Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

ว่านดอกทอง

            ว่านดอกทอง ได้ยินชื่อแล้วสะดุ้ง ไม่ได้เป็นคำด่า และไม่ต้องตกใจ นี่คือชื่อต้นไม้จริง ๆ คะ  ว่านดอกทอง เป็นว่านโบราณที่มีอยู่จริง และตอนนี้ก็ใกล้สูญพันธ์แล้วด้วย..วันนี้จะมานำเสนอเรื่องของ ว่านดอกทอง ให้ได้รู้จักค่ะ

ว่านดอกทอง นั้นยังมีชื่อที่ฟังเสนาะหูอีกหลายชื่อค่ะ เช่น ว่านมหาเสน่ห์ รากราคะ  ว่านมหาเสน่ห์ดอกทอง ว่านดอกทองตัวผู้ ว่านดอกทองตัวเมีย ว่านดินสอฤาษี ว่านดอกทองกระเจา เป็นต้น  

https://i.ytimg.com/

ลักษณะทั่วไป :

ว่านดอกทอง จัดเป็นไม้ล้มลุก ว่านมีลักษณะเป็นหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน เหง้าเป็นรูปทรงกลม และแตกแขนงเป็นไหลขนาดเล็ก มีขนาดยาวประมาณ 10 นิ้ว มีความสูงของต้นประมาณ 1 ฟุต ออกดอกในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องไปจนถึงฤดูฝนของทุกปี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อ ว่านดอกทอง แบ่งออกเป็น 2 ชนิด

1.ว่านดอกทองตัวผู้ หรือ ว่านดอกทอง  จุดเด่น ๆ ของว่านตัวผู้เนื้อในหัวจะมีสีเหลือง เส้นกลางใบ และกาบใบจะมีสีแดงเรื่อ ดอกสีเหลือง สำหรับหัวว่านเมื่อนำมาหักหรือผ่าดูจะได้กลิ่นหอมเย็น และมีกลิ่นคาวๆ เจืออยู่ด้วย

https://cf.shopee.co.th

2. ว่านดอกทองตัวเมีย หรือ ว่านดินสอฤาษี เนื้อในหัวมีสีขาว ลำต้น และใบจะคล้ายกับขมิ้น ใบมีสีเขียว ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบแหลม ไม่มีสีแดงเจือปน เหมือน “ว่านดอกทองตัวผู้” ว่านดอกทองตัวเมียจะกลีบปากดอกสีขาวมีแถบกลางเป็นสีเหลือง มีกลิ่นที่แรง

https://medthai.com/

การปลูก ควรปลูกว่านดอกทองด้วยดินปนทรายรดน้ำมากๆ แต่ระวังอย่าให้ดินแฉะควรจัดวางให้ได้รับแสงแดดรำไรบ้างพอสมควร

ความเชื่อตามตำราโบราณกล่าวว่า :

  • ในด้านเรียกลูกค้า หากร้านค้าขายใดมีว่านดอกทองตัวเมียปลูกไว้หน้าร้าน จะช่วยทำให้ค้าขายดี มีลูกค้าเข้าออกร้านไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานบันเทิงต่าง ๆ ร้านจำหน่ายเหล้าเบียร์ หากมีไว้จะดีมาก
  • ด้วยเป็นว่านเมตตามหานิยม การเจรจาตกลง ช่วยทำให้ประสบผลสำเร็จได้โดยง่าย โดยใช้หัวว่านนำมาโขลกให้ละเอียดผสมกับสีผึ้งนำมาใช้ทาปากก่อนจะออกไปพบปะเจรจา
  • เชื่อว่าการปลูกว่านมหาเสน่ห์นี้ ไว้ในบ้านจะเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน เพื่อนบ้านรักใคร่ แต่ก็มีบางตำราบอกไว้ว่าไม่ควรปลูกว่านชนิดนี้ไว้ในบ้าน ด้วยเชื่อว่ามันอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการผิดลูกผิดเมียของคนในครอบครัวได้ เพราะคนไทยสมัยก่อนนั้นจะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่      

ว่านดอกทอง ใกล้สูญพันธุ์

ว่านดอกทอง จัดเป็นว่านโบราณที่ค่อนข้างหายากมากในปัจจุบัน และใกล้จะศูนย์พันธุ์เต็มทีแล้ว และถึงมีผู้รู้มักหรือผู้ที่มีก็ไม่เปิดเผย เพราะเกรงว่าจะมีผู้นำไปใช้ในทางไม่ดี โดยอาจสามารถพบว่านชนิดได้ทางภาคตะวันตก ภาคเหนือ อย่างเช่นใน จังหวัดกาญจนบุรี ลำปาง และตาก

#ว่านดอกทอง #ว่านน่าปลูก #ต้นไม้น่าปลูก

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

มารู้จักพืชกระท่อม หลังปลดล็อคให้ซื้อขายได้เสรีได้

ใบกระท่อม จัดเป็นยาเสพติดมานาน แต่ล่าสุดได้รับการปลดล็อกให้ออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ไปเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม เพื่อควบความรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งการปลูกและการจัดจำหน่าย จึงทำให้หลายคนเริ่มสนใจประโยชน์และสรรพคุณทางยาในการช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ของร่างกายได้ มาทำความรู้จักพืชชนิดนี้กัน

กระท่อม พืชที่หลายคนอยากรู้

                  กระท่อม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna Speciosa (Korth.) Havil.จัดอยู่ในวงศ์เข็ม และกาแฟ เป็นพืชยืนต้น มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 4-16 เมตร เติบโตได้เป็นอย่างดีในที่ชุ่มชื้น พื้นดินอุดมสมบูรณ์ ชอบแดดปานกลางใบเดี่ยวสีเขียว เรียงตัวคู่ตรงข้าม ใบกว้าง ดอกสีขาวอมเหลือง มีสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทและสมอง ถือเป็นพืชพื้นเมืองของไทย พบในบางจังหวัดของภาคกลาง แต่จะเจอได้มากในเขตป่าธรรมชาติทางภาคใต้ ตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงไปจนถึงมาเลเซีย

                  ในสมัยโบราณได้นำใบกระท่อมมารักษาอาการติดเชื้อในลำไส้ ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ บรรเทาพิษไข้ แก้ไอและท้องร่วงโดยนำใบสดหรือใบแห้งมาเคี้ยว มวนสูบ หรือชงเป็นชา นอกจากนี้ในกลุ่มของแรงงานยังนำมาใช้เพื่อแก้อาการปวดล้ากล้ามเนื้อ ให้ทนต่อการทำงานหนักกลางแจ้งทนร้อนทนแดด ใช้แรงได้ยาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังใช้เพื่ออาการจากการขาดสิ่งเสพติดอื่น ๆ เช่น ฝิ่น มอร์ฟีน เป็นต้น เพราะให้ผลข้างเคียงที่น้อยกว่า

                  ส่วนประเทศไทย พืชกระท่อมมีการใช้อย่างแพร่หลายในกลุ่มนักเรียนและวัยรุ่น โดยใช้น้ำจากใบไปผสมกับยาแก้ไอ ยาคลายกล้ามเนื้อ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ เพื่อแต่งรส เป็นที่รู้จักกันในชื่อ 4 คูณ 100 เพื่อเพิ่มความรู้สึกความสนุกสนาน มึนเมา และอาจจะขาดสติได้หากรับเข้าไปในปริมาณสูง ส่งผลให้มีภาวะกดประสาท หายใจติดขัด ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิต หากการกินต่อเนื่องกันเป็นเวลายาวนานก็ทำให้ติดได้เช่นกัน และอาการถอนยาที่พบบ่อย ๆ เช่น หวาดระแวง อารมณ์แปรปรวนรุนแรง ปวดกล้ามเนื้อ กระดูก แขนกระตุก ไม่หิว สมาธิสั้น นอนไม่หลับ ผิวคล้ำ ผิวแห้ง ปากคล้ำ เป็นต้น

สรรพคุณของใบกระท่อม

              ในปี พ.ศ. 2522 กระท่อมถูกจัดให้เป็นยาเสพติด ประเภทที่ 5 ชนิดเดียวกันกับกัญชา ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ตามมาตรา 7 และถูกปลดล็อกอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2564 ใบกระท่อมเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านในการนำพืชมาใช้รักษาอาการต่าง ๆ ในสมัยที่ยังไม่สามารถเข้าถึงทางการแพทย์ได้ ในปัจจุบันได้มีผลการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพคุณของพืชกระท่อม ที่สามารถนำไปสกัดเพื่อเป็นยาได้ ดังนี้ แก้อาการท้องเสีย ท้องเฟ้อ มวนท้อง โรคบิด บรรเทาอาการปวดตามกล้ามเนื้อ บดเป็นยาพวกรักษาแผล แก้อาการนอนไม่หลับ ระงับประสาท ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายความวิตกกังวล และความเครียด ช่วยให้มีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า รักษาระดับของพลังงานทำให้ทำงานได้นานขึ้น

              ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์แต่ก็ให้โทษเช่นกันหากนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปต้มเพื่อผสมกับเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ๆ ในผู้ที่กินใบกระท่อมมากจนเกินไป จะมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง รู้สึกเบื่ออาหาร ท้องผูก หนาวสั่น ปัสสาวะบ่อย นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน เม็ดสีของผิวหนังเข้มขึ้นทำให้หมองคล้ำ ในผู้ที่เสพติดจะมีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง เป็นต้น

              ถึงแม้ว่าจะมีการปลดล็อกพืชกระท่อม เพื่อให้นำไปใช้ประโยชน์ด้านสุขภาพอย่างเสรีแล้ว แต่ยังมีข้อควรระวังด้านกฎหมายที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะการนำไปเป็นสารตั้งต้นกับสิ่งเสพติดชนิดอื่น ๆ แม้แต่การกระทำต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้เพื่อการรักษา แต่ต้องการเพิ่มความรู้สึกสนุก มึนเมา ล้วนถือว่ายังเป็นสิ่งที่ผิดต่อกฎหมาย ไม่สามารถทำได้

เครดิตภาพ : thairath.co.th / kapook.com / bangkokbiznews.com

YouTube :

พืชกระท่อมมีกี่สายพันธุ์? “ฉบับสมบูรณ์”

ประโยชน์ของพืชกระท่อม

#พืชกระท่อม #ค้ากระท่อมเสรี #ประโยชน์ของพืชกระท่อม

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

7 ต้นไม้ใบสีดำ เก๋ เรียบหรู แบบคนคลู

กระแสความนิยมในการปลูกต้นไม้ไว้ที่บ้านยังคงฮิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจปลูกไว้เพื่อความสวยงาม ให้ร่มเงา หรือแม้แต่เพื่อความเป็นสิริมงคล เสริมโชคลาภ บารมี เพราะเชื่อว่าสิ่งดี ๆ จะเข้ามาสู่บ้าน เรียกเงินทองทรัพย์สินต่าง ๆ ได้ หากใครที่กำลังต้องการปลูกต้นไม้ใบสีดำ มีความเรียบหรู ดูเก๋ แบบคนคลู มีมาแนะนำให้ลองไปปลูกกันเพื่อเป็นไม้ประดับ และเป็นพืชมงคลอีกด้วย

7 ต้นไม้สายดาร์ค ใบเงาดำ สวยเรียบหรู

                  1. ต้นกวักมรกตใบดำ ไม้ชื่อมงคลที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งความเข้มของใบยิ่งหายากเป็นพิเศษ ด้วยลักษณะใบแข็ง มันเงา สื่อได้ถึงความมั่งคั่ง ราบรื่น เมื่อออกดอกจะเป็นช่อสวยงาม ไม่เพียงเท่านี้ยังเป็นต้นไม้ที่สามารถฟอกอากาศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ส่วนการดูแล เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดรำไร ดินควรเป็นดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี และให้รดน้ำประมาณ 3-4 วันครั้งก็เพียงพอแล้ว

                  2. ยางอินเดียดำ ต้นไม้มินิมอลอย่างสุด ๆ มักปลูกไว้ในที่ร่ม โดยปกติต้นจะสูงอยู่ที่ประมาณ 40-90 เซนติเมตร จุดเด่นอยู่ที่ใบ รูปทรงรีหรือแบบไข่ มีความหนา มันเงาสวยงาม และยังช่วยฟอกอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี การดูแลไม่ยาก เพราะไม่ต้องการน้ำมาก และแฉะ อาจจะรดเพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือรดเมื่อพบว่าดินแห้งเท่านั้น

                  3. ลิลลี่ มาสคาร่า แม้ว่าจะถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ใบคล้ายกับสีดำแต่ไม่สนิท ลักษณะของดอกนั้นจะมีขนาดใหญ่ และมีเป็นจำนวนมาก หากมีความสมบูรณ์จะมีสีดำสนิท และมีเกสรสีส้มตัดกันอย่างชัดเชน มีกลิ่นหอมชวนหลงใหล ส่วนลำต้นสูงยาวใบค่อนข้างจะมีเป็นจำนวนมาก ด้านการดูแลไม้ชนิดนี้ไม่ควรให้โดนแดดโดยตรง ควรปลูกบริเวณที่มีร่ม รดน้ำเช้าเย็น พอให้ดินชุ่มชื้น

                  4. บอนดำ อีกหนึ่งต้นไม้ที่สามารถปลูกได้ทั้งในน้ำในดิน ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับ ลักษณะจะมีลำต้นและก้านสูง เรียว ยาว หากใบไม่โดนแสงแดดจะเป็นสีเขียวอ่อน และเข้มขึ้นเมื่อโดยแสงจ้า ความพิเศษคือเมื่อรดน้ำแล้ว ใบจะไม่เปียก ด้านการดูแลง่ายมาก ๆ จะปลูกในกระถางที่มีน้ำขัง หรือในน้ำก็ได้ และสามารถอยู่ท่ามกลางแดดจัด ในสภาพอากาศบ้านเราได้เป็นอย่างดี

                  5. ว่านค้างคาวดำ มีชื่อแบบไทย ๆ ว่า เนระพูสีไทย เป็นไม้ล้มลุกที่มีอายุยืนยาว ความสูงจะอยู่ที่ประมาณ 60-60 เซนติเมตร ความพิเศษอยู่ที่ลำต้นจะเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน คล้ายกับค้างคาว ถือว่าเป็นไม้มงคล เชื่อว่าจะช่วยเสริมบารมี และเมตตามหานิยม ให้กับผู้ปลูก ส่วนการดูแล ไม้ชนิดนี้ชอบอากาศชื้น ควรรดน้ำเช้า-เย็น ใช้ดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดดรำไร

6. อโลคาเซีย เป็นอีกหนึ่งต้นไม้ใบสีดำที่นักสะสมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าหายากมาก ๆ เพราะเป็นต้นไม้เขตร้อนที่มีใบใหญ่สวยงาม จะมีเส้นให้เห็นอย่างชัดเจนจนกลายเป็นเอกลักษณ์ หากลองจับเบา ๆ ที่ใบจะรู้สึกคล้ายกับเป็นกำมะหยี่ การดูแลไม้ชนิดนี้ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เนื่องจากชอบความชื้นสูงแต่ไม่แฉะ จะทำให้มีปัญหาเรื่องเชื้อราได้ ควรรดน้ำวันเว้นวัน อย่าปล่อยให้ดินแห้ง ชอบแสงรำไร ระวังอย่าให้โดนแดดโดยตรง

                  7. กุมารดำเรียกทรัพย์ หรือ Philodendron Black Cardinal มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ จนถึงบราซิล เป็นไม้มงคลหายากที่มีความสวย และมีความหมายดีที่เชื่อกันว่าจะช่วยเรียกทรัพย์เงินทองให้กับผู้ปลูก ลักษณะใบอ่อนจะเป็นสีแดง แต่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มออกดำเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น การดูแลหากโดนแสงน้อยใบจะเข้มขึ้น ดังนั้นควรปลูกไว้ที่แดดน้อย ชอบดินร่วน รดน้ำปานกลางแบบวันเว้นวัน

ต้นไม้สายดาร์ค สีดำสวย แต่งบ้านคูล ๆ

              ต้นไม้ใบสีดำที่ได้แนะนำข้างต้น หวังว่าคงจะถูกใจสายต้นไม้ รวมถึงผู้ที่กำลังนึกไม่ออกว่าจะประดับตกแต่งบ้านด้วยต้นอะไรดี ซึ่งบางชนิดอาจจะมีราคาแพง เพราะหาซื้อได้ยากเนื่องจากกำลังเป็นที่นิยม และต้องการของนักสะสมมากขึ้น

              ซึ่งข้อดีของการปลูกต้นไม้นั้นให้ประโยชน์กับผู้ปลูกและผู้อาศัยร่วมบ้านมากมาย ทั้งให้ความสดชื่น มีชีวิตชีวา ฟอกอากาศภายในบ้านให้มีความบริสุทธิ์ สูดลมหายใจได้เต็มปอด มีความสวยงาม รู้สึกผ่อนคลายสบายตาสบายใจ ช่วยให้บ้านน่าอยู่ขึ้น แต่ที่สำคัญควรดูแลเอาใจใส่ตามชนิดและความชอบของต้นไม้แต่ละต้นด้วย เพื่อไม่ให้เฉาตาย และมีความงามคงอยู่กับเราไปนาน ๆ

              เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับต้นไม้ใบสีดำ ที่นำมาฝากกัน ลองไปปลูกกันดู สำหรับตกแต่งบ้านแบบคลู ๆ รับรองสวย เก๋ ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคล ที่เชื่อว่าจะให้โชคลาภ บารมี ทรัพย์สินเงินทองกับผู้ปลูกอีกด้วย

เครดิตภาพ : gqthailand.com / wanthai.com / kaidee.com

YouTube :

รวมต้นไม้ใบดำ #แบล็คคาดินัล #บอนดำ #ยางอินเดียดำ

บอนดำ | Colocasia esculenta Black Magic ใบใหญ่ แผ่นใบกว้าง สีดำเข้ม เพิ่มเสน่ห์ให้บ้านและสวน

#ต้นไม้ใบสีดำ #ต้นไม้คนคลู #ต้นไม้สายดาร์ค

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

เคล็ดลับ ปลูกต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยช่วยเกื้อกูนชีวิตคู่

            ฮวงจุ้ยนั้นถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่แพร่หลายในวัฒนธรรมจีน เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการเสริมสร้างพลังต่างๆ ให้กับบ้านที่อยู่อาศัยของเราให้เราได้รับพลังงาน เพื่อให้เกิดการอยู่ดีมีสุข เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน มีโชคลาภ ให้ผู้ที่อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น โดยเพียงแค่เรารู้จักหลักฮวงจุ้ยปลูกต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยช่วยเกื้อกูนชีวิตคู่ ก็จะสามารถทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับพลังดีๆด้านความรักเช่นกัน

            โดยหากชีวิตคู่ของคุณกำลังมีปัญหา หรือรู้สึกว่าความรักของตนเองไม่ราบรื่นเท่าที่ควรนักลองนำคำแนะนำการปลูกต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยช่วยเกื้อกูนชีวิตคู่ ที่ได้นำมาฝากเพื่อนๆในวันนี้ ไปลองปรับใช้กันดูนะคะ

  • ที่หน้าบ้านนั้นควรมีการปลูกต้นไม้เพื่อถือเป็นการกระตุ้นให้เกิดแต่สิ่งที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของความรักแล้วนั้น ยังส่งผลต่อ การงาน การเงิน สุขภาพ และโชคลาภอีกด้วย
  • เลือกต้นไม้มงคลที่มีผลต่อความรักมาปลูก โดยจะขอแนะนำต้นไม้มงคลที่ช่วยส่งเสริมด้านความรักดังนี้
  1. ต้นว่านเสน่ห์จันทร์ขาว  จะช่วยให้ความรักนั้นเป็นรักที่สมหวังและราบรื่น
  2. ต้นส้ม  ซึ่งต้นส้มเป็นไม้มงคลที่ชาวจีนเชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการเงินและความรัก
  • ต้นสวาด  ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าต้นสวาดนั้นเป็นไม้มงคล โดยหากใครปลูกไว้ในบ้านก็จะมีแต่คนรักไคร่เอ็นดู และในปัจจุบันนี้เรายังใช้ใบของต้นสวาดมาวางรองก้นขัดหมาก หรือรองถาดสินสอด เพราะช่วยว่าจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้หลายคนยังมองว่าลูกสวาดนั้นยังสามารถใช้เป็นเครื่องรางในเรื่องของความรักได้อีกด้วย
  • ต้นแก้ว  เป็นไม้มงคลที่หลายคนนิยมปลูก เพราะเชื่อว่าจะเป็นการเพิ่มเสน่ห์ และเมตตา ให้กับคนที่ปลูก
  • ต้นมะลิ ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่นิยมใช้ในงานมงคล เพราะมีความเชื่อว่าดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่บริสุทธิ์ ช่วยส่งเสริมให้คนที่ปลูก หรือครอบครัวที่ปลูกนั้นพบเจอแต่รักที่บริสุทธิ์ และสวยงาม
  • ต้นบีโกเนีย  ตามความเชื่อในเรื่องของความรักนั้น เราเชื่อกันว่าต้นบีโกเนียจะช่วยสานสัมพันธ์ความรักให้ดียิ่งขึ้น ให้เราได้สมหวังในความรักกับคนที่เราชอบ

            เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคล็ดลับปลูกต้นไม้เสริมฮวงจุ้ยช่วยเกื้อกูนชีวิตคู่ที่ได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปลองปรับใช้ก็ไม่เสียหายใช่ไหมละคะ แต่อย่าลืมนะคะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคู่คือการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน การให้อภัยกัน และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

#ปลูกต้นไม้เสริมฮวงจุ้ย #ต้นไม้เสริมชีวิตคู่ #เสริมรักด้วยต้นไม้

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

ต้นไม้สีดำสวยสายดาร์ค ปลูกในบ้าน ไม่ซ้ำใคร

เอาใจคนรักการปลูกต้นไม้ กับต้นไม้สีดำที่เหมาะสำหรับสายดาร์คชอบการตกแต่งบ้านที่มีสไตล์ ต้นไม้สีดำจัดว่าเป็นไม้ประดับสีดำที่นิยมปลูกในบ้าน เพราะเข้ากันได้ดีและลงตัวกับทุกสไตล์การแต่งบ้าน ให้ความเรียบหรูคลาสสิคและมีเสน่ห์ไม่แพ้ไม้ประดับสายพันธุ์อื่นๆ วันนี้เราจะมาแนะนำต้นไม้สีดำที่น่าปลูกมาฝากค่ะ จะมีต้นอะไรบ้าง ได้ไปดูกันเลย

ต้นไม้สีดำสวยสายดาร์ค

1. ต้นบอนดำ

          บอนดำเป็นต้นไม้สีดำที่จัดว่าเป็นไม้น้ำอีกชนิดนึงที่สุดทนดูแลง่าย ตายยาก มีความทนต่อสภาพแวดล้อมได้ เป็นได้ทั้งต้นไม้ปลูกในน้ำ และบนดิน เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลา จุดเด่นของบอนดำ ก็คือ ใบของบอนดำจะมีสีดำเข้มสวยงามสะดุดตา บอนดำเป็นพืชที่ชอบน้ำมาก ๆ แต่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยๆแค่คอยเติมน้ำในกระถางอย่าให้แห้ง บริเวณที่ตั้งกระถางควรให้โดนแดดจ้าๆ สีใบจะได้เข้ม ก้านใบก็สูง โปร่ง สวย

2. ยางอินเดีย (Rubber Plant)

          ยางอินเดีย ต้นไม้ใบสีดำที่สวยสะดุดตา ไม้ประดับที่กำลังมาแรงที่สุดในนาทีนี้ ด้วยรูปทรงของใบที่ใหญ่โค้งมน บวกกับสีของใบที่เข้มสวยโดดเด่น ที่สำคัญยางอินเดียยังเป็นต้นไม้สีดำที่สามารถดูดสารพิษ ช่วยฟอกอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี ยางอินเดียเป็นต้นไม้ปลูกง่ายปลูกได้ทั้งในอาคารที่มีแสงแดดส่องเข้ามารำไร ยางอินเดียไม่ต้องการน้ำไม่มากและไม่ชอบน้ำแฉะ อาจรดน้ำสัปดาห์ละสองครั้ง หรือรดเมื่อดินแห้ง (ลองใช้นิ้วจิ้มลงบนดินว่าใต้ผิวดินยังมีความชื้นอยู่ไหม)

3. กวักมรกตใบดำ (ZZ Plant)

          ต้นไม้ใบสีดำเข้มขนาดเล็ก ลำต้นเรียวยาว ใบมีสองสี คือสีเขียวกับสีดำเงา จัดอยู่ในกลุ่มต้นไม้มงคลที่มีความเชื่อว่าถ้าปลูกไว้ในบ้าน จะช่วยเรื่องโชคลาภ กวักเงินกวักทองเข้าบ้าน ที่สำคัญยังช่วยดูดสารพิษภายในบ้านได้อีกด้วย ดูแลก็ง่ายๆสบายๆเหมาะกับคนไม่ค่อยมีเวลาน่าจะชอบ เพราะไม่ต้อง รดน้ำบ่อยๆ รดน้ำแค่เพียงอาทิตย์ละครั้งหรือจนกว่าหน้าดินจะแห้ง ก็พอแล้ว ไม่ต้องโดนแสงแดดมากก็อยู่ ส่วนดินก็ง่ายๆ เน้นให้ดินโปร่งรดน้ำแล้วไม่แฉะ

4. อโลคาเซีย แบล็ค เวลเวท (Alocasia black velvet)

คนไทยนิยมเรียกว่า ว่านแก้วสารพัดนึก มีความเชื่อกันว่าเป็นว่านที่ช่วยป้องกันภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคลและอันตรายทั้งปวงได้ และยังช่วยให้ผู้ครอบครองเกิดเมตตามหานิยมค้าขายดี อโลคาเซีย แบล็ค เวลเวท มีใบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ด้วยใบสีดำเข้มเหมือนกำมะหยี่ มี ใบหนา ผิวด้าน สีเข้ม มีลวดลายความลึกตื้น และยังมีขนกำมะหยี่บาง ๆ ปกคลุม  การดูแลก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่รดน้ำ วันเว้นวัน เป็นพืชที่ชอบดินชื้นแต่ไม่แฉะเกินไป สามารถปลูกในบ้านเป็นไม้ประดับที่ช่วยฟอกอากาศ ดักจับสารพิษในห้องได้ดี

5. กุหลาบหิน (Echeveria Pollux) หรือ Gemini

กุหลาบหินสีดำ เป็นพืชอวบน้ำ ที่เหมาะจะปลูกเป็นไม้กระถาง นิยมวางไว้ตามโต๊ะทำงาน เพื่อช่วยฟอกอากาศ ดูดสารพิษ และดูดซับรังสีจากคอมพิวเตอร์ การดูแลกุหลาบหิน คล้ายพืชตระกูลอวบน้ำทั่วไป เพราะปลูกง่ายและดูแลรักษาง่าย ไม่ต้องการน้ำมาก จึงสามารถรดน้ำแบบสเปรย์ละอองฝอยๆ เพียงสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอแล้ว และนำออกแดดในช่วงเช้า ทุกๆ สัปดาห์ หรือ สองสัปดาห์ครั้ง ดินที่เหมาะแก่การปลูก ดินโปร่งระบายน้ำได้ดี

            เป็นอย่างไรค่ะ หวังว่าคงถูกใจคนรักต้นไม้กันบ้างนะคะ กับของดำ ๆ ที่นำมาเสนอวันนี้ สำหรับ ต้นไม้สีดำ ที่รวบรวมมาให้ดู บางชนิดอาจจะหายากและราคาขยับสูงขึ้นตามกระแสนิยม ถึงอย่างนั้นต้นไม้ก็ให้ประโยชน์กับเรามากมาย ให้ความสดชื่นมีชีวิตชีวา ช่วยฟอกอากาศภายในบ้านให้สะอาด ให้ความสุข ผ่อนคลายความเครียด ทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ สร้างความสบายต่อสายตา ต่ออารมณ์ และต่อสุขภาพ จัดว่าการปลูกต้นไม้ในบ้านเป็นไลฟ์สไตล์คอนโดสุดเก๋ในยุค New Normal และแถมยังดีต่อใจไปอีกด้วย

#ต้นไม้สีดำ #ต้นไม้กระแสนิยม #ต้นไม้ฮิตน่าปลูก

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

12 ไม้ประดับประจำราศี ปลูกแล้วดีเป็นมงคลกับชีวิต

วันนี้จะชวนคุณมาปลูกต้นไม้ประจำราศีกันคะ โดยมีความเชื่อว่าปลูกต้นไม้ตามราศี ช่วยเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น แถมยังทำให้บ้านสวยน่าอยู่กันดีกว่าค่ะ แต่ละราศีควรปลูกต้นอะไร มีความหมายมงคลแบบไหน ต้องดูแลแบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ

ไม้ดอกไม้ประดับประจำราศี

1. ราศีมังกร

          ชาวราศีมังกรเป็นคนที่มีความมานะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ไม่ชอบการอยู่เฉย ๆ ว่างเมื่อไรต้องหาอะไรมาทำตลอดเวลา เหมาะกับการปลูกต้นเขียวหมื่นปี  เชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงเรื่องการเงิน เสริมอำนาจวาสนาให้กับชาวราศีมังกร ทำให้ดวงเป๊ะปังยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ

2. ราศีกุมภ์

          ชาวราศีกุมภ์เป็นคนที่ชอบครีเอต ชอบเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ ๆ มีความเชื่อมั่นในตนเอง รักอิสระ ไม่ชอบการพึ่งพาใคร นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง ต้นไม้ที่เหมาะกับชาวราศีกุมภ์จึงควรจะเป็นต้นไม้อากาศหรือทิลแลนเซีย ที่สามารถอยู่ได้แม้ไม่มีดิน แค่ใส่ไว้ในโถแก้วหรือกระถางเซรามิกก็ช่วยทำให้บ้านดูเก๋ไก๋ได้

3. ราศีมีน

          เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง เปิดเผย แต่ชอบความสงบ เหมาะกับการปลูกต้นบอนไซ ต้นไม้ที่เป็นตัวแทนของความสันติ ปรองดอง และความสมดุล นอกจากนี้ยังเป็นต้นไม้มงคลที่เชื่อว่าปลูกแล้วจะนำพาโชคลาภมาให้ อีกทั้งยังเป็นไม้ประดับที่สามารถดัดลำต้นให้มีความคดเคี้ยว

4. ราศีเมษ

ผู้รักอิสระ ตัดสินใจอะไรฉับไว รักการผจญภัยและมักไขว่คว้าหาเรื่องแปลกใหม่ให้ชีวิตอยู่เสมอ เพราะความไม่ชอบอยู่นิ่ง จึงควรปลูกต้นไม้ที่ดูแลง่ายอย่าง “ลิ้นมังกรแคระ” ซึ่งมีความเชื่อกันว่าจะช่วยป้องกันภัยจากศัตรูได้

5. ราศีพฤษภ

          ชาวราศีพฤษภเป็นคนที่มีความมั่นคง เด็ดเดี่ยว และขยันหมั่นเพียร อีกทั้งยังเป็นราศีที่อยู่ในธาตุดิน จึงเหมาะกับต้นกระบองเพชร เพราะเชื่อว่าจะนำพาความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและโชคลาภเงินทองมาให้

6. ราศีเมถุน

          เป็นคนลักษณะสดใสร่าเริงและมีอารมณ์ขันเสมอ ชอบมีความคิดริเริ่ม มีความสามารถในการวางแผนต่าง ๆ แต่มักจะเป็นคนที่เบื่อง่าย ควรเพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับตัวเองด้วย เหมาะกับการปลูกฟิโลเดนดรอน ลักษณะใบที่แตกต่างกันไป เลี้ยงดูง่ายเพราะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดี

7. ราศีกรกฎ

คนที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ ไม่ชอบความเป็นระเบียบ มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย รักบ้าน รักครอบครัว รักเพื่อนฝูง ชอบปกป้องคนรอบข้าง จึงเหมาะกับ “ต้นหัวใจทศกัณฐ์” เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ต้นโฮย่า มีความเชื่อกันว่าจะนำพาความสุขและโชคลาภให้แก่ครอบครัว เสริมการงาน และยังนิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์

8. ราศีสิงห์

          เป็นคนที่มีบุคลิกกล้าหาญ กล้าได้กล้าเสีย รักเพื่อนรักฝูง มุมานะพากเพียร จะทำอะไรก็ต้องประสบความสำเร็จ จึงเหมาะกับ “ต้นทิลแลนด์เซีย” หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สับปะรดอากาศ เป็นพืชที่อยู่วงศ์สับปะรด มีความเชื่อกันว่าต้นทิลแลนด์เซียจะช่วยทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ราบรื่น ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง

9. ราศีกันย์

          คนที่รู้จักวางแผนจัดการเก็บเล็กผสมน้อย มีความตั้งใจสูง ชอบหาความรู้ ชอบเป็นที่พึ่ง รับฟังคนอื่นอยู่เสมอ จึงเหมาะสม “ต้นกระบองเพชร” พืชที่มีแหล่งกำเนิดในทะเลทราย มีความเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ที่นำโชคทางด้านการงานและการเงิน หากบ้านไหนเลี้ยงต้นกระบองเพชรได้สวยงาม ออกดอก บ้านนั้นจะมีโชคลาภ

10. ราศีตุลย์

         เป็นคนที่รักความยุติธรรม อารมณ์ศิลป์  มีสไตล์ที่โดดเด่นใครเห็นเป็นต้องชอบ ชอบเข้าสังคม ชอบพบปะเพื่อนฝูง มีมนุษยสัมพันธ์ดี จึงเหมาะกับ “ต้นโกสน” เพราะเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้แห่งความร่มเย็นเป็นสุข มีบุญบารมี เป็นสิริมงคล

11. ราศีพิจิก

มีความเป็นของตัวเองสูง มีความมั่นใจในตัวเอง มีปฏิภาณไหวพริบ มีความรู้ความสามารถรอบตัวสูง ละเอียดรอบคอบ มีความกระตือรือร้น จึงเหมาะกับ “ต้นวาสนา” หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สายสะพายจอมพล มีความเชื่อกันว่าจะทำให้เกิดความสุข ได้สมหวังตามที่ปรารถนา อธิษฐานขออะไรก็จะได้ตามที่ต้องการ ช่วยเสริมเรื่องโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

12. ราศีธนู

เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำ ชอบเป็นที่ปรึกษาให้กับคนอื่น เพราะเป็นคนที่จิตใจดี เป็นมิตร ชอบให้ความช่วยเหลือ นอกจากนั้นยังเป็นคนใจบุญสุนทาน หาเงินเก่ง มีเงินหมุนเข้าออกตลอดเวลา จึงเหมาะกับ “ต้นออมเพชร” พืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกับต้นบอน และมีความเชื่อกันว่าจะเป็นสิริมงคล มีเงินเหลือกินเหลือใช้ เสริมโชคด้านการเงิน

และนี่ก็คือเหล่าต้นไม้ประจำราศีที่นำมาแนะนำนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ แต่ละต้นก็เป็นต้นที่มีความหมายดี แต่ละราศีก็มีไม้ดอกไม้ประดับที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ฉะนั้นถ้าหากใครกำลังมองหาไม้ประดับไว้ปลูกในบ้านสักต้น เราขอแนะนำให้ลองนำไม้ดอกไม้ประดับประจำราศีเหล่านี้ไปปลูกดู นะ

#ต้นไม้ประจำราศี #ต้นไม้เสริมดวง #ต้นไม้เสริมโชค

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

10 ผักสวนครัวปลูกง่าย โตไว ประหยัดงบ

ผู้คนส่วนใหญ่มีความคิดจะจะปลูกพืชผักสวนครัวที่ปลอดสารพิษต่าง ๆ เอาไว้ทานเองที่บ้าน แต่อาจะยังรู้ว่าควรปลูกอะไรดี หรือไม่ทราบว่าควรปลูกอย่างไร ขอแนะนำผักสวนครัวปลูกง่าย โตไว อายุสั้น ให้ผลผลิตเร็ว ประหยัดงบ ใช้เวลาเพียง 1-2 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้วมาฝากกัน

พืชผักสวนครัวที่นิยมปลูก ทำได้ง่าย ไว้กินเองหรือสร้างรายได้เสริม

                  1. ถั่วงอก มีอายุการปลูกที่สั้นที่สุด เมื่อเทียบกับผักสวนครัวชนิดอื่น โดยใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 4 วันเท่านั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว อีกทั้งยังทำได้ง่าย ๆ โดยนำเมล็ดถั่วเขียวแช่น้ำเอาไว้ประมาณ 6-12 ชั่วโมง จากนั้นนำกระป๋องที่มีฝาปิด ปูกระดาษทิชชูรองไว้ที่ก้นกระป๋อง นำเมล็ดที่ได้แช่น้ำไว้มาโรยให้ทั่ว และใช้ทิชชูปิดทับอีกครั้ง พร้อมกับปิดฝากระป๋องให้สนิท คอยฉีดน้ำต้นถั่วงอกอยู่เป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็ได้ผักไว้กิน หรือขายสร้างรายได้แล้ว

                  2. ต้นอ่อนทานตะวัน ปลูกง่ายคล้ายกับถั่วงอก อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย ในส่วนของการปลูกให้นำเมล็ดทานตะวันแช่น้ำไว้ประมาณ 1 คืน เตรียมภาชนะสี่เหลี่ยมสำหรับปลูก ควรเลือกที่ไม่มีรูจะดีที่สุด จากนั้นเทดินลงไปให้ทั่ว รดน้ำตามให้ชุ่ม โรยเมล็ดให้ทั่ว และนำภาชนะอื่นมาปิดทับไว้ จากนั้นรอประมาณ 7 วัน ต้นอ่อนก็จะงอกขึ้นมาพร้อมให้ทานแล้ว

                  3. เห็ดนางฟ้า โดยนำเห็ดไปเพาะในที่ร่ม ใช้ภาชนะทรงสูงหรือโอ่งเก่า ๆ มาเป็นเรือนเพาะ เททรายลงไปให้หนาอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้ว จากนั้นหาลังไม้มาประกอบให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมใส่ไว้ในเรือนเพราะ วางตะแกรงไม้ไผ่รองพื้น ก่อนจะนำก้อนเชื้อที่เปิดจุกแล้วมาวางไว้บนตะแกรง ปิดฝาให้เรียบร้อย หมั่นพรมน้ำวันละ 3 เวลา อายุการเก็บเกี่ยวหลังจากปลูกเรียบร้อยแล้วเฉลี่ย 7-15 วัน

                  4. ต้นหอม เป็นพืชผักสวนครัวปลูกง่ายด้วยการปักชำ พรวนดินให้ร่วน ทุบเปลือกถั่วลิสงให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปผสมกับดิน แล้วนำไปใส่ในกระถางแบบไม่ต้องแน่นมาก จากนั้นใช้มีดตัดลงบนต้นหอมเหนือรากขึ้นไปประมาณ 1.5-2 นิ้ว ปักลงดิน รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 30-35 วันก็พร้อมสำหรับมาทำอาหาร หากอยากปลูกด้วยเม็ด ให้โรยลงหน้าดินในกระถางประมาณ 4-5 เมล็ด รอ 45 วันก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว

                  5. ผักชี เนื่องจากเป็นผักที่ต้องใช้ทำอาหารได้หลากหลายชนิด อีกทั้งรากยังเป็นส่วนประกอบของอาหารได้หลายประเภท ทำให้ผักชีได้รับความนิยมปลูกเป็นอย่างมาก เพราะปลูกง่าย โดยนำดินที่ระบายน้ำได้ดีไปตากให้แห้ง ผสมกับปุ๋ยคอก จากนั้นนำเมล็ดให้แตกเป็น 2 ส่วน แช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง ผึ่งลมพอประมาณ แล้วนำไปคลุกกับทรายหรือขี้เถ้า จากนั้นค่อยหย่อนลงในกระถาง กลบดิน คลุมอีกครั้งด้วยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่ม หมั่นรดน้ำเป็นประจำเมื่อดินแห้ง สามารถเก็บเกี่ยวได้ภายใน 40-60 วัน

                  6. ขึ้นฉ่าย การปลูกให้นำเมล็ด 1 ชิ้นชา ผสมกับทราย 1 ถัง แล้วหวานลงบริเวณที่จัดไว้สำหรับเพาะเมล็ด นำฟางข้าวแห้งมาคลุมเล็กน้อย หมั่นรดน้ำเป็นประจำ เช้า กลางวัน เย็น แต่ไม่ควรรดมากจนเกิดน้ำขัง จากนั้นรอจนกว่ากล้าจะมีความสูง 3-4 นิ้ว จึงย้ายลงแปลงปลูก ในช่วงแรก ๆ ควรให้อยู่พ้นแสงแดด แล้วจึงค่อย ๆ ให้โดนแดดมากขึ้น การเก็บเกี่ยวทำได้หลังจากย้ายต้นกล้า 40-45 วัน

                  7. ผักบุ้งจีน เป็นผักอีกชนิดที่หลายคนชื่นชอบ สามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ไว เพียง 20-25 วันเท่านั้น วิธีปลูกไม่ยุ่งยากเพียงนำดินร่วนสับและเกลี่ยละเอียดใส่ลงกระถาง แล้วโรยเมล็ดลงไปให้ทั่ว พร้อมกับรดน้ำให้พอชุ่ม ที่สำคัญในทุกวันต้องคอยรดน้ำเป็นประจำสม่ำเสมอ เท่านี้ก็จะเริ่มงอกขึ้นมาใน 3 วัน พร้อมจะเติบโตให้เก็บกินแล้ว

                  8. กวางตุ้ง วิธีปลูกทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำดินร่วนผสมกับปุ๋ยคอก นำเมล็ดมาหยอดในหลุมที่ทำไว้ขนาด 1.5 เซนติเมตร กลบด้วยดิน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก รดน้ำ วางไว้ที่มีแสงแดด รอ 30-35 วัน เพียงเท่านี้ก็มีผักสด ๆ พร้อมให้รับประทานได้แล้ว

                  9. คะน้า ผักสวนครัวยอดนิยม การปลูกทำได้ไม่ซับซ้อน เพียงนำดินมาสับและเกลี่ยให้ร่วน จากนั้นหยอดเมล็ดลงในดิน 1-2 เมล็ด กลบดินพอประมาณ รดน้ำเป็นประจำทุกเช้าเย็น วางไว้ให้โดนแสงแดด รอประมาณ 35-60 วันก็จะมีคะน้าปลอดสารพิษให้ได้ทาน

10. ผักกาดหอม ขั้นตอนการปลูกให้ใช้ดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดี ตากแดดไว้ก่อนประมาณ 1 สัปดาห์พร้อมกับพรวนและใส่ปุ๋ยคอกให้เรียบร้อย จากนั้นหยอดเมล็ดลงไปในกระถางปลูกจนต้นกล้าเริ่มมีใบจริง 2-3 ใบให้ถอนต้นที่อ่อนแอทิ้งไป เมื่อมีอายุได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ให้ถอนแยกอีกครั้ง รดน้ำเช้า เย็น ระวังอย่าให้น้ำเข้าไปในปลี เพียงเท่านี้ก็มีผักกาดหอมไว้ทานแบบง่าย ๆ แล้ว

ประเภทของผักสวนครัว

              โดยทั่วไปผักสวนครัวปลูกง่าย มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ผักที่มีอายุสั้น เมื่อเก็บกินแล้ว ต้องปลูกใหม่หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ได้ตามที่ต้องการ เหมาะกับการปลูกในกระถาง กระบะ ส่วนที่มีอายุยืนยาว ปลูกแล้วเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องลงทุนปลูกใหม่ ลงในดินหรือทำเป็นแนวรั้วก็ได้ เช่น กะเพรา ที่สามารถปลูกได้บนดินแทบจะทุกประเภท มีกลิ่นหอม บวบ เป็นอาหารที่มีกากใยสูง เป็นไม้เลื้อยอายุสั้น ชอบแสงแดด ปลูกได้ง่ายในดินร่วน เก็บผลผลิตใน 45-60 วัน โหระพา เป็นผักสวนครัวที่ชอบนำมาทานสด ๆ นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง รวมถึง มะระมีคุณค่าทางอาหารมากมาย เป็นยาระบายอ่อน ๆ ถือว่าเป็นไม้เลื้อยที่มีอายุสั้น เมื่ออายุได้ 2-3 เดือนจะเริ่มออกดอก ติดผล เป็นต้น

              เรียกได้ว่าผักสวนครัวปลูกง่ายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้มีผักไว้ทานได้ง่าย ๆ อีกทั้งได้ผลผลิตอย่างรวดเร็ว หากใครที่ชอบการปลูกพืชผัก ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี ลองนำผักที่แนะนำไว้ข้างต้นไปปลูกกันดู รับรองว่ามีผักไว้ทานอย่างจุใจ อาจนำไปขายสร้างกำไรได้อีกด้วย

เครดิตภาพ : sanook.com / readykids.info

YouTube :

รวม 20 ผักสวนครัว ปลูกง่าย ปลูกไว! ยาม Stay Home

9 ผักสวนครัว ปลูกง่าย โตเร็ว ควรปลูกไว้กินที่บ้าน

#ผักสวนครัวโตไว #ปลูกผักกินเอง #แนะนำผักปลูกง่าย

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

5 สมุนไพรที่นิยมปลูกในคอนโด ไม่ง้อแดดแรง

การปลูกพืชสมุนไพรกำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก หลายคนกังวลว่า หากพักอยู่ภายในคอนโดหรือมีพื้นที่น้อย จะทำอย่างไร แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ง่ายในกระถางมาแนะนำ สามาถเติบโตได้ดีโดยไม่ง้อแสงแดด เพียงแต่เราต้องเลือกกระถางให้มีความเหมาะสม ดูแลเป็นอย่างดี เติบโตได้เหมือนต้นไม้ทั่วไป มีสมุนไพรที่นิยมปลูกในคอนโดมีอะไรบ้างไปหาเลือกมาปลูกกัน

แนะนำ 5 สมุนไพรปลูกในกระถางยอดนิยม

                  1. ไทม์ เป็นพืชสมุนไพรที่มาจากต่างประเทศและกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา เนื่องจากมีกลิ่นหอม ช่วยเพิ่มให้รสชาติของอาหารดีขึ้น ทำเครื่องเทศได้อย่างหลากหลาย เป็นพืชทรงพุ่ม ขนาดเล็ก ใบเล็ก ลำต้นทอดเลื้อย ชอบแดดพอเหมาะ แค่แสงแดดในตอนเช้าหรือช่วงเย็นก็เพียงพอ สามารถปลูกในร่มได้เป็นอย่างดี ไม่ชอบดินชุ่มน้ำมากจนเกินไป ปลูกเป็นไม้ประดับก็ได้ความสวยงาม มีกลิ่นหอมช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

                  2. สะระแหน่ สมุนไพรยอดนิยม ใช้สำหรับปรุงอาหารดับกลิ่นคาวได้อย่างดี นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องเทศในการปรุงกลิ่นอาหาร อีกทั้งยังมีวิตามินซีจำนวนมาก ปลูกง่าย โดยใช้กิ่งแก่ปักชำ เอนทาบลงไปกับดิน ชอบน้ำชุ่มแต่ไม่ต้องแฉะจนเกินไป กระถางที่ใช้ควรเลือกแบบปากกว้าง ก้นไม่ลึกมาก จะใช้ตั้งพื้นหรือแขวนก็มีความสวยงาม มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวช่วยให้สมองเกิดความปลอดโปร่งโล่งสบาย จิตแจ่มใสขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ยังมีสรรพคุณทางยา ช่วยในการขับลม แก้ท้องอืด และท้องเฟ้อได้ รวมถึงช่วยย่อยอาหารได้อีกด้วย

                  3. โหระพาอิตาเลียน สมุนไพรที่นิยมปลูกในคอนโด เนื่องจากดูแลง่าย โตไว ไม่ชอบน้ำขัง และต้องมีอากาศที่พอเหมาะ ปลูกในร่มได้ มีกลิ่นหอมคล้ายกับมะนาว ใช้ทำอาหารได้อย่างหลากหลาย ส่วนสรรพคุณทางสมุนไพร ช่วยในการไหลเวียนเลือด ป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจขาดเลือด มะเร็ง น้ำมันหอมระเหยจะช่วยย่อยอาหาร แก้จุกเสียด แน่นท้อง ขับลม ลดอาการเกร็งกล้ามเนื้อ แก้ไข้หวัด และสามารถลดอาการซึมเศร้าได้

                  4. กะเพรา การเพาะปลูกไม่ซับซ้อน ปลูกง่าย ชอบดินร่วน แสงแดด ปลูกโดยกมาเพาะเมล็ดหรือชำก็ได้ ใบสดจะใช้ในการประกอบอาหารดับกลิ่นคาวได้หลายประเภท เช่น เนื้อ เป็นต้น ทำให้อาหารมีกลิ่นหอมฉุน รสชาติอร่อย ความเผ็ดร้อนจะมีสรรพคุณทางยา ด้านการบำรุงร่างกาย ธาตุไฟ ขับลม แก้อาการปวดท้อง จุกเสียด บรรเทาอาการคลื่นไส้ และอาเจียนได้เป็นอย่างดี

                  5. ว่านหางจระเข้ เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ได้รับความนิยม เพราะปลูกได้ง่าย โดยการใช้หน่อแยก นำไปชำได้เลย ชอบดินทรายหรือดินปนทราย แบบระบายน้ำได้เป็นอย่างดี น้ำไม่ขัง ต้องการความชุ่ม ไม่ชอบแสงแดดจัด ๆ ให้สรรพคุณทางยาคือ การรักษาแผลสด ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ฟื้นฟูอาการผดผื่นคัน นำมาทำอาหารได้อีกด้วย

พืชสมุนไพรปลูกได้ทุกที่แค่ต้องดูแล

              พืชสมุนไพรหลายคนนิยมนำมาปลูกเอาไว้ในกระถาง เนื่องจากมีความสวยงาม ใช้เป็นไม้ประดับได้ อีกทั้งยังนำมาประกอบอาหารได้อีกด้วย แต่สิ่งที่ต้องรู้ก่อนจะปลูกสมุนไพรที่นิยมปลูกในคอนโด คือ 1. ต้องเลือกพื้นที่ให้เหมาะสม จากข้อจำกัดของขนาด ดังนั้นควรเลือกสถานที่เล็ก เช่น ระเบียง ใกล้หน้าต่าง เป็นต้น เพราะพืชบางชนิดไม่ต้องการแดด บางพันธุ์ต้องการแดดรำไร ควรเตรียมอุปกรณ์บังแดด เผื่อไว้ด้วย 2. เลือกสมุนไพรที่มีประโยชน์กับเราจริง ๆ สำหรับนำไปใช้งาน และ 3. เลือกกระถางให้มีความเหมาะสมทั้งพื้นที่และพืชที่จะนำมาปลูกด้วย

              สมุนไพรที่นิยมปลูกในคอนโด มีมากมายหลายชนิดให้เลือกนำไปปลูกกัน ที่สามารถเติบโตในกระถางได้เป็นอย่างดี โดยไม่ต้องกังวลกับสถานที่ ขอแค่มีพื้นที่เล็ก ๆ ริมหน้าต่าง หรือบริเวณระเบียงก็สามารถปลูกได้แล้ว อีกทั้งยังใช้เป็นไม้ประดับสำหรับตกแต่งห้องได้อีกด้วย ลองไปหามาปลูกกัน

เครดิตภาพ : décor.mthai.com / omgnadinechristine.com / hafelethailand.com

YouTube :

6 ต้นไม้มงคลปลูกง่ายในคอนโด

5 อันดับ ต้นไม้แสงน้อย ปลูกได้ในบ้าน คอนโด สำหรับห้องไม่ค่อยมีแสง ซอกหลืบแค่ไหนก็ต้องรอด

#สมุนไพรยอดนิยม #ปลูกสมุนไพรในคอนโด #สมุนไพรปลูกง่าย

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

บอนไซ สวนในกระถาง

บอนไซ เป็นไม้ประดับที่มีขนาดเล็ก มีรูปทรงที่สวยงาม ดูแลไม่ยาก ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากมีหลายชนิดการปลูกบอนไซนั้นยังบอกถึงตัวตนของเจ้าของได้ และยังทำเป็นงานอดิเรกได้ด้วย

‘บอนไซ’ คืออะไร

อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า บอนไซ เป็นชื่อของต้นไม้นะคะ ไม่ใช่ค่ะ บอนไซ ไม่ได้เป็นชื่อของต้นไม้ หรือชนิดของต้นไม้ อย่างที่เข้าใจกัน แต่บอนไซ คือ ต้นไม้ชนิดต่าง ๆ มาย่อส่วนลงในกระถาง

บอนไซ จริง ๆ แล้วมีความหมายมาจากภาษาจีน สองคำแต่เดิมคือ เผินใจ แล้วออกเสียงเพี้ยนจนมาเป็นคำว่า บอน หมายถึงถาดหรือกระถาง  ส่วนคำว่า ไซ แปลว่าต้นไม้ เมื่อรวมกันจึงเป็นคำว่า บอนไซ หรือ ต้นไม้ที่ถูกปลูกในกระถางด้วยการนำเส้นลวดมาพันไว้ตามกิ่งสร้างสรรค์ในรูปทรงต่าง ๆ  ที่โดยมากที่ใช้จะไม้ประเภทยืนต้น

ต้นไม้ชนิดไหนที่เอามาใช้ทำบอนไซได้

ควรเน้นเป็นไม้ยืนต้นที่มีเปลือก มีอายุยืนยาว หรืออาจเป็นไม้มงคลสายพันธุ์ต่าง ๆ เน้นใบสีเขียวสด สำหรับไม้ไทยที่นิยมมาจัดเป็นบอนไซมีหลายชนิด อาทิ โมก, ชาฮกเกี้ยน, ตะโก,เกล็ดปลาหมอ  ส่วนไม้ญี่ปุ่นจะเป็นประเภทต้นสนและมีไม่กี่ชนิดที่สามารถทนสภาพอากาศแบบในประเทศไทยได้โดยมากทีนิยมกันจะได้แก่จูนิเปอร์, ฮิโนกิ, เจแปนนิส แบล็คพาย, อาซาเลีย  ส่วนต้นไม้สายพันธุ์ว่าน หรือ ไม้สายพันธุ์ล้มลุก และไม้ที่เป็นพุ่ม ไม่เหมาะสมที่จะมาทำบอนไซ

เสน่ห์ของบอนไซคืออะไร

บอนไซ ถือเป็นศิลปะที่มีชีวิตที่ไม่ได้เป็นแค่ต้นไม้ในกระถาง ย่อส่วนเท่านั้น แต่ยังทำให้เมื่อใดที่เหนื่อยจากนอกบ้านหรืองาน แค่ได้ดูแลรดน้ำตัดแต่งก็เพลิดเพลิน และเหมือนถูกสูบเข้าสู่โลกของความสงบแล้วแปรเปลี่ยนเป็นความสุขได้อย่างไม่น่าเชื่อ

วิธีดูแลบอนไซสำหรับมือใหม่

หลายคนเข้าใจผิด ว่าดูแลยาก แต่ตามจริงแล้วการดูแลบอนไซก็เหมือนการดูแลต้นไม้ทั่ว ๆ ไป สามารถดูแลรวมกับต้นไม้ชนิดอื่นได้

  • ไม่ต้องรดน้ำบ่อยแค่วันละครั้งก็ได้ หรือวันไหนฝนตก ก็ไม่ต้องรด
  • สิ่งสำคัญคือภาพลักษณ์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ที่ถูกย่อลงมาอยู่ในกระถางให้ชื่นชมได้ บอนไซไม่ดูเพียงแค่รูปทรงทั้งหมดอย่างเดียว แต่ยังดูถึงจุดอื่นๆด้วยทั้งราก ลำต้น กิ่ง ก้านและใบ
  • นำตากแดดบ้าง สักวันละ 4 ชั่วโมง หรือครึ่งวัน หรือวางในที่แดดส่องถึง แต่ไม่แรงจนเกินไป
  • การให้ปุ๋ยสักเดือนและแค่ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว สาเหตุที่ใส่ปุ๋ยแค่เดือนละครั้งเพราะเพื่อควบคุมการเจริญเติบโต ไม่ให้ใหญ่จนเกินไป แต่เน้นความมีสีเขียวของใบมากกว่า

สำหรับใครที่รักการปลูกต้นไม้จัดสวนถาดบอนไซ ถือได้เป็นงานอดิเรกสำหรับคนที่รักการปลูกต้นไม้ แต่มีพื้นที่ไม่มาก และไม่ค่อยมีเวลามาก อย่างเช่นคนที่อยู่ในห้องพัก คอนโด หรือโต๊ะทำงาน

#บอนไซ #แนะนำการเลี้ยงบอนไซ #จัดสวนถาดบอนไซ

Categories
ต้นไม้คู่บ้าน

ไทรเกาหลีต้นไม้รั้วยอดนิยม

         บ้านสมัยใหม่ในประเทศไทยในปัจจุบัน นิยมที่จะนำต้นไม้พันธ์หนึ่งมาปลูกแทนรั้วคือต้นไทรเกาหลี เรามักจะเห็นการตัดแต่งต้นไทรเกาหลีเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมทำให้ดูแข็งแรงและดู     ทึบแน่นเหมือนรั้วคอนกรีตและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและสามารถนำมาทำเป็นรั้วบ้านได้โดยใช้งบประมาณที่ถูกกว่าการทำรั้วคอนกรีต และยังทำให้บ้านมีความเย็นกว่ารั้วที่ทำจากคอนกรีตฉาบปูน

         สมัยก่อนเรามักจะนิยมนำไม้โมกมาปลูกเป็นรั้วบ้าน แต่ไม้โมกมีข้อเสียคือใบร่วงมากบางเวลาจะเหลือแค่ลำต้น แต่ไทรเกาหลีจะไม่ค่อยจะพบกับปัญหานี้คือจะมีใบทึบแน่นและไม่ร่วงง่ายเพราะเป็นไม้ที่ไม่ผลัดใบ ใบที่ร่วงจึงมีปริมาณน้อยและจะรวมกันอยู่เป็นกองไม่ปลิวกระจาย ทำให้ดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย ไทรเกาหลีเมื่อโตเต็มที่อาจสูงได้ถึงหกเมตรแต่ส่วนใหญ่ถ้านำไปปลูกเป็นรั้วบ้านจะปลูกให้สูงประมาณเมตรครึ่งถึงสองเมตรโดยตัดแต่งให้สวยงามเป็นระเบียบ

         ไทรเกาหลีเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนทางตอนใต้ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ficus Annulata เป็นไม้ที่ควรนำมาปลูกกลางแดดหรือให้ถูกแดดเกือบทั้งวัน ต้องการน้ำบ้างแต่ไม่ต้องถึงกับชุ่มน้ำ โดยจะปลูกลงดินหรือลงกระถางก็ได้ ไทรเกาหลีเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศไม่ต้องการการดูแลมาก ไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน ไทรเกาหลีช่วยลดความร้อนของอากาศและช่วยให้บ้านเย็นขึ้นนอกจากนี้ยังช่วยกันฝุ่นละอองด้วย

         การปลูกไทรเกาหลีก็ไม่ยาก จะปลูกตั้งแต่ยังเป็นเล็กหรือจะเป็นต้นใหญ่แล้วก็ได้ โดยทำการขุดดินให้ลึกกว่าตุ้มรากที่อยู่ในถุงเพาะเล็กน้อยและพรวนดินบริเวณที่จะปลูกให้ร่วน จากนั้นนำต้นไทรเกาหลีที่อยู่ในถุงเพาะตามขนาดที่ซื้อมานำลงดิน จากนั้นให้กลบด้วยดินถุงให้คลุมเป็นหลังเต่าเพื่อป้องกันน้ำขัง ในการปลูกต้องวางลำต้นให้ตรงและจำนวนต้นที่ปลูกควรปลูกที่ประมาณสามหรือสี่ต้นต่อหนึ่งเมตรหรือมากน้อยกว่านี้ตามขนาดของต้นที่เอามาลงดินปลูกและเว้นระยะระหว่างต้นให้เท่ากัน แล้วให้ใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยมูลค้างคาวโดยโรยให้ทั่วโคนต้น

         สำหรับการให้น้ำไทรเกาหลีนั้นเมื่อปลูกใหม่ควรรดน้ำเช้าเย็นประมาณห้าวันแรก หลังจากนั้นก็ลดการให้น้ำลงเป็นวันละครั้งหรือวันเว้นวันตามความสะดวก

         นอกจากนำมาปลูกเป็นรั้วบ้านแล้วปัจจุบันนิยมนำไทรเกาหลีมาปลูกประดับตามโรงแรมหรือคอนโดมิเนียม รวมถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เพราะไทรเกาหลีเป็นไม้ที่มีความหรูหราเหมาะที่จะนำมาปลูกเพื่อเสริมสร้างความภูมิฐานแก่สถานที่ต่างๆ เช่นกัน

เครดิตภาพ ไทรเกาหลี, Condonewb

#ไทรเกาหลี #รั้วไทรเกาหลี #รั้วสวยด้วยไทรเกาหลี