Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

5 ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกไว้ประดับให้เป็นรั้วบ้าน

            อีกหนึ่งไอเดียที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ก็คือการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน เพื่อให้บ้านของเรานั้นดูร่มรื่นใกล้ชิดธรรมชาติ แถวยังช่วงบดบังสายตาของผู้คนได้อื่นด้วย ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย วันนี้เราจึงมี 5 ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกไว้ประดับให้เป็นรั้วบ้าน มาฝากเพื่อนๆกันในวันนี้

โดย 5 ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกไว้ประดับให้เป็นรั้วบ้านนอกจากจะให้ความสวยงามกับบ้านของเราแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีอากาศที่บริสุทธิ์ ให้ความสดชื่นกับผู้อยู่อาศัย

1. ต้นไทรเกาหลี

ต้นไทรเกาหลีนั้นถือเป็นต้นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาตกแต่งสวนเพื่อใช้เป็นต้นไม้สำหรับทำเป็นกำแพงหรือแนวรั้วเพื่อบดบังสายตา เพราะนอกจากจะมีความสวยงามและให้ร่มเงาและนั้น ยังช่วยลดอุณหภูมิและแสงสะท้อนจากแสงแดด ช่วยเพิ่มความเย็นให้กับที่อยู่อาศัยของเรา นอกจากนั้นแล้วยังเป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นอย่างดี ดักฝุ่นและมลพิษทางอากาศได้ ช่วยฟอกอากาศ ลดการเกิดภูมิแพ้และหอบหืด ช่วยให้สดชื่น ผ่อนคลาย และลดความเครียดได้อีกด้วย

2. ต้นโมก

ต้นโมกก็เป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่คนนิยมนำมาปลูกเป็นรั้วบ้านเช่นกัน เพราะต้นโมกเป็นไม้ประดับที่มีใบสวยงาม และสามารถตัดตกแต่งให้เป็นรูปทรงที่สวยงามได้ตามต้องการ แต่ต้องตัดแต่งทรงพุ่มอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ได้ทรงพุ่มที่แน่นสวยงาม

3. ต้นเฮลิโคเนีย

ต้นเฮลิโคเนีย เป็นต้นที่นิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วเพราะต้นเฮลิโคเนียนั้นมีการเรียงตัวของใบที่สวยงาม โดยจะเรียงสลับตรงกันข้ามในระนาบเดียวกัน โดยดอกเฮลิโคเนียนั้นจะออกดอกเป็นช่อ มีสีสันสวยงามสะดุดตา สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีแดดจ้าถึงรำไร และยังเติบโตได้ดีในที่ลุ่มหรือชื้นแฉะอีกด้วย จึงเหมาะกับการปลูกไว้กลางแจ้ง

4. จั๋ง

ต้นจั๋งเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมมากเพราะ มีลักษณะของใบที่โดดเด่น สวยงาม ถึงแม้ว่าต้นจั๋งจะเป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างช้า แต่ว่าเป็นพืชที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดี เจริญเติบโตได้แม้ในบริเวณที่มีน้ำน้อย หรือขาดน้ำไปหลายๆวัน นอกจากนั้นยังทนต่อโรคและแมลงได้ดี

5. ต้นเอื้องหมายนา

ต้นเอื้องหมายนา เป็นต้นที่นิยมนำมาปลูกเป็นแนวรั้วเพราะต้นเอื้องหมายนานั้นเป็นต้นที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่มีแดดมากและแดดรำไรเช่นเดียวกับต้นจั๋ง และยังออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด เป็นช่อดอกที่ตั้งตรง เหมาะกับการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับที่สร้างเป็นแนวรั้วอย่างยิ่ง

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ5 ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกไว้ประดับให้เป็นรั้วบ้านที่ได้นำมาฝากเพื่อนๆทุกคนในวันนี้ คงจะมีไอเดียในการจัดสวนในบ้านของตัวเองกันแล้วใช่ไหมละคะ

#เลี้ยงไม้ประดับเป็นรั้วบ้าน #ไม้ประดับยอดนิยม #รั้วไม้ประดับ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถางต้นไม้

ต้นไม้ที่เราปลูกไว้ในกระถาง บางครั้งพอถึงเวลาก็อาจจะต้องทำการเปลี่ยน ซึ่งก็จะมีอยู่ด้วยกันหลายเหตุผล อาทิเช่น ลำต้นโตเกินกระถาง กระถางชำรุด หรือบางครั้งเราอาจอยากนำลงไปปลูกในดิน เพื่อให้เจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ ถ้าเราทำไม่ถูกวิธีอาจส่งผลให้ต้นไม้เหี่ยวเฉาหรือตายได้ ถึงแม้ว่าตอนอยู่ในกระถางจะแข็งแรงดีก็ตาม และถ้าใครเคยลองเปลี่ยนแล้วประสบปัญหาอย่างที่เรากล่าวมาลองดูขั้นตอนในการเปลี่ยนที่ถูกวิธีกันดีกว่าค่ะ เพื่อให้ต้นไม้ที่คุณรักเจริญเติบโตได้ดีต่อไป

ภาพจาก today.line.me

1. ถ้ากระถางไม่ใหญ่ รวมทั้งต้นไม้ยังไม่โตมาก ให้ใช้ฝ่ามือกางออกแล้วจับต้นไม้บริเวณโคนต้นที่ติดกับกระถาง จากนั้นคว่ำลง ด้านใต้ของกระถางจะมีช่องให้ทำการกดดันดินออกมา เราก็จะได้ต้นไม้พร้อมดินโดยปราศจากกระถาง สามารถนำไปปลูกในที่ที่ต้องการกันได้เลย

2. ถ้ากระถางใหญ่ แต่ต้นไม้ไม่ใหญ่มาก การยกแล้วคว่ำอาจจะหนักเกินไป ให้ทำการตะแคงกระถาง แล้วใช้ไม้หรือเสียบอันเล็กๆ แซะบริเวณรอบกระถางด้านใน เพื่อให้ดินหลุดออกมา จากนั้นค่อยๆ ดึงต้นไม้ก็จะหลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย

3. หากกระถางและต้นไม้ค่อนข้างใหญ่ ให้ตั้งไว้ตรงๆ ตามเดิม แล้วใช้เสียบแซะโดยรอบ และงัดด้านล่างเบา แต่ถ้าค่อนข้างหนักมาก ควรหาผู้ช่วย เพราะคนเดียวอาจจะไม่สามารถยกต้นไม้ออกมาได้ สำหรับต้นไม้ใหญ่ หากนำลงไปปลูกในดิน ให้ขุดหลุมให้ลึกและกว้างพอกับขนาดของลำต้น นอกจากนี้ควรหาไม้มาค้ำปักไว้ และหาเชือกมาผูก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ต้นเอียงหรือล้ม ปักไปจนกว่าจะมั่นใจว่าต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี และรากยึดเกาะดินจนแน่นแล้ว จากนั้นสามารถนำออกได้

4. ปกติการเปลี่ยนกระถางควรทำตั้งแต่ต้นไม้ยังไม่เติบโตมาก จะเปลี่ยนได้ง่ายกว่าและโอกาสในการรอดก็มีมากกว่าเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคิดจะปลูกต้นไม้เราควรตัดสินใจตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าจะปลูกไว้ในกระถางแบบเดิม หรือต้องการปลูกลงดิน โดยแบบหลังควรทำโดยทันทีหรือไม่ก็ตอนที่ต้นไม้ยังไม่โตมาก นอกจากจะทำได้ง่ายกว่า ต้นไม้ยังเจริญเติบโตงอกงามได้ดีอีกด้วย

ภาพจาก decor.mthai.com

ต้นไม้ที่ไม่เหมาะในการปลูกไว้ในกระถางก็เช่นพวกไม้ผลต่างๆ และไม้ยืนต้น เพราะส่วนมากจะต้นใหญ่ และต้องการเนื้อที่ในการแผ่กิ่งก้านสาขา พร้อมทั้งหาอาหารมากกว่าพวกไม้ดอก ไม้ประดับ แต่ถ้าบ้านใครที่มีเนื้อที่ไม่มากการปลูกในกระถางก็จะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนย้ายต้นไม้ได้สะดวกขึ้น ดังนั้นถ้าจะให้ดีควรเลือกต้นไม้ที่คิดจะปลูกให้เหมาะสมจึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

#เปลี่ยนกระถางต้นไม้ #ขั้นตอนย้ายกระถาง #แนะนำทริคจัดสวน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

แคคตัสต้นเล็ก ๆ แต่ราคาไม่เล็ก

            โควิด-19 เป็นเหตุสังเกตได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิดในช่วงที่ผ่านมานั้นทำให้ผู้คนได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น หลายคนมีโอกาสจัดบ้านให้มีมุมสีเขียว สวยงามน่าอยู่ รวมถึงหาต้นไม้มงคล ไม้ประดับเข้าบ้าน และหนึ่งในไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอยู่ตลาดกาลนั่นก็คือ ‘แคคตัส’ นั่นเอง มีทั้งแบบมีหนามและไม่มีหนาม ราถูก ราคาแพง ดูแลง่าย ไปจนถึงดูแลยากมาก วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับแคคตัสสามสายพันธุ์ที่ราคาไม่เล็กเหมือนไซซ์ของน้อง ๆ แน่นอน  จะมีสายพันธุ์ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยจ้า

แคคตัส 3 สายพันธุ์ที่ราคาไม่เล็กเหมือนต้น

1. Gymnocalycium (ยิมโน)

            Gymnocalycium ยิ่งมีสีด่าง และเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาจนได้สีด่างสม่ำเสมอกันทุกพูยิ่งส่งผลให้มีราคาสูง ราคาของแคคตัสยิมโนด่างขึ้นอยู่กับ ขนาด สีด่าง และคุณค่าทางจิตใจ บางคนชอบลักษณะต้นที่สมมาตร แต่หากเป็นแคคตัสยิมโนไม้คริส (มีการเจริญเติบโตด้านข้างเป็นกำแพง) จะเป็นที่ต้องตาต้องใจของนักสะสม และราคาก็ยิ่งจะสูงขึ้นกว่าราคาปรกติมาก
         สีของยิมโนด่าง มีตั้งแต่ สีเหลือง สีส้ม สีแดง จนไปถึงสีหายากอย่างสีม่วง สีดำ ยิมโนด่างบางสายพันธุ์ถูกพัฒนาให้ไร้หนาม หากคุณเจอร้านขายยิมโน อย่าลืมถามว่าเป็นไม้หน่อ หรือไม้เมล็ด เนื่องจากสีเดียวกัน แต่ราคาจะต่างกัน โดยไม้หน่อจะได้โคลน DNA เหมือนกับต้นแม่ ส่วนไม้เมล็ดจะได้ลุ้นความสวยงามที่เกิดจากการผสม และราคาไม้เมล็ดนั้นก็จะมีราคาที่สูงกว่าไม้ชำหน่อด้วย

2. Astrophytum asterias V type (แอสโตรไฟตัมวีไทป์)

         ในตระกูล Astrophytum มีลักษณะที่นักสะสมแย่งเก็บกัน ก็คือ แอสโตรไฟตัมวีไทป์ เช่น Astrophytum asterias “Super kabuto V type” และลักษณะวีไทป์อื่น ๆ ที่ทำให้แคคตัสแอสโตรไฟตัมราคาสูงเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดลักษณะวีที่หนาขึ้น ส่งผลให้ค่าตัวแรงขึ้น แอสโตรไฟตัมเป็นแคคตัสเลี้ยงง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เกิดดอกง่าย ติดผลง่าย เพาะเมล็ดก็ง่ายอีก แต่ความยากก็คือ กว่าจะเจอต้นที่ให้ทรงวีสวย ๆ จะต้องผ่านการคัดและเพาะเมล็ดหลายร้อย หลายพันต้นกว่าจะเห็นต้นวีทรงสวยสักต้นหนึ่ง เพราะเหตุนี้จึงทำให้แอสโตไฟตัมบางต้นนั้นมีราคาแพงหูฉี่เลยทีเดียว

3. Mammillaria (แมมมิลลาเรีย)

            แมมมิลลาเรีย มีหลายสายพันธุ์ที่จำหน่ายกัน อาทิ แมมมิลลาเรียขนนก, แมมมิลลาเรียนกฮูก, แมมมิลลาเรียหนามแดง ในแคคตัสสกุลแมมมิลลาเรียมีราคาเริ่มต้นหลักสิบบาท ตั้งแต่ไม้ชำหน่อปักลงกระถาง ไปจนถึงหลักพันบาท แต่หากเป็น แมมมิลลาเรียบางสายพันธุ์ เช่น แมมมิลลาเรียเลนต้า ถ้าเลี้ยงรวมเป็นกอ อาจจะพบว่ามีราคาสูงหลักหมื่น
         แมมมิลลาเรีย เป็นแคคตัสที่นิยมมาก เรียกได้ว่าเป็นไม้เบสิกที่ผู้เลี้ยงแคคตัสเริ่มต้นต้องมี และบางคนชื่นชอบสีสันของดอกและหนาม แม้ว่าต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะเห็นดอกบานสักครั้งหนึ่ง

            หากใครอยากจะเลี้ยงแคคตัสก็แนะนำให้ลองเลี้ยงจากต้นที่ราคาเบา ๆ ก่อน เมื่อคล่องแคล่วและมีความรู้ความสามารถมากพอให้การเลี้ยงแล้วเราก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นไปเลี้ยงตัวที่เริ่มมีราคาสูง การเลี้ยงพืชทุกชนิดเราต้องค่อย ๆ เรียนรู้ละทำความรู้จัก อย่างที่เขาว่ากันว่า ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามนั่นแหละทุกคน

เคดิตภาพ

1. https://www.pinterest.com/pin/583216220481195510/

2. https://www.pinterest.com/pin/608548968391601801/

3. https://sites.google.com/a/student.mahidol.edu/about-cactus/mammillaria

#เลี้ยงแคคตัส #รู้ก่อนเลี้ยงแคคตัส #แนะนำจัดสวน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

อาการแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ มาแปลความหมายพฤติกรรมของแมวกัน

ดังที่ทาสแมวอย่างเรารู้กันดีนั้นคือ พฤติกรรมของเจ้านายเรา หรือหมายถึงเหล่าบรรดาแมวของพวกเรานั่นเอง ช่างมีพฤติกรรมที่ซับซ้อนและชวนสงสัยเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้บางทีทาสแมวอย่างพวกเรานั้นถึงกับต้องกุมขมับเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจึงวิธีการสังเกตว่า อาการแบบนี้แปลความหมายพฤติกรรมของแมวได้ว่ายังไงกันนะ

โดยวิธีการสังเกตว่า อาการแบบนี้แปลความหมายพฤติกรรมของแมวได้ว่ายังไงกันนะที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ ก็เพื่อที่จะช่วยให้บรรดาทาสแมวอย่างเรานั้นได้มีความเข้าอกเข้าใจ ในสิ่งที่เจ้าแมวของเรานั้นต้องการจะสื่อสารออกมา เพื่อที่เราจะได้ตอบสนองความต้องการของเจ้าแมวของเราได้อย่างถูกต้อง

1. พบว่าแมวนั้นชอบกินหญ้า

สำหรับการกินหญ้าและพืชบางชนิดนั้น ถือว่าเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมว เพราะมันจะช่วยลดพยาธิในทางเดินอาหาร และการกินพืชนั้นช่วยชำระลำไส้ให้สะอาดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งหญ้ายังเป็นกากใยตามธรรมชาติที่สำคัญต่อระบบทางเดินอาหารอีกด้วย

2. พบว่าแมวนั้นชอบดื่มน้ำจากก๊อกน้ำ

เพราะแมวนั้นเป็นสัตว์ที่มีหนวดยาวและไวต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก มันจึงไม่ชอบให้หนวดของตัวเองนั้นไปสัมผัสกับขอบถ้วย ในน้ำที่แช่ไว้ หรืออะไรก็ตามแต่ ดังนั้นมันจึงชอบที่จะดื่มน้ำจากก๊อกน้ำที่กำลังมีน้ำไหลอยู่มากกว่า

3. พบว่าแมวนั้นไม่ชอบให้ทาสเกาพุง

แมวนั้นชอบให้ทาสอย่างเรานั้นลูบหรือเกาบริเวณหัวมากกว่า โดยเฉพาะที่คางและแก้ม แต่ไม่ชอบให้ทาสอย่างเรานั้นเกาพุงสักเท่าไหร่ เพราะบริเวณท้องแมวและบริเวณโคนหางนั้น เป็นบริเวณที่ไวต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก แมวจึงรู้สึกถูกกระตุ้นมากเป็นพิเศษ จึงทำให้บางครั้งอาจจะเกิดอารมณ์รำคาญขึ้นมาเลยก็ว่าได้

4. พบว่าแมวนั้นชอบดีดขาหลัง

หลายคนคงพบว่าแมวของคุณนั้นชอบกระแทกอุ้งตีนใส่ประตูซ่ะเหลือเกิน หรือบางครั้งอาจจะเป็นผนังหรือตู้อะไรสักอย่าง จึงทำให้ทาสอย่างเรานั้นเกิดความสงสัยเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมแบบนี้ ซึ่งวันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัยให้หายข้องใจกัน นั่นก็คือ เป็นพฤติกรรมที่ต้องการแสดงถึงอาณาเขตของตัวเอง ซึ่งมักจะพบในท่าทางที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการดีดขาหลัง ย่ำเท้าแรงๆ รวมไปถึงการสั่งหางเบาๆอีกด้วย

เป็นยังไงกันบ้างคะกับวิธีการสังเกตว่า อาการแบบนี้แปลความหมายพฤติกรรมของแมวได้ว่ายังไงกันนะที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้กัน ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องสงสัยและงุนงงในพฤติกรรมเหล่านั้นแล้ว ว่าหมายถึงอะไรกันแน่ และเราจะได้ตอบสนองต่อความต้องการของเจ้านายพวกเราได้อย่างถูกต้อง

#พฤติกรรมของแมว #แปลท่าทางของแมว #แมวทำแบบนี้คืออะไร

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

3 ต้นไม้ฟอกอากาศที่ต้องมีประดับบ้าน

            ช่วงนี้ทุกคนสังเกตกันไหมว่าวงการต้นไม้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาจจะเป็นผลพวงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้หลาย ๆ คน ต้องพักการทำงาน หรือได้ทำงานอยู่บ้าน พมีเวลาอยู่บ้านมาก ๆ มองไปรอบ ๆ บ้านอาจจะมีการแบบ เอ๊ะ!! ตรงนี้มันดูโล่ง ๆ ไปรึเปล่านะ มุมนี้น่าจะมีต้นไม้สักต้น เลยทำให้กระแสของไม้ฟอกอากาศเฟื่องฟูมาก ต้นไม้ราคาขึ้นเอา ๆ วันนี้เลยจะมาแนะนำ 3 ไม้ฟอกอากาศที่ไม่มีไม่ได้ ไม่มีถือว่าเอาต์มาก ตกเทรนสุด ๆ จะมีต้นอะไรบ้าง ไปดูกันเลยจ้า

3 ต้นไม้ฟอกอากาศที่ต้องมีประดับบ้าน

1. ยางอินเดีย


            ต้นยางอินเดีย มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ficus elastica อยู่ในวงศ์ Moraceae เช่นเดียวกับโพ มะเดื่อ กร่าง และไทรชนิดต่าง ๆ ชื่อระบุชนิด elastica แปลว่า “ยาง” สื่อถึงน้ำยางสีขาวในต้นนั่นเอง ส่วนชื่อสามัญก็มีความหมายสื่อถึงน้ำยางเช่นกัน นั่นคือ Decora Tree, Indian Rubber Tree และ Rubber Plant ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย แถมยังช่วยดักจับฝุ่นและฟอกอากาศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ปัจจุบันมีการกลายพันธุ์เป็นพันธุ์ใบด่างที่มีสีสันสวยงาม เช่น ด่างสีขาว เหลือง หรือสีเข้มเกือบดำ และพันธุ์แคระ

2. ไทรใบสัก

            ถ้าพูดถึงต้นไม้ที่นิยมมาปลูกเพื่อการตกแต่งบ้าน ‘ไทรใบสัก’ คงเป็นอีกหนึ่งต้นที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เพราะทรงใบสวย เลี้ยงไม่ยาก วางไว้ในร่มรำไรได้ แถมยังฟอกอากาศได้ด้วย เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้มงคลที่เสริมให้บ้านดูดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ใส่ภาชนะได้หลากหลาย เข้ากับบ้านลุคโมเดิร์นได้ดี
        
ไทรใบสัก หรือ fiddle fig (ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus lyrata ) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ไทรใบซอ ไทรใบยอ เป็นพืชตระกูล Ficus (ไทร) เป็นพืชเขตร้อนจึงปลูกได้ดีในพื้นที่อากาศอบอุ่นหรือร้อนชื้น มีจุดเด่นอยู่ที่ฟอร์มใบหยักพริ้ว ใบขนาดใหญ่สวยงาม ลำต้นสูง เป็นต้นไม้ที่รักแสงแดด แต่ก็สามารถอยู่ได้ในที่รำไรได้ และไม่ต้องการน้ำชุ่มเกินไป อีกหนึ่งจุดเด่นคือ มีคุณสมบัติเรื่องการดูดสารพิษและฟอกอากาศให้สะอาดสดชื่น
จึงนิยมนำมาจัดวางในห้องนั่งเล่น ริมระเบียง หรือห้องทำงาน บริเวณติดหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง

3. ซานาดู

            ฟิโลเดนดรอน ซานาดู (Philodendron Xanadu) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Philodendron xanadu Croat, Mayo & J.Boos เป็นไม้ตัดใบ ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ ใบมีลักษณะยาว ขอบใบเว้าลึกเกือบถึงเว้นกลางใบและแตกเป็นแฉกแบบขนนกมี 7 แฉก ใบหนา ผิวเรียบเกลี้ยง เป็นมัน และมีสีเขียวเข้ม เห็นเส้นใบสีเขียวอ่อนชัดเจน ความยาว 17-24 เซนติเมตร กว้าง 13-16 เซนติเมตร มีดอกบริเวณซอกใบสีขาว เป็นไม้ประดับที่ดูแลง่าย ชอบดินร่วน ต้องการน้ำปานกลาง และแสงแดดรำไร

            ไม้ฟอกอากาศมีอีกเยอะมากที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาทิ ลิ้นมังกร, จั๋ง, เดหลี, ว่านหางจระเข้ เป็นต้น ในการนำมาตกแต่งประดับบ้านก็แล้วแต่รสนิยมและความชอบของคนแต่ละคนไป แต่ที่เรานำมาวันนี้ก็หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะ

เครดิตภาพ

1. https://www.minihouseideas.com/article/20204259/

2. https://www.gqthailand.com/culture/article/fiddle-fig

3. https://www.facebook.com/1053942521298344/photos/a.1053955371297059/43251596
57509931/

#ต้นไม้ฟอกอากาศ #ต้นไม้อินเทรน #ต้นไม้น่าปลูก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงกระรอกท้องขาว

สัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆที่สามารถนำพาไหนด้วยได้ ไม่ต้องหิ้วของสำหรับดูแลอย่างพะรุงพะรัง ต้องยกให้กับกระรอก สัตว์ประเภทฟันแทะที่ได้รับ ความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ถ้าสนใจจะเลี้ยงไว้สักตัวจะต้องดูแลอย่างไรนะ มาชมกันค่ะ

กระรอกสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง

กระรอกท้องขาว หรือกระรอกสวน  กระรอกที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่ดื้อหรือดุร้ายมากนัก มีสีตามตัวเป็นสีน้ำตาล มีหางยาวเป็นพวงฟู ๆ  มีความยาวหัวถึงหางราว ๆ 30 เซนติเมตร เป็นสัตว์ที่ชอบแทะ และปราดเปรียวมาก อยุ่ไม่ค่อยนิ่ง

วัยเจริญพันธุ์ของกระรอก จะเริ่มตั้งแต่อายุ 4 เดือน จะออกลูกเป็นตัว แต่ละครั้งจำนวนไม่แน่นอนโดยมากไม่เกิน 2 ตัว อายุรวม ๆ อยู่ได้ประมาณ 9-10 ปี

การเลี้ยงลูกกระรอก

กระรอกจะเลี้ยงต้องใส่ใจ และบ้างครั้งก็เลี้ยงยาก เพราะโดยมากกระรอกนั้นจะเป็นการนำมาจากธรรมชาติไม่ได้มาจากการเพาะเลี้ยง จึงมักมีปัญหาเรื่องสุขภาพพอสมควร เพราะไม่ได้กินน้ำนมจากแม่ที่เพียงพอ ถ้าเลือกเลี้ยงควรนำลูกกระรอกที่ลืมตามแล้วมาเลี้ยงจะง่ายกว่า

สำหรับลูกกระรอกที่ยังไม่ลืมตานั้น ต้องใส่ใจมากกว่า และพิถีพิถันพอสมควร ต้องกระตุ้นให้มันลืมตาด้วยการใช้สำลีชุบน้ำอุ่นบีบหมาด ๆ เช็ดที่ตาทุกวัน และต้องใส่ใจเรื่องการขับถ่ายด้วย

อาหารที่ให้กระรอก

สำหรับลูกกระรอกที่ยังไม่หย่านมจะเป็นนมผงเด็ก นมผงสำหรับลูกสุนัข หรือหนู หรือนมถั่วเหลืองก็ได้ อย่าใช้นมวัวเลี้ยงเพราะจะทำให้ท้องเสียได้การให้นมควรให้ผ่านสริงฉีดยาให้ทีละน้อย ๆ อย่าเร็วจนเกินได้ อาจทำให้สำลักได้ในหนึ่งวันให้ที่ 4-5 มื้อ

กระรอกโตควรกินผักผลไม้เป็นอาหารหลัก อาจเป็นพวกเมล็ดทานตะวันหรือถั่วก็ได้ และได้รับอาหารเสริมประเภทสัตว์หรือแมลงต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงผักผลไม้ที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพของกระรอก เช่น แตงโม แตงไทย และแตงกวา  เพราะพวกนี้มีน้ำเยอะจะทำให้ท้องอืดได้

รังนอนของกระรอก

กระรอกเป็นตัวที่ขี้ระแวง ตกใจง่าย การทำรังนอนจึงควรอยู่มุม ๆของกรง อาจเป็นรังหรือกล้องรองด้วยฟาง เพื่อให้กระรอกได้ซุกตัวนอน และทำให้อบอุ่นรวมทั้งทำให้กระรอกน้อยรู้สึกปลอดภัยด้วย ในกรงอาจมีวงล้อหรือคอนให้กระรอกได้ปีนป่ายเล่น

สำหรับผู้ที่คิดจะเลี้ยงกระรอกในวัยโตเต็มที่แล้วไม่ต้องดูแลจนใกล้ชิดมากเหมือนตอนยังเล็ก ๆ และอย่ากลัวที่จะถูกกัด หรือกลัวที่จะเปือนฉี่ในตอนที่นำมาไต่เล่นบนตัว นะคะ ที่สำคัญก็คือ ต้องไม่กลัวบ้านพังด้วยนะ  เพราะกระรอกน้อยนั้นมีนิสัยชอบ แทะ แค่คุณเผลอก็อาจแทะข้าวของได้ วิธีป้องกันไม่จำเป็นที่จะต้องตัดฟันแค่คุณหาผลไม้เนื้อแข็ง ๆหรือของให้กระรอกแทะก็ช่วยได้นะคะ

#เลี้ยงกระรอกท้องขาว #กระรอกท้องขาว #สัตว์เลี้ยงน่ารู้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ระยะเวลาในการวัคซีนให้กับลูกสุนัขลาบราดอร์

ลูกสุนัขลาบราดอร์ จะมีนิสัยน่ารัก ขี้เล่น ฉลาด เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย ทำให้หลายคนสนใจนำมาเลี้ยง แต่สิ่งสำคัญก็คือ หากเรานำลูกสุนัขมาเลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ในก็แล้วแต่

นอกจากอาหารการกินที่ควรให้อย่างเหมาะสมตามช่วงวัยแล้ว การพาน้องหมาไปวิ่งเล่นออกกำลังก็มีส่วนสำคัญ เพราะนอกจากจะทำเขามีสุขภาพดี

ยังช่วยให้น้องหมามีอารมณ์ดี และไม่ซนจนเกินเหตุ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือพวกเขาควรได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ในสุนัข ตามระยะเวลาที่ควรได้รับกันด้วย

ภาพจาก th.aliexpress.com

อย่างลูกสุนัขลาบราดอร์ ควรได้รับวัคซีนครั้งแรกในช่วงอายุประมาณ 2 เดือนครึ่ง หรือประมาณ 10 สัปดาห์ นับจากวันที่เขาเกิด และไม่ควรพาลูกสุนัขไปฉีดก่อนระยะเวลาที่กำหนด เพราะยังเล็กเกินไป อาจทำให้วัคซีนที่ฉีดเข้าไปไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันได้อย่างที่เราคาดหวังไว้

ซึ่งจะส่งผลทำให้ร่างกายของลูกหมาไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้วัคซีนอาจเกิดปฏิกิริยาภายในร่างกายของลูกสุนัขจะเป็นเหตุให้น้องหมาเสียชีวิตได้ และเราควรรับลูกสุนัขมาเลี้ยงช่วงที่เขามีอายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป

เพื่อให้ลูกสุนัขได้ดื่มน้ำนมแม่อย่างเต็มที่ นอกจากจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์แล้วยังทำให้เขาได้เรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันกับพี่น้องตัวอื่น เป็นการเรียนรู้ในการเข้าสังคมของสุนัขอย่างหนึ่ง

สำหรับโรคที่มักทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ง่ายก็อย่างเช่น โรคตับอักเสบ, โรคลำไส้อักเสบ, โรคเลปโตสไปโรซีส และ โรคไข้หัดสุนัข เป็นต้น คราวนี้มาดูว่าในแต่ละช่วงอายุน้องหมาควรได้รับวัคซีนอะไรบ้าง

ภาพจาก 1freewallpapers.com

วัคซีนที่ควรได้รับ

– ช่วงอายุ 4 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิและตรวจสุขภาพ

– ช่วงอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาไปฉีดวัคซีนรวม 5 โรค ได้แก่ ลำไส้อักเสบ, ไข้หัด, ตับอักเสบ, เลปโตสไปโรซิสและหลอดลมอักเสบติดต่อ ครั้งแรก และถ่ายพยาธิ

– ช่วงอายุ 10  สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาไปฉีดวัคซีนรวม 5 โรค เป็นครั้งที่ 2 และทำการถ่ายพยาธิ

– ช่วงอายุ 12  สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาไปวัคซีนรวม 5 โรค เป็นครั้งที่ 3 ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าครั้งที่ 1  และถ่ายพยาธิ

– ช่วงอายุ 14  สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาไปฉีดวัคซีนป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ

– ช่วงอายุ  24  สัปดาห์ขึ้นไป ควรพาได้ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ครั้งที่ 2 และถ่ายพยาธิ

ที่สำคัญหลังจากฉีดวัคซีนทุกชนิด สัตวแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำไม่ให้อาบน้ำน้องหมาก่อน 7 วัน เพราะอาจทำให้เขาเกิดอาการไม่สบายได้ ผู้เลี้ยงควรปฏิบัติตาม เพียงเท่านี้น้องหมาของคุณก็จะมีสุขภาพดีกันได้แล้วค่ะ

#สุนัขลาบราดอร์ #ฉีดวัคซีนลาบราดอร์ #เลี้ยงสัตว์น่ารู้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เลือกหญ้าจัดสวนหย่อมแบบไหนดี

ถ้าคิดจะจัดสวนหย่อมหลายคนก็ต้องนึกถึงหญ้าก่อนเป็นอันดับแรก รวมไปถึงต้นไม้ต่างๆ ที่จะนำมาจัด แต่หญ้าน่าจะเป็นพระเอกหรือสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้สวนของคุณดูร่มรื่นสบายตา และยังช่วยให้ต้นไม้ดอกไม้ที่อยู่ภายในสวนดูสวยโดดเด่นขึ้นมาได้อีกด้วย ในปัจจุบันหญ้าที่นิยมนำมาใช้ประดับสวนจะได้แก่ หญ้านวลน้อย, หญ้าญี่ปุ่น, หญ้ามาเลเซีย, หญ้าเบอร์มิวด้า และหญ้าเกล็ดหอย เป็นต้น ซึ่งแต่ละแบบจะมีความสวยงามแตกต่างกัน แล้วจะเลือกแบบไหนดี ใครสงสัยลองมาดูกันต่อดีกว่าหญ้าแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง

ภาพจาก thaigreenagro.com

1. หญ้านวลน้อย

ค่อนข้างได้รับความนิยมในบ้านเรา เพราะทนต่อทุกสภาพอากาศและยังทนต่อการเหยียบย่ำอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นหญ้าที่ชอบแสงแดดจัด ซึ่งในบ้านเราแสงแดดจะร้อนแรงเกือบทุกฤดูกาล นอกจากนี้ยังสามารถนำไปปลูกได้บนดินทุกประเภทอีกด้วย ปลูกง่าย ดูแลรักษาง่าย

2. หญ้าญี่ปุ่น

เป็นหญ้าที่แบ่งออกได้เป็นสองชนิด ได้แก่ แบบใบกว้างและ แบบใบกลม ถ้าปลูกในบ้านส่วนใหญ่จะเลือกเป็นแบบใบกลมกันมากกว่าใบกว้าง เป็นหญ้าที่มีลักษณะใบเล็ก ขอบใบเรียว ปลายแข็ง และมีสีเขียวเข้ม บริเวณสวนหย่อมในบ้านส่วนใหญ่จะนิยมนำมาปลูก แต่ด้วยความที่ใบค่อนข้างแข็ง จึงจะตัดแต่งลำบากพอสมควร แต่ถ้าตัดให้เตียนเรียบเสมอกันจะสวยมาก

3. หญ้ามาเลเซีย

เป็นหญ้าที่เหมาะปลูกในที่ร่ม จะเจริญเติบโตได้ดี เพราะหญ้าบางชนิดถ้าเราปลูกไว้ในที่ร่มอาจไม่เจริญเติบโตและแห้งเหี่ยวตายได้ ดังนั้นบ้านไหนที่มีต้นไม้ใหญ่ในสวนมักจะเลือกปลูกหญ้ามาเลเซีย นอกจากนี้ยังเป็นหญ้าที่ชอบน้ำ ดูแลรักษาง่ายและค่อนข้างทน

ภาพจาก sites.google.com

4. หญ้าเบอร์มิวด้า

เป็นหญ้าอีกประเภทที่ทนทาน แข็งแรง และตายยาก ต้นหญ้ามีความแข็ง อาจจะตัดยากซะหน่อย แต่ถ้าเทียบกับความคงทนและความสวยแล้วละก็ เชื่อได้เลยว่าหลายคนคงมองข้ามสิ่งนี้ไป ส่วนใหญ่นอกจากนำมาปลูกในสวนแล้วยังนิยมในการนำไปปลูกในสนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ และสนามฟุตบอล อีกด้วย เพราะเวลาโดนเหยียบย่ำจะคืนตัวได้ไว

5. หญ้าเกล็ดหอย

เป็นหญ้าคลุมดินชนิดหนึ่ง ไม่ต้องดูแลรักษามาก ขึ้นง่ายและชอบความชื่น ทนต่อแสงแดด นิยมนำมาปลูกไว้คลุมดิน ที่สำคัญไม่ต้องตัดแต่งก็สวยได้ เพราะมีลำต้นไม่สูง และยังจัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งอีกด้วย ใครขี้เกียจตัดหญ้าบอกเลยว่าหญ้าเกล็ดหอยเหมาะสำหรับคุณ

เป็นหญ้า 5 ชนิด ที่นิยมนำมาปลูกไว้ในสวนหย่อม ใครกำลังคิดจะจัดสวนกันอยู่อย่าลืมเลือกให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในบ้านคุณกันด้วยนะคะ

#หญ้าจัดสวน #เทคนิคเลือกหญ้า #แนะนำการจัดสวน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

อาหารต้องห้ามที่น้องหมากินไม่ได้เด็ดขาด

            ไหนบ้านใครเลี้ยงน้องหมาบ้างครับยกมือหน่อย คนที่เลี้ยงแมวก็ไม่ต้องยกนะครับเพราะผมไม่ชอบแมว ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะครับ คราวนี้เรามาถามสาวกคนรักหมากันดีกว่าปกติเวลาอยู่บ้าน คุณให้อะไรเป็นอาหารน้อง อาหารเม็ดหรือ่าอาหารคน เพราะเมื่อไรที่คุณให้อาหารคน วันนี้เราก็เห็นทีว่าจะต้องมาประบความเข้าใจใหม่ว่า มีอาหารอะไรบ้างที่เป็นอาหารต้องห้ามของน้องหมาและไม่ควรทานเป็นอย่างยิ่ง

ช็อคโกแลตและอาหารจำพวกคาเฟอีน

            น่าจะเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว่าช็อคโกแลตคืออาหารต้องห้ามของน้องหมาอันดับ 1 เพราะในตัวของช็อคโกแลตมีสารกระตุ้นที่เรียกว่า Theobromine ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับสารจำพวกคาเฟอีน ซึ่งเป็นพิษต่อสุนัข เมื่อน้องหมาของเราทานเข้าไปจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย อาทิเช่นหัวใจ และระบบประสาท สามารถเห็นผลได้ในช่วงระยะเวลา 4-24 ชั่วโมง ซึ่งน้องหมาของคุณอาจจะมีอาหารอาเจียน ท้องร่วงหรืออื่นๆ เช่นเดียวกับการทานอาหารจำพวกคาเฟอีนที่จะทำให้น้องหมาของคุณเกิดอาการในลักษณะเดียวกัน

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

            อาหารต้องห้ามของน้องหมาลำดับที่ 2 เอาตรงๆ แค่พูดถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่แค่คนหรอก รวมถึงทุกสรรพชีวิตก็ไม่ควรจะดื่มด้วยกันทั้งนั้น เพราะในแอลกอฮอล์มีสารประกอบจำพวกเอทานอล รวมถึงเบียร์ก็มีส่วนประกอบมาจากพวกฮอปหรือยีสต์และมอลต์ต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อน้องหมาด้วยเหมือนกัน ทันทีที่น้องหมาของคุณทานเข้าไปอาจจะส่งผลให้เกิดการอาเจียนอย่างฉับพลัน อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ร่างกายอ่อนเปลี้ยไม่มีแรง หนักสุดก็ถึงขั้นที่อวัยวะเกิดการล้มเหลว นอกจากนี้ในส่วนประกอบของเบียร์ที่มีพวกฮอปผสมก็อาจจะส่งผลกระทบต่อท้องของสุนัข ไปจนถึงอาการหายใจติดขัด จนสิ้นสุดที่การหายใจไม่ออกก็มีส่วน

ถั่วต่างๆ

            เป็นอาหารต้องห้ามของน้องหมา ลำดับที่ 3 และเป็นพิษต่อน้องหมาของเรามากๆ เพราะทันทีที่เขาได้รับอาหารจำพวกแมคคาเดเมียเข้าไปในร่างกาย ถั่วจะส่งผลกระทบต่อท้องของน้องหมาทันที ทำให้อาเจียน เกิดความเจ็บปวดทรมาน ร่างกายอ่อนแอและอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น การหายใจติดขัด และจะเห็นความผิดปกติได้ชัดภายหลังที่ได้รับถั่วเข้าไปประมาณ 12-24 ชั่วโมง

กระดูก

            อาหารต้องห้ามของน้องหมา ลำดับที่ 4 อาหารคู่ใจคู่คิดที่คนไทยส่วนใหญ่ให้น้องหมากันเป็นนิจโดยที่ไม่รู้เลยว่าไอ้เจ้ากระดูกนี่ล่ะ ตัวดีเลยที่เป็นอาหารต้องห้ามของน้องๆ ไม่ใช่ในเรื่องของสารประหลาดๆ แต่เป็นลองคิดสภาพว่าน้องหมากลืนกระดูกอันใหญ่เข้าไปทั้งอัน อะไรจะเกิดขึ้นตามมา กระดูกอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในรวมถึงการที่กระดูกเข้าไปขวางทางเดินของลำไส้โดยบังเอิญ ฟังแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วใช่ไหมว่ากระดูกอันตรายแค่ไหน

Xylitol

            หรือสารให้ความหวานบ้านเราจำพวกน้ำตาลเทียม อาหารต้องห้ามของน้องหมา ลำดับที่ 5 เพราะการกินอาหารที่มีส่วนผสมของสารจำพวกนี้จะทำให้อินซูลินในตัวน้องหมาหลั่งออกมาหลายชนิด จนนำไปสู่สภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นอันตรายต่อน้องมากๆ อาการเริ่มแรกที่เห็นได้ชัดก็คือการอาเจียน หนักสุดคืออาการชักและตับวายเฉียบพลันและมีผลกระทบต่อการแข็งตัวของเลือดในสุนัขด้วย

            เมื่อรู้เกี่ยวกับอาหารต้องห้ามของน้องหมากันแบบนี้แล้ว จะให้อะไรน้องหมากินก็ต้องดูกันก่อนนะครับว่า อันไหนน้องกินได้บ้าง อันไหนน้องกินไม่ได้ เพราะอย่างที่ผมได้บอกไปข้างต้นว่ามันอันตรายเสียเหลือเกินกับอาหารของมนุษย์ ทางที่ดีก็คือไม่ให้น้องกินอาหารของคนเลยจะดีที่สุด หันมาให้อาหารสุนัขแทนแค่นี้ก็พอแล้วครับ

ที่มาภาพ : Cesar’s way, VinePair, SuccessDigest, Rover, Purina, Healthline

#สัตว์เลี้ยงห้ามกิน #อาหารต้องห้าม #สัตว์เลี้ยงแสนรัก

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

ไม้มงคลที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับบ้าน

หากบ้านใครมีพื้นที่รอบบริเวณบ้านกว้างๆ หรือพอที่จะปลูกต้นไม้กันได้ ก็มักจะหามาประดับบ้านกันไว้ เพราะต้นไม้ที่เราปลูกนอกจากจะให้ร่มเงา ช่วยให้บ้านร่มรื่น ไม่ร้อน และทำให้บ้านมีบรรยากาศสดชื่นแล้ว หลายคนยังให้ความสนใจในเรื่องของความหมายดีๆ ของต้นไม้ ประกอบในการเลือกปลูกกันอีกด้วย เพราะต้นไม้แต่ละประเภทก็จะมีความหมายตามความเชื่อแตกต่างกันออกไป อย่าเช่นต้นไม้ต่อไปนี้ ที่จัดว่าเป็นไม้มงคล และนิยมนำมาปลูกไว้ในบ้านกันตั้งแต่ครั้งโบราณ มีต้นอะไรกันบ้างนั้น ลองตามไปดูกันดีกว่าค่ะ

ภาพจาก healhoroscope.home.blog

– ต้นเพชรไพลิน บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน ทำให้เกิดคุณค่าที่สูง ดั่งชื่อของต้นไม้ นั่นก็คือเพชรไพลิน นั่นเอง สำหรับเพชรไพลินจัดเป็นอัญมณี ที่เลอค่าและมีความสวยงามเป็นอย่างมาก

– ต้นสัตตบรรณ บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีเกียรติยศ ชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ดั่งชื่อสัตตบรรณ ถือเป็นสิริมงคลยิ่งนัก

– ต้นเงินไหลมา บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความร่ำรวย ให้เงินทองไหลมาสู่บ้าน หากินสะดวก ทำการงานอะไรหรือค้าขายก็ลื่นไหล มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ      

– ต้นพู่ระหงส์ บ้านใดปลูกไว้ในบ้าน จะทำให้เจ้าบ้านและผู้ที่พักอาศัย เป็นผู้ที่มีน้ำใจและจิตใจสูง มีเสน่ห์ เพราะลักษณะของดอกพู่ระหงส์ เวลาบานจะบ่งบอกถึงกริยาที่หวานเย็น มีน้ำใจ เป็นลักษณะเด่นในตัวของดอกพู่ระหง

– ต้นใบละบาท บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน จะทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในครอบครัว เกิดความร่ำรวยด้วยเงินตรา ถึงแม้ว่าชื่อเป็นใบละบาท แต่อย่าหมิ่นเงินน้อย เพราะสามารถรวมกันเป็นกองใหญ่ได้ ถ้าหสกปลูกต้นใบละบาทจนสามารถมีใบที่สวยงาม และมีจำนวนใบดก มากขึ้นไปกว่าเดิม เชื่อกันว่าจะยิ่งทำให้มีเงินเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นด้วย

– ต้นโกสน บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีบุญบารมี คนเห็นใครรัก คอยให้ความช่วยเหลือ เพราะโกสนคนโบราณจะหมายถึง กุศล คือ การสร้างบุญ คุณงามความดี นั่นเอง

ภาพจาก journeyjournal24.com

– ต้นวาสนา นิยมปลูกในกระถาง และปลูกลงดิน แต่ถ้าบ้านไหนปลูกลงดิน ลำต้นจะค่อนข้างสูง ใบงาม และออกดอกได้ดี กว่าปลูกในกระถาง ดอกจะมีทั้งสีออกขาว และสีขมพู สำหรับต้นวาสนาใครปลูกไว้ในบ้าน จะมีความเชื่อว่าจะให้คนในบ้านมีวาสนาสูงส่ง ดังเช่นชื่อของต้นไม้

ทราบกันแบบนี้แล้ว ใครกำลังมองหาต้นไม้ไว้สำหรับปลูกในบ้านกันอยู่ เรามาเลือกแบบที่มีความหมายดีๆ ไปด้วยกันดีกว่าค่ะ

#ไม้มงคล #ต้นไม้ความหมายดี #แนะนำต้นไม้น่าปลูก