Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

แนะนำอาหารแมวสูตรโซเดียมตำ่ วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อย ถูกใจทั้งคนทั้งแมว

เชื่อว่าคนที่เลี้ยงแมวหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าการให้อาหารแมวที่มีรสชาติเค็มหรือมีโซเดียมสูงจนเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้ของน้องแมวได้ หากทานต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ทำให้หลายๆบ้านเริ่มหันมาเลือกซื้ออาหารแมวสูตรที่มีโซเดียมต่ำ ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงในระยะยาว วันนี้เราจึงได้คัดสรรอาหารแมวโซเดียมต่ำ จากหลากหลายแบรนด์ดัง มาฝากกันอีกด้วยค่ะ

1.Hill’s Science Diet

เป็นอาหารแมวที่ตอบโจทย์และใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยง อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่จำเป็นต่อแมวในช่วงวัย 1 – 6 ปี ผลิตขึ้นจากวัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติอร่อย และย่อยง่าย ที่สำคัญมีปริมาณแร่ธาตุและโซเดียมที่สมดุล ดีต่อสุขภาพไตและกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้น้องแมวตัวใหญ่แข็งแรงอีกด้วย

2.Canagan สูตร Scottish Salmon เนื้อปลาแซลมอน

สำหรับสูตรนี้ถูกใจคนที่กำลังมองหาอาหารแมวโซเดียมต่ำอย่างแน่นอน เพราะมีปริมาณโซเดียมเพียง 0.25% ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงขนและผิวหนังให้แข็งแรง มีรสชาติอร่อย เคี้ยวง่าย ได้กลิ่นหอมจากเนื้อปลาทะเลแท้ๆ พร้อมส่วนผสมจากผัก ผลไม้ และสมุนไพร ที่จะช่วยบำรุงระบบทางเดินปัสสาวะและระบบขับถ่าย

3.Kaniva สูตร Chicken Tuna & Rice

อาหารแมว สูตร Low Sodium จะช่วยสร้างสมดุลในระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่ายให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทางแบรนด์ได้มีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีสุขภาพดี ขนนุ่มสวย และนอกจากนี้ยังได้เพิ่มรสชาติด้วยเนื้อไก่ ทูน่า และข้าว นอกเหนือไปจากนั้น ยังช่วยเสริมสร้างกระดูกฟันและกล้ามเนื้อแบบเน้นๆอีกด้วยค่ะ

4.Royal canin สูตร Early Renal สำหรับแมวโรคไตระยะแรก

ผลิตภัณฑ์อาหารเปียกสูตร Early Renal สำหรับแมวที่ป่วยเป็นโรคไต อุดมไปด้วยพลังงานจากกรดไขมัน EPA, DHA รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยบำรุงสุขภาพและการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้น ลดโอกาสการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะลงได้ สำหรับสูตรนี้มีการควบคุมฟอสฟอรัสและโซเดียมในปริมาณที่ต่ำมาก เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไตในระยะเริ่มต้น เหมาะสำหรับน้องแมวที่ป่วยเป็นโรคไตอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไปค่ะ 

5.Avoderm Chicken Formula 3 กระป๋อง

อาหารกระป๋องแบบเปียก อัดแน่นด้วยโปรตีนแบบเน้น ๆ จากไก่เกรดพรีเมียมและวัตถุดิบคุณภาพสูง โดยสูตรนี้ไม่เพียงแค่มีปริมาณโซเดียมต่ำเพียง 0.1% แต่ยังมีวิตามินและแร่ธาตุจากธรรมชาติ ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการของแมวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เหมาะกับแมวทุกสายพันธุ์เลยค่ะ

เครดิตภาพ : shopee

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #ทาสแมว #อาหารแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“หนอนแอนตาร์กติก” สิ่งมีชีวิตเงางามที่คุณอาจสะพรึงในทะเลลึก

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศยามเช้าค่อนข้างหนาวทำให้เราที่ตื่นมาเขียนบทความพลันนึกถึงสัตว์ทะเลอยู่บ่อย ๆ เอาจริงเราก็รู้ล่ะว่าตัวเองดูจะเขียนถึงสัตว์ทะเลเยอะแล้ว แต่ก็อย่างว่าเนอะ…แม้จะเขียนเยอะแค่ไหนแต่สัตว์ทะเลก็ยังคงอยู่ในหัวข้อที่มีคนจับตามองและรออ่านกันด้วยความสนใจอยู่เสมอ เพราะใต้มหาสมุทรอันลึกล้ำยากแท้หยั่งถึงมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่และรอให้เราไปค้นหาพวกมันเพื่อบอกให้รู้ว่าโลกมนุษย์ไม่ได้มีแต่สิ่งมีชีวิตที่ดูธรรมดาอย่างปลาต่าง ๆ แบบที่เราเห็นเสมอ แต่สัตว์ทะเลหลายตัวที่ถูกค้นพบมาใหม่ต่างก็มีความแปลกแหวกแนวที่สามารถสู้กับความแปลกประหลาดของสัตว์นอกโลกที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ไซไฟได้ดีเช่นกัน วันนี้เองเราก็เลยถือโอกาสนำเรื่องราวของหนึ่งในสัตว์แปลกใต้ทะเลลึกอย่าง “หนอนแอนตาร์กติก” ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของเจ้าสัตว์ที่สวยงามเป็นเงาพริ้งแต่แฝงด้วยความสะพรึงในรูปลักษณ์เล็กน้อยนี้

ทำความรู้จักกับ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” หรือชื่อวิทยาศาสตร์คือ “Eulagisca Gigantea” เป็นหนอนทะเลขนาดเล็กลำตัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดทับซ้อนยาวขนาด 8 นิ้วที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติกที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นยะเยือกภายใต้ระดับความลึกประมาณ 40 ถึง 700 เมตร มีลักษณะโดดเด่นของลำตัวกับหน้าท้องที่แบนราบคล้ายวงรีและมีขากับขนสีทองเหลืองอร่ามประกายแสงในที่มืดเงางามคล้ายขนแปรงมากถึง 40 คู่ ไม่มีตา แต่มีส่วนศีรษะซึ่งรับประสาทสัมผัสทุกด้านกับปากที่มีฟันแหลมคมทั้งส่วนบนและส่วนล่างซึ่งเชื่อมกับขากรรไกรใหญ่ที่แข็งแรงดูสะพรึง หากดูนาน ๆ อาจจะรู้สึกว่าเจ้าหนอนแอนตาร์กติกมีลักษณะในอีกมุมที่คล้ายกับตะขาบบนบกเลย

การดำรงชีวิตของ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” มีพฤติกรรมชอบซ่อนตัวอยู่ใต้ตะกอนในรูที่ขุดและใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไม่เป็นกลุ่มเป็นฝูงคล้ายกับสัตว์ทะเลทั่วไป โดยเมื่อหิวมันก็จะพุ่งจู่โจมเหยื่อที่เป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กกว่าหรือขนาดเท่ากันโดยไม่มีกำหนดเวลาระยะกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งวิธีการกินจะใช้ปากที่มีลักษณะเป็นท่อดูดส่วนหนึ่งของเหยื่อให้ติดกับก่อนจะใช้ฟันบริเวณงวงฉีกกัดเหยื่อทันที มันจะอยู่ของมันเองอย่างสงบในเวลาปกติ แต่เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็จะมีนิสัยที่ก้าวร้าวและเอาแต่ใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งเกิดความกระตือรือร้นในการผสมพันธุ์กับเพศตรงข้ามจนดำเนินการได้รวดเร็วก่อนที่พอหมดฤดูก็จะแยกย้ายไปอยู่ที่ของตัวเองดังเดิมและปล่อยไข่ให้ลอยตามน้ำแล้วค่อย ๆ เติบโตเป็นตัวอ่อนเองจนโตได้อย่างอิสระ

อาหารสุดโปรดของ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” มีอาหารสุดโปรดที่มันชื่นชอบมาก ได้แก่ แมงมุมทะเล, หนอนทะเลด้วยกันเองแต่เป็นพันธุ์อื่น, กุ้ง – กั้ง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ที่ตัวเล็ก แต่จะไม่ชอบกินปลานักหากเลือกได้ ซึ่งมันเป็นสัตว์ที่ถูกให้ฉายาว่าหนอนขากรรไกรแกร่งมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของมหาสมุทรเลย

เครดิตภาพ : bbs.boingboing.net

#สัตว์แปลก #สัตว์ใต้น้ำ #หนอนแอนตาร์กติก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“หอยเต้าปูน” นักล่าเหยื่อในความเงียบสุดอันตราย

ใครว่าหอยไม่มีชีวิตเหมือนสัตว์ทะเลสุดแปลกอื่น ๆ คุณเข้าใจผิดแล้ว ลึก ๆ เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้ว่าหอยทุกชนิดคือสัตว์ทะเลแต่แค่ตัวของมันไม่ค่อยขยับไปไหน และหอยที่เราเจอก็เป็นแค่เปลือกของมัน แต่ตัวมันนั้นได้เสียชีวิตหรือไม่อยู่เหมือนเดิมแล้วก็เท่านั้น อ้ะเดี๋ยวจะไม่เชื่ออีก เพราะเวลาดูสารคดีใด ๆ เราก็มักจะไม่ค่อยเห็นตัวหอยที่อยู่ภายในเปลือกหอยกันมากนัก ฉะนั้นวันนี้เราจึงนำ “หอยเต้าปูน” สัตว์น้ำอีกชนิดที่มีความโดดเด่นในลักษณะตัวที่เห็นชัดเจนยิ่งกว่าหอยชนิดอื่นจนคุณอาจรู้สึกสนใจและยิ่งได้รู้ว่าเจ้าหอยเต้าปูนนี่มีความเด็ดแบบเงียบ ๆ จนสิ่งมีชีวิตในทะเลแทบจะไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่งด้วยแล้วล่ะก็บางทีอาจจะทำให้ “หอยในความคิดของคุณก่อนหน้า” เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยก็ได้ อยากรู้ว่าเป็นอย่างไรต้องมาอ่านกันให้ได้เลย เพราะมีเรื่องราวน่าสนใจเยอะมากเกี่ยวกับเจ้าหอยชนิดนี้

ทำความรู้จักกับ “หอยเต้าปูน”

“หอยเต้าปูน” เป็นสัตว์ทะเลที่มีขนาดเปลือกใหญ่มากตั้งแต่ 2 – 20 เซนติเมตรซึ่งลักษณะของหอยเต้าปูนจะมีลำตัวออกสีดำสลับเหลืองบ้างก็มีสีอื่น งวงแหลม แบกหอยทรงกรวยหัวป้านปลายแหลมลวดลายเป็นเส้นสีน้ำตาลแดงส้มทับซ้อนกันเป็นวงเรียงรายคล้ายกับเกล็ดปลา ด้านหน้าลำตัวมีท่อน้ำยื่นยาวออกมาอยู่ที่ส่วนบนสุดทางด้านหน้าสำหรับเป็นทางน้ำออกเพื่อช่วยขับให้ตัวหอยเคลื่อนที่ไปข้างหน้าแบบสปริงตัวได้ โดยหอยเต้าปูนจะอาศัยอยู่ตามก้นทะเลเขตร้อน โดยเฉพาะในทะเลไทยที่ระดับความลึกมากถึง 100 ฟุตเลยทีเดียว แต่เห็นสวยงามแบบนี้แท้จริงแล้วหอยเต้าปูนนั้นแฝงอันตรายภายในจากพิษที่มาจากเข็มในงวงของมันซึ่งผ่านกระบวนการส่งพิษจากอวัยวะภายในตั้งแต่ถุงน้ำพิษ (Venom Bulb) ท่อน้ำพิษ (Venom Duct) แผงฟัน (Radula Teeth) และคอหอยมาทำให้ทั้งสัตว์ทะเลและมนุษย์เจ็บปวด ผิวเป็นสีน้ำเงินคล้ำ ร้อน เจ็บหน้าอก หายใจติดขัดถึงแก่ความตายได้เลย จึงไม่ควรแตะต้องตัวมันและหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำอยู่ด้านหน้ามันให้มากที่สุด

การดำรงชีวิตของ “หอยเต้าปูน”

“หอยเต้าปูน” มักจะออกหากินในเวลากลางคืน โดยการตามกลิ่นของเหยื่อที่อาศัยตามแนวปะการังและตามก้นทะเลไปเรื่อย ๆ คล้ายกับสุนัขจนเมื่อเจอก็จะคอยซุ่มดูช่วงที่เหยื่อเผลอตัวหรือช่วงที่เหยื่อกำลังนอนหลับบนทรายจึงยื่นงวงยาวจากความมืดหรือที่ซ่อนออกไปสัมผัสก่อนที่จะยิงเข็มพิษใส่จนเหยื่อหมดกำลังแล้วจึงพาตัวออกมากิน

อาหารสุดโปรดของ “หอยเต้าปูน”

“หอยเต้าปูน” แต่ละสายพันธุ์จะมีอาหารการกินที่แตกต่างกัน แต่ที่คล้าย ๆ กันส่วนใหญ่ก็จะกินหนอน ไส้เดือนทะเล ปลาชนิดเล็ก ๆ ที่อยู่ตามก้นทะเล แม่เพรียง ดาวทะเล และปลิงทะเลด้วยซึ่งถือว่าเป็นหอยที่ไม่กลัวสัตว์มีพิษด้วยกันเอง อีกทั้งยังเป็นคู่ปรับสำคัญอีกต่างหาก

เครดิตภาพ : phuketaquarium.org/

#สัตว์ใต้น้ำ #หอยเต้าปูน #สัตว์แปลก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำไมกระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อ

เชื่อว่านอกจากคนส่วนใหญ่ที่เป็นทาสแมวแล้วก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่เป็น “ทาสกระต่าย”เช่นกัน ก็ดูหน้าตาน้องเขาสิ ขนฟูตาเล็กจมูกน้อย ดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน แถมยังไม่ต่างกับเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาที่มีแต่ใจที่งามดุจผ้าขาวบริสุทธิ์เวลาเล่นกับเราด้วย ยิ่งเวลาที่เราไปตามร้านขายสัตว์เลี้ยง คาเฟ่กระต่าย หรือไปบ้านญาติที่เลี้ยงกระต่ายแล้วส่วนมากพวกเขาจะต้องสวมเสื้อเด็กให้กระต่ายใส่กันยิ่งทำให้มองดูเหมือนเด็กทารกที่หัดคลานไปอีก เวลากอดเนี่ยนะ พอได้สัมผัสกับเนื้อผ้านุ่ม ลายน่ารักที่คลุมทับขนฟูของกระต่ายน้อยแล้วบอกเลยว่ามันเขี้ยวมาก น่ารักยิ่งกว่าตอนไม่ใส่เสื้ออีก จนอาจเกิดเป็นข้อสงสัยกันมากในเรื่องนี้ คุณอยากรู้กันไหมล่ะว่าเหตุใดกระต่ายเลี้ยงถึงต้องสวมเสื้อ ทั้งที่เวลาอยู่ในป่ามันก็อยู่ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องนุ่งห่มใดสวมทับร่างกายเลย หากอยากรู้ก็มาอ่านกันเถอะ!

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อป้องกันแดด

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อเพื่อป้องกันเวลาออกไปวิ่งเล่นแล้วเผชิญกับอากาศร้อนและแสงแดดที่สาดส่องลงมาเต็มพิกัด ด้วยสภาพแวดล้อมของกระต่ายที่อาศัยในเมืองใหญ่แตกต่างจากตอนอยู่กับป่าเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุมแดดและหลบอากาศร้อนได้ดีมาก แต่สำหรับเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้เลย อากาศจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าแหล่งกำเนิดของกระต่ายมากจนกระต่ายที่ขนฟูแต่บางอาจจะทนไม่ไหว ต้องมีเสื้อป้องกันแดด

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อแสดงความเป็นเจ้าของ

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อเพื่อแสดงความเป็นว่าตัวเองเป็นกระต่ายที่มีเจ้าของ หาใช่กระต่ายที่หลุดออกมาจากป่าเขา ในสวน หรือเป็นกระต่ายที่ถูกทิ้งแต่อย่างใด ซึ่งเสื้อของกระต่ายที่สวมใส่จะสามารถระบุความเป็นเจ้าของของคุณได้มากกว่าการที่เขาจะต้องสวมปลอกคอกระต่ายซึ่งไม่ค่อยพบเจอตามร้าน อีกทั้งอาจหลุดและน่าอึดอัดสำหรับกระต่ายได้ง่าย จึงใช้เสื้อสวมทับร่างกายเท่านั้น

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อป้องกันขนหลุด

กระต่ายเลี้ยงมักจะไม่ต่างกับแมวตรงที่บางครั้งขนฟูเล็ก ๆ ของเขาจะชอบหลุดร่วงตามบ้านหรือในกรงให้ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ยิ่งปกติเราต้องเลี้ยงกระต่ายอยู่แต่ในบ้านหรือบางคนก็เลี้ยงในห้องนอนส่วนตัวด้วย ยิ่งต้องดูแลความสะอาดยกใหญ่เลย ฉะนั้นเสื้อคลุมจึงสามารถป้องกันขนของกระต่ายที่อาจหลุดร่วงลงมาได้ และเขาก็ยังชื่นชอบด้วย เพราะเสื้อมีน้ำหนักที่เบาสบายมาก ไม่ได้ร้อน ออกแนวอบอุ่นมากกว่า

เครดิตภาพ : sanook.com

#ทำไมกระต่ายห้ามใส่เสื้อ #กระต่าย #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“จิ้งจอกทิเบต” สัตว์ขนนุ่มฟูสุดตีมึนในเขตหนาวเย็น

มองทีแรกตอนง่วง ๆ แล้วนึกว่าเป็นซูเนโอะ! ก็ดูจมูกของเจ้าจิ้งจอกทิเบตกับตาของมันที่หนีดูขี้มึนดูสิ ใครเห็นก็ต้องนึกถึงตัวละครเด็กผู้ชายเพื่อนของโนบิตะในการ์ตูนเรื่อง “โดเรมอน”ทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณน่าจะรู้จักกับจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์มาแล้วและจากที่ดูก็พบว่าจิ้งจอกญี่ปุ่นเป็นจิ้งจอกที่มีขนสวยงามและดูน่าค้นหามากที่สุด แต่ใครจะไปรู้กันว่าในทิเบตเองก็มีสุนัขจิ้งจอกอยู่ท่ามกลางอากาศที่ปกคลุมด้วยหิมะหนาวเย็นด้วย แถมจิ้งจอกทิเบตยังเป็นที่อยู่ในความสนใจของนักสำรวจมากมายที่ต่างก็เดินทางมาหามันอีกต่างหาก ด้วยหน้าตาขี้มึนที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากสุนัขจิ้งจอกที่อื่นแบบนี้และความที่มีสีสันขนคล้ายกับหมาป่าอีกด้วย เรื่องราวของ “จิ้งจอกทิเบต” จึงเริ่มจะน่าติดตามมากยิ่งขึ้นจนแม้แต่คุณเองก็คงอยากรู้เหมือนกันใช่ไหมล่ะว่ามันมีความน่าสนใจในเบื้องลึกอย่างไรบ้าง นอกจากท่าทีตีมึนซึน ๆ ของมันแล้ว หากอยากรู้ก็มาอ่านกันเลย!

ทำความรู้จักกับ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” หรือที่ชาวทิเบตเรียกกันเต็ม ๆ ว่า “จิ้งจอกทะเลทรายทิเบต” เป็นสุนัขจิ้งจอกภูเขาที่ลำตัวมีขนาดเล็ก ขนฟูสีเทาอมน้ำตาลสว่าง หูสั้น เขี้ยวยาวกว่าสุนัขจิ้งจอกพันธุ์อื่น หางเป็นพวงสวยงามเวลาย่างก้าวไปในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเรามักพบมันได้ตามที่ราบสูงทิเบต, ลาดัคห์ที่ราบสูง, เนปาล , พื้นที่ตะวันตกของจีน, สิกขิม และภูฏาน อีกทั้งยังพบได้ในบริเวณเขตหนาวเย็นใกล้เคียงบริเวณเทือกเขาหิมาลัยซึ่งอยู่ในจุดที่ระดับความสูงมากถึง 5,300 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งจิ้งจอกทิเบตสามารถอยู่ตามป่าหรือตามที่โล่งกว้างติดหิมะได้ทั้งนั้น ไม่ค่อยหลบซ่อนตัวจากมนุษย์เท่าไหร่ อีกทั้งด้วยใบหน้าของมันที่มีความเฉื่อยชา ดวงตาเรียวเล็ก และการเดินของมันที่เชื่องช้าด้วยทำให้นักสำรวจจัดให้มันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ไร้ทุกข์มากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของโลกเลย

การดำรงชีวิตของ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” มักจะชอบออกมาวิ่งเล่นในยามเช้าตามจุดที่ติดกับภูเขาด้วยความเป็นอิสระโดยไม่หวาดระแวงกับสิ่งใด ๆ ด้วยมันเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กับธรรมชาติที่กว้างขวาง ไม่ชอบการอยู่นิ่ง และหากมันเหนื่อยก็จะนอนพักตามซอกหินขนาดใหญ่หรือตามต้นไม้เป็นหลัก ยิ่งช่วงฤดูที่หิมะขาวโพลนมันก็จะยิ่งสนุกสนานกับการออกมาเล่นหิมะอย่างโดยช่วงเช้าจิ้งจอกทิเบตก็จะมีบทบาทเป็นนักล่าสัตว์ใหญ่ตัวยงที่เก่งกาจมากเลยทีเดียว ซึ่งหากจิ้งจอกทิเบตตัวใดผสมพันธุ์กันแล้วก็จะเปลี่ยนจากการออกล่าเหยื่อตามลำพังมาเป็นการออกล่าเหยื่อด้วยกัน ก่อนจะตั้งท้องใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นก็จะคลอดลูกจำนวน 3 – 4 ตัวแล้วซึ่งถือว่าเร็วมาก และมันจะคอยดูแลลูกตัวเองอยู่ในถ้ำเป็นหลักทำให้บางช่วงเราจะเห็นจิ้งจอกทิเบตไม่ค่อยได้ออกมาให้เห็นกันเท่าไหร่

อาหารสุดโปรดของ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” มีอาหารสุดโปรดปรานของพวกมัน คือ “ไพก้า” สัตว์ฟันแทะหน้าตาคล้ายหนูที่อาศัยอยู่ไม่ไกลกัน รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่และสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กตัวอื่น ๆ ที่รวมถึงซากสัตว์ที่ตายแล้วซึ่งอย่างสุดท้ายจะกินก็ต่อเมื่อหาอาหารไม่ได้จริง ๆ โดยจิ้งจอกทิเบตก็มีวิธีการจู่โจมโดยใช้กะโหลกอันแข็งแกร่งของตัวเองพุ่งเข้าชนเหยื่อจนบาดเจ็บและกัดด้วยเขี้ยวแหลมรวดเร็วเหมือนกัน เห็นซึน ๆ แบบนี้แต่พี่ก็เจ๋งในแบบของพี่นะน้อง!

เครดิตภาพ : kapook

#สัตว์แปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #จิ้กจอกทิเบต

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ข้อควรรู้ก่อนนำม้าป่ามาเลี้ยง

หากคุณคิดว่าตัวเองอ่านหัวข้อสัตว์ในบทความนี้ว่า “ม้าป่า” นั่นคือคุณอ่านถูกแล้ว ไม่ใช่ “หมาป่า”แน่นอน เพียงแค่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเรียกม้าด้วยคำคำนี้เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ท้าที่เลี้ยงในสมัยนี้จะเกิดจากม้าที่ขายต่อจากฟาร์มของคนอื่นที่ส่งออกหรือเกิดจากการขยายพันธุ์ของม้าเลี้ยงในฟาร์มคุณเอง แต่จุดกำเนิดของพวกม้าเหล่านี้ตั้งแต่รุ่นแรกพวกมันก็มาจากการเป็น “ม้าป่า”กันทั้งนั้น ม้าป่าในที่นี้หมายถึงม้าที่เกิดตามภูเขา อาศัยตามทุ่งหญ้า หรือตามป่าแบบดำรงชีวิตด้วยตัวเองซึ่งหากเป็นม้าที่เป็นม้าป่าแต่กำเนิดไม่มีการผสมพันธุ์แบบม้าเลี้ยงปัจจุบันจะมีสันดั้งเดิมตามสายพันธุ์ของมันที่เข้มและสวยมาก แต่หากตัวใดมีสีอ่อนก็จะมีสีอ่อนที่สดใสเป็นธรรมชาติเข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่อย่างกลมกลืน ทำให้เวลานี้ก็ยังมีบางคนที่ยังเสาะหาม้าป่ามาเลี้ยงอยู่ซึ่งหากคุณยังเป็นมือใหม่สำหรับการนำม้าป่ามาเลี้ยงล่ะก็เราจะมาบอกข้อควรรู้กันก่อนที่คุณจะไปหาเขามาเลี้ยงจริง ๆ ถ้าคุณยอมรับที่จะเลี้ยงมันอย่างอดทนได้ก็ขอนับถือเลยว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงม้าที่แท้จริง!

ม้าป่าพยศและควบคุมยากกว่าม้าเลี้ยง

ด้วยความที่ม้าป่าเกิดและเติบโตในป่ากับภูเขา มีชีวิตอยู่แต่กับฝูงม้ากันเองและสัตว์ป่ามากมายที่เป็นเพื่อนร่วมอาณาเขตเดียวกันจึงไม่คุ้นชินกับการมาเยือนของมนุษย์อย่างมาก ด้วยคิดว่ามนุษย์คือผู้ที่จะทำให้ธรรมชาติของพวกเขาลดน้อยลงและทำร้ายบ้านของพวกเขาที่อยู่มานานด้วยซ้ำจึงค่อนข้างมีอคติกับมนุษย์ ทุกอย่างค่อนข้างจะตรงข้ามกับม้าเลี้ยงมากจนเรียกได้ว่านิสัยคนละโลกเลย อย่าได้หวังว่าเอาเขามาเลี้ยงแค่สัปดาห์แรก คุณก็จะสามารถขี่เขาได้ เพราะเขาจะพยศคุณและพยายามทำให้คุณเจ็บจนไม่กล้าเข้าหาเขาให้ได้ นอกจากนี้ยังชอบเอาชนะมนุษย์ ไม่ยอมแพ้กับการโน้มน้าวใจให้เป็นพวกเดียวกัน เพราะกลัวจะถูกทำให้กลายเป็นม้าเลี้ยงที่ลืมรากเหง้าตัวเองจึงเลี้ยงยากมาก แต่หากคุณเปิดโลกอีกด้านให้ม้าป่าเห็นถึงแง่บวกและโลกกว้างได้เขาก็จะเริ่มเปิดใจให้คุณเอง

ม้าป่าระยะแรกต้องเลี้ยงแบบเว้นระยะห่าง

ในระยะแรกที่นำม้าป่ามาเลี้ยง เขาจะเลือกถอยห่างและอาจจะขู่คุณได้หากเข้ามาใกล้ เพราะเขาไม่ชอบอยู่ใกล้มนุษย์แม้แต่กับม้าเลี้ยงอื่นก็ถือว่าเป็นคนละเผ่าพันธุ์กับเขาด้วย ม้าป่าจะไม่ยอมเชื่อใจสิ่งใดทั้งนั้นยกเว้นสัตว์ป่าที่หัวอกเดียวกัน คุณจึงต้องเลี้ยงม้าป่าแบบเว้นระยะห่าง คอกก็ต้องมีคอกเดี่ยวให้เขา ให้อาหารริมคอก ไม่ควรยื่นให้แบบม้าอื่น จนกว่าเขาจะปรับตัวได้ว่าทุกอย่างที่คุณทำไม่ได้สร้างปัญหา ไม่มีการบังคับ และไม่อันตราย ตรงกันข้ามยังอบอุ่นด้วย การสร้างความไว้ใจสำคัญมาก หากยังมองภาพไม่ออกแนะนำให้ดูการ์ตูนเรื่อง “Spirit: Stallion of the Cimarron สปิริต ม้าแสนรู้มหัศจรรย์ผจญภัย”ควบคู่กันไปด้วยแล้วคุณจะเข้าใจม้าป่ามากขึ้น

ม้าป่าต้องมีคอกเลี้ยงอยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติ

ม้าป่าต้องมีคอกเลี้ยงอยู่ใกล้กับแหล่งธรรมชาติอย่างบ่อน้ำ ภูเขา หรือป่าไม้ที่ลมเย็น ๆ สามารถพัดผ่านได้ตลอดเวลา เป็นบริเวณที่คนเดินผ่านน้อย ไม่ค่อยมีบ้านอยู่ตรงข้ามคอกของเขา ยิ่งเป็นที่ร่ม ๆ มีต้นไม้ใหญ่ยิ่งดี เพราะม้าป่าจะชอบบรรยากาศที่เหมือนอยู่บ้านเกิดของตัวเอง และชอบความสงบมากกว่าเสียงอื้ออึงมาก ยิ่งได้ยินเสียงผู้คนหรือเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมา เขาก็จะยิ่งอารมณ์เสียง่าย

เครดิตภาพ : pixabay

#ม้าป่า #การเลี้ยงม้า #ความรู้เรื่องสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การจัดบ้านที่ถูกต้องให้สุนัข

สำหรับสังคมไทยแล้ว การเลี้ยงดูสุนัขบางบ้านก้มีการทำบ้านให้สุนัขอยู่แยกต่างหากภายในบริเวณรั้วบ้านของตัวเอง แต่บางบ้านก็ปล่อยให้สุนัขได้มีอิสระในการหาที่นอนตามใจที่พวกเขาต้องการ ไม่มีบ้านเป็นหลัง แค่เพียงให้เขาได้อยู่ในการดูแลปกป้องของคุณในฐานะสุนัขที่มีเจ้าของ อยู่กินในรั้วบ้านของคุณก็เพียงพอมากแล้ว ด้วยยึดความคิดที่ว่า สุนัขไทยชอบที่จะเปลี่ยนที่นอนและมีอิสระในการเลือกตามที่เขาต้องการ แต่สำหรับหลักการเลี้ยงสุนัขที่ถูกต้องจริง ๆ คุณควรจะมีการทำบ้านให้กับสุนัขจึงจะเหมาะกับการเปิดพื้นที่ส่วนตัวให้สุนัขมีกิจกรรมที่ชอบทำในบ้านของตัวเอง ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับพื้นที่บ้านของมนุษย์ที่จำกัดอาณาเขต อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างวินัยให้แก่สุนัขได้ด้วย นี่ทำให้สุนัขของคุณได้รับบ้านของตัวเองที่อบอุ่นมากและสุขสบายอีกต่างหาก ในวันนี้เราจึงมีวิธีการจัดบ้านที่ถูกต้องของสุนัขให้คุณได้รู้

บ้านของสุนัขต้องสร้างให้มีหลังขนาดกลาง

บ้านของสุนัขจะไม่ได้เป็นหลังเล็กที่พอดีกับตัวสุนัขอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด แต่จะต้องเป็นบ้านที่มีหลังขนาดกลาง สูง และมีพื้นที่มากพอให้สุนัขเข้าไปนอนและเดินทำกิจกรรมในพื้นที่มุมต่าง ๆ ของบ้านที่มีจำกัดด้วยได้ ซึ่งหากยังมองภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงกรงของสุนัขดู เป็นลักษณะแบบนั้นเลย โดยวัสดุจะใช้เป็นพลาสติกหรือเป็นไม้ก็ได้ มีความแข็งแรงเท่ากันและทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี

บ้านของสุนัขต้องมีการจัดปูเสื่อรองพื้นบ้านด้วย

บ้านของสุนัข หากคุณไม่ได้มีการทำพื้นรองบ้านไว้แล้วล่ะก็เราแนะนำให้คุณหาเสื่อน้ำมันหรือเสื่อใดก็ได้ที่มีความหนา เหนียว และใช้งานได้นานมาปูรองพื้นก็จะดีมาก เพราะสุนัขก็ต้องการสุขอนามัยที่ดีเหมือนกัน ในยามที่ฝนตกหรือพื้นชื้น คุณคงจะไม่อยากเห็นสุนัขต้องทนอยู่กับกลิ่นอับที่เหม็นตัวเองซึ่งต้องนอนอยู่บนพื้นดินหรือพื้นกระเบื้องที่เย็นชืดอย่างแน่นอน ไหนจะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยมีพิษมาได้ด้วย จึงควรมีการรองพื้นให้สุนัขนอนและมีเสริมกระดาษหนังสือพิมพ์อีกทบสำหรับสุนัขเด็ก ๆ ที่ฝึกขับถ่ายอยู่

บ้านของสุนัขต้องจัดมุมให้มีความปลอดโปร่งในโครงสร้าง

บ้านของสุนัขต้องมีการจัดมุมบ้านให้มีโครงสร้างที่ปลอดโปร่ง ไม่ใช่มีแต่ความทึบที่แสงลอดผ่านเข้ามาได้ยากหรือลอดมาแค่ทางเดียวคือหน้าทางเข้าบ้าน ควรจะมีหน้าต่างที่สามารถเปิดปิดได้ทั้งสองด้านของบ้านสุนัขด้วยควบคู่กับการจัดของเล่นสีสันสวยงามอย่างลูกบอล ของห้อยระย้า และอื่น ๆ ที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สุนัขเล่นได้อย่างสบายอารมณ์ทำให้รู้สึกสดชื่นยามมองสีสันของเล่นและธรรมชาติจากนอกบ้านตัวเองได้

เครดิตภาพ : homedit.com

#บ้านสุนัข #ความรู้บ้านน้องหมา #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 ขนมไทยที่สุนัขชอบ

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความชื่นชอบในอาหารการกินหลากหลายมากกว่าที่คุณคิด แม้ว่าบางสายพันธุ์จะชอบกินอาหารแตกต่างกัน แต่หากเป็นขนมหวานแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานแบบใดก็สามารถกินได้ทั้งนั้นหากเป็นขนมหวานที่ไม่ใช่ขนมหวานที่ผสมวัตถุดิบแปลก ๆ ที่มีความคาวแทรกแล้วล่ะก็จัดมาให้สุนัขของคุณได้เลย เพราะสุนัขไทยส่วนใหญ่เวลานี้กำลังขาดความหวานให้ร่างกายกันมาก เพราะคนไทยมักจะเน้นแต่การให้อาหารคาวอย่างพวกอาหารเม็ดและอาหารหนักท้องจากพวกโครงไก่ ข้าวที่ถูกต้มกินกับเนื้อมากมายตามบ้านเรือนและมักจะให้กินแค่นั้น สุนัขไทยจึงได้รับเฉพาะการกินของคาวตลอดเวลาทำให้บางตัวจากที่ควรมีของหวานลงท้องก็ไม่เคยได้ลิ้มลองในชีวิตสักทีจนอาจเกิดความขยาดไม่กล้าที่จะลองหากเราเอาให้กินแตกต่างจากสุนัขตะวันตกและสุนัขที่อยู่กับการเลี้ยงด้วยอาหารคาวประกอบอาหารหวานตามโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งหากคุณอยากจะปรับเปลี่ยนให้เขาได้ลองอาหารหวานบ้างแล้วล่ะก็ขนมไทยเป็นสิ่งที่เหมาะกับสุนัขมากที่สุดแล้ว เพราะจะเน้นแต่รสหวานเป็นหลักและสีสันน่ากินมาก แต่จะให้เขาเริ่มจากขนมหวานชนิดใดต้องมาดูใน 3 ขนมไทยที่สุนัขชอบตั้งแต่แรกกินกันเลย

“ขนมชั้น” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ขนมชั้น” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบได้ง่ายที่สุด เพราะมีความนุ่มของเนื้อแป้งสี่สหาย ได้แก่ แป้งมัน, แป้งข้าวโพด, แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อมที่ทำให้ตัวขนมมีความนุ่มในสัมผัสแรกจนถึงสัมผัสสุดท้ายเมื่ออยู่ในปาก กินไม่ยาก หวานหอมกลิ่นธรรมชาติจากพวกใบเตย อัญชัน และกระเจี๊ยบ แถมสีก็สะดุดตาราวกับอัญมณีด้วยแบบนี้แม้แต่สุนัขเด็กก็ยังชอบ แล้วสุนัขผู้ใหญ่จะพลาดมองข้ามไม่ยอมกินได้ยังไง

“ข้าวเหนียวเปียก” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ข้าวเหนียวเปียก” หนึ่งในขนมไทยที่สุนัขชอบ เพราะมีข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลักของขนมจึงทำให้สุนัขมีความคุ้นชินเหมือนกับเวลาที่พวกเขากินอาหารคาวมากเหมาะกับสุนัขที่ไม่คุ้นชินขนมหวานแบบสุดขั้วหรืออยู่ในขั้นที่ทดลองระยะแรก อีกทั้งยังมีความคล่องคอง่าย ได้รับความหวานจากน้ำเชื่อมข้าวเหนียวที่ชุ่มฉ่ำหอมเนื้อผลไม้ที่ใส่ลงไปเพลินปากมาก

“บัวลอย” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“บัวลอย” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบเพราะเป็นน้ำทำให้มีความอุ่นอร่อยซึ่งพวกเขามักมองว่าเหมือนตัวเองกำลังลิ้มลองนมรสใหม่ที่มีชิ้นขนมกลม ๆ หอมหวานผสมอยู่ในนั้นทำให้รู้สึกหวาน มัน โดนใจจนต้องอยากขอเจ้าของอย่างคุณกินอีกแน่นอน ยิ่งมีกลิ่นกะทิด้วย สุนัขยิ่งชอบ

เครดิตภาพ : pantip, cookpad.com

#ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ขนมไทยสุนัขชอบ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

สำหรับเจ้าของสุนัขหลายบ้านอาจจะไม่ได้ให้อาหารเฉพาะของสุนัขที่เป็นในรูปแบบอาหารเม็ดแก่เขา แต่เป็นในรูปแบบของอาหารมนุษย์ที่แบ่งส่วนหนึ่งให้เขาโดยมีอาหารที่ปรุงและผสมกับข้าวสวยให้สุนัขได้กินซึ่งสุนัขก็สามารถกินได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตรงกันข้ามการให้อาหารรูปแบบข้าวแก่สุนัขจะยิ่งนำให้สุนัขได้รับพลังงายที่เยอะและอิ่มอร่อยได้มากกว่าอาหารเม็ดด้วย นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้ออาหารเม็ดที่ราคาสูงอีกด้วย ช่วยประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ แต่ ๆ ๆ แน่นอนว่าอาหารที่ไม่ได้ถูกทมาให้เป็นของสุนัขเฉพาะด้านก็ย่อมจะมีข้อเสียอยู่เหมือนกันในกรณีที่คุณเลือกผิด อย่างประเภทอาหารปรุงสำเร็จและการใช้ประเภทข้าว ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่ากันถึงประเภทข้าวที่ไม่ควรเลือกทำให้สุนัขกิน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นกับร่างกายของสุนัขที่คุณเลี้ยงไว้ก็ได้ ฉะนั้นข้าวดังต่อไปนี้จึงควรได้รับการหลีกเลี่ยงไม่ให้เตะตาต้องใจและอยู่ห่างจากสุนัขให้มากที่สุด

“ข้าวเหนียว” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวเหนียว” ด้วยความที่สุนัขเป็นสัตว์ที่มักจะชื่นชอบการกินมูมมามและกินอย่างรวดเร็วแบบเคี้ยวกลืน ๆ แถมด้วยการเลียให้เรียบจึงอาจทำให้ข้าวเหนียวมีโอกาสที่จะไปติดตามฟัน ตามจมูก เหนือปาก และตามขนได้ง่าย ๆ จนเอาออกยาก ยิ่งเป็นสุนัขที่ขนยาวยิ่งแล้วใหญ่เลย พอข้าวเหนียวติดทีนี่จะค่อย ๆ เอาออกทีละเม็ดก็แสนจะนาน กลัวทำน้องเจ็บที่เราอาจจะเผลอมือแรงดึงขนด้วยซะนี่ แม้ว่าคุณจะพยายามต้มข้าวให้เหนียวน้อยและนิ่มแล้วแต่ยังไงก็ยังไม่เหมาะกับน้องสุนัขอยู่ดี และกินไปก็ย่อยยากด้วยจึงไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” เป็นข้าวที่อาจจะเข้าไปติดคอของสุนัขก็ได้เพราะมักจะติดกันเป็นก้อนเป็นชิ้นซึ่งสุนัขหลายตัวที่ไม่รู้ก็มักจะอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปเต็มคำทำให้เคี้ยวไม่ทันเกิดอาการข้าวติดหลอดลมได้ง่าย ๆ แล้วยิ่งเป็นแนวข้าวปั้นญี่ปุ่นที่มีไส้อยู่ข้างในแล้วเขาไม่ทันได้รู้ก็อาจเผลอกลืนเข้าไปเป็นอันตรายมาก สำหรับการให้ข้าวแก่สุนัขควรจะเป็นข้าวที่เคี่ยวหรือข้าวที่ต้มจนไม่ติดกันมากจึงจะเหมาะ ควรหลีกเลี่ยงข้าวแบบนี้มากในการให้สุนัข

“ข้าวกล้อง” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวกล้อง” เป็นข้าวที่มีเม็ดใหญ่และค่อนข้างแข็งกว่าข้าวทั่วไป อีกทั้งกลิ่นของข้าวกล้องกล้องก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ด้วยทำให้สุนัขกินแล้วอาจจะรู้สึกคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และกินอาหารในมื้อหลักน้อยลงจนร่างกายอ่อนเพลียง่ายได้ด้วย คุณจึงไม่ควรจะนำข้าวรูปแบบนี้มาให้สุนัขกิน

เครดิตภาพ : test.com, seriouseats.com

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

สุนัขมักจะชื่นชอบการนั่งเล่นเป็นชีวิตจิตใจเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพักผ่อนหลังจากปฏิบัติภารกิจเฝ้าบ้านตอนกลางคืนมาเป็นระยะเวลานานมากจนทำให้บริเวณในบ้านช่วงเช้าจะค่อนข้างมีความเงียบสงบหน่อย เพราะเขาเองเมื่อหมดภารกิจก็อยากที่จะได้นั่งพักนอนพักชมนกชมไม้ให้สบายใจเพื่อฟื้นฟูร่างกายและเก็บแรงไว้สำหรับคืนนี้ไม่ต่างกับมนุษย์เช่นเดียวกัน เพียงแต่มนุษย์จะทำงานตอนเช้า แต่สุนัขจะทำงานตอนเย็นก็เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาทำหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วจึงต้องมีรางวัลให้เขาทุกครั้ง คือ บ้านที่น่าอยู่ภายนอกซึ่งสุนัขจะสามารถนั่งเล่นได้อย่างสบายใจ ผ่อนคลาย ถูกสุขลักษณะมากพอ อาจมีการจัดบริเวณภายนอกบ้านที่สุนัขชอบมานั่งเล่นให้กว้างขึ้นและมีพื้นที่ว่างปลอดโปร่งสำหรับเขาด้วยก็จะดี เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกไม่สบายเวลานั่งเล่นจนแอบย่างกรายมาภายในตัวบ้านของคุณจนมีเห็บหมัดเข้ามา หากจัดสภาพแวดล้อมใน 3 บริเวณภายนอกบ้านเหล่านี้ได้ก็ควรจัด เพราะเป็นบริเวณที่สุนัขชอบมานั่งเล่นเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงควรเรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง

“หน้าบ้าน” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“หน้าบ้าน” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขส่วนใหญ่จะชอบมานั่งเล่นนอนเล่นกัน เพราะสุนัขจะมีนิสัยชอบสอดส่องคนแปลกหน้าและสภาพแวดล้อมที่อยู่บริเวณบ้านซึ่งเป็นจุดกว้างขวางสามารถมอบได้โดยรอบ 180 องศามากกว่าบริเวณอื่น ๆ ของตัวบ้าน ยิ่งเป็นผู้คนหรือสัตว์ที่ผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน สุนัขจะยิ่งชอบจับตามองความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแอบเป็นสัตว์ที่ดูเงียบ ๆ ภายนอก แต่ภายในขี้ระแวงใช้ได้เลยเหมือนกัน บริเวณหน้าบ้านจึงควรจัดให้มีร่มไม้ใหญ่หรือชายคายื่นออกมาหน่อยเพื่อบังแดดให้สุนัขก็จะดี

“ใต้ม้านั่ง” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใต้ม้านั่ง” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขจะชอบมานั่งเล่นมาก เพราะนอกจากจะรู้สึกเป็นส่วนตัวและปลอดภัยแล้ว ยังได้ร่มเงาและความเย็นพื้นดินที่อยู่ใต้โต๊ะตลอดเวลาอีกด้วยจึงให้สัมผัสเหมือนนอนอยู่ในเวลากลางคืนที่ไม่มีแดด สบายจนสามารถหลับได้เพลิน ๆ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วและตื่นยากเสียด้วยบางครั้ง คุณจึงควรเคลียร์พื้นที่ใต้ม้านั่งไม่ให้มีขนสุนัขหมักหมมตามซอกโต๊ะและกวาดบ่อย ๆ เผื่อจะมีมดหรือแมลงอันตรายอยู่ใต้ม้านั่ง

“ใกล้เจ้าของ” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใกล้เจ้าของ” หากเป็นเวลาที่เจ้าของออกมานั่งทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานาน สุนัขก็มักจะมานั่งเล่นอยู่บริเวณของบ้านที่ตรงกันกับมุมที่เจ้าของนั่งด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจและไม่เหงาหงอยทุกครั้ง เพราะนั่งเล่นตามบริเวณต่าง ๆ ในบ้านตัวเดียวก็มีความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่มีเพื่อนด้วย หากได้นั่งใกล้ ๆ คนที่รักก็จะมีความสุขในช่วงเวลานั้นมาก

เครดิตภาพ : architecturaldigest.com, .hgtv.com

#บริเวณที่สัตว์ชอบ #สุนัขน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์