Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สุนัขพูดได้จริงหรือ

            เชื่อว่าหลายต่อหลายคนมีสัตว์เลี้ยงยอดฮิตเหมือนกัน คือสุนัข และเหตุผลที่สุดแมสว่าทำไมมนุษย์ถึงเลี้ยงสุนัขนั่นเป็นเพราะความน่ารักของพวกมัน ถึงกับตั้งชื่อให้สุนัขหรือซื้อเสื้อผ้าสุดน่ารักให้ใส่ก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว นอกจากความน่ารักจากภายนอกของพวกมันแล้ว เราก็ควรใส่ใจจิตใจหรือสิ่งที่พวกมันต้องการสื่อสารผ่านเราด้วย เช่น ยามที่พวกมันดีใจ เสียใจ กังวล หรือป่วย ซึ่งการที่สุนัขพูดในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการสื่อสารโดยการพูดเป็นคำเหมือนมนุษย์ แต่เป็นการสื่อสารผ่านท่าทางของพวกมัน ผ่านภาษากาย

เครดิตภาพปกจาก : www.purina.co.th/dog/supercoat/dog-tips/article/why-dog-behavior

ความสัมพันธ์ของมนุษย์และสุนัข

เครดิตภาพจาก : www.pinterest.com/pin/690458186616596013/

            สุนัขเปรียบได้เหมือนเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของมนุษย์ ที่จะคอยอยู่เคียงข้างเรายามที่ท้อแท้ ผิดหวัง มีความสุข หรือแม้กระทั่งตอนเหงา แม้พวกมันจะไม่สามารถสื่อสารโดยการพูดได้ แต่ท่าทางของพวกมันก็ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่อยู่ข้างเราตลอดเวลาไม่ทิ้งไปไหน และไม่มีข้อกังขาใด ๆ ในความรู้สึกเหล่านี้ มีแต่ความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสาล้วน ๆ เรียกได้ว่า ยามสุขเราสุขด้วย และยามเศร้าก็เศร้าด้วย โดยความสัมพันธ์ของสุนัขและมนุษย์นั้นจะค่อยๆ พัฒนา ไม่ต่างจากการที่คนแปลกหน้าสองคนมาเจอกัน หากถูกชะตาก็จะคบหาดูแลซึ่งกันและกันไปยาวๆ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสุนัขนั้นมีความลึกซึ้งที่คำพูดไม่สามารถบรรยายได้ ถึงความผูกพัน ความห่วงใย แม้กระทั่งตอนเหงา สุนัขก็รับรู้อาการเหล่านั้นของมนุษย์ได้ เปรียบได้เสมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่รักและห่วงใยเราเสมอมา

ท่าทางของสุนัขสื่อความหมาย

Alice and Sean the fawn Great Dane. This was the first shoot done by photographer Andy Seliverstoff that serendipitously evolved into the “Little Kids and Their Big Dogs” book.

เครดิตภาพจาก : mamacita785468893.wordpress.com

            สัตว์เลี้ยงแทบทุกจะชนิด ย่อมมีเอกลักษณ์ในการสื่อสารเหมือนๆ กัน โดยเปรียบได้เหมือนการที่สัตว์        สปีชีส์เดียวกันพูดภาษาเดียวกันผ่านท่าทาง การที่เจ้าของรับรู้ว่ามันต้องการอะไรผ่านท่าทางเป็นการเลี้ยงพวกมันได้ใกล้ชิดคำว่าเพื่อนมากที่สุด ซึ่งแสดงออกถึงการดูแลเอาใจใส่ และทำให้พวกมันรู้สึกมีความสุข สุนัขแต่ละตัวอาจสื่อความหมายผ่านท่าทางไม่เหมือนกัน 100 เปอร์เซน แต่ท่าทางขั้นพื้นฐานที่ส่วนมากจะมีความหมายคล้ายคลึงกันนั้น มีดังนี้

  1. สั่นหาง วิ่งไปมา
  2. นี่เป็นท่าทางที่พวกมันแสดงออกยามที่พวกมันตื่นเต้น ดีใจ ดังนั้นความดีใจของพวกมันจึงสื่อสารออกมาผ่านการวิ่งไปมา และสั่นหางด้วยความกระตือรือล้น
  3. หางตั้งตรง หูตั้ง ส่งเสียงคำรามต่ำๆ
  4. หากสุนัขของคุณมีอาการเหล่านี้ให้ระวังไว้ก่อนเลย เพราะพวกมันกำลังขู่ และพร้อมที่จะกัดทุกเมื่อ
  5. จมูกแห้ง หูตก ไม่ร่าเริง
  6. อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสุนัขของคุณมีอาการป่วย ไม่สบานเนื้อไม่สบายตัว จมูกที่แห้งนั้นบ่งบอกได้ถึงสุขภาพโดยรวมของสุนัขได้ดี โดยถ้าจมูกแห้งและสุนัขมีอาการซึมแล้วละก็ พาพวกมันไปหาหมอเพื่อช่วยดูอาการจะดีที่สุด
  7. กระดิกหางต่ำ
  8. การกระดิกหางต่ำนั้นบ่งบอกถึงความเสียใจ โดยถ้ากระดิกหางช้าๆ นั้นจะสื่อถึงความกังวล หรือกำลังสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ด้วยความไม่มั่นใจนัก
  9. หมอบต่ำราบไปกับพื้น
  10. สื่อไปถึงการยอมแพ้ โดยพวกมันจะมองไปยังสิ่งที่พวกมันกลัว และหมอบต่ำราบไปกับพื้น เปรียบเสมือนการที่มนุษย์ยกธงขาวยอมแพ้นั่นแหละ

การเลี้ยงสุนัขก็เหมือนการประคองความสัมพันธ์ ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา ดูแลกันให้ดี เพราะในยามที่เราทุกข์สุนัขของเรากพลอยไม่มีความสุขไปด้วย เรียกได้ว่าได้เพื่อนแท้เพิ่มมาอีกคนในร่างสุนัขกันเลยทีเดียว

#สุนัขพูดได้ #ท่าทางสุนัขสื่ออารมณ์ #เรียนรู้สัตว์เลี้ยง

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

9 ต้นไม้ที่กำลังจะมาแรงในปี 2564

ต้นไม้ที่กำลังจะมาแรงในปี 2564 นี้คือเหล่าบรดาต้นไม้ที่เคยมาแรงในปีที่แล้วและยังคงแรงต่อเนื่องซึ่งหากว่าเรารู้ก่อนว่าต้นไหนจะขายดี ต้นไหนจะมาแรงเราก็จะสามารถไปหาซื้อมาปลูกได้ก่อนในราคาปกติไม่ใช่ราคาตามกระแส ซึ่งต้นไม้ที่คาดว่าจะมาแรงในปีนี้มีต้นอะไรบ้างไปดูกันเล้ย

1. กระบองเพชรก้างปลา

ต้นไม้ที่เป็นสายพันธุ์หรือตระกูลกระบองเพชรที่มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก ลักษณะของต้นมีรูปทรงหยึกหยัก ออกดอกเป็นสีชมพูสวยงามเช่นเดียวกับกระบองเพชรตระกูลอื่นๆ แถมยังดูแลง่าย เติบโตง่ายด้วย

2. แคคตัสหูกระต่าย

แค่ชื่อก็น่ารักน่าปลูกแล้วสำหรับเจ้าต้นแคคตัสหูกระต่าย สำหรับ 1 ในต้นไม้ที่คาดว่าจะมาแรงในปีนี้ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูน่ารัก มีหูเล็กๆน่าเลี้ยง น่าทะนุถนอมทำให้เจ้าแคคตัสหูกระต่ายเป็นอีกต้นในลิสต์ของปีนี้ที่น่าซื้อมาปลูก

3. เฟิร์นบลูสตาร์

ต้นเฟิร์นรูปร่างแปลกตาที่ยังไม่เป็นที่นิยมนักแต่เหมาะมากสำหรับวางตกแต่งไว้ในห้องน้ำ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีความชื้นสูง

4. ริปซาลิสไข่มุก

อีกชนิดของต้นกระบองเพชรที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นนัก แต่เป็นเพียงชนิดเดียวของกระบองเพชรที่มีลำต้นอวบน้ำสามารถเจริญเติบโตได้ดีตลอดทั้งปีและถ้าดูแลดีก็จะมีผลออกมาให้เห็นด้วย

5. คล้า

ต้นคล้าเป็นต้นไม้ประดับที่มีลักษณะใบเป็นรูปไข่ สีสันของใบมีความหลากหลายตามธรรมชาติทั้งสีชมพู สีขาว สีเหลือง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและถือเป็นไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกไว้ประจำบ้าน

หากต้องการมีสุขภาพที่ดี ควรมีต้นไม้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว หรือใหญ่กว่านั้นก็ได้วางอยู่ตามจุดต่างๆ ของบ้าน

แต่อย่างไรก็ตามต้นไม้ที่จะปลูกก็ขึ้นอยู่กับขนาดของบ้าน บริเวณใช้สอยต่างๆ และงบประมาณ รวมถึงความสามารถในการดูแลต้นไม้ทุกต้นที่อยู่ในบ้านด้วย โดยต้นไม้อีก 4 ชนิดที่เราแนะนำก็เป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่เหมาะแก่การวางในบ้านได้แทบทุกมุม

6. สายป่านดวงใจ

ชื่อต้นไม้ที่โรแมนติกมากๆกับต้นสายป่านดวงใจเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบแอฟริกาใต้ นิยมนำมาเป็นไม้แขวนประดับบ้าน เพราะเวลาโตเลื้อยยาวทอดเส้นลงมา ใบที่มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ซึ่งถ้าปลูกบนพื้นราบสามารถโตและยาวได้ถึง 5 เมตร

7. ไพเลีย

ต้นไพเลียหรือต้นไม้ที่คนทั่วไปจะรู้จักในชื่อต้นแพนเค้ก เป็นต้นที่มีใบทรงกลมเป็นเอกลักษณ์ ชอบแสงสว่าง ทั้งยังเป็นไม้ที่เชื่อว่าถ้าปลูกในบ้านจะเป็นสิริมงคลในด้านของการช่วยเรียกเงิน เรียกทอง โชคลาภ และพลังบวกเข้ามาสู่บ้าน

8. ลิ้นมังกร

เป็นต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่ช่วยฟอกอากาศทำให้อาการบริสุทธิ์ขึ้น ทั้งยังเป็นต้นไม้ที่ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากเพราะไม่ต้องการน้ำมาก หรือแสงแดดมากนัก  อีกทั้งต้นลิ้นมังกรยังเป็นต้นไม้ฟอกอากาศและช่วยดูดคาร์บอนไดออกไซด์ในเวลากลางคืนและช่วยคายออกซิเจนในเวลากลางคืนซึ่งถ้าปลูกในห้องนอนก็จะทำให้คุณนอนหลับได้สบายขึ้น

9. สลัดได

เป็นต้นไม้ในตระกูลกระบองเพชรสลัดได มีความสวยงาม ปลูกง่าย ทนแดด ทนแล้ง เหมาะสำหรับตกแต่งห้องหรือหน้าร้าน จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กจำพวกเดียวกับตะบองเพชร ที่มีความสูงของต้นประมาณ 3-6 เมตร

เครดิตรูปภาพ sanook.com

#เทรนด์ต้นไม้ปี2564 #ต้นไม้น่าปลูก #แนะนำต้นไม้ฮิต

Categories
Uncategorized

5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ที่นี่เป็นที่แรก Part 2

            ในที่สุดผมก็กลับมาตามคำเรียกร้องกันแล้วครับทุกคน อะไรนะ? ไม่ได้เรียกร้องผมกันหรอกเหรอ โอเค ผมสำคัญตัวผิดไปเองก็ได้ เอาเป็นว่าวันนี้ผมกลับมาแล้วจริง ๆ นะ กับ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนในพาร์ทที่ 2 หลังจากที่ได้มีการปล่อยพาร์ทแรกออกไปอย่างที่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนชอบกันบ้างหรือเปล่า แต่ก็เอาเป็นว่าผมหวังจริง ๆ ว่าจะมีคนตามอ่านในพาร์ท 2 ที่กำลังจะเล่าต่อไปนี้ ใครที่พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับผม!!

Tulip

            ทิวลิปถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 1000 ปีก่อนโดยประมาณ ในป่าของเปอร์เซียใกล้ Kabul แถมยังมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันมากถึง 33 ชนิด ภาษาตุรกีแปลว่าธุรกิจ ในขณะที่ชาวเปอร์เซียนำทิวลิปมาเป็นส่วนหนึ่งในการสรรเสริญศิลปินของพวกเขา ทั้งภาพวาดและเพลงทั้งหมดจนถูกมองว่าทิวลิปคือสัญลักษณ์ของจักรวรรดิออตโตมันไปเสียแล้ว และในปี 1610 ที่เริ่มมีการนำเข้าของใช้ต่าง ๆ ที่มีลวดลายของดอกทิวลิป ทั้งเสื้อผ้า หรือแม้แต่โคมไฟก็ทำให้ดอกทิวลิปกลายเป็นเหมือนกับเทรนด์ใหญ่ยอดนิยมมในสมัยนั้นจนผู้คนแทบจะทุกบ้านต่างก็ทิ้งงานของตนและหันมาปลูกดอกทิวลิปกันมากขึ้นจนดอกทิวลิปราคาสูงเสียยิ่งกว่าบ้าน 1 หลัง ภาวะเงินเฟ้อพุ่งจนถึงขีดสุดก่อนจะเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจทำให้เงินฝืด เศรษฐกิจล้มตัว คล้ายกับว่าเป็นวิฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่และครั้งแรกของโลกเลยก็เป็นได้

Gladiolus

            ในภาษาละติน ‘Gladius’ หมายถึงดาบ และในภาษากรีกชื่อ ‘Xiphos’ ก็หมายถึงดาบเหมือนกัน และด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้เองจึงทำให้ชื่อ Gladiolus ถือกำเนิดขึ้นมา ตั้งตามมาจากลักษณะที่คล้ายกับดาบ เป็นตัวแทนของนักสู้ชาวโรมัน นอกจากนี้ในทางการแพทย์ แกลดิโอลัสของอังกฤษในส่วนของโคนต้นก็นำมาทำเป็นยาพอกได้

Dahlia

            คล้ายกับว่าเป็นเอกสารทางการแพทย์ใน 60 ปีต่อมา หลังจากที่โคลัมบัสกลับมา เอกสารฉบับนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่าชาว Aztecs ใช้ Dahlia ในการรักษาโรคลมบ้าหมู และนอกจากนี้นักวิจัยในยุโรปช่วงปี 1840 ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า Dahlia สามารถทานได้หลังจากเหตุการณ์โรคติดต่อในมันฝรั่งของฝรั่งเศส ที่เป็นวิฤตเรื่องปากท้องเรื่องหนึ่งที่สำคัญ

Sun Flower

            แต่เริ่มแรกดอกทานตะวันไม่ได้นิยมในเรื่องของความสวยงาม แต่ขึ้นชื่อในเรื่องของประโยชน์ต่างหาก โดยการนำของฝั่งอเมริกากลาง แต่ในปี 1532 ก็มีการรายงานมากจาก Francisco Pizarro เหมือนกันว่าชาวเปรูในอาณาจักรอินคาบูชาดอกทานตะวันไซส์ยักษ์  นอกจากนี้นักบวชอินคาก็ยังสวมดอกทานตะวันบนเสื้อผ้าที่มีทองคำด้วยเหมือนกัน เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรือง

Delphinium

            เดลฟิเนียมมาจากภาษากรีกแปลว่าปลาโลมา เพราะว่าดอกเดลฟิเนียมมีลักษณะคล้ายจมูกของปลาโลมา ชาวอเมริกันนิยมนำดอกเดลฟิเนียมมาสกัดเป็นสีย้อมผ้าสีน้ำเงิน และในฝั่งยุโรปก็นิยมนำเดลฟิเนียมมาทำหมึก แต่ถ้าย้อนกลับไปสมัยโบราณมาก ๆ เดลฟิเนียมถือเป็นเหมือนยาไล่แมงป่องชั้นดี (ไม่รู้ว่าจริงหรืออุปโลกกันไปเอง)

            จบกันไปแล้นะครับกับพาร์ท 2 ของ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรุ้มาก่อน ใครที่สนใจและอยากจะตามติดในพาร์ทที่ 3 (พาร์ท 2 ยังไม่รอดเลย) ผมก็อยากจะขอให้ทุกคนไม่ต้องรอนะครับ เพราะผมจะเขียนก็ต่อเมื่อผมมีอารมณ์นั่นเองล้อเล่นครับ เอาเป็นว่าถ้ามีอะไรน่าสนใจผมก็จะรวมมาลงให้อีกที แต่สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่ติดตามกันมาก ๆ เลยนะครับ แล้วเจอกันใหม่จ้า!!

ที่มาภาพ :  Beaconboy Travel Company Limited, Gardenia, gardening Know how, BCC, Wallpaperflare

#ดอกไม้กับประวัติศาสตร์โลก #เรื่องดอกไม้ที่คุณไม่รู้

Categories
Uncategorized

5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ที่นี่เป็นที่แรก Part 1

            ‘ดอกไม้’ แค่พูดคำคำนี้ออกมาก็สัมผัสได้แล้วถึงการน่าทนุถนอม ความสวยงาม ความบอบบางของอะไรสักอย่าง และนั่นก็เป็นเพียงแค่สิ่งแรกที่เรารับรุ้ หรือแม้แต่ความหมายดดยนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของความสวยงาม แต่ว่าวันนี้พวกเราไม่ได้มาตีแผ่ความหมายของดอกไม้ แต่เป็นภุมิหลังของดอกไม้แต่ละชนิดต่างหาก กับ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ใครที่พร้อมแล้ว ไปลุยกันเลยครับ!

Carnations

            คาเนชันเป็นดอกไม้จากกรีก  ชื่อเดิมจริงๆ แล้วคือ Carnis หรือคานิส แปลว่า สัมผัสดั้งเดิมของดอกไม้ หรืออีกนัยหนึ่งก็อาจจะหมายถึงอวตาร หรือแม้แต่การจุติของเทพเจ้า มักใช้การทำเป็นมงกุฎและใช้ในพิธีสำคัญของกรีกใน   หลาย ๆ พิธี

Daisy

            การค้นพบของเดซี่เริ่มต้นที่การขุดค้นพบปิ่นปักผมคล้ายดอกเดซี่สีทองสวยในพระราชวังมิโนอันบนเกาะครีต  คาดว่าเดซี่มีอายุมากมากกว่า 4000 ปี นอกจากนี้ก็ยังพบเครื่องเซรามิกในสมัยอียิปต์มีการตกแต่งที่แสดงให้เห็นถึงดอกเดซี่อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าเทียบในภาษาฝรั่งเศสแล้วดอกเดซี่ หรือ “Marguerite” มาจากภาษากรีกที่แปลว่าไข่มุก ซึ่งฟรานซิสก็เรียกน้องสาวของเขาว่ามาร์เกอริต หรือมากาเร็ต และพวกเธอเหล่านั้นทั้งหมดที่มีชื่อดังต่อไปนี้ก็ยังนิยมใช้เครื่องประดับหรือของที่เกี่ยวกับเดซี่ทั้งหมดคล้ายกับคำสาป

Holly

            Holly ถูกพระในช่วงยุคกลางเรียกว่าเป็น Holy tree ซึ่งให้อารมณ์คล้าย ๆ ต้นไม้ไล่ผี ฤทธิ์เหมือนน้ำมนต์อะไรเทือกๆ นั้น ผู้คนก็เลยใช้ Holly เป็นเหมือนกับไม้กันผีหน้าบ้าน และกันแดดด้วย ถือเป็นไม้ที่มีประโยชน์ จนกระทั่งในยุคโรมันที่เริ่มตกแต่งทางเดินในห้องโถงด้วยมาลัยที่ทำมาจาก Holly ในช่วงเทศกาลในฤดูหนาว ต่อมา Holly ได้กลายเป็นตัวแทนของพระเยซูโดยเปรียบใบที่แหลมคมเป็นเหมือนมงกุฎหนามที่พระเยซูสวมใส่ ส่วนผลเบอร์รี่สีแดงเป็นหยดเลือดของพระเยซูนั่นเอง

Lily

            ลิลลี่มีความเกี่ยวข้องกับหลายตำนานบนโลก ถ้าย้อนกลับไปสมัยปี 1580 ก่อนคริสต์ศักราชก็มีการค้นพบภาพดอกลิลลี่ในวิลล่าแห่งหนึ่งบนเกาะครีตสมัยมิโนอัน ก่อนที่ลิลลี่จะถูกกล่าวขานในความหมายของพันธสัญญาเก่า และในยุคใหม่ก็กลายเป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์และคุณธรรม เพราะในศาสนาคริสต์และศาสนานอกรีตอื่นๆ ก็มีการนับถือดอกลิลลี่ในแง่มุมของความบริสุทธิ์ทางเพศ ความอุดมสมบูรณ์ สังเกตได้จากในพิธีแต่งงานที่เจ้าสาวมักจะสวมมงกุฎที่ทำมาจากดอกลลิลลี่ที่หมายถึงความบริสุทธิ์และความอุดมสมบูรณ์

Violets

            ดอกไวโอเลตถูกใช้ในงานแต่งงานของนโปเลียนและโจเซฟิน เพราะโจเซฟินสวมมงกุฎดอกไม้สีม่วง รวมถึงในทุก ๆ วันครบรอบ นโปเลียนก็มักจจะให้ช่อดอกไม้สีม่วงจากไวโอเลตเป็นของขวัญเธอด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งนโปเลียนกลายเป็นหัวหน้ากลุ่ม Bonapartists ก็ยังใช้สีม่วงจากดอกไวโอเลตเป็นสัญลักษณ์ แม้กระทั่งในปี 1814 ที่เขาถูกเนรเทศและกลับไปเยี่ยมหลุมศพของโจเซฟิน และเสียชีวิตลง ล็อกเก็ตรอบคอของเขาก็ยังคงมีสีม่วงที่มาจากหลุมศพของโจเซฟินด้วยเหมือนกัน

            จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับกับ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลัง ในพาร์ทที่  สำหรับพาร์ท 2 ที่กำลังตามมาก้หวังว่าจะมีคนมาตามอ่านกันอีกเหมือนเดิมเช่นเคย สายดอกไม้และสายประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาดกันแล้วนะครับ  แล้วเจออกันใหม่ในพาร์ท 2 ของ 5 ดอกไม้กับประวัติศาสตร์เบื้องหลังที่หลายคนไม่เคยรู้ สวัสดีครับ

ที่มาภาพ : Freepik, Masterclass, Flowermeaning, Old farmer’s Almanac, Wonderland trust

#ดอกไม้กับประวัติศาสตร์โลก #เรื่องดอกไม้ที่คุณไม่รู้

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

‘ทิเบตันมาสทิฟฟ์’ จากสุนัขเศรษฐีสู่สุนัขจรจัดข้างถนน

สัตว์เลี้ยงในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายสปีชีส์ บางตัวได้อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดี กินดีอยู่ดี แต่บางตัวก็อาจกินอาหารแบบอดๆ อยาก โดยสุดท้ายแล้วเมื่อเจ้าของบางคนที่ไม่สามารถดูแลเรื่องความเป็นอยู่และอาหารการกินของสัตว์เลี้ยงได้ดี ผลลัพธ์ก็คือการนำไปปล่อย และส่งผลทำให้สัตว์เหล่านั้นไร้ผู้ดูแล กลายเป็นสัตว์กำพร้าที่ถูกทิ้ง

เครดิตภาพปกจาก : https://www.dogsclip.com/articles/1614/

ซึ่งก็มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ในประเทศทิเบต ที่ซึ่งสุนัขพันธุ์ฮิตสำหรับเศรษฐีในอดีตกาลอย่างสุนัขพันธุ์ ‘ทิเบตันมาสทิฟฟ์’ นั้นกลายเป็นสุนัขจรจัดในช่วงศตวรรษที่ 1900-2000

ประวัติของสุนัขทิเบตันมาสทิฟฟ์

เครดิตภาพจาก : https://www.akc.org/dog-breeds/tibetan-mastiff/

เป็นสุนัขพันธุ์ทิเบตแท้ โดยในดดีตกาลนั้น ถูกใช้เป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงแกะ จึงค่อนข้างมีนิสัยที่ดุร้ายและไม่ค่อยเป็นมิตร โดยลักษณะเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้คือมีขนาดตัวที่ใหญ่ ขนหนานุ่ม และมีหน้าตาคล้ายสิงโต น้ำหนักตัวสำหรับตัวที่ใหญ่มากที่สุดอาจหนักได้ถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว

โดยในอดีตราวปี 1900-2000 สังคมของประเทศจีน มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก และเจ้าสุนัขพันธุ์ทิเบตันมาสทิฟฟ์ ก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของเศรษฐีหน้าใหม่ ในยุคนั้นจึงถือว่าใครไม่มีสุนัขทิเบตตันมาสทิฟฟ์ในครอบครองถือว่ารวยไม่จริง ดังนั้นอัตราการเพิ่มขึ้นของสุนัขทิเบตตันในสมัยนั้นจึงมีมากมายทั่วบ้านทั่วเมืองไปหมด และเพราะเหตุนี้เมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ สุนัขจึงเป็นสิ่งสิ้นเปลืงชิ้นแรกที่จะถูกตัด ส่งผลทำให้มีสุนัขจรจัดจำนวนมากถูกปล่อยทิ้งไว้บนท้องถนน

การดูแลสุนัขทิเบตันมาสทิฟฟ์

เครดิตภาพจาก : https://pet.kapook.com/view84686.html

เนื่องจากขนของมันมีความยาวและหนามาก วิธีการดูแลเลยต้องเคร่งครัดเป็นพิเศษ โดยปฏิบัติ ดังนี้

1. การดูแลความสะอาด

การแปรงขน ควรแปรงอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้เส้นขนที่หลุดได้ร่วงออก เป็นการเปิดโอกาสให้มันผลัดขนที่หนาหนุ่มและสวยงามได้ใหม่ 

2. สถานที่

ควรมีสนามหญ้าที่ใหญ่ เพื่อให้สุนัขได้วิ่งออกกำลังกาย เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่ จะทำให้มันรู้สึกสบายและไม่อึดอัด

3. การออกกำลังกาย

ควรให้สุนัขได้วิ่งเล่นในพื้นที่บริเวณที่กว้าง ประมาณ 20-30 นาที และมันจะสนุกมากถ้าได้เล่นกับสุนัขที่มีขนาดตัวเท่ากัน

4. การรับประทานอาหาร

ควรให้รับประทานแต่อาหารแห้งจำพวกโปรตีน ไขมัน และผัก เช่น ไก่ ปลา ไข่ ผักจะเป็นแครอท ถั่ว คื่นช่าย ผักโขม เป็นต้น โดยอาหารกระป๋องจะสามารถผสมไปด้วยได้ในกรณีที่สัตวแพทย์สั่งให้เพิ่มน้ำหนักของตัวสุนัขเท่านั้น

                  สัตว์เลี้ยงทุกชนิดเป็นสัตว์ที่มีความคิด ฉลาดและมีความรู้สึก แม้ว่ามันจะพูดไม่ได้ แต่เราในฐานะผู้เลี้ยง เมื่อตัดสินใจเลี้ยงแล้ว ก็ควรจะดูแลเขาให้ดี ดังนั้นฝากเหตุการณ์ของเจ้าสุนัขพันธุ์ทิมเบอตันมาสทิฟฟ์เป็นกรณีศึกษาและอุทาหรณ์สำหรับการตัดสินใจก่อนรับเลี้ยงสัตว์เลี้ยง

#ทิมเบอตันมาสทิฟฟ์ #สุนัขถูกทิ้งในทิเบต #ปัญหาสุนัขจรจัด

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 ต้นไม้ที่น่าปลูกไว้บริเวณรอบๆบ้าน เพื่อความอุดมสมบูรณ์และความน่าอยู่

ต้นไม้นั้นถือเป็น สิ่งมีชีวิต ประเภทพืช ที่สำคัญมากๆพอๆกับน้ำ ต้นไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติ มีมากมายบนโลก มีหลายพันหลายชนิด

แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท น่าจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับ หรือว่าจะเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวพืชใบเลี้ยงคู่

คำว่าต้นไม้นั้นสามารถแปลเวลาหลายอย่างน่าจะเป็นป่าไม้ ชนิดพืชหรือพืชต่างๆ

วันนี้เราจะมาบอกถึง 3 ต้นไม้ที่ควรปลูกไว้บริเวณรอบๆบ้าน เพื่อความสวยงามและความน่าอยู่บ้านเราในบ้านเรานั้นมีความร่มรื่นมาก สำหรับใครที่อยากรู้แล้วว่าจะมีต้นอะไรบ้างนะดูกันเลย

1. ต้นมะม่วง

ต้นมะม่วงที่เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อมีการเจริญเติบโตเต็มที่แล้วนะจะออกไปออกผลได้อย่างสวยงาม และมีขนาดลำต้นใหญ่พอสมควร

ซึ่งต้นดีนะถ้าเรานำมาปลูกบริเวณรอบบ้านเราแล้ว ถ้ากว้างพอสมควรก็สามารถ ต้นไม้ตอนนี้ได้

เพื่อความร่มรื่นและความน่าอยู่บริเวณรอบบ้านของเรา นอกจากนี้เรายังสามารถนำสิ่งของต่างๆมาวางไว้ใต้ต้นไม้หรือต้นมะม่วงเราได้ เพื่อเป็นที่นั่งหรือที่พักพิง เอาไว้พักนั่งดูให้สบายตา เป็นต้น

2. ต้นวาสนา

ต้นวาสนานั้นถือเป็นต้นไม้ ชนิดหนึ่งที่มีความสวยงาม จะมีใบเป็นใบยาว ค้าขายกับว่านหางจระเข้ ซึ่งตอนนี้นั้นมานำมาปลูกใกล้ๆบริเวณบ้านนั้นจะช่วย ให้ความร่มรื่นและให้ความอุดมสมบูรณ์แก่บ้านของเรา

เเละยังสวยสามารถประดับ ได้ในที่ต่างๆ ต้นนี้จะเป็นลำต้นที่มีส่วนใหญ่มากนักจะเป็น ใบที่ออกมาจากดินและไม่เห็นลำต้นที่แน่ชัดเจนลำต้นจะอยู่ใต้ดิน จะมีรากที่แข็งแรง เเละ เเข็งเเกร่ง.

3. คุณนายตื่นสาย

ชื่อพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ถือเป็นไม้ดอกไม้ประดับถือเป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่เราสามารถนำมาตกแต่งบ้านของเราได้ ความสวยงามเพราะต้นไม้ชนิดนี้มีหลายสี มีสีสันที่สวยงามและออกดอกได้เร็ว

ดอกไม้ชนิดนั้น สามารถออกดอกเลื้อยไปได้หลายที่หลายทิศทาง และลำต้นมันจะมีขนาดไม่ใหญ่มากก็เป็นต้นที่ขึ้นมาจากใต้ดิน มีความสวยงาม เหมาะแก่การปลูกรอบบ้านเรามาก

แล้วความสบายมาเอาไว้ดูตอนที่เราอยู่ตอนนี้มีอะไรทำ ต้นไม้ชนิดใดที่ถือเป็น พันธุ์ไม้ดอกและพันธุ์ไม้ประดับที่นิยมปลูก ในหลายๆบ้าน ถ้าคุณจะนำมาปลูกบริเวณรอบรอบบ้านของคุณ ก็จะทำให้ บ้านของคุณนั้นจะมีความน่าอยู่มากขึ้นเนื่องจากมีดอกไม้ประดับที่สวยงาม.เป็นต้น

เครดิตของรูปภาพทั้งหมด

รูปที่ 1 จาก pixabay

รูปที่ 2 จาก pixabay

รูปที่ 2 จาก pixabay

#3 ต้นไม้ที่น่าปลูก #แนะนำต้นไม้น่าปลูก #แนะนำจัดสวน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

กระต่าย สัตว์ที่เลี้ยงง่ายที่สุด

                  โลกใบนี้มีคนมากมายแทบจะร้อยเปอร์เซ็นที่เลี้ยงสัตว์ บ้างเลี้ยงเพื่อไว้เป็นเพื่อน บ้างเลี้ยงไว้เพื่อสร้างสีสันให้กับบ้าน บ้างเลี้ยงไว้สำหรับเฝ้าบ้าน โดยสัตว์ที่คนส่วนใหญ่เลี้ยงได้และแทบจะไม่มีอุปสรรคในการเลี้ยงเลยก็คือ กระต่าย

เครดิตภาพปกจาก : https://www.sanook.com/women/14460/

                  กระต่ายถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่ายและไม่ส่งเสียงดัง อีกทั้งในการเลี้ยงกระต่ายนั้น ก็ยังสามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่จำกัด อาทิเช่น ในคอนโด หอพัก หรือบ้านเล็ก ๆ ได้อย่างสบายๆ โดยขนของมันทั้งหนานุ่มและมีหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดู

กระต่ายพันธุ์ที่ยอดฮิต

เครดิตภาพจาก : http://bunnyiswolrd.blogspot.com/p/1.html

                  กระต่ายแคระเป็นสัตว์อีกชนิดที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมในเหล่าคนรักกระต่าย เนื่องจากขนาดตัวที่เล็กและหน้าตาที่น่ารัก ทำให้มันเป็นที่นิยมมาก

1. Lion Head

ลักษณะพื้นฐานของสายพันธุ์นี้นั้นมีโครงสร้างพื้นฐานคล้ายกับกระต่ายพันธุ์ทั่วๆ ไป เป็นลักษณะที่มีขนาดหัวและตัวที่ใหญ่ แต่มีลักษณะเด่นคือขนที่คอที่มีความหนาและยาวคล้ายกับสิงโต แต่เพราะสายพันธุ์กระต่ายของมันทำให้ขนบริเวณคอมันน่ารักน่าเอ็นดูมากเสียกว่าการทำให้น่ากลัว และนิสัยของมันเป็นสัตว์ที่น่าอายทำให้น่ารักยิ่งเข้าไปอีก

2. Dwarf Hotot

เป็นกระต่ายพันธุ์นี้ยังไม่ได้ดังมากในประเทศไทย เนื่องจากทางฟาร์มไม่ได้ใส่ใจในการพัฒนาสายพันธุ์นี้มากนัก โดยความโดดเด่นของสายพันธุ์นี้คือดวงตาที่มีความกลมโต สีขอบตาที่ดำสนิทและมีความหนาที่เป็นเส้นกลมยาวต่อกันทั้งดวงตา เป็นลักษณะเด่นที่มาเหมือนใครเลยจริง ๆ

3. Mini Rex

เป็นกระต่ายที่มีลักษณะของขนที่หนา และแน่น และวิธีดูแลก็คือลูบขนของมันบ่อย ๆ เป็นวิธีผลัดขนที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว และเนื่องจากขนที่มีความหนามาก ทำให้เวลามันสกปรกจะทำความสะอาดได้ยากกว่าพันธุ์อื่นที่มีขนบางกว่า

4. Netherland Dwarf

เป็นกระต่ายสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในบรรดากระต่ายสายพันธุ์กระต่าย โดยมีลักษณะเด่นที่หู โดยหูจะตั้งขึ้นตลอดเวลา โดยกระต่ายสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่มีความกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉงมากที่สุด แต่ก็ต้องใช้เวลาเข้าหามันสักระยะหนึ่ง

5. Holland Lop

อวัยวะที่เด่นของสายพันธุ์นี้ก็คือ หูจะตกลงมา โดยแนบที่เด่นทั้งสองข้าง เป็นการเพิ่มความน่ารักให้กับมันได้ดีเลยทีเดียว มีนิสัยเป็นสัตว์ที่ว่านอนสอนง่าย

เครดิตภาพจาก : https://www.sanook.com/women/14460/

กระต่ายจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่าตาน่ารัก และเป็นมิตร ดังนั้นเราควรดูแลมันให้ดีเหมือนเป็นมิตรสหายคนหนึ่ง ที่น่ารักและคอยอยู่ข้างๆ เราเสมือนเพื่อน

#กระต่าย #สายพันธ์กระต่าย #กระต่ายพันธุ์ยอดฮิต

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

5 ต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเสริมดวงด้านการเงิน

ต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยคืออีกหนึ่งสิ่งที่คนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยจะมีปลูกไว้ในบ้าน ซึ่งคนที่เชื่อในเรื่องนี้ทั้งคนไทยและต่างประเทศต่างก็มีความเชื่อไปในทางที่ใกล้เคียงกันคือหากมีต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยไว้ในบ้านก็จะช่วยไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปจากบ้านได้ด้วย โดยสำหรับต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยที่เรานำมาเขียนให้อ่านกันวันนี้คือต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยที่คนนญี่ปุ่นเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ในบ้านจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยด้านเงินทองหรือเรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา ถ้าใครอยากให้บ้านเป็นที่กวักเงินกงักทองมาดูกันเลยว่าต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยมีต้นอะไรบ้าง

1. ต้นกร่าง (Gomunoki, ゴムの木)

ต้นกร่างเป็นต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยและเป็นพืชตระกูลไทรที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นพืชมงคลที่คนญี่ปุ่นเชื่อว่าช่วยเสริมสร้างความเป็นมงคลด้านการเงิน จึงนิยมวางกระถางต้นกร่างไว้ตรงทางเข้าบ้าน ซึ่งนอกจากจะเสริมฮวงจุ้ยให้บ้านดูสว่างขึ้นแล้วก็ยังเสริมความโชคดีแล้วหากต้องการเพิ่มโชคด้านการเงินก็ให้วางกระถางต้นไม้ไว้ทางทิศตะวันตกหรือทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน

2. ต้นบันยัน (Gajumar, ガジュマル)

ต้นบันยันเป็นพืชตระกูลไทรที่ปกติหากอยู่ตามธรรมชาติจะมีต้นสูงและมีกิ่งก้านหากต้องการให้เป็นต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยให้วางกระถางต้นบันยันไว้ทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านจะช่วยเรียกเงินเข้าบ้าน หากปลูกต้นบันยันขนาดใหญ่ไว้ทางทิศตะวันตกของบ้านจะป้องกันการไหลออกของเงินทองและทรัพย์สมบัติ

3. ต้นใบเงิน (Kanenonaruki, 金のなる木)

ต้นใบเงินแค่ฟังชื่อก็รู้ว่าเป็นต้นไม้มงคลและเป็นต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยที่ดีแน่ๆเพราะเป็นพืชใบที่มีความมงคลในด้านการเงิน ต้นใบเงินเป็นพืชในตระกูลไม้อวบน้ำ มีใบหนาคล้ายเงิน นิยมในการนำมาประดับในโอกาสการเปิดร้านใหม่ หากวางต้นใบเงินไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านจะช่วยเพิ่มความโชคดีให้แก่เจ้าของ และหากวางไว้ทางเข้าบ้านก็จะช่วยเรียกเงินเข้าบ้าน

ต้นไม้เสริมฮวงจุ้ย ที่นอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่แล้วยังนำความโชคดีมาให้ผู้อยู่อาศัยได้ด้วย

4. พลูด่าง (Potosu, ポトス)

พลูด่างเป็นต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยที่นำความโชคดีมาให้กับบ้านที่ปลูกโดยเชื่อว่าหากวางหรือแขวนต้นพลูด่างไว้ทางทิศเหนือของบ้านเพื่อเพิ่มความโชคดีในด้านการเงิน และหากวางหรือแขวนไว้ทางเข้าบ้านก็จะนำความโชคดีมาให้

5. ไอวี่ (Aibii, アイビー)

ไอวี่ต้นไม้ชื่อน่ารักที่เป็นไม้เลื้อยที่มีหลากหลายพันธุ์ มีใบรูปคล้ายดาวน่ารักและเป็นพืชทนทานปลูกง่าย คนญี่ปุ่นนิยมนำไอวี่มาปลูกเป็นต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยโดยการวางต้นไอวี่ไว้ทางทิศเหนือของบ้านจะช่วยเพิ่มความโชคดี โดยเฉพาะพันธุ์ที่ใบมีขอบสีครีมจะยิ่งช่วยเพิ่มความโชคดีเข้ามาสู่บ้าน

เครดิตรูปภาพ sanook.com

#ต้นไม้เสริมฮวงจุ้ย #ต้นไม้เสริมการเงิน #ความเชื่อญี่ปุ่น

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

5 อาหารต้องห้ามที่แมวเหมียวไม่ควรทานเด็ดขาด

            “ทาส” ภาษาดั้งเดิมที่เมื่อก่อนมักจะถูกนำไปใช้ในทางลบตอนนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นความหมายใหม่ เมื่อทาสในที่นี้หมายถึงมนุษย์ที่กำลังคลั่งรักอะไรสักอย่าง เช่น ทาสแมว ที่วันนี้พวกเราจะมาพูดถึง เมื่อมนุษย์เริ่มให้ความสำคัญกับเจ้านายของพวกเขามากขึ้น วันนี้เราจึงมีรายนามอาหารต้องห้ามของน้องแมวที่ไม่สามารถทานได้เด็ดขาดมากางให้เหล่าทาสได้อ่านกัน เพื่อความปลอดภัยของแมวๆ มาดูกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มกันเลยค่ะ!

หอมและกระเทียม

            อาหารต้องห้ามชนิดแรกที่น้องแมวควรหลีกเลี่ยง แน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะแบบดิบจากต้นหรือในตลาดสดเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงพวกผงกระเทียมและอาหารปรุงสุกทุกอย่างที่มีกระเทียมและหอมปนอยู่ด้วย เพราะว่าหอมและกระเทียมมีสารประกอบที่เรียกว่า sulfoxides และ disulphides ซึ่งสารประกอบทั้งคู่จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว ทำให้แมวของท่านเกิดอาหารโลหิตจางหรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอันตรายมาก

ปลาดิบ

            อาหารต้องห้ามชนิดที่ 2 ที่ใครหลายๆ คนคงกำลังตั้งคำถาม เพราะถ้านึกถึงแมวก็ต้องนึกถึงปลาเป็นอันดับแรกแต่ทำไมปลาดิบแมวถึงกินไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าในปลาดิบมีแบคทีเรียอันตรายที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายแมวแล้วจะทำลายวิตามินที่สำคัญของแมวอย่าง Thiamine ซึ่งจะส่งผลให้แมวเกิดอาการเบื่ออาหาร หรือชักจนนำไปสู่การเสียชีวิต

อาหารที่มีส่วนผสมของนม

            อาหารต้องห้ามชนิดที่ 3 ที่ต้องมีคนสงสัยอีกแหละ เพราะว่าตอนน้องเป็นเด็กก็มักจะเห็นทาสทั้งหลายป้อนนมกันอย่างเอาอกเอาใจแต่ทำไมคราวนี้ถึงทานไม่ได้ นั่นก็เพราะว่านมเป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโทส ซึ่งสำหรับลูกแมวตัวเล็กก็ถือว่าไม่มีปัญหา แต่สำหรับแมวทที่โตแล้ว ในร่างกายของเขาไม่มีเอนไซซ์แลคเทสในการย่อยโมเลกุลของแลคโทส ดังนั้นเมื่อแมวทานนมเข้าไปจะส่งผลให้น้องเกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสีย เพราะฉะนั้นใครที่อยากให้นมน้องแมวก็แนะนำว่าต้องปราศจากแลคโทสซึ่งแน่นอนว่าคุณก็ควรที่จะมั่นใจจริงๆ ล่ะนะ

สารให้ความหวาน

             Xylitol(ในลูกอมหรือหมากฝรั่งและอื่นๆ) ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารต้องห้ามที่เป็นอันตรายสำหรับแมวไม่ต่างไปจากสุนัข นั่นก็เพราะสารพวกนี้สามารถทำให้ไตของแมวเกิดอาการวายแบบเฉียบพลัน อีกอย่างหนึ่งที่น่ากลัวคือการกระตุ้นทำให้อินซูลินของน้องเพิ่มสูงจนส่งผลให้น้องเกิดอาการมึนเมา ง่วง หรืออาเจียนซึ่งอันตรายมาก

มันฝรั่ง

            อาหารต้องห้ามอันดับสุดท้ายในวันนี้ เนื่องจากมันฝรั่งมีส่วนประกอบของ Glycoalkaloid Solanine ซึ่งค่อนข้างเป็นพิษต่อสัตว์ในเรื่องของระดับทางเดินอาหารส่วนล่าง อาหารสัตว์บางชนิดมีส่วนประกอบของมันฝรั่งด้วยแต่แน่นอนว่าปริมาณสารประกอบดังกล่าวก็ถูกควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นวางใจหายห่วงได้แต่ก็ควรหลีกเลียงอยู่ดี

            เห็นรายนามอาหารต้องห้ามทั้ง 5 อย่างแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ บางชนิดก็ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าแมวจะไม่สามารถทานได้ เพราะฉะนั้นวันนี้เมื่อมีโออากาสได้รับรู้กันแล้วด้วย 2 ตาของทุกคน เราก็ต้องมาหยุดให้อาหารเหล่านี้แก่น้องแมวกัน เพื่อความปลอดภัยของน้องนะคะ

ที่มาภาพ : Medium, Cooking Light, Chicago Tribune, IndiaMART, CJSSupermarket, Biomin

#อาหารต้องห้ามน้องแมว #ทาสแมวต้องรู้ #อาหารแมว

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เทรนด์ หมูจิ๋ว ไมโครพิก (Micro pig)

หมูแคระ หมูจิ๋ว คงมีคนเคยเห็นและอยากที่จะมีไว้สักตัว เพราะ มีความน่ารักด้วยขนาดที่ไม่ใหญ่ กะทัดรัด หมูจิ๋ว เป็นทีนิยมเลี้ยงในต่าง ๆ ประเทศ  และในต่างประเทศก็จะเรียก เจ้าหมูจิ๋ว ต่าง ๆ กันไป เช่น Micro Pig , Mini pig  เพราะขนาดลำตัวที่เล็กพอ ๆ กับ หมาปั๊ก ซุกซน ขี้อ้อน และเลี้ยงง่าย

แต่เพราะความใหม่ที่เพิ่งมีเทรนด์นี้ราคาค่าตัวจึงยังสูงแตะหลักหมื่นเลยทีเดียว เพราะเมื่อก่อนนี้เป็นการนำสายพันธ์เข้ามาจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันนี้สามารถเพาะพันธุในประเทศไทยได้แล้ว

ประวัติความเป็นมา  หมูจิ๋ว

               หมูจิ๋วมีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ในปีประมาณ 19921 ในฟาร์มเพาะเลี้ยงหมูคริสมอเรย์ ที่ใช้ความพยายามผสมพันธุ์หมูจิ๋ว โดยนำหมูสายพันธุ์ต่าง ๆ  เช่น หมูเวิร์ท หมูนิวซีแลนด์ จนได้เป็นหมูจิ๋ว ที่มีชื่อว่า Teacup ping เพราะขนาดที่เกิดมามีขนาดตัวเล็กพอ ๆ กับถ้วยน้ำชา และขายให้กับผู้ที่ต้องการเลี้ยง ด้วยราคาถึงหลักหมื่น และเหล่าเซเลมคนดังต่างนิยมเลี้ยงหมูจิ๋วกันอย่างมาก ด้วยความน่ารัก และเลี้ยงง่าย ทำให้ฟาร์มจึงเพาะพันธุ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง จนไม่ทันต่อความต้องการ จนมีอีกหลายฟาร์มเริ่มทำตาม

ลักษณะทั่วไปของหมูจิ๋ว

               หมูจิ๋ว เป็นหมูที่มีขนาดเล็กกว่าขนาดปกติ สมตามชื่อ หมูจิ๋ว ด้วยขนาดที่เล็กทำให้มีน้ำหนักตัวที่เบา หมูจิ๋วจะโตเต็มที่ต้องใช้เวลาดูแลประมาณ 3 ปี และเมื่อโตเต็มที่จะมีน้ำหนักประมาณ 25-30 กิโลกรัม มีส่วนสูง ที่10-15 นิ้ว หมูจิ๋วจะมีอายุขัยอยู่ราว 20 ปี  การเลี้ยงดูทำได้ง่าย หมูจิ๋วจะไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และไม่เห็บหมัด

ลักษณะนิสัย

                หมูจิ๋ว หรือ หมูแคระ เป็นหมูที่มีนิสัย ซุกซน ขี้อ้อน ชอบอยู่กับคนเลี้ยง มีความฉลาดมาก และเป็นสัตว์ที่รักสะอาดมาก และเข้ากับคนง่าย แต่หมูก็คือหมู ยังมีพฤติกรรมเดิมอยู่กับตัวอย่างพฤติกรรมการที่ชอบคุ้ยดิน อยู่ไม่ค่อยนิ่ง ชอบเดินไปรอบ ๆ  ดื้อ บ้างในบางครั้ง ผู้เลี้ยงจึงควรฝึกนิสัยให้เป็นระเบียบ หมูจิ๋วสามารถฝึกสอนได้

 การเลี้ยงและดูแลหมูจิ๋ว

               ปัจจุบันนี้หมูจิ๋วได้รับความนิยมมากเพราะมีความน่ารัก ฉลาด จนอดหลงรักไม่ได้ เลี้ยงง่าย มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เหมาะกับการเลี้ยงไว้คลายเหงา เพราะสามารถอยู่กับคนเลี้ยงได้นานถึง 20 ปี   เป็นสัตว์เลี้ยงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ก็ยังมีปัญหากวนบ้างเล็กน้อย เกี่ยวกับโรคผิวหนัง โรคเกี่ยวกับกีบเท้า และหาง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาด และอาหารที่ให้ในการเลี้ยงดู       

อากาศร้อนเป็นอันตรายต่อหมูจิ๋ว หมูจิ๋วไม่ชอบอากาศที่ร้อนแดดจะทำให้หมูจิ๋วสามารถไหม้ได้ และอาจทำให้หมูจิ๋วช็อกตายได้

                  อาหารของหมูจิ๋ว นั้นไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงอย่างหมาหรือแมว สำหรับลูกหมูจิ๋ว ไม่ควรที่จะให้กินอาหารเยอะ เพราะจะมีผลเสียมากกว่าผลดีกับลูกหมูอาหารไม่ควรมีรสชาติเค็ม ไม่ใช่เนื้อสัตว์ แต่ควรให้กินพืชผัก และผลไม้ เพื่อลูกหมูจะได้รับสารอาหารที่ครบ  ให้เพียงวันละสองมื้อ เช้าและเย็น

ตอนนี้หมูจิ๋วเป็นที่นิยมมากและราคาต่ำลงจากช่วงแรก ๆ มาก แต่ก็ควรเลือกให้ดีหลายคนที่เคยสั่งซื้อหมูจิ๋วจากออนไลน์ หรือร้านขายโดยหวังว่าจะได้ลูกหมูจิ๋วสักตัว แต่ต้องผิดหวังโดนหลอก จึงต้องพิจารณา ลักษณะเด่น ของหมูจิ๋วดังนี้ ควรเน้นเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี ยิ่งมีใบการันตีได้ยิ่งดี มีจมูกสั้น มีลำตัวที่ยาวไม่สูงมาก หูมีขนาดเล็กตั้งตรง ขาสั้นๆ

หากคุณคิดจะเลี้ยงหมูจิ๋วสักตัว อย่าลืมพิจารณาความพร้อมของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก ๆ ว่าพร้อมหรือยังที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงสักตัว เพราะไม่ใช่แค่ความชอบและอยากเลี้ยง แต่ต้องใส่ใจและมีเวลาให้กับเค้าเหล่านั้น เพราะสัตว์เลี้ยงทุกชนิดก็มีชีวติและจิตใจที่ต้องการความรักและความเข้าใจจากผู้เลี้ยง

#เลี้ยงหมูจิ๋ว #Micro pig #แนะนำสัตว์เลี้ยง