพืช ที่สำคัญมากๆพอๆกับน้ำ ต้นไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติ มีมากมายบนโลก มีหลายพันหลายชนิด

แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท น่าจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ หรือว่าจะเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวพืชใบเลี้ยงคู่

คำว่าต้นไม้นั้นสามารถแปลเวลาหลายอย่างน่าจะเป็นป่าไม้ ชนิดพืชหรือพืชต่างๆ

วันนี้เราจะมาบอกถึง 3 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้บริเวณรอบๆบ้าน เพื่อความสวยงามและความน่าอยู่บ้านเราในบ้านเรานั้นมีความร่มรื่นมาก สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าจะมีต้นอะไรบ้างนะดูกันเลย

1. ต้นมะม่วง

ต้นมะม่วงที่เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้วนะจะออกไปออกผลได้อย่างสวยงาม และมีขนาดลำต้นใหญ่พอสมควร

ซึ่งต้นดีนะถ้าเรานำมาปลูกบริเวณรอบบ้านเราแล้ว ถ้ากว้างพอสมควรก็สามารถ ต้นไม้ตอนนี้ได้

เพื่อความร่มรื่นและความน่าอยู่บริเวณรอบบ้านของเรา นอกจากนี้เรายังสามารถนำสิ่งของต่างๆมาวางไว้ใต้ต้นไม้หรือต้นมะม่วงเราได้ เพื่อเป็นที่นั่งหรือที่พักพิง เอาไว้พักนั่งดูให้สบายตา เป็นต้น

2. ต้นวาสนา

ต้นวาสนานั้นถือเป็นต้นไม้ ชนิดหนึ่งที่มีความสวยงาม จะมีใบเป็นใบยาว ค้าขายกับว่านหางจระเข้ ซึ่งตอนนี้นั้นมานำมาปลูกใกล้ๆบริเวณบ้านนั้นจะช่วย ให้ความร่มรื่นและให้ความอุดมสมบูรณ์แก่บ้านของเรา

เเละยังสวยสามารถประดับ ได้ในที่ต่างๆ ต้นนี้จะเป็นลำต้นที่มีส่วนใหญ่มากนักจะเป็น ใบที่ออกมาจากดินและไม่เห็นลำต้นที่แน่ชัดเจนลำต้นจะอยู่ใต้ดิน จะมีรากที่แข็งแรง เเละ เเข็งเเกร่ง.

3. คุณนายตื่นสาย

ชื่อพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ถือเป็นไม้ดอกไม้ประดับถือเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เราสามารถนำมาตกแต่งบ้านของเราได้ ความสวยงามเพราะต้นไม้ชนิดนี้มีหลายสี มีสีสันที่สวยงามและออกดอกได้เร็ว

ดอกไม้ชนิดนั้น สามารถออกดอกเลื้อยไปได้หลายที่หลายทิศทาง และลำต้นมันจะมีขนาดไม่ใหญ่มากก็เป็นต้นที่ขึ้นมาจากใต้ดิน มีความสวยงาม เหมาะแก่การปลูกรอบบ้านเรามาก

แล้วความสบายมาเอาไว้ดูตอนที่เราอยู่ตอนนี้มีอะไรทำ ต้นไม้ชนิดใดที่ถือเป็น พันธุ์ไม้ดอกและพันธุ์ไม้ประดับที่นิยมปลูก ในหลายๆบ้าน ถ้าคุณจะนำมาปลูกบริเวณรอบรอบบ้านของคุณ ก็จะทำให้ บ้านของคุณนั้นจะมีความน่าอยู่มากขึ้นเนื่องจากมีดอกไม้ประดับที่สวยงาม.เป็นต้น

เครดิตของรูปภาพทั้งหมด

รูปที่ 1 จาก pixabay

รูปที่ 2 จาก pixabay

รูปที่ 2 จาก pixabay

#3 ต้นไม้ที่น่าปลูก #แนะนำต้นไม้น่าปลูก #แนะนำจัดสวน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

5 อาหารต้องห้ามที่แมวเหมียวไม่ควรทานเด็ดขาด

            “ทาส” ภาษาดั้งเดิมที่เมื่อก่อนมักจะถูกนำไปใช้ในทางลบตอนนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นความหมายใหม่ เมื่อทาสในที่นี้หมายถึงมนุษย์ที่กำลังคลั่งรักอะไรสักอย่าง เช่น ทาสแมว ที่วันนี้พวกเราจะมาพูดถึง เมื่อมนุษย์เริ่มให้ความสำคัญกับเจ้านายของพวกเขามากขึ้น วันนี้เราจึงมีรายนามอาหารต้องห้ามของน้องแมวที่ไม่สามารถทานได้เด็ดขาดมากางให้เหล่าทาสได้อ่านกัน เพื่อความปลอดภัยของแมวๆ มาดูกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มกันเลยค่ะ!

หอมและกระเทียม

            อาหารต้องห้ามชนิดแรกที่น้องแมวควรหลีกเลี่ยง แน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะแบบดิบจากต้นหรือในตลาดสดเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงพวกผงกระเทียมและอาหารปรุงสุกทุกอย่างที่มีกระเทียมและหอมปนอยู่ด้วย เพราะว่าหอมและกระเทียมมีสารประกอบที่เรียกว่า sulfoxides และ disulphides ซึ่งสารประกอบทั้งคู่จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว ทำให้แมวของท่านเกิดอาหารโลหิตจางหรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอันตรายมาก

ปลาดิบ

            อาหารต้องห้ามชนิดที่ 2 ที่ใครหลายๆ คนคงกำลังตั้งคำถาม เพราะถ้านึกถึงแมวก็ต้องนึกถึงปลาเป็นอันดับแรกแต่ทำไมปลาดิบแมวถึงกินไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าในปลาดิบมีแบคทีเรียอันตรายที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแมวแล้วจะทำลายวิตามินที่สำคัญของแมวอย่าง Thiamine ซึ่งจะส่งผลให้แมวเกิดอาการเบื่ออาหาร หรือชักจนนำไปสู่การเสียชีวิต

อาหารที่มีส่วนผสมของนม

            อาหารต้องห้ามชนิดที่ 3 ที่ต้องมีคนสงสัยอีกแหละ เพราะว่าตอนน้องเป็นเด็กก็มักจะเห็นทาสทั้งหลายป้อนนมกันอย่างเอาอกเอาใจแต่ทำไมคราวนี้ถึงทานไม่ได้ นั่นก็เพราะว่านมเป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโทส ซึ่งสำหรับลูกแมวตัวเล็กก็ถือว่าไม่มีปัญหา แต่สำหรับแมวทที่โตแล้ว ในร่างกายของเขาไม่มีเอนไซซ์แลคเทสในการย่อยโมเลกุลของแลคโทส ดังนั้นเมื่อแมวทานนมเข้าไปจะส่งผลให้น้องเกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสีย เพราะฉะนั้นใครที่อยากให้นมน้องแมวก็แนะนำว่าต้องปราศจากแลคโทสซึ่งแน่นอนว่าคุณก็ควรที่จะมั่นใจจริงๆ ล่ะนะ

สารให้ความหวาน

             Xylitol(ในลูกอมหรือหมากฝรั่งและอื่นๆ) ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารต้องห้ามที่เป็นอันตรายสำหรับแมวไม่ต่างไปจากสุนัข นั่นก็เพราะสารพวกนี้สามารถทำให้ไตของแมวเกิดอาการวายแบบเฉียบพลัน อีกอย่างหนึ่งที่น่ากลัวคือการกระตุ้นทำให้อินซูลินของน้องเพิ่มสูงจนส่งผลให้น้องเกิดอาการมึนเมา ง่วง หรืออาเจียนซึ่งอันตรายมาก

มันฝรั่ง

            อาหารต้องห้ามอันดับสุดท้ายในวันนี้ เนื่องจากมันฝรั่งมีส่วนประกอบของ Glycoalkaloid Solanine ซึ่งค่อนข้างเป็นพิษต่อสัตว์ในเรื่องของระดับทางเดินอาหารส่วนล่าง อาหารสัตว์บางชนิดมีส่วนประกอบของมันฝรั่งด้วยแต่แน่นอนว่าปริมาณสารประกอบดังกล่าวก็ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นวางใจหายห่วงได้แต่ก็ควรหลีกเลียงอยู่ดี

            เห็นรายนามอาหารต้องห้ามทั้ง 5 อย่างแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ บางชนิดก็ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าแมวจะไม่สามารถทานได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อมีโออากาสได้รับรู้กันแล้วด้วย 2 ตาของทุกคน เราก็ต้องมาหยุดให้อาหารเหล่านี้แก่น้องแมวกัน เพื่อความปลอดภัยของน้องนะคะ

ที่มาภาพ : Medium, Cooking Light, Chicago Tribune, IndiaMART, CJSSupermarket, Biomin

#อาหารต้องห้ามน้องแมว #ทาสแมวต้องรู้ #อาหารแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถางต้นไม้

ต้นไม้ที่เราปลูกไว้ในกระถาง บางครั้งพอถึงเวลาก็อาจจะต้องทำการเปลี่ยน ซึ่งก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผล อาทิเช่น ลำต้นโตเกินกระถาง กระถางชำรุด หรือบางครั้งเราอาจอยากนำลงไปปลูกในดิน เพื่อให้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ถ้าเราทำไม่ถูกวิธีอาจส่งผลให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาหรือตายได้ ถึงแม้ว่าตอนอยู่ในกระถางจะแข็งแรงดีก็ตาม และถ้าใครเคยลองเปลี่ยนแล้วประสบปัญหาอย่างที่เรากล่าวมาลองดูขั้นตอนในการเปลี่ยนที่ถูกวิธีกันดีกว่าค่ะ เพื่อให้ต้นไม้ที่คุณรักเจริญเติบโตได้ดีต่อไป

ภาพจาก today.line.me

1. ถ้ากระถางไม่ใหญ่ รวมทั้งต้นไม้ยังไม่โตมาก ให้ใช้ฝ่ามือกางออกแล้วจับต้นไม้บริเวณโคนต้นที่ติดกับกระถาง จากนั้นคว่ำลง ด้านใต้ของกระถางจะมีช่องให้ทำการกดดันดินออกมา เราก็จะได้ต้นไม้พร้อมดินโดยปราศจากกระถาง สามารถนำไปปลูกในที่ที่ต้องการกันได้เลย

2. ถ้ากระถางใหญ่ แต่ต้นไม้ไม่ใหญ่มาก การยกแล้วคว่ำอาจจะหนักเกินไป ให้ทำการตะแคงกระถาง แล้วใช้ไม้หรือเสียบอันเล็กๆ แซะบริเวณรอบกระถางด้านใน เพื่อให้ดินหลุดออกมา จากนั้นค่อยๆ ดึงต้นไม้ก็จะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย

3. หากกระถางและต้นไม้ค่อนข้างใหญ่ ให้ตั้งไว้ตรงๆ ตามเดิม แล้วใช้เสียบแซะโดยรอบ และงัดด้านล่างเบา แต่ถ้าค่อนข้างหนักมาก ควรหาผู้ช่วย เพราะคนเดียวอาจจะไม่สามารถยกต้นไม้ออกมาได้ สำหรับต้นไม้ใหญ่ หากนำลงไปปลูกในดิน ให้ขุดหลุมให้ลึกและกว้างพอกับขนาดของลำต้น นอกจากนี้ควรหาไม้มาค้ำปักไว้ และหาเชือกมาผูก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ต้นเอียงหรือล้ม ปักไปจนกว่าจะมั่นใจว่าต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี และรากยึดเกาะดินจนแน่นแล้ว จากนั้นสามารถนำออกได้

4. ปกติการเปลี่ยนกระถางควรทำตั้งแต่ต้นไม้ยังไม่เติบโตมาก จะเปลี่ยนได้ง่ายกว่าและโอกาสในการรอดก็มีมากกว่าเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคิดจะปลูกต้นไม้เราควรตัดสินใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าจะปลูกไว้ในกระถางแบบเดิม หรือต้องการปลูกลงดิน โดยแบบหลังควรทำโดยทันทีหรือไม่ก็ตอนที่ต้นไม้ยังไม่โตมาก นอกจากจะทำได้ง่ายกว่า ต้นไม้ยังเจริญเติบโตงอกงามได้ดีอีกด้วย

ภาพจาก decor.mthai.com

ต้นไม้ที่ไม่เหมาะในการปลูกไว้ในกระถางก็เช่นพวกไม้ผลต่างๆ และไม้ยืนต้น เพราะส่วนมากจะต้นใหญ่ และต้องการเนื้อที่ในการแผ่กิ่งก้านสาขา พร้อมทั้งหาอาหารมากกว่าพวกไม้ดอก ไม้ประดับ แต่ถ้าบ้านใครที่มีเนื้อที่ไม่มากการปลูกในกระถางก็จะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายต้นไม้ได้สะดวกขึ้น ดังนั้นถ้าจะให้ดีควรเลือกต้นไม้ที่คิดจะปลูกให้เหมาะสมจึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

#เปลี่ยนกระถางต้นไม้ #ขั้นตอนย้ายกระถาง #แนะนำทริคจัดสวน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

แคคตัสต้นเล็ก ๆ แต่ราคาไม่เล็ก

            โควิด-19 เป็นเหตุสังเกตได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดในช่วงที่ผ่านมานั้นทำให้ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น หลายคนมีโอกาสจัดบ้านให้มีมุมสีเขียว สวยงามน่าอยู่ รวมถึงหาต้นไม้มงคล ไม้ประดับเข้าบ้าน และหนึ่งในไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอยู่ตลาดกาลนั่นก็คือ ‘แคคตัส’ นั่นเอง มีทั้งแบบมีหนามและไม่มีหนาม ราถูก ราคาแพง ดูแลง่าย ไปจนถึงดูแลยากมาก วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับแคคตัสสามสายพันธุ์ที่ราคาไม่เล็กเหมือนไซซ์ของน้อง ๆ แน่นอน  จะมีสายพันธุ์ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยจ้า

แคคตัส 3 สายพันธุ์ที่ราคาไม่เล็กเหมือนต้น

1. Gymnocalycium (ยิมโน)

            Gymnocalycium ยิ่งมีสีด่าง และเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาจนได้สีด่างสม่ำเสมอกันทุกพูยิ่งส่งผลให้มีราคาสูง ราคาของแคคตัสยิมโนด่างขึ้นอยู่กับ ขนาด สีด่าง และคุณค่าทางจิตใจ บางคนชอบลักษณะต้นที่สมมาตร แต่หากเป็นแคคตัสยิมโนไม้คริส (มีการเจริญเติบโตด้านข้างเป็นกำแพง) จะเป็นที่ต้องตาต้องใจของนักสะสม และราคาก็ยิ่งจะสูงขึ้นกว่าราคาปรกติมาก
         สีของยิมโนด่าง มีตั้งแต่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง จนไปถึงสีหายากอย่างสีม่วง สีดำ ยิมโนด่างบางสายพันธุ์ถูกพัฒนาให้ไร้หนาม หากคุณเจอร้านขายยิมโน อย่าลืมถามว่าเป็นไม้หน่อ หรือไม้เมล็ด เนื่องจากสีเดียวกัน แต่ราคาจะต่างกัน โดยไม้หน่อจะได้โคลน DNA เหมือนกับต้นแม่ ส่วนไม้เมล็ดจะได้ลุ้นความสวยงามที่เกิดจากการผสม และราคาไม้เมล็ดนั้นก็จะมีราคาที่สูงกว่าไม้ชำหน่อด้วย

2. Astrophytum asterias V type (แอสโตรไฟตัมวีไทป์)

         ในตระกูล Astrophytum มีลักษณะที่นักสะสมแย่งเก็บกัน ก็คือ แอสโตรไฟตัมวีไทป์ เช่น Astrophytum asterias “Super kabuto V type” และลักษณะวีไทป์อื่น ๆ ที่ทำให้แคคตัสแอสโตรไฟตัมราคาสูงเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดลักษณะวีที่หนาขึ้น ส่งผลให้ค่าตัวแรงขึ้น แอสโตรไฟตัมเป็นแคคตัสเลี้ยงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เกิดดอกง่าย ติดผลง่าย เพาะเมล็ดก็ง่ายอีก แต่ความยากก็คือ กว่าจะเจอต้นที่ให้ทรงวีสวย ๆ จะต้องผ่านการคัดและเพาะเมล็ดหลายร้อย หลายพันต้นกว่าจะเห็นต้นวีทรงสวยสักต้นหนึ่ง เพราะเหตุนี้จึงทำให้แอสโตไฟตัมบางต้นนั้นมีราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว

3. Mammillaria (แมมมิลลาเรีย)

            แมมมิลลาเรีย มีหลายสายพันธุ์ที่จำหน่ายกัน อาทิ แมมมิลลาเรียขนนก, แมมมิลลาเรียนกฮูก, แมมมิลลาเรียหนามแดง ในแคคตัสสกุลแมมมิลลาเรียมีราคาเริ่มต้นหลักสิบบาท ตั้งแต่ไม้ชำหน่อปักลงกระถาง ไปจนถึงหลักพันบาท แต่หากเป็น แมมมิลลาเรียบางสายพันธุ์ เช่น แมมมิลลาเรียเลนต้า ถ้าเลี้ยงรวมเป็นกอ อาจจะพบว่ามีราคาสูงหลักหมื่น
         แมมมิลลาเรีย เป็นแคคตัสที่นิยมมาก เรียกได้ว่าเป็นไม้เบสิกที่ผู้เลี้ยงแคคตัสเริ่มต้นต้องมี และบางคนชื่นชอบสีสันของดอกและหนาม แม้ว่าต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะเห็นดอกบานสักครั้งหนึ่ง

            หากใครอยากจะเลี้ยงแคคตัสก็แนะนำให้ลองเลี้ยงจากต้นที่ราคาเบา ๆ ก่อน เมื่อคล่องแคล่วและมีความรู้ความสามารถมากพอให้การเลี้ยงแล้วเราก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นไปเลี้ยงตัวที่เริ่มมีราคาสูง การเลี้ยงพืชทุกชนิดเราต้องค่อย ๆ เรียนรู้ละทำความรู้จัก อย่างที่เขาว่ากันว่า ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามนั่นแหละทุกคน

เคดิตภาพ

1. https://www.pinterest.com/pin/583216220481195510/

2. https://www.pinterest.com/pin/608548968391601801/

3. https://sites.google.com/a/student.mahidol.edu/about-cactus/mammillaria

#เลี้ยงแคคตัส #รู้ก่อนเลี้ยงแคคตัส #แนะนำจัดสวน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงกระรอกท้องขาว

สัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆที่สามารถนำพาไหนด้วยได้ ไม่ต้องหิ้วของสำหรับดูแลอย่างพะรุงพะรัง ต้องยกให้กับกระรอก สัตว์ประเภทฟันแทะที่ได้รับ ความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ถ้าสนใจจะเลี้ยงไว้สักตัวจะต้องดูแลอย่างไรนะ มาชมกันค่ะ

กระรอกสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง

กระรอกท้องขาว หรือกระรอกสวน  กระรอกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่ดื้อหรือดุร้ายมากนัก มีสีตามตัวเป็นสีน้ำตาล มีหางยาวเป็นพวงฟู ๆ  มีความยาวหัวถึงหางราว ๆ 30 เซนติเมตร เป็นสัตว์ที่ชอบแทะ และปราดเปรียวมาก อยุ่ไม่ค่อยนิ่ง

วัยเจริญพันธุ์ของกระรอก จะเริ่มตั้งแต่อายุ 4 เดือน จะออกลูกเป็นตัว แต่ละครั้งจำนวนไม่แน่นอนโดยมากไม่เกิน 2 ตัว อายุรวม ๆ อยู่ได้ประมาณ 9-10 ปี

การเลี้ยงลูกกระรอก

กระรอกจะเลี้ยงต้องใส่ใจ และบ้างครั้งก็เลี้ยงยาก เพราะโดยมากกระรอกนั้นจะเป็นการนำมาจากธรรมชาติไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยง จึงมักมีปัญหาเรื่องสุขภาพพอสมควร เพราะไม่ได้กินน้ำนมจากแม่ที่เพียงพอ ถ้าเลือกเลี้ยงควรนำลูกกระรอกที่ลืมตามแล้วมาเลี้ยงจะง่ายกว่า

สำหรับลูกกระรอกที่ยังไม่ลืมตานั้น ต้องใส่ใจมากกว่า และพิถีพิถันพอสมควร ต้องกระตุ้นให้มันลืมตาด้วยการใช้สำลีชุบน้ำอุ่นบีบหมาด ๆ เช็ดที่ตาทุกวัน และต้องใส่ใจเรื่องการขับถ่ายด้วย

อาหารที่ให้กระรอก

สำหรับลูกกระรอกที่ยังไม่หย่านมจะเป็นนมผงเด็ก นมผงสำหรับลูกสุนัข หรือหนู หรือนมถั่วเหลืองก็ได้ อย่าใช้นมวัวเลี้ยงเพราะจะทำให้ท้องเสียได้การให้นมควรให้ผ่านสริงฉีดยาให้ทีละน้อย ๆ อย่าเร็วจนเกินได้ อาจทำให้สำลักได้ในหนึ่งวันให้ที่ 4-5 มื้อ

กระรอกโตควรกินผักผลไม้เป็นอาหารหลัก อาจเป็นพวกเมล็ดทานตะวันหรือถั่วก็ได้ และได้รับอาหารเสริมประเภทสัตว์หรือแมลงต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพของกระรอก เช่น แตงโม แตงไทย และแตงกวา  เพราะพวกนี้มีน้ำเยอะจะทำให้ท้องอืดได้

รังนอนของกระรอก

กระรอกเป็นตัวที่ขี้ระแวง ตกใจง่าย การทำรังนอนจึงควรอยู่มุม ๆของกรง อาจเป็นรังหรือกล้องรองด้วยฟาง เพื่อให้กระรอกได้ซุกตัวนอน และทำให้อบอุ่นรวมทั้งทำให้กระรอกน้อยรู้สึกปลอดภัยด้วย ในกรงอาจมีวงล้อหรือคอนให้กระรอกได้ปีนป่ายเล่น

สำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงกระรอกในวัยโตเต็มที่แล้วไม่ต้องดูแลจนใกล้ชิดมากเหมือนตอนยังเล็ก ๆ และอย่ากลัวที่จะถูกกัด หรือกลัวที่จะเปือนฉี่ในตอนที่นำมาไต่เล่นบนตัว นะคะ ที่สำคัญก็คือ ต้องไม่กลัวบ้านพังด้วยนะ  เพราะกระรอกน้อยนั้นมีนิสัยชอบ แทะ แค่คุณเผลอก็อาจแทะข้าวของได้ วิธีป้องกันไม่จำเป็นที่จะต้องตัดฟันแค่คุณหาผลไม้เนื้อแข็ง ๆหรือของให้กระรอกแทะก็ช่วยได้นะคะ

#เลี้ยงกระรอกท้องขาว #กระรอกท้องขาว #สัตว์เลี้ยงน่ารู้