Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สัตว์น้อยน่ารัก ไร้เสียงรบกวน

สำหรับหลายๆ คนที่อยากจะเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนยามเหงา แต่กลัวในเรื่องของเสียง ว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะเสียงดังรบกวนห้องข้างๆ ไหม ยิ่งถ้าพักอยู่ในย่านที่มีคนอยู่เยอะๆ อย่างคอนโด หรือหอพักแล้วละก็ การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เราจะเลี้ยงเพื่อนตัวน้อยของเราไว้ได้นั้น จำเป็นที่จะต้องดูแลให้ดีและที่สำคัญต้องดูแลและควบคุมในเรื่องของเสียงให้ได้ด้วย ถ้าเป็นประเภทสุนัขตัวน้อยหรือแมวละก็ ลืมไปได้เลย เราไม่มีทางที่จะไปควบคุมการส่งเสียงร้องของเจ้าพวกนี้ได้แน่ วันนี้จึงมีสัตว์เลี้ยงน่ารักไร้เสียงรบกวนมาแนะนำ

เครดิตภาพปกจาก : https://animalknow.com/beautiful-snake-species-030963/

สัตว์จอมเงียบ

เครดิตภาพจาก : https://sites.google.com/site/onturtles/thekhnikh-kar-leiyng-tea-bk

1. เต่าบก

เป็นสัตว์เลี้ยงที่ไร้เสียงรบกวนอย่างแน่นอน เต่าเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักความสงบ เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างมีอายุยืน แทบจะเรียกได้ว่ามันเติบโตไปพร้อมๆ กับเราเลยก็ว่าได้ โดยเราสามารถเลี้ยงเจ้าตัวน้อยไว้ในกล่องได้ โดยต้องไม่ลืมที่จะพาไปอาบแดดบ่อยๆ เนื่องจากมันต้องออกมารับวิตามินในช่วงเช้า

2. งูสวยงาม

แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงที่ไร้เสียงที่คนนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ เลย นั่นก็คืองู แต่เป็นงูที่มีลวดลายสวยงามนะ ไม่ใช่ประเภทงูมีพิษหรือทำร้านคนได้ โดยงูนั่นไร้เสียงรบกวน และใช้พื้นที่ในการดูแลค่อนข้างน้อย ตอบโจทยืสำหรับผู้ที่อยู่ในคอนโดหรือหอพักมาก โดยควรจะดูแลมันให้ดี อย่าให้หลุดไปยังห้องข้างๆ เดี๋ยวจะจกใจกันไปหมด

3. กิ้งก่าคาเมเลี่ยน

เป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสีไปตามอารมณ์และสภาพแวดล้อมได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยมาพร้อมกับดวงตาที่กรอกได้โดยรอบ ควรเลี้ยงพวกมันไว้ในตู้ทรงสูง ที่ตกแต่งภายในด้วยกิ่งไม้ ใบไม้ ต้นไม้

4. กุ้งแคระ

วิธีการดูแลนั้นค่อนข้างคล้ายกับปลา โดยกุ้งนั้นมีขนาดเพียงแค่ปลายนิ้ว แต่มีสีสันสดใส คล้ายปลาคาร์ฟ เช่น สีแดง แดงส้ม แดงสลับขาว โดยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเลี้ยงสัตว์ตัวเล็กและไร้เสียงรบกวน

เครดิตภาพจาก : https://www.aquamaniath.com/article/1/%E0%B8%81%E0%

สัตว์น้อยน่ารักทั้งหลายเหล่านี้ไร้เสียงรบกวน จึงสามารถที่เลี้ยงในห้องเดียวได้ แต่แน่นอนว่าบางชนิดอาจมีรูปร่างหน้าตาที่ค่อนข้างน่ากลัว อาจทำให้เพื่อนบ้านตกใจได้ ดังนั้นควรนำสัตว์เลี้ยงน่ารักเหล่านี้เข้ามาเลี้ยงอย่างถูกวิธี และปลอดภัยต่อคนรอบข้าง

#สัตว์เลี้ยงเสียงเงียบ #เลี้ยงสัตว์ในคอนโด #แนะนำสัตว์น่าเลี้ยง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ปลาทองสวยงาม 9 สายพันธุ์ ที่เลี้ยงไว้ดูแก้เหงาก็ได้ หรือจะส่งไปประกวดก็ดี

        ปลาทองและปลาสวยงามต่าง ๆคืออีกตัวเลือกสำหรับคนที่อยากมีสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองเพราะนอกจากหมาและแมวแล้ว ปลาทองก็เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนไทยอีกหนึ่งชนิด ยิ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีทั้งสวยงาม และเอกลักษณ์เป็นของตัวเองด้วยแล้วยิ่งน่าเลี้ยงมากขึ้นไปอีก แถมปลาทองยังเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก เลี้ยงง่าย และมีชีวิตชีวา แถมชื่อยังเป็นมงคลอีกด้วยซึ่งใครที่กำลังคิดจะหาปลาทองมาเลี้ยงที่บ้านก็ต้องหาข้อมูลกันดูก่อนว่าชอบสายพันธุ์ไหน โดยวันนี้เรามีปลาทอง 9 สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในไทยมาฝากให้เป็นไอเดียเพื่อใช้เป็นตัวเลือกในการหาปลาทองมาเลี้ยงได้แบบถูกใจเราที่สุด

1. ปลาทองโคเมท

          ปลาทองพันธุ์โคเมท (Comet) คือต้นตระกูลของปลาทองที่คนไทยนิยมนำมาเลี้ยงมากที่สุดเพราะลักษณะเหมือนปลาคาร์พแต่หางยาวกว่า ลำตัวแบนยาว ปลายคอดแหลม สีสันสวยงาม คือ อาจมีสัทั้งตัว สีแดงสลับขาว สีทอง หรือ 5 สีในตัวเดียวกันวึ่งค่อนข้างมีเอกลักณ์ที่สวยงามในตัว

2. ปลาทองริวคิน

           ปลาทองพันธุ์ริวคิน (Ryukin) เป็นปลาทองที่ได้รับความนิยมมากทั้งในไทยและญี่ปุ่น เนื่องจากมีลักษณะสวยงาม สีสันสดใส ลำตัวและท้องอ้วนกลมสั้น หัวไม่มีวุ้น โหนกหลังสูง หางยาวเป็นพวง บานออกเวลาว่ายน้ำ สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีกตามสี คือ ริวคินสีแดงหรือสีขาว-แดง และริวคิน 5 สี (สีแดง สีส้ม สีดำ สีขาว และสีฟ้า)

3. ปลาทองหัวสิงห์ญี่ปุ่น

          ปลาทองพันธุ์หัวสิงห์ญี่ปุ่น (Ranchu) เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก ๆสำหรับคนเลี้ยงปลาทอง เพราะสามารถนำมาประกวดเพื่อแข่งขันเอาเงินรางวัลได้เพราะพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่มีสีส้มเข้มเหลือบทอง

4. ปลาทองหัวสิงห์สยาม

          ปลาทองพันธุ์หัวสิงห์สยาม หรือหัวสิงห์ตามิดดำ (Siamese Lionhead) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไทย เป็นปลาทองลูกผสมที่มีลักษณะคล้ายปลาทองพันธุ์หัวสยามสิงห์ญี่ปุ่น แต่ลำตัวไม่หนามาก และวุ้นเยอะจนเกือบปิดตา และมีลักษณะเด่นคือ มีสีเทาหรือสีดำสนิททุกส่วนทั่วทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น ครีบ เหงือก วุ้น และเมือก

5. ปลาทองออรันดาหัววุ้น

          ปลาทองพันธุ์ออรันดาหัววุ้น (Dutch Lionhead) เพาะพันธุ์ขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่น เป็นสายพันธุ์ยอดฮิตและยอดนิยมอีกสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงในไทย เป็นปลาทองในตระกูลออรันดา ลักษณะเด่น คือ มีวุ้นเล็กละเอียดบนหัวเยอะจนเป็นก้อนกลม ๆ คล้ายสวมหมวก ครีบทั้งบนหลังและหางแผ่กว้าง ส่วนใหญ่มีสีแดงหรือสีขาวปนแดง

6. ปลาทองเล่ห์

          ปลาทองพันธุ์เล่ห์ (Black Telescope Eyes Goldfish) อยู่ในกลุ่มปลาทองตาโปน ที่จุดเด่นที่น่าเลี้ยง คือ มีสีนากหรือสีดำสนิททั้งตัวและครีบ สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีกตามลักษณะลำตัวและหาง เช่น เลห์กระโปรง เล่ห์ตุ๊กตา เล่ห์ควาย และเล่ห์หลังอูฐ เป็นตัน

สายพันธุ์ปลาทองที่ขยายพันธุ์ในไทยสามารถนำไปประกวดเพื่อเงินรางวัลหรือเลี้ยงเพื่อความสวยงามในบ้านที่ช่วยให้ผู้เลี้ยงรู้สึกสงบ และได้ใช้เวลาในการดูแลสัตว์เลี้ยงซักตัว

7. ปลาทองตาลูกโป่ง

          ปลาทองพันธุ์ตาลูกโป่ง (Bubble Eye Goldfish) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน พันธุ์นี้ส่วนใหญ่มีสีแดงหรือสีขาวปนแดง ลักษณะลำตัวคล้ายกับพันธุ์สิงห์จีน คือ ไม่มีวุ้นที่หัว ไม่มีครีบหลัง และครีบหางยาว แต่ที่เบ้าตาจะมีถุงน้ำขนาดใหญ่ที่โปร่งแสงและขนาดเท่ากันติดอยู่ใต้ตา เหมือนกับลูกโป่งเล็ก ๆจนเป็นที่มาของชื่อสายพันธุ์

8. ปลาทองเกล็ดแก้ว

          ปลาทองพันธุ์เกล็ดแก้ว (Pearl Scale Goldfish) จะเป็นพันธุ์ที่มีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์มากที่สุดเพราะมีลักษณะลำตัวอ้วนกลมหรือป้อมสั้น แต่หัวเล็กแหลม แถมยังมาพร้อมกับเกล็ดที่หนา แข็ง และนูน  ส่วนใหญ่มีสีขาว สีส้ม และสีทอง สามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีกหลายสายพันธุ์ตามแต่ความสวยงาม

9. ปลาทองหัวสิงห์จีน

          ปลาทองพันธุ์หัวสิงห์จีน (Chinese Lionhead) ถือเป็นต้นตระกูลของปลาทองพันธุ์หัวสิงห์ที่นิยมเลี้ยงในไทยกันอยู่ตอนนี้ โดยพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ลักษณะลำตัวค่อนข้างยาว แต่หัวใหญ่กว่าตัวมาก จุดเด่นของ ปลาทองพันธุ์หัวสิงห์จีน คือมีวุ้นที่หัวเยอะและหนากว่าหัวสิงห์สายพันธุ์อื่น มักมีสีแดงหรือสีส้มแกมทอง โตตามขนาดบ่อ เฉลี่ยประมาณ 15 เซนติเมตร อายุประมาณ 5-7 ปี

วิดีโอเพิ่มเติม :

TOP5 Goldfish 5 สายพันธุ์ปลาทองที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด

เครดิตรูปภาพ kapook.com

#ปลาทองน่าเลี้ยง #ปลาทองยอดนิยม #สายพันธ์ุปลาทอง

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

9 ต้นไม้จิ๋ว ตั้งโต๊ะทำงาน อยู่ในร่มได้สบาย

ต้นไม้จิ๋วหรือแคระ เป็นต้นไม้ที่นำมาปลูกเลี้ยงในพื้นที่จำกัด เช่น ในคอนโด บ้าน บนโต๊ะทำงาน เป็นต้น ในประเทศญี่ปุ่นเรียกต้นไม้จำพวกนี้ทั้งหมดว่าบอนไซ ซึ่งมันจึงถูกย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลงมา ในปัจจุบันมีหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไม้ใบ ไม้ดอก หรือไม้ผล ตอบโจทย์ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีพื้นที่จำกัด และคนทำงานที่ต้องการปลูกเพื่อให้ความสดชื่น บางชนิดเป็นพืชมงคล และมีความสวยงามไม่แพ้ต้นไม้ใหญ่ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่กำลังเป็นที่นิยม

ต้นไม้บนโต๊ะทำงาน ให้ความสดชื่น สวยงาม และให้ความเป็นสิริมงคล

                  1. แคคตัส หนึ่งในตระกูลกระบองเพชร ที่มีความแข็งแรง เลี้ยงง่ายโตเร็ว ไม่ต้องรดน้ำทุกวัน จึงเป็นพืชที่เหมาะกับโต๊ะทำงาน นอกจากนี้ยังมีสายพันธุ์มากกว่า 1,500 สายพันธุ์ให้เลือก การดูแลแค่รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง และนำมาตั้งให้โดนแดดในบางครั้งก็เพียงพอแล้ว

                  2. ต้นไม้อากาศ พืชเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องลงดิน ใบมีลักษณะอวบกลม หรือเรียวยาว ทำให้ดูคล้ายกับแมงมุม ทำหน้าที่ยึดเกาะตามพื้นแห้ง ๆ เพื่อรับสารอาหารแทนรากได้ด้วย ซึ่งพืชชนิดนี้มีมากกว่า 650 สายพันธุ์ วิธีการเลี้ยงดูไม่ยุ่งยากฉีดพ่นน้ำเพียงวันละ 1-2 ครั้ง ในแต่ละสัปดาห์นำไปแช่น้ำประมาณ 40 นาที แล้ววางไว้บนผ้าหน้า ๆ ผึ่งให้แห้ง และนำออกไปวางรับแสงแดดในบางวัน

                  3. ใบเงิน หรือต้นไม้สวรรค์ เป็นต้นไม้จิ๋ว ใบอวบ กลม ซ้อนกันหลายชั้น ลำต้นตรงและเป็นพุ่ม ออกดอกสีขาวหรือสีชมพู ชอบดินแห้ง ทนร้อน ทนแล้งได้ในระดับปานกลาง มีสายพันธุ์มากกว่า 300 สายพันธุ์ การดูแลแค่รดน้ำวันละ 1 ครั้งในตอนเช้า ที่สำคัญอย่าให้โดนแดดแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้เฉาตายได้

                  4. เศรษฐีเรือนใน มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษ จึงเหมาะกับการนำมาปลูกไว้ที่บ้านหรือโต๊ะทำงาน ลักษณะใบเรียวยาว แบน พลิ้วไหว และทรงพุ่ม วิธีการดูแลคือปลูกในกระถางดินร่วน รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง นำออกไปรับแสงแดดอ่อน ๆ บ้าง

                  5. ว่านหางจระเข้ ไม้ล้มลุก ลำต้นเป็นข้อปล้อง ใบอวบหนา และมีหนาว ภายในมีวุ้นใส ๆ ใช้ได้สารพัดประโยชน์ ซึ่งในปัจจุบันมีมากกว่า 300 สายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป วิธีการดูแลให้รดน้ำปานกลาง นำไปตั้งให้ได้รับแสงแดด แต่ไม่ต้องบ่อยมาก

                  6. ลิ้นมังกร จัดอยู่ในกลุ่มต้นไม้ดูดสารพิษ และมีความหมายมงคลที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากสิ่งชั่วร้าย วิธีการเลี้ยงไม่ยาก ไม่ต้องดูแลมากมาย รดน้ำวันละครั้ง บริเวณโคนต้น ชอบแสงน้อย คงอยู่ได้นาน มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดียว เรียวยาว และหนา มีมากกว่า 70 สายพันธุ์ให้เลือกนำมาปลูก

                  7. ไม้อวบน้ำ มีลักษณะอวบอิ่มน้ำ แลดูสดชื่น ไม่ต้องรดน้ำมาก สามารถทนอยู่ได้แม้อากาศร้อน และแล้ง มีให้เลือกปลูกมากมายหลายสายพันธุ์ วิธีดูแลรดน้ำเพียงอาทิตย์ละครั้ง เอาออกมารับแดดบ้าง แต่อย่ารดน้ำตอนอากาศชื้น เพราะอาจจะเน่าและตายได้

                  8. ไผ่ โดยเฉพาะไผ่กวนอิม มีขนาดเล็ก ดูแลง่าย เป็นต้นไม้มงคลที่ให้ในเรื่องของโชคลาภเงินทอง วิธีดูแลให้รดน้ำปานกลาง มีแสงน้อยก็อยู่ได้ และให้ปุ๋ยเพียงเดือนละครั้งเท่านั้น

                  9. ไทร ขนาดเล็กหรือไทรแคระ เป็นไม้พุ่มผลัดใบ มีลักษณะใบเลี้ยงเดี่ยว หลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป ทนในทุกสภาพอากาศ เป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำน้อย ชอบดินแห้ง แสงแดด หากลืมดูแลก็ยังคงอยู่ได้ไม่ตายง่าย ๆ

การดูแลรักษา

              เนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดเล็กการดูแลรักษาก็มีความแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดและประเภท โดยเฉพาะต้นไม้จิ๋ว ควรควบคุมการเจริญเติบโต และควรตัดแต่งอย่างสม่ำเสมอ ให้ได้รูปทรงตามต้องการ ซึ่งหากปลูกในกระถาง ควรมีขนาดเล็ก และมีรูระบายน้ำได้ดี ในการควบคุมปริมาณของดินและน้ำได้ ที่สำคัญต้องมีสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของต้นไม้ด้วย ทั้งนี้ควรหมั่นตัดแต่ง เล็มกิ่ง ใบ เพื่อบังคับให้มีขนาดและรูปทรงของต้นไม้เหล่านี้ไว้ ในส่วนของการรดน้ำควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป นอกจากนี้ควรวางไว้ที่มีแสงแดดพอดี ในการบังคับไม่ให้ลำต้นมีได้รับแสงจนกิ่งยาวผิดรูปได้ และบริเวณที่ปลูกต้องมีอากาศถ่ายเทมีลมพัดผ่านอยู่เสมอ

              ต้นไม้จิ๋ว มีขนาดเล็กกว่าปกติ และอายุของมันขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ ต้นไม้ทุกต้นมีความต้องการน้ำ สารอาหารและแสงแดด เพื่อการเจริญเติบโต หากเราดูแลต้นไม้เป็นอย่างดี นอกจากจะทำให้ต้นไม้มีอายุยืนยาวแล้ว ยังช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น สบายใจ เสริมดวงโชคลาภได้อีกด้วย

เครดิตภาพ : readthecloud.co / campus-star.com / smeleader.com

Youtube :

ปลูกต้นไม้ “สายย่อ”

6ต้นไม้มงคลประดับโต๊ะทำงานเสริมสิริมงคล

#ต้นไม้จิ๋ว #ต้นไม้โต๊ะทำงาน #ต้นไม้ในร่ม

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ทำได้อย่างไร?

การจัดสวนถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนชื่นชอบ เพราะว่าเป็นกิจกรรมที่จะช่วยทำให้คุณนั้นได้พักผ่อนหย่อนใจอีกทั้งยังได้ส่วนที่ถูกต้องตามความต้องการของคุณเองไว้ในบ้านที่คุณรักอีกด้วย สำหรับวันนี้เราได้นำเอาอีกหนึ่งไอเดียเกี่ยวกับการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น มาแนะนำกัน ลองไปดูกันซิว่าการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น นั้นจะมีอะไรที่น่าสนใจและจะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจกันบ้างลองไปดูรายละเอียดกันเลย

การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น 

  1. ต้นไม้ใหญ่ในบ้าน การเลือกต้นไม้ใหญ่ไว้สำหรับปลูกไว้ในบ้านนั้น คุณจะต้องเลือกต้นไม้ที่สามารถผลิใบตลอดทั้งปี เพราะเนื่องจากสวนของเรานั้นจะต้องเป็นสีเขียวตลอดเวลา ถึงจะทำให้สภาพโดยรอบของส่วนนั้นดูมีชีวิตชีวาและชุ่มชื่น การเลือกพันธุ์ไม้ที่สามารถผลิใบจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ชาวญี่ปุ่นจึงเลือกใช้ต้นพยอมและชุมแสง เป็นต้นไม้ประดับในบ้านนั่นเอง 
  2. การเลือกปูพื้นด้วยมอส แน่นอนเลยว่าจะทำให้บ้านของคุณนั้นสดชื่นทันที เพราะเนื่องจากคุณนั้นจะต้องมีระบบน้ำที่สามารถเปิดให้ความชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้บริเวณรอบรอบบ้านของคุณนั้น มีอากาศที่ดีกันเอง
  3. การปูพื้นทางเดินด้วยหิน เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับสวนดอกไม้ของคนญี่ปุ่น 
  4. การจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยการทำน้ำพุหรือแหล่งน้ำไว้สำหรับตกแต่งสวน นอกจากจะช่วยให้บริเวณรอบๆนั้นได้รับของชุมชื่นแล้ว ยังช่วยให้สวนของคุณนั้นดูเย็นขึ้นอีกด้วย 
  5. การเลือกพันธุ์ไม้ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักสำคัญที่จะช่วยให้ส่วนของคุณนั้นมีความร่มรื่น คุณสามารถเน้นโทนสีเขียวหรือใบไม้สีเขียว ไม่ว่าจะเป็นสีอ่อนหรือสีเข้ม ควรที่จะมีใบอยู่ตลอดทั้งปีนั่นเอง นอกจากนี้ดอกไม้ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตกแต่งสวน เป็นควรที่จะแยกประเภทพันธุ์ไม้ให้อยู่รวมกัน เพราะนอกจากจะช่วยให้ดูแลง่ายแล้ว ยังสามารถทำให้ส่วนของคุณดูมีระเบียบอีกด้วย 
  6. ปลาคราฟ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมอย่างมาก ซึ่งบ่อปลาคาร์ฟนี้จะต้องมีระบบบอกที่ดี ไม่ว่าคนนั้นจะออกแบบมาอยู่ในรูปแบบของน้ำ หรือสำหรับน้ำพุก็ตามควรที่จะกำหนดความกว้างของบ่อ ให้เหมาะสมกับพื้นที่สวน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลการจัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น ที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่จะช่วยทำให้บ้านของคุณนั้นมีชีวิตชีวาและกลับมาชุ่มชื้นได้เป็นอย่างเดียว และนอกจากนี้แล้วยังช่วยทำให้ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้อายุอาศัยได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสวยงามและความสดชื่นให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลอะไรที่น่าสนใจมาแนะนำกันอีกนั้นบอกเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

วิดีโอเพิ่มเติมน่าสนใจ :

ASMR Japanese Zen garden 禅の庭

#จัดสวนสไตล์ญี่ปุ่น #สวนญี่ปุ่น #จัดสวนญี่ปุ่นให้สวย

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สัตว์เลี้ยงยอดนิยมของคนญี่ปุ่น

มนุษย์นั้นนิยมเลี้ยงสัตว์ เพื่อไว้เป็นเพื่อนยามเหงาหรือเป็นผู้รับฟังปัญหาต่างๆ ของมนุษย์ ถึงแม้ว่าสัตว์เลี้ยงนั้นจะไม่สามารถพูดหรือสื่อสารได้เหมือนมนุษย์ แต่พวกมันก็มีการแสดงออกถึงความห่วงใยต่าง ๆ ผ่านท่าทางของพวกมันได้ ซึ่งท่าทางนั้นมีความแตกต่างกันไปในสัตว์แต่ละชนิด

เครดิตภาพปกจาก : https://www.evergreensportsplex.com/pet-policy

คนญี่ปุ่นนั้นถือเป็นชาติที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงสัตว์มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกา บราซิล จีนและรัสเซีย โดยคนญี่ปุ่นนั้นนิยมเลี้ยงสุนัขมากเป็นอันดับ 1 และแมวเป็นอันดับ 2 แต่นอกจากสุนัขและแมวแล้ว ยังมีสัตว์เลี้ยงอีกมากมายหลายชนิดที่คนส่วนมากแทบไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นเขานิยมเลี้ยงสัตว์ประเภทนี้ด้วย

สัตว์เลี้ยงยอดนิยมในญี่ปุ่นที่ประเทศอื่นไม่เคยรู้

เครดิตภาพจาก : http://pbm10476.blogspot.com/2016/08/blog-post.html

1. เฟอเรท

เฟอเรทเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลวีเซล ลักษณะเด่นคือลำตัวยาว หน้าตาจิ้มลิ้ม มีขนฟู เป็นสัตว์ที่ไม่กลัวคน เฟอเรทนั้นเหมาะแก่การเป็นสัตว์เลี้ยงมาก หน้าตาคล้ายตัวนาก แต่มีความน่ารักและเป็นมิตรกว่า

2. กระต่ายหูห้อย

เป็นกระต่ายพันธุ์ที่มีใบหูยาวและห้อย โดยความยาวของหูจะแตกต่างกับไปแล้วแต่สายพันธุ์ โดยสัญชาติญาณของมันคือการแทะ ดังนั้นควรดูแลมันให้ดีให้อยู่ในกรงหรือให้อยู่ในที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแทะสายไฟหรือโต๊ะ

3. เดกู หนูฟันแทะ

เป็นหนูที่มีลักษณะเล็ก และมีบุคลิกที่อ่อนโยนและเชื่องมาก ดังนั้นจึงเป็นหนูที่ค่อนข้างเข้ากับมนุษย์ได้ง่าย โดยสามารถฝึกฝนให้ทำท่าทางต่าง ๆ ตามมนุษย์ได้ แต่มีผิวหนังที่บอบบางควรจับหรือเล่นกับมันเบาๆ

4. แฟนซีแรต

เป็นหนูที่ได้รับการดัดแปลงสายพันธุ์ใหม่เพื่อเป็นหนูเลี้ยงโดยเฉพาะ โดยผู้เลี้ยงมักจะวางลงที่ฝ่ามือหรือเกาะไหล่ เมื่อพามันไปในที่ต่าง ๆ

5. กระรอกบิน ชูการ์ไรเดอร์

เป็นสัตว์ที่มีสายพันธุ์เดียวกับกระรอก โดยมีขนาดตัวเท่ากับกระรอกที่เติบโตในกระเป๋า ไม่ต่างจากจิงโจ้และหมีโคอาล่า และเพราะขนาดตัวที่เล็กและนิสัยขี้อาย การเคลื่อนไหวตัวเร็วจึงทำให้คนตกใจได้ง่าย จึงควรระวังมันบินหนีไป

เครดิตภาพจาก : https://pet-az.com/th/breeds/dog/japanese-spitz.html

แม้ว่าการเลี้ยงสัตว์อาจเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับใครหลายคน แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีการดูแลเอาใจใส่เขาเหมือนมนุษย์คนหนึ่ง สื่อสารเหมือนเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ดูแลกันเหมือนสัตว์เลี้ยงเป็นดั่งมิตรสหายคนหนึ่ง

#สัตว์เลี้ยงฮิตคนญี่ปุ่น #สัตว์ที่คนญี่ปุ่นนิยมเลี้ยง #สัตว์เลี้ยงยอดนิยม

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

ต้นไม้ประดับ 6 สายพันธุ์พร้อมคุณประโยชน์ ต้นไม้ดักฝุ่น !!!

ปัญหาของฝุ่นเป็นหนึ่งปัญหาที่สามารถแก้ไขได้มากที่สุด โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่มีฝุ่นในค่า PM 2.5 ที่เป็นฝุ่นในค่าที่เล็กมากที่สุดจึงทำให้เรานั้นจะต้องมีวิธีป้องกันที่ดีที่สุดนั่นเอง วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งสุดยอดวิธีป้องกัน ในการดักฝุ่นเหล่านั้นด้วยการปลูกต้นไม้ ซึ่งเรามาดูกันว่าต้นไม้ดังต่อไปนี้มีต้นไม้ดักฝุ่นอะไรบ้างและจะสามารถดักจับฝุ่นได้อย่างไร

สายพันธุ์ต้นไม้ดักฝุ่น

1. ไทรเกาหลี 

ไม้ประดับตกแต่งบ้าน ลักษณะเป็นต้นไม้พุ่มทรงสูง แต่ละพุ่มแน่น สง่า แข็งแรงแต่ละกิ่งแข็งแรง เป็นทรงพุ่มสีเขียวขจีตลอดทั้งปี นิยมนำมาปลูกประดับบ้าน สามารถเป็นกำแพงบ้านได้ ให้ความร่มรื่น สดชื่นไปอีกแบบ มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถดักจับฝุ่นละออง เสมือนกรองอากาศอีกชั้นหนึ่ง

2. คริสตินา

ต้นไม้ดักฝุ่นพุ่มขนาดใหญ่ ค่อนมาขนาดกลาง นิยมปลูกในกระถาง หรือ ปลูกลงดินเป็นกลุ่มๆมัก ตัดแต่งทรงพุ่มเป็นประจำ เพื่อความสวยงาม และการแตกยอดอ่อน

3. โมก

ไม้พุ่มขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงเพียง 1-3 เมตรเท่านั้น มักขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ การตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด ไม้ต้นนี้ดูแลง่าย เจริญเติบโตได้ดีในที่แสงแดดจ้า ทนต่อความร้อนจุดเด่น ดอกออกช่อตามซอกใบ กลิ่นหอม สร้างความผ่อนคลายในยามเย็น

4. ตะขบ

ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลำต้นสูง 5-7 เมตร และสูงได้ถึง 10 เมตรเมื่อเจริญเติบโตเต็มที่ แตกกิ่งก้านสาขา แผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง ไม้ต้นนี้ออกผล รับประทานได้ สรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงกำลัง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ให้ความร่มเงาแก่ตัวบ้าน

5. พวงครามออสเตรเลีย

ต้นไม้ดักฝุ่นเป็นไม้เลื้อย ใบขนาดใหญ่ ออกดอกตลอดทั้งปี มักขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ ก่อนปลูกลงดิน เจริญเติบโตได้ดีในที่แสงแดดจ้า

6. อโศกอินเดีย

ไม้ยืนต้น พุ่มทรงพิรามิด ลำต้นเจริญเติบโตเต็มที่สูงถึง 25 เมตร ด้วยการเจริญเติบโต ของต้นไม้ที่มีความสูงอย่างมาก จึงนิยมปลูกเพื่อป้องกันลม ฝุ่น กลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม้ต้นนี้จึงเหมาะสำหรับการปลูกบริเวณโรงงานอุตสาหกรรมอย่างมาก

เป็นอย่างไรกันบ้างกับการปลูกต้นไม้ดักฝุ่นของเรา ซึ่งบอกเลยว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะต้นไม้ที่เรา บอกมานี้นอกจากจะช่วยให้อากาศบริเวณโดยรอบนั้นดีขึ้นได้แล้วต้นไม้เหล่านี้ ยังมี รูปลักษณ์ที่สวยงาม แถมยังดูแลได้ง่ายอีกด้วยหากใครสนใจกับข้อมูลในการตกแต่งบ้านหรือในการดูแลรักษาสุขภาพอื่นๆ ก็สามารถเข้ามาติดตามพวกเราได้เลย

วิดีโอเพิ่มเติม :

#ต้นไม้ดักฝุ่น #ต้นไม้ประดับ #ต้นไม้น่าปลูก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ปัญหาส่วนใหญ่กับการจัดสวนที่พบบ่อยมากที่สุด

การจัดสวนถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนนั้นชื่นชอบ เพราะคงไม่มีใครอยากให้บ้านของคุณนั้น ไม่มีธรรมชาติหรือไม่มีความสดชื่นแน่นอนว่าการจัดสวนจะช่วยทำให้บ้านของคุณนั้นดูร่มรื่น และมีความเป็นธรรมชาติน่าอยู่มากยิ่งขึ้น สำหรับวันนี้เราได้นำเอาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับปัญหาส่วนใหญ่ที่มักเกิดขึ้นกับการจัดสวนมาแนะนำกัน ลองไปดูกันเลยว่าจะมีรายละเอียดอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

ปัญหาที่พบบ่อยมากที่สุดในการจัดสวน

  1. การย้ายต้นไม้ใหญ่ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่วนใหญ่แล้วมักพบกันบ่อยมากที่ เพราะการย้ายต้นไม้ใหญ่ออกจากพื้นที่เดิมนั้น อาจมีความเสี่ยงแต่ละปัจจัยที่ทำให้ต้นไม้อาจตายได้ เพราะฉะนั้นการขุดล้อมต้นไม้ จากนั้นทำการตัดต้นไม้หรือบำรุงดินรอบต้นไม้ให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะย้ายตำแหน่งไปยังจุดอื่นๆ คงจะต้องแน่ใจว่าต้นไม้นั้นมีเปอร๋เซนรอดสูงที่สุด จากนั้นก็สามารถทำการย้ายไปยังที่ตำแหน่งได้ ซึ่งการเตรียมดินและเตรียมหลุมในการปลูกต้นไม้นี้ ต้องมีความลึกเท่าเดิม ใกล้เคียงมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ต้นไม้สามารถรอดจากการย้ายครั้งนี้ได้
  2.  ต้นไม้รบกวนพื้นที่รอบบ้าน เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนนั้นอาจจะไม่ได้คำนึงตั้งแต่แรก ต้นไม้ที่เราปลูกตั้งแต่แรกนั้นยังมีต้นที่เล็กอยู่ แต่พอต้นไม้ที่เราปลูกมีลำต้นหรือใบที่มีพื้นที่มากขึ้น จึงทำให้เข้าไปรบกวนในตัวบ้านของเราได้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะจัดการวางขอบเขตรอบนอกบ้านประมาณ 2-2.5 เมตรเสียก่อน จากนั้นค่อยทำการปลูกต้นไม้นั้นลงไปเป็นระยะห่างที่เหมาะสม ซึ่งพันธุ์ไม้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุณจะต้องศึกษา ว่ามีรากเข้าไปรบกวนตัวบ้านของคุณหรือไม่ เพราะฉะนั้นคงจะต้องมีแต่ขยะที่ปลูกต้นไม้ให้ห่างจากตัวบ้านเพิ่มมากขึ้น 
  3. หญ้าในสนามตายในช่วงฤดูแล้ง แน่นอนเลยว่าในช่วงนี้แดดและอากาศอาจจะไม่เป็นใจในการปลูกหญ้ามากนัก จึงทำให้ดูนี้ควรทิ้งระยะในการปลูกหญ้าไปเสียก่อน หากใครที่จำเป็นจะต้องปลูกหญ้าในช่วงฤดูนี้ เด็กจมน้ำจะเป็นปัจจัยหลักในการที่จะช่วยให้ย่าของคุณนั้นมีโอกาสรอดสูง จากนั้นการใช้หลังคาชั่วคราวในการบังแดด ก็ไปอีกวิธีที่คนทั่วไปใช้ในการปลูกหญ้าในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้คุณจะต้องเสริมสปริงเกอร์ในการลดน้ำตลอดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้สนามหญ้าของคุณนั้นชุ่มชื่นในช่วงฤดูแล้งได้นั่นเอง 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดสวนที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ ใครที่มักจะเจอปัญหาอยู่บ่อยๆในเรื่องของการจัดสวนก็สามารถที่จะนำเอาข้อมูลข้างต้นที่เรานำมาแนะนำกันนั้นไปประยุกต์ใช้กันดูได้เลย อย่างไรก็ตามการจัดสวนถึงแม้ว่าจะเป็นงานละเอียดอ่อน แต่ถ้าหากว่าเป็นความชื่นชอบของใครหลายๆ คนแล้วก็สามารถที่จะทำมันออกมาให้ดีได้อย่างง่ายดาย ครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลอะไรมาแนะนำกันอีกนั้นต้องติดตาม

#ปัญหาที่ต้องเจอเมื่อจัดสวน #เทคนิคการจัดสวน #แนะนำจัดสวน

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

เปลี่ยนมลพิษทางอากาศ ให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ได้ด้วยการปลูกต้นไม้ 3 สายพันธุ์นี้!

ปัจจุบันมีปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ที่ ทำให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่แย่ลง โดยเฉพาะปัญหาของปอด ซึ่งแน่นอนเลยว่าปัญหาเหล่านี้ หากคุณนั้นไม่รีบแก้ไขหรือไม่มีวิธีดูแลป้องกันสุขภาพอาจจะทำให้คุณเจ็บป่วยได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งสุดยอดวิธีด้วยวิธีธรรมชาติที่ช่วยให้สภาพอากาศเพราะบ้านของคุณเป็นสภาพอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยการปลูกต้นไม้ดังต่อไปนี้นั่นเอง

อากาศบริสุทธิ์ได้ด้วยการปลูกต้นไม้ 3 สายพันธุ์”

  1. ปาล์มหมาก ต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการฟอกคาร์บอนไดออกไซด์ ผ่านการสังเคราะห์ และคายก๊าซออกซิเจนออกมา เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสำหรับ 1 คน ควรปลูกต้นปาล์มหมากสูงระดับหัวไหล่ ประมาณ 4 ต้น คำแนะนำ ควรนำต้นปาล์มออกรับแสงแดดทุกๆ 3 – 4 เดือน และหมั่นทำความสะอาด ใบเป็นประจำ
  2. ลิ้นมังกร ต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการฟอกคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วคายออกซิเจนออกมาในช่วงเวลากลางคืน นิยมปลูกในห้องนอน เพื่อฟอกอากาศในยามค่ำคืน เพื่อประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสำหรับ 1 คน ควรปลูกลิ้นมังกร สูงระดับเอว ประมาณ 6 – 8 ต้น
  3. พลูด่าง คุณสมบัติเด่นช่วยขจัดกลิ่นฟอร์มาลีน น้ำยาซักแห้ง น้ำยาฟอกสี หรือแม้แต่ควันบุหรี่ก็สามารถขจัดกลิ่นได้

ต้นไม้ 3 สายพันธุ์นี้ สามารถฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้จริงหรือ ??

  1. Kamal Meattle ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ส่งผลให้ปอดทำงานได้เพียง 70% จึงเริ่มทำการศึกษาเกี่ยวกับการฟอกอากาศของต้นไม้ 3 สายพันธุ์ 1,200 ต้น ในอาคารที่มีผู้คนอาศัยอยู่ 300 คน
  2. ใช้ระยะเวลานาน 10 ชั่วโมง พบว่า ปริมาณก๊าซออกซิเจนเพิ่มสูงขึ้น 42%
  3. จึงทำการทดลองอย่างต่อเนื่อง พบว่า โรคระบบทางเดินหายใจ ลดลง 34% โรคหอบหืดลดลง 9%  โรคปอดลดลง 24% และการระคายเคืองตาลดลง 52%
  4. เมื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับการฟอกอากาศของต้นไม้ 3 สายพันธุ์ 1,200 ต้น ในอาคารที่มีผู้คนอาศัยอยู่ 300 คน พบว่า ต้นปาล์มหมาก , ลิ้นมังกร และพลูด่าง ช่วยปรับสภาพอากาศให้ดีขึ้นได้
  5. การปลูกต้นไม้ 3 ชนิดนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการป้องกันมลภาวะทางอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นอย่างไรบ้างกับการปลูกต้นไม้ดังต่อไปนี้ ซึ่งบอกเลยว่านอกจากจะช่วยให้อากาศรอบๆ บ้านของคุณนั้นบริสุทธิ์แล้วต้นไม้ดังกล่าวนี้ ยังมีรูปลักษณ์ที่สวยงามและมีเสน่ห์ในตัวของมันอีกด้วย ซึ่งคุณนั้นยังสามารถนำไปปรับใช้ในการตกแต่งบ้านหรือห้องนอนของคุณได้อีกด้วย ความจริงแล้วเรายังมีข้มูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับบ้านและสวนอีกมากมาย หากใครสนใจวิธีการดูแลสุขภาพหรือการจัดแต่งบ้านคุณก็สามารถเข้ามาติดตามพวกเราได้เลย รับรองได้เลยว่าคุณจะได้ไอเดียดีๆ กลับไปแน่นอน

วิดีโอเพิ่มเติม :

10 ต้นไม้ฟอก อากาศในบ้าน และห้องนอนและห้องน้ำ Pantip ได้อย่างดีเยี่ม

#ต้นไม้ฟอกอากาศ #มลพิษทางอากาศ #ฟอกอากาศในบ้าน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สัตว์เลี้ยงติดเทรนคนไทย ไม่มีคือตกเทรนนะจ้ะ

สัตว์เลี้ยงกับคนไทยนั้น อยู่ร่วมกันมาช้านาน บ้างเลี้ยงไว้เพื่อเป็นเพื่อน บ้างเลี้ยงว้เพื่อเฝ้าบ้าน บ้างเลี้ยงไว้เพื่อความเอ็นดู แต่แน่นอนว่าในเมื่อยุคสมัยผ่านไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันนี้ การเลี้ยงสัตว์นั้นได้กลายมาเป็นเทรน เปรียบเสมือนเป็น Must have item ที่คนติดตามเทรนจะต้องมี

เครดิตภาพจาก : https://pet.kapook.com/view131952.html

สัตว์เลี้ยงติดเทรน

เครดิตภาพจาก : https://pet.kapook.com/view3520.html

สุนัขพันธุ์เล็ก

เนื่องจากวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้นใช้เวลาอยู่ที่บ้านค่อนข้างน้อย แต่มักจะอยู่ตามคอนโดหรือหอพักแทน ดังนั้นการเลี้ยงสุนัยพันธุ์เล็กไว้นั้นก็ทำให้ดูแลค่อนข้างง่าย และไม่ยุ่งยากจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถพกพาไปยังที่ต่างๆ หรือทำความสะอาดได้สะดวกดีอีกด้วย

แมว

แน่นอนว่าทาสแมวนั้นมีเยอะแยะไปหมด อาจเป็นเพราะน่าที่น่ารักน่าเอ็นดูของมัน ทำให้แมวค่อนข้างเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์มาก ทั้งขนฟูๆ ตัวเล็กๆ นุ่มนิ่ม ได้มากอดสักตัวก็คงหลงอย่างโงหัวไม่ขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นิสัยของแมวนั้นค่อนข้างหยิ่งและมีอาวุธลับคือเล็บ ดังนั้นควรระวังให้ดีไม่อย่างนั้นจะโดยกรงเลบของมันเข้าได้

กระต่าย

กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดที่ค่อนข้างน่ารัก และนุ่มนิ่ม ที่สำคัญคือไม่สามารถใช้กรงเล็บทำร้ายเราได้เหมือนแมว เป้นสัตว์ที่ดูแลง่าย แต่ก็ต้องอาบน้ำทำความสะอาดตัวให้มันบ่อยๆ โดยถ้ามีสวนหย่อมเล็กๆ สามารภปล่อยมันออกมาเลี้ยงได้

ชูก้าไรเดอร์

เป็นสัตว์ประเภทเดียวกับกระรอก โดยมีความสามารถพิเศษในการกระโดดจากอีกที่หนึ่งไปยังที่หนึ่งได้อย่างอิสระ เมื่อมันกางอุ้งแขนออกจะทำให้มีลักษณะคล้ายปีก โดยดวงตาที่กลมโตของมันค่อนข้างมีเสน่ห์และเป็นที่สนใจสำหรับวัยรุ่นสมัยนี้มาก ในเรื่องของการดูแล และหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมัน บางคนมีค่านิยมที่คิดว่ามันเท่ห์ แปลก และหาได้ยาก ทำให้สัตว์ชนิดนี้ค่อนข้างเป็นที่สนใจสำหรับหลายๆ คนที่ชอบสัตว์เลี้ยง

ลิงมาโมเสก

เป็นสัตว์เลี้ยงติดเทรนอีกอย่างหนึ่งของพวกคนที่ค่อนข้างมีฐานะในระดับหนึ่ง เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างแพง โดยเจ้าลิงตัวน้อยนี้มีนิสัยค่อนข้างขี้เล่น และหน้าตาน่าเอ็นดู ทำให้ติดอันดับเป็นสัตว์เลี้ยงที่ติดเทรนมาก

เครดิตภาพจาก : http://www.palm-plaza.com/CCforum/DCForumID3/210391.html?11

                  ในการดูแลสัตว์เลี้ยงนั้น เราควรที่จะเลี้ยงเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ด้วยความรัก และเอาใจใส่ โดยไม่สักแต่ว่าเป็นสัตว์ที่ติดเทรนจึงนำมาเลี้ยงเท่านั้น เพราะสัตว์เหล่านี้ก็มีชีวิตไม่ต่างจากมนุษย์ ดังนั้นเมื่อนำเขามาแล้วก็ควรจะเลี้ยงและดูแลให้ดี

#สัตว์เลี้ยงยอดนิยม #เทรนสัตว์เลี้ยงคนไทย #สัตว์เลี้ยงติดเทรน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เมนคูน (Maine Coon) เจ้าเหมียวตัวยักษ์จอมขี้อ้อน

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุด ในบรรดาสายพันธุ์แมวบ้าน อีกทั้งยังเป็นแมวที่ผู้เลี้ยงนิยมกันมากๆ ดังนั้นเมื่อพูดถึงเจ้าเมนคูน ทุกคนจ้องรู้จักกันอยู่แล้วอย่างแน่นอน

และเมนคูนนั้นก็ยังมีชื่อเสียงในด้านความใจเย็น เรียบร้อย และมีจิตใจที่ดี นิสัยน่ารัก เป็นกันเองแถมยังฉลาด แสนรู้ ใครเห็นก็พากันเอ็นดู และหลงรักในความขี้อ้อนของเขา อีกทั้งยังเป็นแมวที่สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี และยังมีความเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆและเด็ก ต่อมามีสายพันธุ์แมวเปอร์เซียเกิดขึ้น จึงทำให้เมนคูนได้รับความนิยมลดลงเป็นอันดับ 2 แต่อีกไม่กี่ปีก็กลับมานิยมกันอีกครั้ง

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดรัฐเมน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำเนิดมาจากชาวเรือที่ได้พาแมวไปด้วย แล้วได้ปล่อยไว้ช่วงตอนไปทอดสมอ แมวจึงได้ผสมพันธ์ุกับแมวท้องถิ่น

ทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์เฉพาะขึ้นมา ด้วยลักษณะหางของเขาที่จะเป็นขนปุยๆ มีลายสีน้ำตาลคล้ายกับแรคคูนเท่านั้น “คูน” จึงเป็นที่มาของชื่อ ส่วนคำว่า “เมน” ก็จะมาจากถิ่นกำเนิดคือรัฐเมนนั่นเอง ก็เลยมีชื่อว่า “เมนคูน” ในสายพันธุ์แมวนี้

เมนคูน (Maine Coon) แมวเลี้ยงที่มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุด

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่ จึงทำให้มีหูและหัวที่ใหญ่เช่นกัน ส่วนช่วงอกนั้นจะกว้าง และขาจะหนา มีขนาดลำตัวค่อนข้างยาว ส่วนขนนั้นจะยาวหนาและนุ่ม

ทำให้เป็นแมวที่น่ารักน่ากอดมากๆ สีของขนก็จะมีหลายสี อาทิเช่น สีขาว สีดำ และน้ำตาล เป็นต้น และลักษณะของสีนั้นก็จะมีทั้งแบบสองสี สามสี สีเดียว หรืออาจจะไล่สีก็ได้ ส่วนน้ำหนักของแมวพันธุ์นี้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 4-8 กิโลกรัม และจะมีความสูงอยู่ที่ 76-101 เซนติเมตร ส่วนในเรื่องของอายุขัยจะมีอายุเฉลี่ยที่ 9-13 ปี

เมนคูน (Maine Coon) กับอาหารการกิน

เมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่ตัวโต จึงทำให้เขานั้นต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งสามารถให้ได้ทั้งแบบแห้ง แบบเปียก และแบบที่ปรุงสุกเลย แต่จะต้องมีสารอาหารที่ครบ ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นต่อเจ้าเมนคูนนั้น ก็คือ ทอรีน เพื่อจะเป็นโครงสร้างของโปรตีน โดยจะมีเฉพาะในเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลา ส่วนเวลาของการให้อาหารนั้น จะแบ่งให้เป็น 4 มื้อ โดยจะมีมื้อเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน ในเรื่องของปริมาณที่เหมาะสมนั้น จะต้องให้พอกับความต้องการของเขา ซึ่งจะต้องไม่มากไปหรือน้อยไป

การเลี้ยงดูเมนคูน (Maine Coon) เป็นแมวที่มีขนยาว ดังนั้น เราควรแปรงขนให้เขาอย่างน้องสัปดาห์ละสองครั้ง เพื่อที่จะเอาขนที่ตายออกไป และอีกอย่างที่ควรดูนั้น ก็คือขนตรงบริเวณหาง เพราะอาจมีอุจจาระ หรือสิ่งสกปรกติดอยู่ โดยถ้าหากว่ามีก็ให้เราทำความสะอาด ซึ่งจะต้องใช้ทิชชู่เปียกเช็ดตรงบริเวณนั้นเบาๆ ส่วนการอาบน้ำของเมนคูน ควรจะทำการอาบอย่างน้องสองอาทิตย์ต่อหนึ่งครั้ง

วิดีโอเพิ่มเติม :

5 เรื่องรู้หรือไม่ของแมวไซส์ยักษ์ “เมนคูน”

เครดิตภาพ

https://petmaya.com/  ภาพที่ 1,2

https://pixabay.com/th/photos/  ภาพที่ 3

#เมนคูน (Maine Coon) #แนะนำแมวน่าเลี้ยง #แนะนำสัตว์เลี้ยง