Categories
Uncategorized

โลกสุดอันตรายของ “ปลาดุกไฟฟ้า” สัตว์ผู้เงียบขรึมแต่เก่งกาจ

“ปลาดุก” คือหนึ่งในปลาที่ผู้คนนิยมในการนำมารับประทานเป็นอาหารกันมากที่สุดและบ้างก็เลี้ยงไว้ทำฟาร์มเพื่อการค้าขายเพราะปลาดุกมีราคาขายสร้างอาชีพที่ดีมากเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศและยังเป็นปลาที่พบเจอได้ง่ายตามแหล่งน้ำอีกด้วย แต่สำหรับปลาดุกบางสายพันธุ์ก็มีข้อจำกัดในการเลี้ยงเหมือนกัน โดยเฉพาะ “ปลาดุกไฟฟ้า”ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่านอกจากปลาทะเลมากมายหลายชนิดที่มีไฟฟ้าในตัวแล้ว ในแหล่งน้ำจืดก็ยังมีปลาดุกไฟฟ้าที่เป็นคู่ปรับในอีกฟากฝั่งหนึ่งของประเภทผืนน้ำที่มีคุณสมบัติสูสีพอกันด้วย ใคร ๆ ก็ว่าปลาดุกช่างเป็นปลาที่น่าคบหา แต่ลองคุณได้จับปลาดุกขนาดยาวสีน้ำตาลนี้สิรับรองว่าความรู้สึกของคุณตอนนั้นจะเกิดความชาอย่างกะทันหันจนคิดอะไรไม่ออกแล้วเหมือนสติถูกทำให้สวิตช์ขาดไปกะทันหันเลย เพราะปลาดุกไฟฟ้าเห็นว่าดูเงียบขรึมและไม่มีพิษมีภัยแล้ว แท้จริงกลับน่ากลัวเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่ปลาน้ำจืดเลยก็ว่าได้ หากอยากรู้ว่าจะน่ากลัวและน่าค้นหาแค่ไหนก็มาอ่านกัน!

ทำความรู้จักกับ “ปลาดุกไฟฟ้า”

“ปลาดุกไฟฟ้า” เป็นปลาหนังน้ำจืดที่อยู่ในวงศ์ของ Malapteruridae มีกำเนิดมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ รูปร่างยาวเป็นทรงกระบอกสีน้ำตาลและสีเทามีหนังที่เรียบ มีครีบไขมันที่โดดเด่น ตามีขนาดเล็ก ริมปากหนา โดยครีบทุกครีบมีปลายครีบมนกลม ถุงลมแบ่งเป็นสองห้องยาว ลวดลายบนลำตัวที่พบเจอในปลาดุกไฟฟ้าส่วนมากจะเป็นลายแถบขาว แต่ในปลาดุกไฟฟ้าบางตัวก็จะมีลายสีขาวคล้ายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวกลางกลีบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีปลาใดเหมือนด้วย รวมถึงจุดเด่นที่คุณต้องรู้ คือ ปลาดุกไฟฟ้าสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวได้มากถึง 350 โวลต์ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากโดยเราสามารถพบเจอกับปลาดุกไฟฟ้าได้ตามแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ซึ่งมีธรรมชาติกับระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น แม่น้ำไนล์, แม่น้ำคองโก, แม่น้ำแซมเบซี, แม่น้ำไนเจอร์ และแม่น้ำหลายสาย ในทวีปแอฟริกา รวมถึงทะเลสาบต่าง ๆ เช่น ทะเลสาบแทนกันยีกา หรือทะเลสาบชาด เป็นต้น

การดำรงชีวิตของ “ปลาดุกไฟฟ้า”

“ปลาดุกไฟฟ้า” มีนิสัยเงียบขรึมและโลกส่วนตัวสูง ขี้รำคาญจึงมักใช้ชีวิตสันโดษหลบซ่อนตัวอยู่ตามตอไม้หรือโพรงหินสำหรับหลบซ่อนตัว และด้วยความที่เคลื่อนไหวช้ามันจึงรู้ตัวเองดีว่ามีโอกาสจะเป็นเหยื่อของนักล่าหรือปลาอื่น ๆ ที่ใหญ่กว่าได้ จึงค่อนข้างระมัดระวังตัว หากพบเจอการจู่โจมหรือมีสิ่งมีชีวิตเข้ามาใกล้ก็ใช้ป้องกันตัวและช็อตอีกฝ่ายด้วยไฟฟ้าจนสลบ และยังเป็นปลาที่มีความระมัดระวังในการปกป้องลูกมากโดยหลังจากการผสมพันธุ์แล้ว ปลาดุกไฟฟ้าจะทำการขุดโพรงยาวถึง 3 เมตรริมตลิ่งซ่อนตัวให้ไม่มีนักล่าใดมาเห็นได้ เพราะช่วงตั้งท้องจะระวังตัวลำบากมากกว่าปกติหลายเท่า

อาหารสุดโปรดปรานของ “ปลาดุกไฟฟ้า” “ปลาดุกไฟฟ้า” มีอาหารสุดโปรดปรานที่พวกมันชื่นชอบมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์น้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาขนาดเล็ก, กุ้ง, สัตว์เลื้อยคลานจิ๋วในทะเล และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหลักการล่าก็ไม่ต่างกับการป้องกันตัว มันจะทำการพุ่งเข้าช็อตเหยื่อของมันให้สลับก่อนแล้วจัดการกินอย่างรวดเร็วทันที

เครดิตภาพ : th.wikipedia.org

#สัตว์น้ำ #สัตว์ทะเล #ปลาดุกไฟฟ้า

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ตัวใสจนเห็นสันหลังแบบนี้ล่ะ ตัวข้าผู้ชื่อ “ปลาก้างพระร่วง!”

อย่างที่เรารู้กันดีว่าภายในของปลานั้นมีก้างจำนวนมากที่ถูกเรียกแทนกระดูกเพราะมีความเล็กกว่าและมีความแหลมบริเวณปลายที่เหมาะกับลำตัวของปลาด้วย แต่การที่เราจะเห็นก้างปลาได้แน่นอนว่าจะทำอย่างไร? ก็ต้องผ่าเนื้อปลาออกมาสิถึงจะสามารถสำรวจลักษณะก้างปลาชนิดต่าง ๆ ได้ แต่เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ไม่รู้กันว่าโลกของเรานั้นยังมีปลาที่ไม่ต้องผ่าเนื้ออกก็สามารถเห็นก้างปลาได้ เพราะตัวของปลาเหล่านั้นใสจนเหมือนกับวุ้นที่ทำให้เราสามารถมองเข้าไปเห็นถึงกระดูกสันหลังและส่วนต่าง ๆ ภายในของมันได้โดยที่ไม่ต้องจับตัวมันขึ้นมาเลย ซึ่งปลาตัวใสเหล่านี้ก็สามารถพบเจอได้ในทั่วโลกแต่จะเป็นคนละสายพันธุ์กันไป แต่สำหรับคนที่อยากเห็นปลาตัวใสจนสำรวจกระดูกได้อย่างอัศจรรย์เช่นนี้โดยไม่ต้องซื้อตั๋วเครื่องบินไปดำน้ำถึงต่างประเทศแล้วล่ะก็ไทยเรามีปลาตัวใสให้คุณได้ชมเหมือนกัน ชื่อว่า “ปลาก้างพระร่วง” ซึ่งหากใครไม่รู้มาก่อนเวลาดำน้ำหรือพบเจอเมื่อตกได้โดยบังเอิญก็อาจตกใจคิดว่าเป็นปลาจากต่างดาวหรือปลาผีกระดูกก็ได้ อย่ากลัวน้องเขาเลยนะ น้องเขาออกจากมีเสน่ห์ที่แตกต่างจากปลาอื่น ควรกับการอนุรักษ์มากกว่า

ทำความรู้จักกับ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็กของไทยขนาด 6.5 เซนติเมตร จัดอยู่ในวงศ์ของ Kryptopterus  ลักษณะปลาก้างพระร่วงจะมีความพิเศษตรงที่มีลำตัวใสมากจนเห็นกระดูกทุกส่วนและได้ชื่อว่า “ปลาที่ตัวใสที่สุดในโลก”เมื่อเทียบกับปลาตัวใสของประเทศอื่น ๆ ที่มีการค้นพบ เพราะปลาก้างพระร่วงไม่มีเกล็ด ไม่มีเม็ดสีในร่างกายจึงทำให้ตัวใสและหากมันว่ายมาบริเวณผิวน้ำที่แสงส่องมาถูกกับตัวก็จะทำให้เกิดเป็นสีรุ้งตามลำตัวที่เปล่งประกายสวยงามราวต้องมนต์ นอกจากนี้มันยังมีหนวดคู่บริเวณขากรรไกรบนและล่าง อีกทั้งยังมีตัวที่ลีบแบนทำให้ว่ายน้ำได้เร็วมองดูแล้วสบายตา คนไทยยุคใหม่จึงตัดให้เป็นหนึ่งในปลาอนุรักษ์ที่สวยงามคู่ประเทศด้วย แต่น้อยคนที่จะรู้จักกัน เพราะมันพบได้แค่บริเวณธารน้ำที่มีกระแสน้ำไหลแรงเท่านั้น แต่ก็พบได้ในทุกภาคของไทย แม้แต่ตามน้ำตกในอุทยานก็พบได้

การดำรงชีวิตของ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” มักจะชอบอยู่เป็นฝูงใหญ่จำนวน 100 ตัวขึ้นไป ชอบเกาะกลุ่มในแหล่งน้ำไหล โดยจะลอยตัวอยู่นิ่ง ๆ ไม่ค่อยชอบการว่ายเท่าไหร่แม้จะว่ายน้ำได้เร็ว โดยพวกมันจะหันหน้าสู้กระแสน้ำไปในทิศทางเดียวกันหมดเพื่อให้น้ำพัดพาตัวพวกมันไปอย่างสนุกสนาน ขี้ตื่นตกใจกับสถานการณ์ที่ไม่ปกติโดยเฉพาะเวลาที่เกิดน้ำป่าไหลหลากหรือกระแสน้ำไหลไม่เหมือนเดิม มีการรบกวนของสิ่งมีชีวิต มันจะกระโจนขึ้นจากผิวน้ำกันบ่อย ๆ เมื่อตกใจและว่ายกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง จากนั้นก็จะกลับมาเกาะกลุ่มตามเดิมเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติหรือพ้นจากอันตรายแล้ว บางทีก็จะอยู่ตามซอกหิน

อาหารสุดโปรดปรานของ “ปลาก้างพระร่วง”

“ปลาก้างพระร่วง” มีอาหารสุดโปรดที่ชื่นชอบ ได้แก่ แมลงน้ำขนาดเล็กอย่างพวกจิงโจ้น้ำ แพลงก์ตอนพืชน้ำ และปลาที่มีชนิดเล็กอยู่ในแหล่งน้ำเดียวกันซึ่งมันก็เป็นนักกินที่เร็วอยู่เหมือนกัน เห็นดูเชื่องช้าต๊ะต่อนยอนแบบนี้ และไม่กินจุด้วย

เครดิตภาพ : twitter.com/knowledge_onlyy

#สัตว์ใต้น้ำ #ความรู้เรื่องสัตว์ #ปลาก้างพระร่วง

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงกุ้งฝอย

กุ้งฝอยเป็นกุ้งน้ำจืด พบได้ตามแหล่งน้ำทั่วไปทั่วทุกภาคในประเทศไทย คนไทยนิยมรับประทานกุ้งฝอยกันเป็นจำนวนมาก นำมาทำเป็นอาหารได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น กุ้งเต้น อันนี้ถือว่าเป็นเมนูเด็ดเลยก็ว่าได้ ทอดมันกุ้ง น้ำพริกกุ้งฝอย กุ้งปอยทอดกรอบและเมนูอื่นๆ กุ้งฝอยถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารค่อนข้างสูง มีทั้งโปรตีน และแคลเซียม รวมถึงสารอาหารอื่นๆ นอกจากกุ้งฝอยจะเป็นที่นิยมรับประทานกันแล้ว ยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงกันอีกด้วยเนื่องจากกุ้งฝอยเลี้ยงง่ายสร้างรายได้สูง เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากเพราะกุ้งฝอยตามธรรมชาติไม่เพียงพอต่อการบริโภคของผู้คน จึงมีการเลี้ยงกุ้งฝอยกันมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนั้นเอง ซึ่งราคาของกุ้งฝอยนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 บาทกันเลยทีเดียวถือว่าราคาค่อนข้างสูงไม่แพ้กุ้งประเภทอื่นๆกันเลยทีเดียว นอกจากเลี้ยงง่ายแล้วยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

การเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์ 

เกษตรกรหลายๆท่านหันมาเลี้ยงกุ้งฝอยกันมากขึ้นเพราะเลี้ยงง่าย รายได้ดี เป็นที่ต้องการของตลาดและมีตลาดรองรับทั้งปี แถมมีราคาสูงอีกด้วย ซึ่งการเลี้ยงกุ้งฝอยนั้นสามารถเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ได้ วีธีการเลี้ยงกุ้งฝอยง่ายมากค่ะ เพียงแค่นำกุ้งฝอยจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาพักไว้ในกระชัง 1 คืน หลังจากนั้นให้เลือกกุ้งตัวเมีย ที่มีไข่ แยกออกมาอนุบาลในกระชังผ้าในบ่อซีเมนต์ให้อาการเช้า-เย็นวันล่ะ 2 ครั้ง ประมาณ 3- 4 วันไข่กุ้งก็จะฟักเป็นตัว หลังจากนั้น แยกแม่กุ้งกับลูกที่เพิ่งฟักออก เพื่อนำไปอนุบาลอีกที การอนุบาลควรจะอนุบาลในกระชังผ้า การอนุบาลเราต้องแยกขนาดของกุ้งเพื่อความสะดวกในการเพาะเลี้ยงต่อไป ส่วนอาหารสำหรับลูกกุ้งที่เราอนุบาลนั้นอาทิตย์แรกควรให้อาหารเป็นไข่แดงตัมสุก หรือไรน้ำจืด เมื่ออนุบาลครบ 1 เดือนแล้ว ก็นำมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์หรือกระชังได้เลย การเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์จะให้อาหารเป็นอาหารสำเร็จรูป ระยะเวลาในการเลี้ยง ประมาณ 3-4 เดือนก็สามารถจับจำหน่ายได้แล้ว

เทคนิคง่ายๆในการเร่งให้กุ้งฝอยวางไข่

กุ้งฝอย ชอบน้ำไหลเพราะน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่ กุ้งชอบน้ำไหลชอบเล่นน้ำ เมื่อมีน้ำไหลกุ้งจะดีดตัวทำให้ไข่หลุดลงมา เราต้องสร้างน้ำไหลให้กับกุ้งที่เลี้ยงในบ่อด้วยบการใช้สายยางเปิดน้ำแรงๆทำให้น้ำไหลเวียนในบ่อเปิดแรงๆประมาณ 10-20 นาทีเพื่อเป็นการเร่งการวางไข่ให้กุ้งนั้นเอง นอกจากการเลี้ยงกุ้งฝอยในบบ่อซีเมนต์แล้ว ยังสามารถเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อดินได้ด้วยนะคะ ส่วนอาหารกุ้งที่เลี้ยงในบ่อดินใช้แบบเดียวกันกับที่ใช้เลี้งกุ้งในบ่อซีเมนต์ค่ะ

เครดิตภาพ : kasettumkin.com, coachnong.com

#ทริคการเลี้ยงสัตว์ #ความรู้สัตว์น้ำจืด #การเลี้ยงกุ้งฝอย