Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“เสือดาวหิมะ” นักล่าผู้แกร่งด้านการฟาดและกระโดดสูง

เมื่อบอกเล่ากันถึงสถานที่ต่างแดนซึ่งปกคลุมด้วยหิมะทั่วทั้งอาณาเขต มีสภาพอากาศหนาวเย็นจัดแล้วล่ะก็หลายคนย่อมจะนึกถึงสัตว์แดนหิมะที่น่ารักอย่างเพนกวิน หมีขาว แมวน้ำ และสิงโตทะเลอย่างแน่นอน คงไม่มีใครที่จะพูดกันถึงสัตว์ที่มีความดุร้ายอย่าง “เสือดาวหิมะ” ซึ่งเป็นสัตว์ในแดนหิมะที่มีความเก่งกาจและน่าค้นหามากกว่าสัตว์แดนหิมะทั่วไปที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว แม้ว่าภาพลักษณ์ของเสือดาวที่เราเห็นกันตามข่าวสารหรือในภาพเป็นประจำจะอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร แต่พอมาเห็นเสือดาวหิมะผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่สีขาวโพลนอย่างนี้แล้วก็อดที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่กันอย่างไรในอุณหภูมิหนาวเย็นหนักขนาดนี้ และมีจุดเด่นใดที่น่าสนใจบ้าง หากอยากรู้ล่ะก็ตามเรามาศึกษาเรื่องราวน่ารู้ของ “เสือดาวหิมะ” นักล่าผู้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ดินแดนที่ถูกปกคลุมด้วยความหนาวเย็นสีขาวไปพร้อมกันเลยดีกว่า

ทำความรู้จักกับ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” เป็นสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ที่ใกล้สูญพันธ์จนถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์อนุรักษ์อีกชนิดหนึ่งของโลก มีความโดดเด่นบนลวดลายตามตัวสีพื้นเทาอมเหลืองที่มีลักษณะเป็นลายดอก ขนฟูยาวค่อนข้างนุ่ม และด้วยความที่บริเวณหน้ามีสีเทาอ่อนและดวงตาโตใหญ่ทำให้สามารถมองเห็นรายละเอียดบนใบหน้าที่มีความสุขุมเยือกเย็น ดูภายนอกไม่น่ากลัวเหมือนเสืออื่น ๆ ออกจากหน้าตาน่ารักเหมือนแมวด้วยซ้ำทว่าก็ไม่ควรไว้ใจเพราะเขาเป็นนักล่า หางของเสือดาวหิมะจะเป็นแบบพันรอบตัว อุ้งเท้ากว้างใหญ่แข็งแรงสามารถกระจายน้ำหนักตัวลงในเวลาที่เดินบนหิมะได้อย่างสม่ำเสมอ และปกป้องอุ้งเท้าจากความเย็นของหิมะได้เป็นอย่างดี เป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก คุณสามารถพบเห็นเสือดาวหิมะได้ตามภูเขาที่มีหิมะปกคลุมในภูมิภาคเอเชียกลางได้แทบทุกประเทศ โดยเฉพาะทิเบตและจีน

การดำรงชีวิตของ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” มีความสามารถพิเศษในการกระโดดได้ไกลและสูงมากถึง 15 เมตรเวลามันจะล่าเหยื่อเพื่อกินเป็นอาหารหรือกำจัดศัตรูซึ่งเมื่อใกล้ถึงตัวสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะทำการฟาดจนเหยื่อกระเด็นและกระโจนขย้ำจนเหยื่อสิ้นชีพในที่สุด แต่กลับกันเมื่อเสือดาวหิมะเห็นคนก็มักจะรีบหลบหนีด้วยความกลัวและความขี้อายต่อสิ่งมีชีวิตคนละสปีชีส์ที่ได้ไม่ได้อยู่ตามธรรมชาติเฉกเช่นเดียวกับมัน โดยที่อยู่อาศัยหลบภัยของเสือดาวหิมะจะอยู่ในรังของแร้งดำหิมาลัย มันจะนอนพักตอนกลางวันเพื่อเก็บแรงและค่อยออกล่าเหยื่อตอนกลางคืนหลังพระอาทิตย์ตกดินหรือเช้าตรู่ แต่เสือดาวหิมะก็จะย้ายถิ่นฐานรังนอนไปเรื่อย ๆ เมื่ออยู่รังหนึ่งครบ 7 – 10 วันแล้วก็จะย้ายถิ่นไปเรื่อย ๆ โดยวันหนึ่งใช้เวลาเดินทางไกลเฉลี่ยราว 1 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็เพื่อการหาอาหารที่หลากหลายและหลบหนีจากการถูกมนุษย์นำมันไปทำเสื้อขนสัตว์ด้วย

อาหารสุดโปรดของ “เสือดาวหิมะ”

“เสือดาวหิมะ” มีอาหารสุดโปรดหลากหลายที่เป็นสัตว์เล็กและสัตว์น้อยมากมาย ไม่เลือกกิน ไม่ว่าจะเป็นกวาง บลูชีป ไอเบ็กซ์เอเชีย มาร์คอร์ และอาร์กาลี รวมไปถึงแพะกับแกะด้วย ยกเว้นมนุษย์ที่เสือดาวหิมะจะไม่ทำร้ายไม่ยุ่งเกี่ยวใด ๆ ทั้งสิ้น จึงมีความแตกต่างจากเสืออื่นที่มีความดุร้ายกับทุกสิ่งมีชีวิต แต่สำหรับเสือดาวหิมะจะดุร้ายเฉพาะในสัตว์ที่เป็นเหยื่อเท่านั้น

เครดิตภาพ : posttoday.com, board.postjung.com

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์แปลก #เสือดาวหิมะ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“นกเป็ดผี” นกตัวโตพฤติกรรมเล่นใหญ่สุดลึกลับ

เมื่อกล่าวถึงเรื่องราวของนกชนิดหนึ่งที่ถูกให้ฉายาว่า “นกเป็ดผี” ไม่ว่าใครที่พอได้ยินแล้วก็ย่อมต้องเล่าลือกันต่าง ๆ นานาเป็นแน่แท้ว่าเจ้าเป็ดตัวนี้อาจเป็นเป็ดในตำนานที่มีความเชื่อเรื่องโชคไม่ดีหรืออาจมีผีสิงอยู่ตามแบบปากต่อปากเหมือนคนโบราณ แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ตัวเป็ดจะน่ากลัวขนาดไหน ความจริงแล้วนกเป็ดผีไม่ได้เป็นสัตว์ในตำนานใด ๆ และไม่ได้มีลักษณะที่น่ากลัวเช่นนั้นจนถึงกับต้องหนีหัวซุกหัวซุนกัน แต่มันแค่เป็นนกเป็ดน้ำธรรมดาที่มีพันธุกรรมลักษณะเด่นด้วยดวงตาสีแดงเท่านั้นจึงถูกเรียกว่า “นกเป็ดผี” สามารถจ้องตาน้องได้ เพราะน้องไม่กัดและไม่ทรงพลังจิตแห่งความโชคร้ายใด ๆ มาอย่างแน่นอน และยิ่งหากคุณได้รู้เรื่องราวการดำรงชีวิตที่น่าอบอุ่นใจของนกเป็ดผีแล้วคุณอาจจะยิ่งชอบสัตว์ชนิดนี้มากขึ้นด้วยล่ะ เช่นนี้แล้วมาดูกันดีกว่าว่านกเป็ดผีจะมีความน่าสนใจในชีวิตของมันอย่างไรบ้าง?

ทำความรู้จักกับ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” เป็นนกเป็ดน้ำตระกูล Podicipedidae ที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืดอย่างทะเลสาบหรือบึงและมีอยู่ด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์แยกย่อยออกไป โดยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนนกเป็ดน้ำตระกูลใด คือ นกเป็ดผีจะมีดวงตาสีแดงและบางตัวก็เป็นตาสีขาวกลมโตท่ามกลางร่างกายใหญ่ที่มีขนขาวอมสีน้ำตาลออกไปทางเกือบเทาจนเห็นประกายในดวงตาชัดเจนจากความมืด อีกทั้งยังมีพฤติกรรมชอบเล่นใหญ่ผลุบหายลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปโผล่อีกจุดหนึ่งซึ่งมักอยู่ห่างออกไปราวกับผีหลอกดูลึกลับ

การดำรงชีวิตของ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” พบได้ทั่วไปทั้งในเขตร้อนและเขตหนาวแม้แต่ประเทศไทยก็ยังมี ทว่าที่เราไม่ค่อยพบเห็นนกเป็ดผีก็เพราะว่านกชนิดนี้มักจะซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ ไม่ค่อยออกมาบนบกนักยกเว้นเวลาที่มันจะวางไข่บนรังตามต้นไม้หรือเวลาที่เตรียมบินอพยพไปอยู่อีกที่หนึ่งซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงฤดูหนาวหรือฤดูแล้งของเขตประเทศนั้น ๆ ซึ่งในฤดูอพยพบางทีเราก็จะพบเห็นมันเปลี่ยนวิถีชีวิตมาอยู่ในน้ำทะเลที่เป็นน้ำเค็มเพราะมีความอุดมสมบูรณ์และเย็นสบายเหมาะกับความอุดมสมบูรณ์มากกว่าแหล่งน้ำจืด ในชีวิต 1 วันมันมักจะว่ายน้ำอย่างเร็วเพื่อจับปลากินด้วยขาที่ยาวและคอที่ยื่นออกไปกินเหยื่อได้อย่างเร็ว และยังเป็นนักพรางตัวบนบกที่ดีด้วยเพราะมันมักจะหลบว่ายอยู่ตามผิวน้ำแถบที่มีกอหญ้าขึ้นหรือบริเวณที่มีเงาสะท้อนน้ำเป็นสีใกล้เคียงกับตัวมัน เป็นนกเป็ดน้ำอีกชนิดที่น่าทึ่งและดูขี้อายไม่น้อยจริง ๆ เห็นแบบนี้

อาหารสุดโปรดของ “นกเป็ดผี”

“นกเป็ดผี” มีอาหารสุดโปรดที่นอกจากปลาตามแหล่งน้ำแล้วก็จะเป็นพวกสัตว์เล็กสัตว์น้อยสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้ เช่น กบ เขียด อึ่งอ่าง คางคก และแมลงที่บินเหนือผืนน้ำไม่มากอย่างแมลงปอ รวมถึงพืชน้ำบางชนิดที่ให้พลังงานกับมันด้วยอย่างสาหร่ายนี่คือพืชโปรดสุดอร่อยของนกเป็ดผีเลย

เครดิตภาพ : pixnio.com, vilabird.com

#สัตว์แปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #นกเป็ดผี

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สิ่งที่ช่วยเสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้ว

“นกแก้ว” เป็นนกที่สามารถอยู่กับชีวิตประจำวันของตัวเองได้ทั้งในกรงและนอกกรง แต่เวลาอยู่นอกกรงส่วนใหญ่แล้วมันมักจะซุกซนเริงร่ากับความเป็นอิสระเกินนกชนิดอื่นจนอาจบินหนีได้หากไม่สอนให้เชื่องหรือคล้องโซ่ไว้กับตัว ซึ่งการที่คุณจะเลือกไม่พานกแก้วออกไปทำกิจกรรม Outdoor นอกบ้านเลยก็อาจไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะหากจะให้เขาคุ้นชิยกับกฎระเบียบของการมีเจ้านายเลี้ยงดูเวลาอยู่ข้างนอกก็ยิ่งต้องพาเขาออกไปทำกิจกรรมบ่อย ๆ ให้เกิดความคุ้นชินกับกติกาจนเชื่องได้ บางคนอาจใช้วิธีการบังคับนกแก้วให้เล่นกิจกรรมที่เราจัดให้ในขณะที่นกแก้วยังคงเอาแต่สนใจที่จะโบยบินแบบล่องลอยไม่หยุด ขอบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะจะทำกับนกแก้วมาก เพราะอาจทำให้นกแก้วหงุดหงิดและอารมณ์เสียง่ายเมื่อเจอน้ำเสียงที่สูงของคุณ ฉะนั้นเวลาพาไปทำกิจกรรม Outdoor คุณจึงต้องหาสิ่งที่ช่วยเสริมกิจกรรมสนุก ๆ ให้นกแก้วได้ แล้วจะมีอะไรทำให้นกแก้วสนุกกับกิจกรรม Outdoor บ้างล่ะ?

“เพลงจังหวะเร็ว” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“เพลงจังหวะเร็ว” เป็นเพลงที่มีความสนุกสนานดังก้องและมีจังหวะที่เร่งรีบ ทำนองพีคสูงสลับกับต่ำชวนให้เพลิดเพลินจนมีแรงจูงใจในกิจกรรม Outdoor ที่คุณจะจัดให้มาก เมื่อนกแก้วบางตัวได้ยินก็จะหยุดบินและเกาะอยู่ตามกิ่งไม้หรือจุดใดก็ได้ที่เขาสามารถยืนได้ก่อนที่จะโยกหัวไปมาหรืออาจมีการหมุนตัวด้วยความชื่นชอบตามจังหวะซึ่งเวลานั้นคุณก็สามารถจัดระเบียบนกแก้วให้ฟังกิจกรรมที่คุณจะให้ทำผ่านการชี้และมองซึ่งหากเปิดเพลงจังหวะเร็วไปเรื่อย ๆ นกแก้วจะทำกิจกรรม Outdoor ในจุดนั้นแบบเพลิน ๆ ได้ตลอดเลย

“นกหวีด” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“นกหวีด” เป็นหนึ่งในสิ่งของตัวช่วยซึ่งจะทำให้นกแก้วมีความตื่นตัวและมาหาเจ้าของอย่างเราพร้อมทำตามคำสั่งได้โดยที่เราไม่ต้องตะโกนเรียกหรือดุเขาให้โกรธเลย แค่เพียงคุณฝึกเขาตอนอยู่ที่บ้านด้วยนกหวีดก่อนเพื่อให้เขาเข้าใจสัญญาณของนกหวีดอย่างชัดเจนแล้วจึงค่อยพานกแก้วออกไปทำกิจกรรม Outdoor แล้วเขาจะเชื่องในการทำกิจกรรมกับคุณมาก

“การมีส่วนร่วมกับเจ้าของ” เสริมความสนุกในกิจกรรม Outdoor ของนกแก้วได้

“การมีส่วนร่วมกับเจ้าของ” จะช่วยส่งเสริมให้นกแก้วมีแรงผลักดันในการทำกิจกรรม Outdoor ที่ดีมาก เพราะนกแก้วเป็นนกที่ค่อนข้างรักเจ้าของ ยิ่งได้อยู่กับเจ้าของใจดี นำเขาทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปด้วยกันก็จะทำให้เขารู้สึกมีความสุขมากที่เจ้าของเป็นกันเองกับเขา ได้ทำกิจกรรมเหมือนเพื่อนกันมากกว่าเจ้านาย ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้านายเขายิ้มออก นกแก้วก็มีจิตใจนะขอบอก ถ้าคุณจัดกิจกรรมที่ทำด้วยกันได้ก็จะทำให้เขาเชื่อฟังและทำกิจกรรม Outdoor ได้อย่างมีความสุขแน่นอน

เครดิตภาพ : bbc.com, .retravision.com.au

#นกแก้ว #เพิ่มความสนุกให้นกแก้ว #ความรู้สัตว์ปีก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“มดถังน้ำผึ้ง” มดแปลกที่ก้นปล่องใหญ่ที่สุดในโลก

วันนี้บทความแนะนำสัตว์แปลกของเราอาจจะมาแปลกสมชื่อหมวดหมู่ไปสักหน่อย แน่นอนว่าคุณคงคิดว่ามาพูดเรื่อง “น้ำผึ้ง” แต่ทำไมจึงต้องมาบอกเล่าเกี่ยวกับมดกัน เพราะแม้มดจะชื่นชอบอาหารหวาน แต่ก็มีหลายอย่างที่มดกินได้ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล น้ำหวาน และอาหารอื่น ๆ ที่มีความหวานด้วย แต่เมื่อพูดถึงน้ำผึ้งก็ควรมาพูดเรื่องผึ้งไม่ใช่หรือ ทว่าใจเย็นกันก่อน! เราไม่ได้จะมาพูดกันเรื่องอาหารของสัตว์โดยตรง แต่จะมาแนะนำสัตว์แปลกที่ถูกเรียกว่า “มดถังน้ำผึ้ง” ต่างหาก ทุกคนคงจะเห็นภาพหน้าปกกันจนแทบจะสงสัยกันใหญ่แล้วว่านี่คือมดจริงหรือเป็นมดกำลังขนน้ำผึ้งหรือน้ำตาลก้อนไปกักเก็บไว้ที่รังกัน ขอบอกว่าภาพที่เห็นเป็นมดจริง…ไม่ใช่ตัวแสดง เพราะเจ้ามดถังน้ำผึ้งนี้เป็นมดที่มีก้นปล่องมาตั้งแต่เกิดจริง! แต่สิ่งที่อยู่ข้างในก็เป็นน้ำผึ้งจริงเหมือนกัน เอ๊ะ ยังไงกันแน่นะ หากอยากรู้ว่าทำไมเจ้ามดถังน้ำผึ้งจึงมีลักษณะดังที่เห็นในภาพล่ะก็มารู้จักความพิเศษของมันไปพร้อมกันกับเราเลย

ทำความรู้จักกับ “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” เป็นมดงานลำตัวขนาดใหญ่มากถึง 15 มิลลิเมตรที่จัดอยู่ในตระกูลของมดก้นปล่องซึ่งมดถังน้ำผึ้งถูกจัดอันดับให้เป็นมดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กระจายพันธุ์อยู่ตามแอฟริกาใต้, อเมริกาเหนือ และเกาะบางเกาะในประเทศอินโดนีเซียจนได้รับการขนานนามให้เป็นมดพื้นเมืองที่หาได้ยากด้วย โดยความโดดเด่นที่ไม่เหมือนมดอื่นของมดถังน้ำผึ้ง คือ ท้องของพวกมันสามารถยืดหยุ่นให้มีขนาดใหญ่และสูงมากเมื่อต้องกักเก็บน้ำหวานและน้ำผึ้งจนเท่ากับลูกองุ่นเลย จึงทำให้ก้นกับท้องบริเวณด้านท้ายของตัวมันดูปล่องใหญ่พิเศษและไม่แตกออกมาง่าย ๆ ซึ่งด้วยตัวของมันที่ใสอยู่แล้วทำให้เมื่อรับปริมาณจำนวนมากของน้ำหวานหรือน้ำผึ้งจึงสามารถมองเห็นสีธรรมชาติของน้ำที่กักเก็บภายในได้อย่างสวยงาม

การดำรงชีวิตของ “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” มีการดำรงชีวิตแบบอยู่ในระเบียบมีเอกลักษณ์แบบมดงานท้องถิ่นซึ่งพวกมันจะกักเก็บน้ำหวานหลากหลายรูปแบบตามป่าไว้สำรองในฤดูแล้งที่อาหารขาดแคลนช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเป็นต้นไป โดยน้ำหวานที่พวกมันเลือกมักจะมาจากน้ำหวานของตัวเพลี้ยเป็นส่วนใหญ่โดยทำการดูดน้ำหวานใส่ในตัวเองจนเมื่อถึงฤดูแล้ง พวกมันก็จะมีน้ำหวานกักเก็บในตัวมากเพียงพอ ซึ่งมดฝูงอื่นก็สามารถมาขอน้ำหวานจากมดถังน้ำผึ้งในรังได้ โดยมดถังน้ำผึ้งจะทำการมอบน้ำหวานกับน้ำผึ้งให้มดฝูงอื่นผ่านการอ้าปากและใช้ลิ้นนำน้ำหวานให้ไหลออกมาผ่านตัวมันเข้าสู่มดอื่นได้อย่างรวดเร็ว มดถังน้ำผึ้งจึงเป็นมดที่สามารถดูแลเสบียงอาหารและน้ำหวานได้ปลอดภัยโดยไม่ต้องใช้สถานที่ แต่ใช้การเก็บไว้ในตัว ไม่ต้องกลัวใครมาแย่งหรืออาหารหายไปได้ทั้งนั้น

อาหารที่มาจาก “มดถังน้ำผึ้ง”

“มดถังน้ำผึ้ง” เป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวอะบอริจินที่เป็นชนพื้นเมืองของออสเตรเลีย โดยพวกเขาจะหารังของมดถังน้ำผึ้งในฤดูแล้งและกินมันเพื่อรัยความหวานธรรมชาติจากน้ำหวานที่อยู่ภายในซึ่งดีต่อสุขภาพและทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นมาได้

เครดิตภาพ : blockdit.com, scimath.org

#มดถังน้ำผึ้ง #ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์อันตราย

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“นกปิโตฮุยหัวดำ” นกขนอสรพิษใจกลางป่าชื้น

“นก” เป็นสัตว์ที่มีความน่ารักและอ่อนโยนอยู่ภายในตัวแม้ว่าบางตัวจะมีมาดของบุคลิกที่แข็งแกร่งและสง่างามมากเพียงใด แต่สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ภายในของนกทุกตัวย่อมเป็นความอ่อนโยน เรียบง่าย และไม่อยากที่จะเป็นผู้ล่ากับใครหากไม่จำเป็น ยิ่งหากมันได้ร้องออกมาเสียงดังก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศในโลกของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันที่หลากหลาย ไม่มีความเงียบที่ทำให้รู้สึกเหงาใด ๆ นกจึงเปรียบเสมือนสัตว์ที่มอบชีวิตอันมาจากเสียงและความเป็นมิตรให้แก่มนุษย์ ทว่าตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะมีข้อจำกัดสำหรับนกชนิดหนึ่งที่ถูกเรียกว่า “นกปิโตฮุยหัวดำ”เสียด้วย เพราะนกตัวนี้เป็นนกที่อันตรายมาก แม้มองจากภายนอกจะเห็นว่ามันก็เป็นนกตัวเล็กตัวหนึ่งที่แลดูไม่มีพิษภัย แต่ความจริงขนของมันที่เราอยากสัมผัสกันนั้นกลับเป็นอสรพิษเงียบชั้นดีที่เมื่อรู้ตัวอีกทีชีวิตคุณก็อาจจะเลยขีดของเส้นแดงอันตรายไปแล้ว หากรักชีวิตของคุณจงอยู่ให้ห่างจากนกตัวนี้ ชื่นชมในความสวยงามได้ แต่อย่าชื่นรักกับการจับเป็นอันขาด!

ทำความรู้จักกับ “นกปิโตฮุยหัวดำ”

“นกปิโตฮุยหัวดำ” หรือที่เรียกกันว่า “นกพิโทวี่” เป็นนกท้องถิ่นของเกาะนิวกินี ที่จัดอยู่ในวงศ์ Pachycephalidae มีนกปิโตฮุยหลากหลายสีสันสำหรับสายพันธุ์ในวงศ์ดังกล่าว ซึ่งนกปิโตฮุยที่พบได้มากที่สุด คือ นกปิโตฮุยหัวดำที่กระจายตัวอยู่ท่ามกลางป่าที่ทุกคนสามารถพบเห็นได้ โดยพวกมันมีลำตัวที่ป้อมเล็กและขนฟูมีสีสันลำตัวหลักเป็นสีน้ำตาลส้มและบริเวณหัว ปีก กับหางจะมีสีดำ ตาเป็นสีน้ำตาลแดงมีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ขนนกและผิวของพวกมันที่สวยงามกลับมีสารพิษโฮโมบราทาโคท็อกซินที่เป็นสารมีผลต่อระบบประสาทในระดับรุนแรงทำให้เมื่อสิ่งมีชีวิตใดสัมผัสแล้วจะเกิดอาการแสบร้อน คลื่นไส้ และมึนงงในชั่ววินาทีแรกก่อนที่ความปวดศีรษะจะเกิดขึ้นและแล่นสู่กระแสประสาทภายในกล้ามเนื้อและเซลล์ประสาทจนส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันในทันที แต่ปกติเมื่อเห็นคน นกปิโตฮุยหัวดำก็จะบินหนีอยู่แล้วจึงไม่ต้องกลัวว่ามันจะมาจู่โจมเข้าใกล้ให้เป็นอันตรายแก่คุณ ยกเว้นว่าคุณจะอดใจกับความสวยของมันไม่ไหวจนใช้โอกาสทีเผลอเข้าไปจับมันเสียเอง

การดำรงชีวิตของ “นกปิโตฮุยหัวดำ”

“นกปิโตฮุยหัวดำ” มักจะชอบอยู่ในป่าดิบชื้นและบินออกหาอาหารบ่อย ๆ อย่างเป็นอิสระ มีทักษะการพรางตัวที่ดี แต่ไม่ค่อยจะมีไหวพริบ มักถูกสัตว์ที่ใหญ่กว่าหรือมนุษย์ดักจับได้ง่าย ๆ แต่มันก็จะไม่เป็นไรเพราะตัวของมันมีสารพิษอยู่ที่ขนทำให้หากจะมีสิ่งใดแตะต้องตัวมันก็จะต้องได้รับผลของการกระทำ เรียกได้ว่าเป็นนกไร้เดียงสาที่ใช้ชีวิตแบบเรื่อย ๆ แต่ก็ให้ผลลัพธ์กับสิ่งรอบข้างร้ายกาจมากเพียงเพราะการที่มันกินแมลงเมลิริดซึ่งมีพิษในตัว แต่พิษนั้นกลับไม่ทำร้ายพวกมัน ตรงกันข้ามกลับส่งผลให้ขนของพวกมันได้รับพิษที่ไม่ว่าใครมาสัมผัสก็จะถูกพิษนั้นแทนที่จะเป็นพวกมันที่ได้รับก่อน พิษของนกปิโตฮุยแท้จริงจึงไม่ได้ติดตัวมันมาแต่เกิด

อาหารสุดโปรดของ “นกปิโตฮุยหัวดำ”

“นกปิโตฮุยหัวดำ” มักจะชอบอยู่กับการหาแมลงปีกแข็งกินตามป่า โดยเฉพาะแมลงที่มีสีสันโดดเด่น คือ อาหารชั้นเยี่ยมของพวกมันเลย อย่างแมลงเมลิริดที่มีสีสะท้อนแสง ลำตัวยาว และมีพิษภายในก็เป็นอาหารหลักที่พวกมันจะกินแบบติดอกติดใจตลอดเวลาเหมือนกัน

เครดิตภาพ : worldnewsroom.info, commons.wikimedia.org

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #ความรู้สัตว์ปีก #นกปิโตฮุยหัวดำ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำไมควรมีกรงให้สัตว์เลี้ยง 2 กรง

เหล่าคนรักนกทั้งหลายอาจจะสงสัยว่าทำไมการเลี้ยงนกตัวหนึ่งมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดไว้ ทั้งที่เราก็ศึกษาการเลี้ยงนกมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่พอได้มาทำจริงกลับรู้สึกว่ามีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากการเลี้ยงด้วยตัวเอง บางอย่างเราต้องเข้าใจจากการดูแลนกของเราให้ดี รู้ความต้องการของเขา รู้ว่านกแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างในอาหารที่เลี้ยงและการกินที่ปริมาณมากน้อยเพียงใด ต้องตามเวลาแค่ไหนถึงจะไม่ทำให้สุขภาพของเขาแย่ หรือแม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการใช้กรงก็อาจจะยังเป็นความรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ผู้คนมักจะมองพลาดคิดว่าการใช้กรงนกเพียงแค่กรงเดียวก็เพียงพอต่อการเลี้ยงนก 1 ตัวหรือนกสายพันธุ์เดียวกันแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเพียงแค่กรงเดียวเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็อาจทำให้เราต้องวุ่นวายมากอย่างแน่นอนเมื่อเรามีกรงนกแค่เพียง 1 กรงเท่านั้น ฉะนั้นการใช้กรงนก 2 กรงจึงเป็นสิ่งที่คุณควรมีไว้เพราะเหตุใดที่อาจเกิดได้บ้าง?

มีกรงนก 2 กรงเพื่อสำรองหากกรงหนึ่งพัง

คุณควรจะมีกรงนกไว้ 2 กรงเพื่อให้อีกกรงหนึ่งเป็นกรงสำรองได้ทันทีหากจู่ ๆ วันหนึ่งกรงเก่าเกิดพังขึ้นมาซึ่งแม้จะพังจนไม่สามารถซ่อมได้หรือต้องซ่อมก็ยังใช้เวลาสักระยะเลย คำถามคือนกที่คุณเลี้ยงไว้จะไปอยู่ที่ไหน? แค่เปิดกรงออกมามันก็อาจจะบินขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็วจนพาให้คุณเสียดายเมื่อสายไปแล้วก็ได้ ฉะนั้นในการเปลี่ยนกรงเมื่อกรงเก่าเสีย คือ ต้องนำกรงสำรองหรือกรงที่สองยกมาชิดกับประตูกรงแรกเพื่อให้นกออกมาเข้ากรงที่สองได้ในทันทีไม่มีผิดพลาด แล้วนกจะได้อยู่อย่างสุขสบายไม่หนีไปไหนแน่นอน

มีกรงนก 2 กรงเพื่อใช้เฉพาะกิจเวลาเดินทาง

การมีกรงนกไว้ 2 กรงสามารถช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบายในเวลาที่จะพานกเลี้ยงที่ตัวเองรักออกเดินทางไปท่องเที่ยวนอกบ้านด้วยกันเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่ต้องอยู่กับสถานที่เดิม ๆ ได้ออกมาทำกิจกรรมด้วยกันหรืออาจจะเป็นการเดินทางเพื่อไปทำธุระซึ่งคุณจำเป็นต้องพานกไปด้วย เนื่องจากไม่มีคนดูแล การเลือกกรงที่ 2 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่ากรงแรกแบบพกพาขึ้นรถและถือไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายย่อมจะลดอุปสรรคต่อนกและการหอบสัมภาระของคุณมาก

มีกรงนก 2 กรงเพื่อสำรองการล้างกรงเก่า

คุณควรจะมีกรงนกไว้ 2 กรงเผื่อสำรองเวลาที่จำเป็นต้องล้างกรงเก่า นกเลี้ยงของคุณจะได้มีบ้านให้อยู่อย่างสงบชั่วคราว ไม่ต้องหวาดระแวงกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชินอย่างบ้านเจ้าของซึ่งเห็นมุมมองใหม่ผ่านอากาศที่ว่างเปล่าไม่มีกรงอยู่ซึ่งอาจทำให้นกเกิดความวิตกกังวลจนตื่นตระหนกได้จึงต้องมีกรงนก 2 กรงไว้ด้วย แล้วนกจะรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในระหว่างที่กรงเก่าล้าง

เครดิตภาพ : Pixabay, siamrath.co.th

#มีกรงให้สัตว์เลี้ยง #การเลี้ยงนก #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“ปลาอัลลิเกเตอร์” ปลาจระเข้สุดโหดแห่งลุ่มน้ำจืด

ในโลกใบนี้ยังมีปลาอีกหลากหลายชนิดที่เราอาจไม่รู้จักอยู่ ปลาบางชนิดมองดูแล้วอาจน่ารักแต่ก็มีภัยร้ายแฝงอยู่ในฐานะนักล่าเงียบ ปลาบางตัวดูน่ากลัวแต่แท้จริงก็เป็นเพียงเหยื่อของนักล่าเท่านั้น และปลาบางตัวก็อาจมีทั้งข้อดีในเรื่องของการฟื้นฟูระบบนิเวศทั้งมีข้อเสียในเรื่องอันตรายด้วยก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นปลาใดก็น่าเรียนรู้ศึกษาไว้ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเราอยู่ไกลจากลุ่มน้ำที่ปลาแปลกอาศัยอยู่แล้วจะไม่ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับมันเลย ใครจะไปรู้ว่าวันใดวันหนึ่ง…คุณอาจจะเห็นปลาแปลกแบบนี้มาโผล่ในน่านน้ำเมืองไทยใกล้ตัวเราด้วยก็ได้ และวันนี้เราก็จะนำเรื่องราวชีวิตชวนน่าขนลุกของปลาแปลกที่คุณเห็นแล้วอาจจะคิดว่าเป็นจระเข้มาบอกเล่ากัน เจ้าปลาตัวนี้มีชื่อว่า “ปลาอัลลิเกเตอร์” เมื่อเจอแล้วอย่าตกใจให้หลีกหนีออกห่างอย่างช้า ๆ อย่าเพิ่งอึ้ง เพราะแม้มันจะไม่ใช่จระเข้ แต่ลักษณะของมันก็มีหลายอย่างที่จระเข้มีเลยนะจะบอกให้ยกเว้นแค่ขานี่ล่ะ! 

ทำความรู้จักกับ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” เป็นปลาสุดแปลกยุคดึกดำบรรพ์ที่มีการขยายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบันซึ่งมันจัดอยู่ในประเภทปลากินเนื้อขนาดใหญ่ 6 – 7 ฟุตในกลุ่มของปลาการ์ พบได้ตามแหล่งน้ำจืดอย่างแม่น้ำ บึง และทะเลสาบทางอเมริกาตอนใต้ ซึ่งหากเป็นคนอเมริกาจะรู้เลยว่าหากเจอปลาอัลลิเกเตอร์ย่อมต้องไม่ควรเข้าหามันและรีบหนีโดยเร็วที่สุด เพราะมันมีปากที่ยาวออกคล้ายกับจระเข้หรืออัลลิเกเตอร์ อีกทั้งปากของมันยังมีฟันรูปเพชรที่แหลมคมมากถึง 500 ซี่ด้วยกันซึ่งมีความคมมากพอจะได้รับแผลฉกรรจ์เมื่อถูกกัดได้สมฉายาเขาจริง ๆ แม้แต่รูปร่างของปลาอัลลิเกเตอร์ก็ยังป้อมยาว บริเวณลำตัวสีเทาออกดำมีเกร็ดคล้ายจระเข้ ด้านข้างครีบเล็กใต้ท้อง 2 ครีบคู่ ใต้ท้องสีขาว บริเวณปลายหางมีครีบใหญ่อีก 2 ครีบรูปใบพัดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่ามันเป็นปลาไม่ใช่จระเข้!

การดำรงชีวิตของ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” มักจะนิยมอยู่ในแหล่งน้ำจืดที่มีลักษณะติดป่าดิบชื้นมีความเป็นน้ำกร่อยหรือน้ำโคลนก็อยู่ได้เพราะสำหรับมันแล้ว น้ำที่มีความเข้มข้นคุณภาพต่ำเช่นนี้จะช่วยให้มันพรางตัวหาเหยื่อได้ดีและยังมีความสามารถพิเศษกว่าปลาอื่นในการหายใจขึ้นมาเอาอากาศจากบนบกได้ด้วย ซึ่งหากเจอมนุษย์มันก็จะพุ่งเข้าไปทำร้ายจนกลายเป็นที่หวาดผวาของผู้คนมากเพราะในยุคอดีตปลาอัลลิเกเตอร์มีนิสัยที่ค่อนข้างดุร้ายกว่าสมัยนี้เยอะ อีกสาเหตุหนึ่งอาจจะเพราะมนุษย์ในอดีตส่วนมากมักจะเป็นพวกชนเผ่าอเมริกาใต้ที่เข้าไปขัดขวางการดำรงชีวิตออกหาอาหารประจำวันของพวกมันเพื่อนำฟันของปลาอัลลิเกเตอร์มาทำปลายแหลมของศรธนูทำให้เกิดการต่อสู้ ซึ่งโดยปกติแล้วปลานี้จะออกหากินวันละ 2 ครั้งเลยทีเดียวเพราะกระเพาะค่อนข้างใหญ่และหนักก่อนจะรีบกลับไปยังที่พักของมันและไม่ออกมาป้วนเปี้ยนพร่ำเพรื่อใด ๆ

อาหารสุดโปรดของ “ปลาอัลลิเกเตอร์”

“ปลาอัลลิเกเตอร์” มีอาหารสุดโปรด ได้แก่ ปลาและสัตว์ปีกที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำจืดในถิ่นของมันอย่างพวกนกเป็ดน้ำ โดยจะจับเหยื่อล็อกแน่นด้วยกรามทันทีไม่ให้ขยับหนีออกไปไหนได้ก่อนจะกลืนกินเหยื่อลงคอไป ไม่ค่อยได้ใช้วิธีการกัดเหยื่อนักหากไม่จำเป็นต้องแบ่งเหยื่อออกเป็นชิ้นเพราะเหยื่อเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่

เครดิตภาพ : phuketaquarium.org, today.line.me

#สัตว์ใต้น้ำ #ปลาขนาดใหญ่ #ปลาลัลลิเกเตอร์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ” สัตว์ปีกขนงานเลื่องชื่อแห่งอเมริกาเหนือ

เคยได้มีโอกาสดูละครไทยเรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า “พิภพหิมพานต์”ของค่ายชลลัมพี โปรดักชั่นแล้วเห็นฉากแรกที่มีคนเข้าไปสู่ป่าหิมพานต์ก่อนจะเจอกับนกหรือไก่ป่าตัวหนึ่งมีขนปกคลุมสวยงามเต็มตัวไปหมดและมีปีกกับหางที่งอนงามใหญ่ชูตั้งเป็นแพนมีลวดลายแบบมิติสวยงาม ลำตัวเล็ก แต่ไม่ยักจะเห็นหน้าของสัตว์ปีกตัวนี้จนพอจะเข้าไปจับถึงรู้ว่ามีใบหน้าที่ชวนให้ขนลุกซ่อนอยู่ ซึ่งถือว่าปังแบบเป็นภาพที่จำได้ติดตาไม่มีวันลืมเลย แล้วบังเอิญว่าเราก็ได้มารู้เรื่องราวของไก่ป่าตัวหนึ่งที่มองภาพทีแรกแล้วถึงกับผงะเพราะแอบคล้ายกับเจ้าสัตว์ปีกประหลาดในละครพิภพหิมพานต์มาก มองไกล ๆ แทบจะไม่เห็นหน้า ต้องมองใกล้ ๆ ถึงจะเห็นและรู้ว่าปลอดภัย เชื่อว่าหลายคนที่เคยดูละครพิภพหิมพานต์ก็น่าจะทึ่งเหมือนกับเรา อยากรู้หรือเปล่าล่ะว่าเจ้าสัตว์ปีกที่ทุกคนเรียกกันว่า “ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ”จะมีเรื่องราวที่น่าค้นหาแค่ไหน อยากรู้มาอ่านกันเลย!

ทำความรู้จักกับ “ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ”

“ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ” เป็นไก่ป่าที่อยู่ในตระกูลของพวกไก่ฟ้าและนกกระทา อาศัยอยู่ทางเขตทุ่งหญ้าเซจบรัช ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ทางใต้ของรัฐแอลเบอร์ตา และรัฐซัสแคตเชวัน ในแคนาดาเป็นจำนวนมาก ซึ่งไก่ป่าเกรทเทอร์เซจได้รับการยกย่องในฐานะ “ไก่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ” ด้วยขนาดตัวของมันที่ใหญ่มากถึง 76 เซนติเมตรและหนักตั้งแต่ 0.9 – 3 กิโลกรัมโดยตัวผู้จะใหญ่กว่าตัวเมียครึ่งหนึ่งเลย พวกมันมีความโดดเด่นของลักษณะตัวที่กลม ศีรษะเอียงโค้งไปด้านหลัง แต่ลำตัวขนสีขาวฟูส่วนล้างเอียงโค้งมาด้านหน้า หางยาวแหลมกางออกชูสูงเป็นสีน้ำตาลดำสีเดียวกับขนที่มีขนาดใหญ่และหนาวปกป้องมันจากอากาศหนาวเย็นได้ดี อีกทั้งมันยังมีถุงลมใหญ่ 2 ข้างอยู่ภายนอกตรงกลางตัวยื่นออกมาโป่งพองเป็นสีเหลืองเหมือนตาของมันอีกด้วยจึงดูมีความเป็นไก่ป่าที่แปลกมากที่สุดอีกชนิดเท่าที่เคยเห็น

การดำรงชีวิตของ “ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ”

“ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ” จะชอบอยู่รวมหาอาหารกันเป็นฝูงตามเนินเขาและทุ่งหญ้า โดยพวกมันมีการหาคู่สุดแปลกอย่างการเพิ่มน้ำหนักตัวเพื่อเตรียมความพร้อมในการผสมพันธุ์ช่วงฤดูหนาวนั้นเอง ซึ่งไก่ป่าตัวผู้จะมีบทบาทมากกว่าตัวเมียในการอวดโฉมตัวเองด้วยการเป่าลมเข้าออกถุงลมบนแผงหน้าอกเพื่อเอาชนะใจตัวเมียให้ได้ หากคุณเห็นว่ามันแปลกตรงนี้แล้ว เราอยากให้คุณรู้ไว้ว่าคุณต้องอึ้งอีกสองเท่าเมื่อรู้อีกความลับหนึ่งของไก่ป่าเกรทเทอร์เซจในเรื่องที่พวกมันมีคู่ชีวิตจำนวนมากกว่า 30 ตัวด้วย! เพราะไก่ป่าเกรทเทอร์เซจเป็นนกที่ค่อนข้างชอบความรื่นเริงครื้นเครงในสังคม มันจึงสามารถเปลี่ยนคู่รักของมันไปได้เรื่อย ๆ แบบไร้กรอบกฎเกณฑ์ซึ่งแน่นอนว่ามันจะมีลูกออกมาเยอะจนน่าตกใจมากทีเดียว

อาหารสุดโปรดของ “ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ”

“ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ” มีอาหารสุดโปรดของมันที่ไม่ต่างจากไก่ป่าอื่นเท่าไหร่ พวกมันจะเน้นอาหารจากธรรมชาติอย่างผลผลิตตามทุ่งหญ้าที่มันอยู่ ดอกหญ้า ลูกไม้สุก เมล็ดพืช และบ้างก็จะกินแมลง แต่ก็น้อย เพราะมันจะได้สารอาหารที่ดีต่อร่างกายจากธรรมชาติบริสุทธิ์มากกว่า

เครดิตภาพ : songsaad.com, board.postjung.com

#สัตว์แปลก #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“นกเบลเบิร์ด” นกที่มีเสียงดังที่สุดในโลกจนอยู่ไกลยังได้ยิน

“อยากจะร้องดัง ๆ พูดให้ใครต่อใครได้รู้!” เพลงของทาทา ยังนี้เหมาะจะให้เป็นคุณค่ากับคำนิยามถึง “นกเบลเบิร์ด” นกที่มีเสียงร้องดังที่สุดในโลกมาก แน่นอนว่าคุณอาจเคยคิดถึงนกเหยี่ยวหรือนกอินทรีย์ที่แค่มันร้องออกมาก็ดังก้องไปทั่วบริเวณแล้วจึงคิดว่ามันอาจเป็นนกที่มีเสียงดังมากที่สุด แต่แท้จริงมันไม่ใช่นกที่มีเสียงดังเลย แต่ที่เสียงของมันดูดังก้องก็เพราะว่ามันมีเสียงที่ใหญ่และมักร้องตอนบินอยู่บนท้องฟ้าด้วยจึงทำให้ดูเสียงดัง คราวนี้คุณอาจจะคิดว่าอ้าว! งั้นหากไม่ใช่นกอินทรีย์หรือเหยี่ยวก็ควรจะเป็นนกที่ใหญ่กว่าอย่างพวกนกเงือกล่ะสิ เพราะตัวมีขนาดใหญ่มาก เสียงก็ต้องดังมาก ขอบอกว่าผิดคาดไปอีก คำตอบที่ถูกต้องนี้กลับอยู่ที่นกเบลเบิร์ดซึ่งเป็นเพียงนกตัวเล็กน่ารักกลางป่าใหญ่ที่หลายคนมองข้ามกัน แต่เห็นตัวเล็กแบบนี้ มันได้ชื่อว่าเป็นนกที่ร้องเสียงดังจนคนที่อยู่ไกลมากยังได้ยินเลย!

ทำความรู้จักกับ “นกเบลเบิร์ด”

“นกเบลเบิร์ด” เป็นนกที่อาศัยอยู่ทางทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งพบมากสุดในประเทศราซิลและเวเนซุเอลา ลักษณะตัวมีขนสีขาวที่ฟูเรียงรายกันสวยงาม อุ้งเท้าใหญ่เป็นสีดำเช่นเดียวกับปากที่อ้าได้กว้าง ลักษณะภายนอกคล้ายนกพิราบเพียงแค่ลำตัวมีขนาดเล็กกว่าก็เท่านั้น แต่บางตัวก็มีสีเหลืองหรือสีเขียวขี้ม้า โดยความโดดเด่นของนกเบลเบิร์ด คือ หากเป็นนกเบลเบิร์ดตัวผู้ มันจะมีเสียงร้องดังถึง 125 เดซิเบลซึ่งเป็นระดับเสียงที่ดังมากจนเรียกได้ว่าอันตรายต่อหูของมนุษย์ด้วย เพราะความดังนี้มันมากพอ ๆ กับเสียงของการขุดเจาะถนนเลย ให้ลองนึกภาพว่าคุณเข้าไปในป่าแล้วเห็นได้ยินเสียงที่ดังถี่ขึ้นมาคล้ายไซเรนที่ชวนให้หนวกหูจนต้องปิด ไม่เช่นนั้นอาจตาลายได้ นี่คือเสียงของนกเบลเบิร์ดที่คุณจะได้ยิน แต่สำหรับนกเบลเบิร์ดตัวเมียจะไม่สามารถส่งเสียงร้องดังได้เหมือนตัวผู้

การดำรงชีวิตของ “นกเบลเบิร์ด”

“นกเบลเบิร์ด” มักจะใช้ชีวิตอยู่กับการบินอยู่ตามป่าไม้และเกี้ยวราสีกับนกเพศตรงข้ามกับตัวเอง ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่ใกล้ผสมพันธุ์ นกเบลเบิร์ดตัวผู้ก็จะโชว์ความสามารถโดยการร้องเพื่อเรียกตัวเมียอื่น ๆ ให้มาสนใจตัวผู้อย่างพวกมัน และตัวเมียจะสามารถทนฟังเสียงร้องของนกเบลเบิร์ดตัวผู้ได้เพื่อคัดเลือกว่าขีดการร้องของตัวผู้ใดที่มันชอบที่สุดและเหมาะจะมาเป็นคู่ผสมพันธุ์ของมันได้ นอกจากนี้นกเบลเบิร์ดยังเป็นนักหาอาหารตัวยงและนักต่อสู้ที่แข็งแกร่งด้วย เพราะมันมีกระดูกที่แข็งแรง รวมถึงกล้ามเนื้อที่โป่งแข็งด้วยจึงบาดเจ็บยาก อีกทั้งยังสู้เก่งด้วย

อาหารสุดโปรดของ “นกเบลเบิร์ด” “นกเบลเบิร์ด” มีอาหารสุดโปรดที่พวกมันชื่นชอบ คือ ผลไม้ที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นที่มันอยู่ โดยมันจะใช้เวลาทั้งวันในการย่อย และสำรอกคายเมล็ดออกมาทำให้มันมีระบบขับถ่ายที่คล่องและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บในด้านนี้ทุกครั้ง เป็นนกที่เจ็บป่วยยาก

เครดิตภาพ : zpore.com, /animal.catdumb.com

#นกเบลเบิร์ด #ความรู้สัตว์ปีก #สัตว์เลี้ยง

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ตัวใสจนเห็นสันหลังแบบนี้ล่ะ ตัวข้าผู้ชื่อ “ปลาก้างพระร่วง!”

อย่างที่เรารู้กันดีว่าภายในของปลานั้นมีก้างจำนวนมากที่ถูกเรียกแทนกระดูกเพราะมีความเล็กกว่าและมีความแหลมบริเวณปลายที่เหมาะกับลำตัวของปลาด้วย แต่การที่เราจะเห็นก้างปลาได้แน่นอนว่าจะทำอย่างไร? ก็ต้องผ่าเนื้อปลาออกมาสิถึงจะสามารถสำรวจลักษณะก้างปลาชนิดต่าง ๆ ได้ แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้กันว่าโลกของเรานั้นยังมีปลาที่ไม่ต้องผ่าเนื้ออกก็สามารถเห็นก้างปลาได้ เพราะตัวของปลาเหล่านั้นใสจนเหมือนกับวุ้นที่ทำให้เราสามารถมองเข้าไปเห็นถึงกระดูกสันหลังและส่วนต่าง ๆ ภายในของมันได้โดยที่ไม่ต้องจับตัวมันขึ้นมาเลย ซึ่งปลาตัวใสเหล่านี้ก็สามารถพบเจอได้ในทั่วโลกแต่จะเป็นคนละสายพันธุ์กันไป แต่สำหรับคนที่อยากเห็นปลาตัวใสจนสำรวจกระดูกได้อย่างอัศจรรย์เช่นนี้โดยไม่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปดำน้ำถึงต่างประเทศแล้วล่ะก็ไทยเรามีปลาตัวใสให้คุณได้ชมเหมือนกัน ชื่อว่า “ปลาก้างพระร่วง” ซึ่งหากใครไม่รู้มาก่อนเวลาดำน้ำหรือพบเจอเมื่อตกได้โดยบังเอิญก็อาจตกใจคิดว่าเป็นปลาจากต่างดาวหรือปลาผีกระดูกก็ได้ อย่ากลัวน้องเขาเลยนะ น้องเขาออกจากมีเสน่ห์ที่แตกต่างจากปลาอื่น ควรกับการอนุรักษ์มากกว่า

ทำความรู้จักกับ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กของไทยขนาด 6.5 เซนติเมตร จัดอยู่ในวงศ์ของ Kryptopterus  ลักษณะปลาก้างพระร่วงจะมีความพิเศษตรงที่มีลำตัวใสมากจนเห็นกระดูกทุกส่วนและได้ชื่อว่า “ปลาที่ตัวใสที่สุดในโลก”เมื่อเทียบกับปลาตัวใสของประเทศอื่น ๆ ที่มีการค้นพบ เพราะปลาก้างพระร่วงไม่มีเกล็ด ไม่มีเม็ดสีในร่างกายจึงทำให้ตัวใสและหากมันว่ายมาบริเวณผิวน้ำที่แสงส่องมาถูกกับตัวก็จะทำให้เกิดเป็นสีรุ้งตามลำตัวที่เปล่งประกายสวยงามราวต้องมนต์ นอกจากนี้มันยังมีหนวดคู่บริเวณขากรรไกรบนและล่าง อีกทั้งยังมีตัวที่ลีบแบนทำให้ว่ายน้ำได้เร็วมองดูแล้วสบายตา คนไทยยุคใหม่จึงตัดให้เป็นหนึ่งในปลาอนุรักษ์ที่สวยงามคู่ประเทศด้วย แต่น้อยคนที่จะรู้จักกัน เพราะมันพบได้แค่บริเวณธารน้ำที่มีกระแสน้ำไหลแรงเท่านั้น แต่ก็พบได้ในทุกภาคของไทย แม้แต่ตามน้ำตกในอุทยานก็พบได้

การดำรงชีวิตของ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” มักจะชอบอยู่เป็นฝูงใหญ่จำนวน 100 ตัวขึ้นไป ชอบเกาะกลุ่มในแหล่งน้ำไหล โดยจะลอยตัวอยู่นิ่ง ๆ ไม่ค่อยชอบการว่ายเท่าไหร่แม้จะว่ายน้ำได้เร็ว โดยพวกมันจะหันหน้าสู้กระแสน้ำไปในทิศทางเดียวกันหมดเพื่อให้น้ำพัดพาตัวพวกมันไปอย่างสนุกสนาน ขี้ตื่นตกใจกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติโดยเฉพาะเวลาที่เกิดน้ำป่าไหลหลากหรือกระแสน้ำไหลไม่เหมือนเดิม มีการรบกวนของสิ่งมีชีวิต มันจะกระโจนขึ้นจากผิวน้ำกันบ่อย ๆ เมื่อตกใจและว่ายกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง จากนั้นก็จะกลับมาเกาะกลุ่มตามเดิมเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติหรือพ้นจากอันตรายแล้ว บางทีก็จะอยู่ตามซอกหิน

อาหารสุดโปรดปรานของ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” มีอาหารสุดโปรดที่ชื่นชอบ ได้แก่ แมลงน้ำขนาดเล็กอย่างพวกจิงโจ้น้ำ แพลงก์ตอนพืชน้ำ และปลาที่มีชนิดเล็กอยู่ในแหล่งน้ำเดียวกันซึ่งมันก็เป็นนักกินที่เร็วอยู่เหมือนกัน เห็นดูเชื่องช้าต๊ะต่อนยอนแบบนี้ และไม่กินจุด้วย

เครดิตภาพ : twitter.com/knowledge_onlyy

#สัตว์ใต้น้ำ #ความรู้เรื่องสัตว์ #ปลาก้างพระร่วง