Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ทำอย่างไรให้สุนัขไม่กินอาหารเลอะเทอะ

ตอนนี้คงมีเจ้าของสุนัขมากมายที่กำลังเหนื่อยใจกับพฤติกรรมการกินอาหารของสุนัขตัวเองที่หาระเบียบมิได้เทียวหนา กินอาหารไปบางตัวก็สะบัดหน้าไปจนเลอะเทอะอย่างกับแมว บางตัวก็กินอย่างมูมมามจนอาหารหกเลอะเทอะออกมาจากปากภาชนะ บางตัวก็กินแล้วเอาอาหารบางอย่างออกมาวางนอกภาชนะแล้วค่อย ๆ เลียไปอีก แค่เห็นก็แทบจะต้องหายาดมมา สอนอย่างไรสุนัขของเราก็ไม่เชื่อฟัง เช่นนี้แล้วควรจะทำอย่างำรดีให้สุนัขของเรารู้จักเชื่อฟังที่เราสั่งสอนบ้างในระเบียบของการกินอาหารที่มีวินัยมากยิ่งขึ้น เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้บ้านเราก็คงได้ทำความสะอาดทุกวันและต้องอยู่กับกลิ่นอาหารที่ยังคงลอยอวลอยู่อย่างแน่นอน จะทำอย่างไรให้สุนัขรู้จักการกินอาหารแบบค่อย ๆ ไม่ใช่กินอย่างรีบร้อนทั้งเวลาที่เราอยู่บ้านกับเขาและเวลาที่ให้คนอื่นมาคุม คุณสามารถจัดการให้อยู่หมัดได้ด้วยวิธีเหล่านี้

มีผ้าปูรองภาชนะอาหารของสุนัข

การนำผ้าปูมารองภาชนะใส่อาหารเวลาสุนัขกินอาหารจะทำให้สุนัขที่ยังคงติดอยู่กับการกินอาหารเลอะเทอะสะบัดไปสะบัดมาหรือมักเผลอเอาอาหารออกมาวางกับพื้นแล้วเลียไม่ทำให้พื้นบ้านของคุณเลอะไปด้วยเศษอาหารที่ไม่พึงประสงค์ ผ้าขนาดใหญ่สามารถช่วยรองได้ในระดับหนึ่งและเป็นวิธีที่ทำแค่ช่วงแรกในขณะที่สุนัขยังไม่คุ้นชินกับการฝึกของเรานักด้วย แต่เดี๋ยวชินจนเขากินแต่ในภาชนะ ไม่สะบัดเราก็เอาผ้าปูออกได้แล้ว

ใช้ภาชนะทรงสูงสำหรับให้อาหารสุนัข

การใช้ภาชนะทรงสูงอย่างกะละมังหรือสิ่งใดก็ตามที่มีระดับความหนาและความสูงจะทำให้สุนัขกินอาหารไม่หกเลอะเทอะออกมานอกพื้น มีปากภาชนะที่กว้างใหญ่มากพอในการป้องกันเวลาอาหารกระเด็นออกมาในขณะกินหรือเวลาอาหารหล่นจากสุนัข ภาชนะทรงสูงจะสามารถช่วยสุนัขของคุณได้และเสริมบุคลิกภาพมารยาทการกินอาหารที่ดีเสริมจากการสอนของคุณ

ยืนคุมพร้อมคอยบอกสุนัข

ในขณะที่คุณสอนสุนัขช่วงที่เขากำลังฝึกอยู่ คุณต้องคอยยืนคุม มองสุนัขกินอาหารอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา แน่นอนว่าสุนัขย่อมมีความเกรงกลัวต่อเจ้านายในระดับหนึ่งอยู่แล้วจึงไม่สามารถแสดงพฤติกรรมกินอาหารแบบมูมมามอย่างที่ตัวเองชอบทำได้เหมือนเวลาปกติ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหน่อยแต่เดี๋ยวพอผ่านไป สุนัขก็จะเกิดความซึมซับคุ้นชินจนเปลี่ยนวิธีการกินอาหารใหม่เอง ค่อย ๆ บอกเขาไป อย่าเร่งรีบ เพราะสุนัขไม่ชอบให้เจ้าของบังคับพวกเขาเลย

เครดิตภาพ : thefarmersdog.com

#สุนัขน่ารัก #ไม่ให้น้องหมากินเลอะ #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

แนะนำอาหารแมวสูตรโซเดียมตำ่ วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อย ถูกใจทั้งคนทั้งแมว

เชื่อว่าคนที่เลี้ยงแมวหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าการให้อาหารแมวที่มีรสชาติเค็มหรือมีโซเดียมสูงจนเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ของน้องแมวได้ หากทานต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้หลายๆบ้านเริ่มหันมาเลือกซื้ออาหารแมวสูตรที่มีโซเดียมต่ำ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงในระยะยาว วันนี้เราจึงได้คัดสรรอาหารแมวโซเดียมต่ำ จากหลากหลายแบรนด์ดัง มาฝากกันอีกด้วยค่ะ

1.Hill’s Science Diet

เป็นอาหารแมวที่ตอบโจทย์และใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยง อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อแมวในช่วงวัย 1 – 6 ปี ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อย และย่อยง่าย ที่สำคัญมีปริมาณแร่ธาตุและโซเดียมที่สมดุล ดีต่อสุขภาพไตและกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้น้องแมวตัวใหญ่แข็งแรงอีกด้วย

2.Canagan สูตร Scottish Salmon เนื้อปลาแซลมอน

สำหรับสูตรนี้ถูกใจคนที่กำลังมองหาอาหารแมวโซเดียมต่ำอย่างแน่นอน เพราะมีปริมาณโซเดียมเพียง 0.25% ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงขนและผิวหนังให้แข็งแรง มีรสชาติอร่อย เคี้ยวง่าย ได้กลิ่นหอมจากเนื้อปลาทะเลแท้ๆ พร้อมส่วนผสมจากผัก ผลไม้ และสมุนไพร ที่จะช่วยบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะและระบบขับถ่าย

3.Kaniva สูตร Chicken Tuna & Rice

อาหารแมว สูตร Low Sodium จะช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทางแบรนด์ได้มีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีสุขภาพดี ขนนุ่มสวย และนอกจากนี้ยังได้เพิ่มรสชาติด้วยเนื้อไก่ ทูน่า และข้าว นอกเหนือไปจากนั้น ยังช่วยเสริมสร้างกระดูกฟันและกล้ามเนื้อแบบเน้นๆอีกด้วยค่ะ

4.Royal canin สูตร Early Renal สำหรับแมวโรคไตระยะแรก

ผลิตภัณฑ์อาหารเปียกสูตร Early Renal สำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไต อุดมไปด้วยพลังงานจากกรดไขมัน EPA, DHA รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยบำรุงสุขภาพและการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น ลดโอกาสการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะลงได้ สำหรับสูตรนี้มีการควบคุมฟอสฟอรัสและโซเดียมในปริมาณที่ต่ำมาก เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไตในระยะเริ่มต้น เหมาะสำหรับน้องแมวที่ป่วยเป็นโรคไตอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไปค่ะ 

5.Avoderm Chicken Formula 3 กระป๋อง

อาหารกระป๋องแบบเปียก อัดแน่นด้วยโปรตีนแบบเน้น ๆ จากไก่เกรดพรีเมียมและวัตถุดิบคุณภาพสูง โดยสูตรนี้ไม่เพียงแค่มีปริมาณโซเดียมต่ำเพียง 0.1% แต่ยังมีวิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของแมวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เหมาะกับแมวทุกสายพันธุ์เลยค่ะ

เครดิตภาพ : shopee

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #ทาสแมว #อาหารแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

สุนัขมักจะชื่นชอบการนั่งเล่นเป็นชีวิตจิตใจเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพักผ่อนหลังจากปฏิบัติภารกิจเฝ้าบ้านตอนกลางคืนมาเป็นระยะเวลานานมากจนทำให้บริเวณในบ้านช่วงเช้าจะค่อนข้างมีความเงียบสงบหน่อย เพราะเขาเองเมื่อหมดภารกิจก็อยากที่จะได้นั่งพักนอนพักชมนกชมไม้ให้สบายใจเพื่อฟื้นฟูร่างกายและเก็บแรงไว้สำหรับคืนนี้ไม่ต่างกับมนุษย์เช่นเดียวกัน เพียงแต่มนุษย์จะทำงานตอนเช้า แต่สุนัขจะทำงานตอนเย็นก็เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาทำหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วจึงต้องมีรางวัลให้เขาทุกครั้ง คือ บ้านที่น่าอยู่ภายนอกซึ่งสุนัขจะสามารถนั่งเล่นได้อย่างสบายใจ ผ่อนคลาย ถูกสุขลักษณะมากพอ อาจมีการจัดบริเวณภายนอกบ้านที่สุนัขชอบมานั่งเล่นให้กว้างขึ้นและมีพื้นที่ว่างปลอดโปร่งสำหรับเขาด้วยก็จะดี เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกไม่สบายเวลานั่งเล่นจนแอบย่างกรายมาภายในตัวบ้านของคุณจนมีเห็บหมัดเข้ามา หากจัดสภาพแวดล้อมใน 3 บริเวณภายนอกบ้านเหล่านี้ได้ก็ควรจัด เพราะเป็นบริเวณที่สุนัขชอบมานั่งเล่นเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงควรเรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง

“หน้าบ้าน” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“หน้าบ้าน” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขส่วนใหญ่จะชอบมานั่งเล่นนอนเล่นกัน เพราะสุนัขจะมีนิสัยชอบสอดส่องคนแปลกหน้าและสภาพแวดล้อมที่อยู่บริเวณบ้านซึ่งเป็นจุดกว้างขวางสามารถมอบได้โดยรอบ 180 องศามากกว่าบริเวณอื่น ๆ ของตัวบ้าน ยิ่งเป็นผู้คนหรือสัตว์ที่ผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน สุนัขจะยิ่งชอบจับตามองความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแอบเป็นสัตว์ที่ดูเงียบ ๆ ภายนอก แต่ภายในขี้ระแวงใช้ได้เลยเหมือนกัน บริเวณหน้าบ้านจึงควรจัดให้มีร่มไม้ใหญ่หรือชายคายื่นออกมาหน่อยเพื่อบังแดดให้สุนัขก็จะดี

“ใต้ม้านั่ง” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใต้ม้านั่ง” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขจะชอบมานั่งเล่นมาก เพราะนอกจากจะรู้สึกเป็นส่วนตัวและปลอดภัยแล้ว ยังได้ร่มเงาและความเย็นพื้นดินที่อยู่ใต้โต๊ะตลอดเวลาอีกด้วยจึงให้สัมผัสเหมือนนอนอยู่ในเวลากลางคืนที่ไม่มีแดด สบายจนสามารถหลับได้เพลิน ๆ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วและตื่นยากเสียด้วยบางครั้ง คุณจึงควรเคลียร์พื้นที่ใต้ม้านั่งไม่ให้มีขนสุนัขหมักหมมตามซอกโต๊ะและกวาดบ่อย ๆ เผื่อจะมีมดหรือแมลงอันตรายอยู่ใต้ม้านั่ง

“ใกล้เจ้าของ” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใกล้เจ้าของ” หากเป็นเวลาที่เจ้าของออกมานั่งทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานาน สุนัขก็มักจะมานั่งเล่นอยู่บริเวณของบ้านที่ตรงกันกับมุมที่เจ้าของนั่งด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจและไม่เหงาหงอยทุกครั้ง เพราะนั่งเล่นตามบริเวณต่าง ๆ ในบ้านตัวเดียวก็มีความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่มีเพื่อนด้วย หากได้นั่งใกล้ ๆ คนที่รักก็จะมีความสุขในช่วงเวลานั้นมาก

เครดิตภาพ : architecturaldigest.com, .hgtv.com

#บริเวณที่สัตว์ชอบ #สุนัขน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
Uncategorized

“Gypsy Vanner” ม้าขนสวยระดับโลกของชาวยิปซีที่น่ารู้จัก

หากย้อนกลับไปในสมัยยุคโบราณที่ผู้คนยังคงใช้ม้าเป็นพาหนะเร็วในการเดินทางหรือขนข้าวของสัมภาระต่าง ๆ จากต้นทางไปยังปลายทางแล้วล่ะก็แน่นอนว่าตามการ์ตูนหรือภาพยนตร์ต่างประเทศที่ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับทางฝั่งตะวันตก คุณน่าจะเคยเห็นม้าสุดแปลกที่มีขนยาวฟูในส่วนต่าง ๆ ของลำตัวอย่างผมที่ยาวระย้าลงมาเกินลำตัวและบริเวณเท้าที่มีขนอีกซึ่งมันดูแตกต่างจากม้าอื่น ๆ ที่เราเคยเห็นกันมาก เพราะจากที่เห็นม้าเหล่านี้ก็มักจะถูกนำมาใช้กันในการลากเกวียนหรือขนของเป็นหลักมากกว่าจะเป็นม้าเร็วที่ให้คนขี่เหมือนพวกม้าทั่วไปทั้งที่ลักษณะของมันก็ออกจากดูโดดเด่น ม้าชนิดนี้มีชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า “ม้า Gypsy Vanner”นั่นเอง แค่อ่านชื่อหลายคนก็คงจะดีดนิ้วเป๊ะแล้ว ที่มันถูกใช้ในด้านขนส่งก็อาจจะเป็นเพราะมันมีต้นกำเนิดเป็นม้าของชาวยิปซีที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนของยุโรปนั่นเอง พอรู้เช่นนี้ก็ยิ่งน่าศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าม้า Gypsy Vanner ให้มากขึ้นแล้วสิ งั้นมารู้จักกับเจ้าม้าสวยระดับโลกนี้ไปพร้อม ๆ กันดีกว่า

ทำความรู้จักกับ “ม้า Gypsy Vanner”

“ม้า Gypsy Vanner” เป็นม้าที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลก ด้วยเพราะมันมีความสูงประมาณ 14 ถึง 17 ฝ่ามือ บางตัวก็มีลวดลายแต้มจุดสีดำและสีแดง แต่บางตัวก็ไม่มี หลังมีความแข็งแกร่ง ก้นโด่งทำให้บริเวณต้นหางมีความกระชับโค้งเด่นชัดสวยงาม เห็นขนของหางที่มีขนาดยาวกว่าม้าทั่วไปลงมาสวยงามดุจแพรชั้นดีที่มีความฟูเช่นเดียวกับบริเวณอุ้งเท้าที่ถูกปกคลุมด้วยขนมากมายเป็นพู่ยาวลงมาทำให้เวลาม้า Gypsy Vanner วิ่ง ขนก็จะต้องกับลมบานพองสวยงามดุจมีพลังรังสรรค์จากสวรรค์ โดยม้านี้ได้มีต้นกำเนิดมาจากการเป็นหนึ่งในกลุ่มม้าลากรถของชาวยิปซีจึงตั้งชื่อว่า “ม้า Gypsy Vanner” กระจายพันธุ์จำนวนมากบนเกาะบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ก่อนที่หลังสงครามโลกจะถูกส่งออกไปยังอเมริกาทำให้มีคนรู้จักและรับมาขยายพันธุ์แพร่หลายเป็นที่คุ้นเคยเหมือนทุกวันนี้

การนำ “ม้า Gypsy Vanner”มาใช้ของมนุษย์

“ม้า Gypsy Vanner” เป็นม้าที่มีนิสัยฉลาด แข็งแรง และค่อนข้างกระตือรือร้น มีความเป็นมิตรกับมนุษย์จึงถูกนำมาใช้ในการลากเกวียน ทดสอบความแข็งแรงในหลายอย่างซึ่งก็ทำได้ดี แม้ในเวลานี้จะไม่มีการใช้เกวียนแล้ว แต่ในฟาร์มก็ยังใช้ม้านี้เป็นม้าขยายพันธุ์ส่งออกขายและใช้เป็นม้าผู้ช่วยงานออกแรงที่ต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของระยะทางสั้น ๆ จากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งภายในบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นม้าสำหรับการแข่งกีฬาของสหรัฐอเมริกาด้วย นอกนั้นบางประเทศที่เน้นอนุรักษ์เมืองโบราณอยู่ก็จะใช้ม้า Gypsy Vanner เป็นม้าลากรถนำเที่ยวรอบเมืองด้วยซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์สวยงามหรูหราทีเดียว

อาหารสุดโปรดของ “ม้า Gypsy Vanner”

“ม้า Gypsy Vanner” ชื่นชอบการกินหญ้าแห้งทุกชนิดและยังชอบกินพวกถั่ว หรืออาหารสัตว์ที่มีการผสมกับกากน้ำตาล มีการให้กากใยอาหารที่มีพลังงานมาก รวมถึงอาหารแปรรูปมากมายมันก็สามารถกินได้ ค่อนข้างเป็นม้าที่เลี้ยงง่าย แต่ก็ต้องมีความใส่ใจในการให้น้ำสะอาดเยอะเหมือนกัน เพราะมันจะกระหายน้ำง่าย

เครดิตภาพ : globetrotting.com.au, pixels.com

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำไมใครต่อใครถึงตกเป็นทาสแมวกันเยอะ?

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมมีแต่คำเรียกคนรักแมวว่า “ทาสแมว”กัน? ทำไมต้องจำกัดคำหน้าว่า “ทาส”ในสัตว์เพียงชนิดเดียวนี้ด้วยในเมื่อก็มีสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ ที่ผู้คนชอบกันไม่แพ้แมวมากมาย หรือว่าแมวจะมีพลังมนต์สะกดในการทำให้ผู้คนตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับโฆษณาหนอนใบชาเขียวกรีนที เอาจริง ๆ น้องแมวก็ไม่ได้มีมนต์สะกดใด ๆ หรอกนะ เขาก็เป็นเพียงสัตว์ตัวหนึ่งที่น่ารักไม่ต่างจากสุนัขหรือหนูแฮมสเตอร์เลย เพียงแต่ว่าเป็นตัวเราเองที่มีใจอ่อนไหวให้กับแมวที่ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็รู้สึกอยากมอบความรักให้กับเขาไปหมดจนไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็น่าหลงใหลประหนึ่งหากจะเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ยอมตกเป็นทาสให้กับความรักที่อยากมอบให้เขามากกว่ามอบให้สัตว์อื่นเลยอารมณ์นั้น แต่หากจะให้ชัดเจนมากขึ้นว่าที่มาของการตกเป็นทาสแมวนั้นมีต้นเหตุมาจากสิ่งใดในตัวแมวบ้างก็มาอ่านในบทความนี้กันเลย

แมวเป็นสัตว์ที่อ้อนเสียงหวานเก่ง

เสียงของแมวช่างแตกต่างจากเสียงของสัตว์อื่นตรงที่ทุกครั้งเวลาเขาร้องหากเป็นลูกแมวก็จะมีเสียงที่แหลมและร้อง “เมี้ยว”ซึ่งดูให้อารมณ์แบบเสียงร้องของเด็กทารกที่ยังคงไร้เดียงสาน่าดูแลทะนุถนอมไม่ให้คลาดสายตา และแม้จะเติบโตมาก็ยังมีเสียงร้อง “แม๊ว” ที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงไพเราะหวานเหมือนเสียงคนอ้อนเราให้ตกหลุมรักจนอยากเป็นทาสแมวมาก ยิ่งเวลาที่เขาอยากให้เราเอาใจโดยการร้องเสียงแม๊ว ๆ แบบอ่อนลงก็ยิ่งฟังดูน่าเห็นใจน่าสงสารจนใจอ่อนได้ตลอดเลย

แมวเป็นมิตรกับทุกคน

แมวเป็นมิตรกับมนุษย์ทุกคนและเข้ากับคนได้มากกว่าสุนัขอีก จะมีแค่แมวบางตัวที่อาจเคยเจอคนมาทำร้ายหรือเพิ่งออกจากคอมฟอร์ตโซนการดูแลของแม่แมวมาจึงทำให้ค่อนข้างมีนิสัยขี้ระแวงคนและหนีอย่างรวดเร็วหากเข้าใกล้ แต่ลองได้สนิทกันแล้วสิ แมวจะอยากอยู่ติดกับเจ้าของอย่างเราไม่ห่างไปไหนเลย แถมยังมักจะเดินตามด้วยเวลาที่จะออกจากบ้านพร้อมส่งสายตาขอร้องว่าอย่าไปอีก บางทีทำกิจกรรมเครียด ๆ หรือรู้สึกท้อแท้ แมวก็จะขึ้นมานั่งบนตักพร้อมคลอเคลียเราเป็นประจำราวกับเขารู้ว่าเรากำลังต้องการใครสักคนมาปลอบโยนความรู้สึกทำให้ตัวเองสุขใจเหมือนมีเพื่อนรู้ใจมาก แบบนี้จะไม่ต้องเป็นทาสแมวได้อย่างไรกัน

แมวมีขนนุ่มน่ากอด

นอกจากเสียงร้องที่ออกอ้อนและความเอาใจใส่ในตัวมนุษย์ของแมวแล้ว แมวยังมีขนที่นุ่มราวกับกระต่ายหรือตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้อย่างน่ารัก แถมตัวก็อุ่น เวลาหนาวอยู่นี่สามารถกอดแมวให้อุ่นได้เลยซึ่งเขาเองก็ชอบให้เราทำแบบนี้ด้วย ไม่มีสัตว์เลี้ยงใดจะขนนุ่มมากกว่าแมวแล้วไม่ว่าจะเป็นแมวจนฟูหรือขนเรียบก็มีขนหนานุ่มลายสวยลื่นมือสัมผัสสบายอ่อนโยนเวลาเล่นมากจนตกเป็นทาสแมวเข้าเต็ม ๆ

เครดิตภาพ : allaboutcats.com,.petguide.com

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทำไมคนนิยมเลี้ยงแมว #ทาสแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

5 อันดับนกที่พูดได้ที่คนนิยมเลี้ยง

เดี๋ยวนี้หลายคนนิยมที่จะที่เลี้ยงนก เพราะพวกมันนั้น มีความฉลาด สามารถพูดโต้ตอบกับเราได้ และบางชนิดถึงขั้นเลียนแบบเสียงของมนุษย์ที่มันใกล้ชิดได้จนหลายคนหลงใหลมัน อีกด้วย แน่นอนว่านกพวกนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในตระกูลนกแก้ว วันนี้จึงจะมาทำความรู้จักกับสายพันธุ์นกพูดได้ที่ถือว่าฉลาดเป็นอันดับต้น ๆ ในโลกใบนี้

5 อันดับนกที่พูดได้ และยังฉลาดที่สุดในโลกนกแก้วอเมซอนสีน้ำเงิน (Blue-Fronted Amazon)

นกแก้วอเมซอนสีน้ำเงินเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตอีกชนิด มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ที่มาของชื่อนกแก้วอเมซอนสีน้ำเงินก็เพราะ สีน้ำเงินบนหัวของมันนั่นเอง เจ้านกชนิดนี้พวกมันจะผูกพันนกับคนที่เลี้ยงเพียงคนเดียว แถมเป็นนกที่พูดมากสุด ๆ และมันยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย

2.นกกระตั้ว (Cockatoo)

เชื่อว่าหลายคนก็คงรู้จักนกชนิดนี้นกกระตั้วนั้นเป็นนกสังคมสูงมาก มีความฉลาดรวมถึงมีทักษะในการการพูด เมื่อได้รับการฝึกฝนก็สามารถเรียนรู้ได้ไว เพราะมันมีความสามารถในการจดจำคำพูดจากเจ้าของเพื่อใช้ในการสื่อสารได้

  • นกแก้วอิเล็คตัส (Eclectus Parrot)

นกแก้วจากเกาะนิวกินีที่มีทักษะการพูดและจำคำศัพท์เป็นอย่างดี พวกมันสามารถที่จะฟังและจำจดการออกเสียงแล้วนำมาเลียนแบบได้อย่างชัดเจน บางตัวเก่งถึงขั้นขนาดเรียนรู้ที่จะร้องเพลงได้ทั้งเพลงด้วยซ้ำ

นกแก้วอะเมซอนสีเหลืองเป็นหนึ่งในนกแก้วอเมซอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นสัตว์ที่มีไหวพริบรวดเร็ว มีสติปัญญาและความสามารถในการพูดที่โดดเด่นซึ่งทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยม สำหรับเจ้าของที่ต้องการสร้างความผูกพันที่ดีกับนกของพวกเขาแต่เป็นนกที่มีนิสัยเกเร ขี้หงุดหงงิดไม่ชอบให้ใครไปแหย่หรือกวนมัน จึงอาจไม่ค่อยจะเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูก เพราะอาจจะโดนมันจิกได้

  • นกแก้วเทาแอฟริกา (African Grey Parrot)

ได้รับการยกให้เป็นนกพูดได้และฉลาดสุดๆ สามารถเรียนรู้ได้เร็วมาก และจะผูกพันกับเชื่อฟังกับคนเลี้ยงแค่คนเดียวเป็นนกแก้วที่เคยมีการถ่ายทำคลิปลงใน tiktok ด้วย จะได้รับการติดตามมากทีเดียว โดยเจ้านกแก้วเทานี้จะพบได้ในป่าของแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง ราคาก็แพงพอตัวอยู่ 

สำหรับใครที่กำลังมองหานกช่างพูดสักตัวมาอยู่เป็นสมาชิกในบ้านก็ควรศึกษาถึงเรื่องของนกสายพันธุ์ที่จะเลี้ยงให้เข้าใจให้มากสุดก่อนนำมาเลี้ยง เพราะราคาแต่ละตัวนั้นแรงเอาการอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปล่านั่นเอง

#นกที่คนนิมยมเลี้ยง #ทริคเลี้ยงสัตว์ #นกที่พูดได้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สุนัขแบบใดที่ไม่เลือกกินอาหาร

โดยปกติแล้วสุนัขเป็นสัตว์ที่กินง่ายอยู่ง่ายหากเป็นของกินที่พวกเขาต้องการโดยธรรมชาติตามความเป็นสัตว์
สปีชีส์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่สำหรับมนุษย์เราที่นำสุนัขไปเลี้ยงแล้วต้องให้เขาปรับตัวอยู่กับอาหารที่อร่อยในแบบที่มนุษย์สามารถหามาให้ได้ในบางครั้งก็อาจทำให้เรามองว่าพวกสุนัขเป็นสัตว์ที่เลือกกินอาหารและกินยาก หากไม่ใช่อาหารที่เป็นไปตามธรรมชาติของเขาบางตัวก็จะไม่กินเลยจนเกิดความรู้สึกปวดหัวกับการเลือกกินอาหารของสุนัขมาก แต่บางตัวใครจะไปรู้ว่าสามารถกินอาหารได้ง่ายมาก ซึ่งการที่จะเลือกเลี้ยงสุนัขสำหรับบางคนที่ไม่ค่อยมีเงินมากพอจะซื้ออาหารที่เป็นแบบที่เขาชอบ ทว่าเอาแค่เขาได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตก็ดีมากแล้ว พวกเขาย่อมต้องการคุณสมบัติการไม่เลือกกินของสุนัขมาด้วยมากซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการสำรวจสักระยะว่าสุนัขที่คุณต้องการ เขาเลือกกินอาหารหรือไม่ ว่าแต่สุนัขแบบใดล่ะที่บ่งบอกให้คุณรู้ได้ชัดเจนที่สุดว่าเขาไม่เลือกกินอาหาร?

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะสามารถกินอาหารคาวได้

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะมีพฤติกรรมการกินอาหารคาวแบบมนุษย์ที่ผู้คนมาให้กินได้โดยไม่มีท่าทีอิดออด เรียกได้ว่าเมื่อวางให้แล้วก็สามารถดินได้อย่างเอร็ดอร่อยเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าว เนื้อสัตว์ กระดูก และอื่น ๆ ที่เป็นอาหารคาว ยกเว้นหากคุณเห็นเขาไม่กินพวกผักนั่นคือเรื่องปกติของสุนัขทุกตัวที่จะกินผักไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อกินเนื้อ แค่เพียงเขากินอาหารคาวได้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าเขาไม่เลือกกินอาหาร

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะสามารถกินของหวานได้

สุนัขปกติจะไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่นัก เพราะเป็นรสชาติที่โด่งจนทำให้พวกเขารู้สึกเวียนศีรษะและปวดศีรษะได้ และส่วนใหญ่สุนัขตามธรรมชาติจะติดอยู่กับรสทั่วไปอย่างเค็มเป็นหลัก แต่หากคุณเห็นสุนัขตัวหนึ่งกินของหวานอย่างพวกขนมหวาน คุกกี้ หรือขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ ที่เหลือได้แล้วล่ะก็นั่นหมายความว่าสุนัขตัวนั้นไม่เลือกกินอาหารและกินได้หลากหลายทีเดียว

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะมีร่างกายอ้วน

สุนัขเป็นสัตว์ที่อ้วนยาก เพราะพวกเขาจะกินไม่ค่อยจุเท่าไหร่ แต่หากคุณเห็นลักษณะทางกายภาพของสุนัขตัวนั้น ๆ มีความอ้วนท้วมนั่นหมายความว่าเขาเป็นสุนัขที่ไม่เลือกกินอาหาร ด้วยรูปร่างที่อ้วนนั้นบ่งบอกได้ถึงพฤติกรรมการไม่เลือกกินของเขาที่สามารถกินอาหารได้ทุกชนิดทั้งของคาว ของหวาน และอาหารสุนัขทั่วไปซึ่งค่อนข้างเอร็ดอร่อยทีเดียวและกินบ่อยด้วยทำให้ได้รับพลังงานมากกว่าสุนัขทั่วไป

เครดิตภาพ : .loveyourdog.com, .eurekalert.org

#สุนัขที่ไม่เลือกกิน #อาหารสัตว์ #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกลัวเสียงพลุ

การห้ามไม่ให้มีเสียงดังจนสุนัขของคุณเองต้องตกใจเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่เสียงพลุที่คนอื่นจุดกันตามเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลองย่อมเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถห้ามให้จุดได้ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุนัขทุกตัวจะกลัวเสียงพลุที่ดังจนสติกระเจิดกระเจิงขนาดไหน เพราะหูของสุนัขนั้นไวต่อเสียงต่าง ๆ มากกว่ามนุษย์หลายเท่า ขนาดเราที่ได้ยินเสียงพลุดังบางครั้งก็ยังตกใจเลย แล้วสุนัขที่เราเลี้ยงล่ะ เขาจะขวัญเสียขนาดไหนที่ต้องอยู่กับเสียงพลุที่เขาหนวกหูเสมือนฝันร้ายยามกลางคืนที่อาจจะทำให้เขาตกใจทั้งแสงสีเสียงและบางตัวก็วิ่งหายจนวันต่อมาก็ยังไม่กลับมาทำให้ต้องพากันออกไปตามหาก็มี มันอาจจะเป็นวิธียากสักหน่อยในการหลีกเลี่ยงเขาจากเสียงพลุที่ดังสนั่น ยกเว้นแค่ให้เขาได้ยินและอยู่ในความตกใจเสียงพลุที่เกิดขึ้นน้อยลงก็เท่านั้น ซึ่งจะมีวิธีใดบ้างที่จะปกป้องสุนัขของเราไม่ให้กลัวเสียงพลุมากไปกว่านี้ได้?

จัดกรงคลุมผ้าให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ

การให้สุนัขอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเสมือนบ้านของตัวเองในตอนกลางคืนก่อนที่จะมีการจุดพลุภายในกรงที่เหมือนเป็นบริเวณส่วนตัวไม่มีใครเข้ามาทำอะไรได้ย่อมจะทำให้สุนัขรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น สามารถป้องกันไม่ให้สุนัขกลัวจนเผลอวิ่งออกไปไหนมาไหนหลงทิศจนไม่กลับมาได้ อีกทั้งการคลุมผ้าหนาครอบกรงสุนัขไว้อีกชั้นก็ยังสามารถช่วยลดความน่าตกใจของแสงสีเสียงจากพลุที่จะเกิดขึ้นมาทำให้สุนัขไม่ตกใจเสียงพลุมากได้ด้วย อีกทั้งยังรู้สึกว่าไม่มีใครจะทำอะไรเขาได้หากอยู่ในกรง

จำกัดพื้นที่ Outdoor ให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ

การจำกัดพื้นที่กลางแจ้งที่สุนัขอยู่โดยหาไม้กระดานหรือสิ่งของมากั้นเป็นประตูไม่ให้ออกจากอาณาเขตส่วนหนึ่งของบ้านที่จำกัดไว้จะทำให้เขาไม่วิ่งหนีเสียงพลุจนตกใจและเป็นการจำกัดให้เขามีบริเวณที่อยู่ในส่วนที่อาจได้ยินเสียงพลุน้อย เป็นส่วนของบริเวณบ้านที่ทึบ เสียงลอดเข้ามาได้ไม่ดังนักซึ่งจะทำให้สุนัขไม่ตกใจเสียงพลุมากเท่ากับบริเวณอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีเลย

กอดสุนัขให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ 

ในกรณีที่หากคุณเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านอยู่แล้วก็จะยิ่งช่วยให้ได้ยินเสียงพลุน้อยลงแตกต่างจากภายนอกได้ส่วนหนึ่งแล้ว และอีกส่วนคือความรักที่คุณมอบให้สุนัขผ่านอ้อมกอดเมื่อมีการจุดพลุดังขึ้นมา คุณต้องกอดเขาไว้ให้แน่นพร้อมพูดข้างหูใกล้ ๆ ให้เขาสบายใจว่า “ไม่ต้องกลัวนะ เราอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อน เดี๋ยวเสียงก็หายไปแล้ว” เขาจะคลอเคลียที่แขนคุณและคลายความกลัวทุกอย่างลงไปได้ดีมาก

เครดิตภาพ : .theukfireworkcompany.co.uk, fireworksnation.com

#สุนัขกับเสียงพลุ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ดอกไม้ที่สุนัขชอบแพ้

หากจะกล่าวถึง “ดอกไม้”แล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตไหนก็ย่อมที่จะชอบอย่างดอมดม อยากจ้องมอง และอยากสัมผัสความสวยงามมีหลากหลายสีสันตามสายพันธุ์ของมันด้วยตัวเองกันทั้งนั้น แม้แต่สุนัขก็ต้องบอกเลยว่าพวกเขามีความชื่นชอบดอกไม้มากกว่ามนุษย์เราเสียอีก และมักจะชอบวิ่งไปอยู่ตามทุ่งดอกไม้และเกลือกกลิ้งพร้อมกระโจนเข้าหาด้วยซ้ำ เพียงแต่ที่เราไม่ค่อยเห็นสุนัขสนใจดอกไม้ในแปลงบริเวณบ้านก็เพราะพวกเขากำลังห้ามใจไม่ให้เผลอทำตามความต้องการตัวเองจนเจ้าของดุเอาได้ แต่ถึงแม้ว่าดอกไม้จะเป็นสิ่งที่หอมหวนและสวยงามมากขนาดไหนก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเกิดภูมิแพ้ได้ไม่ต่างจากคนสำหรับดอกไม้บางชนิดที่อาจมีกลิ่นแรงหรือมีสารบางอย่างทำให้สุนัขเกิดอาการคันจมูก น้ำมูกไหล มีผื่นตามผิวหนัง หรืออาจส่งผลเสียต่อระบบอื่น ๆ ในร่างกายสุนัขได้ ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่า 3 ดอกไม้สากลที่ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์ใดส่วนใหญ่ก็มักจะแพ้กันทั้งนั้นให้คุณรู้เพื่อพาเขาหลีกเลี่ยงได้

“ดอกลิลลี่” ดอกไม้ที่สุนัขชอบแพ้

“ดอกลิลลี่” เป็นดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ที่นิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์อย่างมาก เพราะดอกลลิลลี่เป็นตัวแทนของความรักที่บริสุทธิ์ นุ่มนวล อ่อนหวาน และทะนุถนอมซึ่งเหมาะที่จะให้ทุกคนที่คุณรักหรือจัดไว้ในบ้านสวยงาม ซึ่งแน่นอนว่าสุนัขก็ย่อมชื่นชอบในสีสันและดอกที่มีความใหญ่แผ่บานสวยงามเรียวโค้งจนเห็นเกสรภายในเช่นกันจึงดึงดูดให้พวกเขาเข้าหาง่าย แต่ใครจะรู้ว่าดอกลิลลี่คือดอกไม้ที่สุนัขชอบแพ้กันมากเหมือนยาพิษ ด้วยในส่วนของดอก ใบ และเกสร ของดอกลิลลี่จะทำให้สุนัขเกิดอาการง่วงซึม น้ำลายไหล อาเจียน ปัสสาวะน้อยหรือไม่ปัสสาวะเลย จนระบบเซลล์ในไตถูกทำลายได้ง่ายเมื่อมันสะสมเป็นพฤติกรรมที่ยาวนานมากขึ้นจากฤทธิ์ดอกไม้นี้ที่เขาแพ้ ซึ่งอาจลามไปถึงเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน และในบางตัวอาจส่งผลกับระบบประสาท และระบบหายใจ ทำให้สุนัขทรงตัวไม่อยู่ เดินไม่ไหว หายใจหอบขัด และอาจชักได้ หากเขาได้สูดดอกลิลลี่และมีอาการไม่ค่อยเข้าหาคุณและกินอาหารน้อยต้องรีบพาไปหาสัตวแพทย์ทันที

“ดอกกุหลาบพันปี” ดอกไม้ที่สุนัขชอบแพ้

“ดอกกุหลาบพันปี” เป็นดอกไม้ที่พบเจอได้ง่ายตามเอเชียและยุโรปซึ่งมีอยู่ทั่วไป มีดอกที่สวยงาม แต่ด้วยความที่ดอกไม้นี้ต้องปลูกในพื้นที่แถบภาคเหนือหรือบริเวณที่มีอากาศเย็นเป็นหลักทำให้มีกลิ่นที่แรงจากสภาพอากาศที่บางเบา และสามารถดูดสารพิษได้ จึงอาจทำให้แมลงเป็นอันตราย โดยเฉพาะเมื่อสารพิษนั้น ๆ มามีฤทธิ์ร่วมกับเกสรของดอกกุหลาบพันปีอย่างสารพิษ andromedotoxin, grayanotoxin และ rhodotoxin ด้วย แค่มนุษย์ดื่มชากุหลาบพันปีที่ยังไม่ได้นำมาผ่านกระบวนการดีเข้าไปก็ทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงได้แล้ว ตั้งแต่อาการระดับน้อยอย่างคลื่นไส้ อาเจียน จนรุนแรงถึงขั้นริมฝีปากไหม้ เป็นอัมพาต และอาจเสียชีวิตได้เลยทีเดียว เช่นเดียวกัน สำหรับสุนัขเองก็เป็นสัตว์ที่ได้รับผลแพ้จากดอกไม้นี้มากกว่าสัตว์อื่นด้วย ซึ่งหากสัมผัสแตะดอกก็จะทำให้เกิดอาการน้ำลายไหล อาเจียน หายใจติดขัดและหัวใจเต้นเร็วมากในช่วงแรกจนช็อกก่อนที่หัวใจจะเบาลงอย่างรวดเร็วทำให้เสียชีวิตได้ง่าย

“ดอกเบญจมาศ” ดอกไม้ที่สุนัขชอบแพ้

“ดอกเบญจมาศ” เป็นดอกไม้ที่พบได้ง่ายมากตามท้องถิ่นทั่วไป จนเรียกได้ว่าใคร ๆ ก็ย่อมรู้จักความสวยงามของดอกไม้นี้ที่เหมาะกับวิถีสโลว์ไลฟ์และการแสดงความยินดีด้วย แต่สำหรับสุนัขมักชอบแพ้ดอกไม้นี้กันมาก เพราะแม้ดอกเบญจมาศจะมีกลิ่นหอมเล็กน้อยเบาบางจนแทบไม่ได้กลิ่นเลย แต่คุณสมบัติของดอกเบญจมาศที่หลายคนไม่รู้ก็คือมันมีสารพิษจำพวกฟอร์มาดีไฮด์ เบนซีน และแอมโมเนียแฝงอยู่ในตัวด้วยจึงทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ คันตามผิวหนังอย่างรุนแรง ระคายเคืองต่อเยื่อบุตาจนการมองเห็นลดลงชั่วคราว และมีผลต่อระบบทางเดินหายใจด้วยจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและการกินอย่างเด็ดขาด

เครดิตภาพ : dailypaws.com, floweraura.com

#ดอกไม้ที่สุนัขแพ้ #สุนัข #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ที่นอนสุดโปรดของแมว

ที่นอนสุดโปรดของแมว

แม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบอยู่กับที่ แต่ถ้าหากเวลาใดที่เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้าขึ้นมาล่ะก็เขาจะรีบวิ่งกลับมายังที่ประจำและนอนหลับอย่างสบายอารมณ์เป็นเวลานานไม่ต่างกับคนเลยทีเดียว ยิ่งเป็นที่นอนซึ่งลักษณะนุ่มแล้วล่ะก็นอกจากจะได้เป็นที่พักพิงอันน่าหลงใหลราวกับวิมานแล้วก็ยังเป็นที่เล่นกัด ๆ แทะ ๆ ของน้องได้อย่างดีเลย ฉะนั้นหากคุณกำลังวางแผนจะทำบ้านหลังใหญ่โตแบบบ้านตุ๊กตาที่มีอุโมงค์ลอดเข้าไปให้น้องแมวอยู่อย่างเป็นส่วนตัวล่ะก็บอกเลยว่ามันเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่จะทำให้คุณสิ้นเปลืองเงินอย่างเปล่าประโยชน์มาก แมวนั้นอยู่ได้กับลักษณะสภาพแวดล้อมทุกรูปแบบ ขอแค่มีที่นอนนุ่ม ๆ ให้เขาก็เพียงพอแล้ว เพราะเขาก็เป็นเหมือนเด็กไร้เดียงสาที่ชอบอยู่กับการสัมผัสสิ่งที่นุ่ม ๆ ดังเช่นขนของเขาที่ล่ะ ไม่ค่อยได้สนใจพวกของหรูหราเท่าไหร่ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ววันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีที่นอนรูปแบบใดบ้างที่แมวโปรดปราน

“ฟูกเบาะ” ที่นอนสุดโปรดของแมว

“ฟูกเบาะ” เป็นที่นอนสุดโปรดที่แมวจะชอบมาก แต่ไม่ใช่ว่าฟูกเบาะทุกรูปแบบจะสามารถใช้กับแมวได้ ต้องเป็นฟูกขนาดเล็กที่มีความบางสบายและนุ่มแบบที่เด็กทารกแรกเกิดใช้ก็จะดีมาก เพราะตัวผ้าจะมีความยืดหยุ่น อ่อน และไหลลื่น เวลาที่หัวของน้องแมวไปซบกับเนื้อฟูกก็จะรู้สึกเย็นนุ่มและชอบคลอเคลียจนผล็อยหลับไปเพียงไม่นานได้ และต้องทำความสะอาดฟูกเสมอ ไม่ควรเปลี่ยนฟูกบ่อยหากไม่จำเป็นเพราะแมวมักจะชอบนอนอยู่กับที่นอนลักษณะเดิม ๆ แม้จะเปลี่ยนเป็นฟูกที่ลวดลายและสีสันคล้ายกันแต่เขาย่อมจะสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่ฟูกเดิมกับที่เขาเคยนอนประจำในทุกคืน และอาจจะมายืนร้องอ้อนวอนขอฟูกเดิมจากคุณก็ได้

“หมอน” ที่นอนสุดโปรดของแมว

“หมอน” เป็นที่นอนสุดโปรดของแมวที่หาได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นหมอนนุ่มหรือหมอนที่อัดแน่นไปด้วยสำลีจัดเต็ม น้องแมวก็ย่อมชอบทั้งนั้น เพราะตามธรรมชาติดั้งเดิมเขามักจะนอนกันในสถานที่สูงจากระดับพื้นมาหน่อยซึ่งหมอนก็เป็นที่นอนสำคัญที่จะนั่งหรือนอนกลิ้งเล่น ๆ ไกวหางสบายใจเฉิบก็ได้ แต่ต้องระวังหมอนที่นุ่มมากด้วย อาจทำให้แมวเกิดมันเขี้ยวจนเล่นกระโจนกอดรัดฟัดเหวี่ยงฟูกจนพังเร็วได้เหมือนกัน

“พรมขนสัตว์” ที่นอนสุดโปรดของแมว

“พรมขนสัตว์” คือที่สุดของความโปรดปรานสำหรับแมวที่กำลังหาที่นอนให้แก่ตัวเอง พวกเขาชอบที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่นุ่มฟูคล้ายกับได้อยู่ร่วมกับแมวตัวอื่น ๆ นอนกอดกันซึ่งสัมผัสกับขนที่เยอะจนทำให้หลับสนิทได้ บางตัวอาจชอบนอนบนพรมขนสัตว์ด้วยทำให้นึกถึงช่วงเวลาวันแรก ๆ ตอนเป็นลูกแมวที่ได้นอนซบกับแม่ตัวเอง ทำให้เขามีความสุขและฝันดีเลยล่ะ

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#ทาสแมว #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ที่นอนแมว