Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำไมกระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อ

เชื่อว่านอกจากคนส่วนใหญ่ที่เป็นทาสแมวแล้วก็คงมีคนอีกไม่น้อยที่เป็น “ทาสกระต่าย”เช่นกัน ก็ดูหน้าตาน้องเขาสิ ขนฟูตาเล็กจมูกน้อย ดูรวม ๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน แถมยังไม่ต่างกับเด็กน้อยแสนไร้เดียงสาที่มีแต่ใจที่งามดุจผ้าขาวบริสุทธิ์เวลาเล่นกับเราด้วย ยิ่งเวลาที่เราไปตามร้านขายสัตว์เลี้ยง คาเฟ่กระต่าย หรือไปบ้านญาติที่เลี้ยงกระต่ายแล้วส่วนมากพวกเขาจะต้องสวมเสื้อเด็กให้กระต่ายใส่กันยิ่งทำให้มองดูเหมือนเด็กทารกที่หัดคลานไปอีก เวลากอดเนี่ยนะ พอได้สัมผัสกับเนื้อผ้านุ่ม ลายน่ารักที่คลุมทับขนฟูของกระต่ายน้อยแล้วบอกเลยว่ามันเขี้ยวมาก น่ารักยิ่งกว่าตอนไม่ใส่เสื้ออีก จนอาจเกิดเป็นข้อสงสัยกันมากในเรื่องนี้ คุณอยากรู้กันไหมล่ะว่าเหตุใดกระต่ายเลี้ยงถึงต้องสวมเสื้อ ทั้งที่เวลาอยู่ในป่ามันก็อยู่ได้โดยไม่ต้องมีเครื่องนุ่งห่มใดสวมทับร่างกายเลย หากอยากรู้ก็มาอ่านกันเถอะ!

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อป้องกันแดด

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อเพื่อป้องกันเวลาออกไปวิ่งเล่นแล้วเผชิญกับอากาศร้อนและแสงแดดที่สาดส่องลงมาเต็มพิกัด ด้วยสภาพแวดล้อมของกระต่ายที่อาศัยในเมืองใหญ่แตกต่างจากตอนอยู่กับป่าเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุมแดดและหลบอากาศร้อนได้ดีมาก แต่สำหรับเมืองใหญ่ที่ไม่ค่อยมีต้นไม้เลย อากาศจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าแหล่งกำเนิดของกระต่ายมากจนกระต่ายที่ขนฟูแต่บางอาจจะทนไม่ไหว ต้องมีเสื้อป้องกันแดด

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อแสดงความเป็นเจ้าของ

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อเพื่อแสดงความเป็นว่าตัวเองเป็นกระต่ายที่มีเจ้าของ หาใช่กระต่ายที่หลุดออกมาจากป่าเขา ในสวน หรือเป็นกระต่ายที่ถูกทิ้งแต่อย่างใด ซึ่งเสื้อของกระต่ายที่สวมใส่จะสามารถระบุความเป็นเจ้าของของคุณได้มากกว่าการที่เขาจะต้องสวมปลอกคอกระต่ายซึ่งไม่ค่อยพบเจอตามร้าน อีกทั้งอาจหลุดและน่าอึดอัดสำหรับกระต่ายได้ง่าย จึงใช้เสื้อสวมทับร่างกายเท่านั้น

กระต่ายเลี้ยงต้องสวมเสื้อป้องกันขนหลุด

กระต่ายเลี้ยงมักจะไม่ต่างกับแมวตรงที่บางครั้งขนฟูเล็ก ๆ ของเขาจะชอบหลุดร่วงตามบ้านหรือในกรงให้ต้องทำความสะอาดบ่อย ๆ ยิ่งปกติเราต้องเลี้ยงกระต่ายอยู่แต่ในบ้านหรือบางคนก็เลี้ยงในห้องนอนส่วนตัวด้วย ยิ่งต้องดูแลความสะอาดยกใหญ่เลย ฉะนั้นเสื้อคลุมจึงสามารถป้องกันขนของกระต่ายที่อาจหลุดร่วงลงมาได้ และเขาก็ยังชื่นชอบด้วย เพราะเสื้อมีน้ำหนักที่เบาสบายมาก ไม่ได้ร้อน ออกแนวอบอุ่นมากกว่า

เครดิตภาพ : sanook.com

#ทำไมกระต่ายห้ามใส่เสื้อ #กระต่าย #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“จิ้งจอกทิเบต” สัตว์ขนนุ่มฟูสุดตีมึนในเขตหนาวเย็น

มองทีแรกตอนง่วง ๆ แล้วนึกว่าเป็นซูเนโอะ! ก็ดูจมูกของเจ้าจิ้งจอกทิเบตกับตาของมันที่หนีดูขี้มึนดูสิ ใครเห็นก็ต้องนึกถึงตัวละครเด็กผู้ชายเพื่อนของโนบิตะในการ์ตูนเรื่อง “โดเรมอน”ทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณน่าจะรู้จักกับจิ้งจอกหลากหลายสายพันธุ์มาแล้วและจากที่ดูก็พบว่าจิ้งจอกญี่ปุ่นเป็นจิ้งจอกที่มีขนสวยงามและดูน่าค้นหามากที่สุด แต่ใครจะไปรู้กันว่าในทิเบตเองก็มีสุนัขจิ้งจอกอยู่ท่ามกลางอากาศที่ปกคลุมด้วยหิมะหนาวเย็นด้วย แถมจิ้งจอกทิเบตยังเป็นที่อยู่ในความสนใจของนักสำรวจมากมายที่ต่างก็เดินทางมาหามันอีกต่างหาก ด้วยหน้าตาขี้มึนที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากสุนัขจิ้งจอกที่อื่นแบบนี้และความที่มีสีสันขนคล้ายกับหมาป่าอีกด้วย เรื่องราวของ “จิ้งจอกทิเบต” จึงเริ่มจะน่าติดตามมากยิ่งขึ้นจนแม้แต่คุณเองก็คงอยากรู้เหมือนกันใช่ไหมล่ะว่ามันมีความน่าสนใจในเบื้องลึกอย่างไรบ้าง นอกจากท่าทีตีมึนซึน ๆ ของมันแล้ว หากอยากรู้ก็มาอ่านกันเลย!

ทำความรู้จักกับ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” หรือที่ชาวทิเบตเรียกกันเต็ม ๆ ว่า “จิ้งจอกทะเลทรายทิเบต” เป็นสุนัขจิ้งจอกภูเขาที่ลำตัวมีขนาดเล็ก ขนฟูสีเทาอมน้ำตาลสว่าง หูสั้น เขี้ยวยาวกว่าสุนัขจิ้งจอกพันธุ์อื่น หางเป็นพวงสวยงามเวลาย่างก้าวไปในสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเรามักพบมันได้ตามที่ราบสูงทิเบต, ลาดัคห์ที่ราบสูง, เนปาล , พื้นที่ตะวันตกของจีน, สิกขิม และภูฏาน อีกทั้งยังพบได้ในบริเวณเขตหนาวเย็นใกล้เคียงบริเวณเทือกเขาหิมาลัยซึ่งอยู่ในจุดที่ระดับความสูงมากถึง 5,300 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งจิ้งจอกทิเบตสามารถอยู่ตามป่าหรือตามที่โล่งกว้างติดหิมะได้ทั้งนั้น ไม่ค่อยหลบซ่อนตัวจากมนุษย์เท่าไหร่ อีกทั้งด้วยใบหน้าของมันที่มีความเฉื่อยชา ดวงตาเรียวเล็ก และการเดินของมันที่เชื่องช้าด้วยทำให้นักสำรวจจัดให้มันเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ไร้ทุกข์มากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของโลกเลย

การดำรงชีวิตของ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” มักจะชอบออกมาวิ่งเล่นในยามเช้าตามจุดที่ติดกับภูเขาด้วยความเป็นอิสระโดยไม่หวาดระแวงกับสิ่งใด ๆ ด้วยมันเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กับธรรมชาติที่กว้างขวาง ไม่ชอบการอยู่นิ่ง และหากมันเหนื่อยก็จะนอนพักตามซอกหินขนาดใหญ่หรือตามต้นไม้เป็นหลัก ยิ่งช่วงฤดูที่หิมะขาวโพลนมันก็จะยิ่งสนุกสนานกับการออกมาเล่นหิมะอย่างโดยช่วงเช้าจิ้งจอกทิเบตก็จะมีบทบาทเป็นนักล่าสัตว์ใหญ่ตัวยงที่เก่งกาจมากเลยทีเดียว ซึ่งหากจิ้งจอกทิเบตตัวใดผสมพันธุ์กันแล้วก็จะเปลี่ยนจากการออกล่าเหยื่อตามลำพังมาเป็นการออกล่าเหยื่อด้วยกัน ก่อนจะตั้งท้องใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้นก็จะคลอดลูกจำนวน 3 – 4 ตัวแล้วซึ่งถือว่าเร็วมาก และมันจะคอยดูแลลูกตัวเองอยู่ในถ้ำเป็นหลักทำให้บางช่วงเราจะเห็นจิ้งจอกทิเบตไม่ค่อยได้ออกมาให้เห็นกันเท่าไหร่

อาหารสุดโปรดของ “จิ้งจอกทิเบต”

“จิ้งจอกทิเบต” มีอาหารสุดโปรดปรานของพวกมัน คือ “ไพก้า” สัตว์ฟันแทะหน้าตาคล้ายหนูที่อาศัยอยู่ไม่ไกลกัน รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่และสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กตัวอื่น ๆ ที่รวมถึงซากสัตว์ที่ตายแล้วซึ่งอย่างสุดท้ายจะกินก็ต่อเมื่อหาอาหารไม่ได้จริง ๆ โดยจิ้งจอกทิเบตก็มีวิธีการจู่โจมโดยใช้กะโหลกอันแข็งแกร่งของตัวเองพุ่งเข้าชนเหยื่อจนบาดเจ็บและกัดด้วยเขี้ยวแหลมรวดเร็วเหมือนกัน เห็นซึน ๆ แบบนี้แต่พี่ก็เจ๋งในแบบของพี่นะน้อง!

เครดิตภาพ : kapook

#สัตว์แปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #จิ้กจอกทิเบต

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เพื่อนสุนัขสี่ขา ที่มีมิตรกับผู้เลี้ยงมากที่สุด

เป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องกินจุ และเป็นมิตรอย่างมาก สุนัขสายพันธ์นี้มีหน้าตาที่ดูเป็นมิตมากๆร อีกทั้งยังเป็นสุนัข ที่มีความฉลาด และแสนรู้ อีกทั้งเจ้าลาบราดอร์นี้ ก็ยังมีความเป็นมิตรกับเด็กๆ และสามารถเข้ากันได้ดีกับสุนัขตัวอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย ซึ่งทำให้สามารถที่จะเป็นเพื่อนกับผู้เลี้ยง และครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ลาบราดอร์จึงเป็นสัตว์เลี้ยง ที่ผู้คนมักจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่ชอบการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ได้ชอบออกมาก โดยจะอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น เพราะด้วยธรรมชาติ ที่มีความกระตือรือร้น และถ้าหากเขาออกกำลังกายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็อาจจะทำให้มีนิสัยกัด แทะ ขุด หรืออาจจะเห่ามากไป ซึ่งอาจจะดูขัดกับนิสัยของเขา ที่มีความฉลาดและแสนรู้ แต่ยังไงเขานั้นก็เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง และต้องการความเอาใจใส่ ซึ่งเขานั้นพูดไม่ได้ จึงต้องแสดงออกด้วยท่าทีแทน ดังนั้น เมื่อเรารับน้องมาเลี้ยงแล้ว เราต้องมีความเอาใจใส่น้อง และพร้อมที่จะดูแลเขา

ลักษณะทั่วไปของเจ้าสุนัขแสนรู้ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์(Labrador Retriever)

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ที่มีลักษะณะหูพับลง แนบกับด้านข้างของหัว และจะมีขนาดหูที่พอดี ส่วนช่วงหัวนั้นจะมีขนาด ที่ใหญ่และกว้าง ส่วนลำตัวก็จะยาวเล็กน้อย ช่วงอกกว้างและหนา มีขนสองชั้นมันเงา โดยขนชั้นนอกจะมีลักษณะสั้นและหนา ส่วนขนชั้นในนั้นจะนุ่ม และจะมีสีของขนอยู่ด้วยกันหลายสี อย่างเช่น สีดำ สีช็อกโกแลต และสีเหลือง เป็นต้น มีหางที่กลมใหญ่และเรียว ส่วนในเรื่องของน้ำหนักนั้น ระหว่างตัวผู้กับตัวเมียจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็จะไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น โดยตัวผู้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่จำนวน 29-36 กิโลกรัม และจะมีความสูงอยู่ที่ 57-62 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 25-31 กิโลกรัม และมีความสูงที่ 55-59 เซนติเมตร ส่วนในเรื่องของช่วงอายุนั้น เจ้าลาบราดอร์จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12ปี

สิ่งที่ต้องทำเมื่อรับเจ้า ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) สุนัขแสนรู้ยอดนิยม

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะกินเก่งมากๆ แต่การให้อาหารนั้น จะต้องดูตามช่วงอายุของน้อง โดยจะให้อาหารวันละสองมื้อในปริมาณ 2.5-3 ถ้วยตวง และลาบราดอร์นั้น จะมีช่วงวัยของการเจริญเติบโต อยู่ที่อายุ 4-7 เดือน ซึ่งจะโตเร็วมากๆ และเป็นช่วงที่ทำให้อ่อนแอ การให้อาหารจึงควรเน้นที่คุณภาพ และแคลอรีต่ำ เพื่อจะได้ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของสุนัข ไม่ให้เร็วเกินไป และยังช่วยป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นตามมาได้ด้วย
ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง เราคนเลี้ยงจึงควรพาเขาออกไปทำกิจจกรรม เพื่อให้เขาได้ใช้พลังของเขา และปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างเช่น พาเขาไปเดินเล่น ให้ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้ายังเป็นสุนัขที่เด็กอยู่ เรานั้นก็ไม่ควรที่จะพาเขาออกไปนานเกิน เพราะอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย

เครดิตภาพ : pixabay

#ลาบราดอร์ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ข้อควรรู้ก่อนนำม้าป่ามาเลี้ยง

หากคุณคิดว่าตัวเองอ่านหัวข้อสัตว์ในบทความนี้ว่า “ม้าป่า” นั่นคือคุณอ่านถูกแล้ว ไม่ใช่ “หมาป่า”แน่นอน เพียงแค่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเรียกม้าด้วยคำคำนี้เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ท้าที่เลี้ยงในสมัยนี้จะเกิดจากม้าที่ขายต่อจากฟาร์มของคนอื่นที่ส่งออกหรือเกิดจากการขยายพันธุ์ของม้าเลี้ยงในฟาร์มคุณเอง แต่จุดกำเนิดของพวกม้าเหล่านี้ตั้งแต่รุ่นแรกพวกมันก็มาจากการเป็น “ม้าป่า”กันทั้งนั้น ม้าป่าในที่นี้หมายถึงม้าที่เกิดตามภูเขา อาศัยตามทุ่งหญ้า หรือตามป่าแบบดำรงชีวิตด้วยตัวเองซึ่งหากเป็นม้าที่เป็นม้าป่าแต่กำเนิดไม่มีการผสมพันธุ์แบบม้าเลี้ยงปัจจุบันจะมีสันดั้งเดิมตามสายพันธุ์ของมันที่เข้มและสวยมาก แต่หากตัวใดมีสีอ่อนก็จะมีสีอ่อนที่สดใสเป็นธรรมชาติเข้ากับสภาพแวดล้อมที่มันอยู่อย่างกลมกลืน ทำให้เวลานี้ก็ยังมีบางคนที่ยังเสาะหาม้าป่ามาเลี้ยงอยู่ซึ่งหากคุณยังเป็นมือใหม่สำหรับการนำม้าป่ามาเลี้ยงล่ะก็เราจะมาบอกข้อควรรู้กันก่อนที่คุณจะไปหาเขามาเลี้ยงจริง ๆ ถ้าคุณยอมรับที่จะเลี้ยงมันอย่างอดทนได้ก็ขอนับถือเลยว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงม้าที่แท้จริง!

ม้าป่าพยศและควบคุมยากกว่าม้าเลี้ยง

ด้วยความที่ม้าป่าเกิดและเติบโตในป่ากับภูเขา มีชีวิตอยู่แต่กับฝูงม้ากันเองและสัตว์ป่ามากมายที่เป็นเพื่อนร่วมอาณาเขตเดียวกันจึงไม่คุ้นชินกับการมาเยือนของมนุษย์อย่างมาก ด้วยคิดว่ามนุษย์คือผู้ที่จะทำให้ธรรมชาติของพวกเขาลดน้อยลงและทำร้ายบ้านของพวกเขาที่อยู่มานานด้วยซ้ำจึงค่อนข้างมีอคติกับมนุษย์ ทุกอย่างค่อนข้างจะตรงข้ามกับม้าเลี้ยงมากจนเรียกได้ว่านิสัยคนละโลกเลย อย่าได้หวังว่าเอาเขามาเลี้ยงแค่สัปดาห์แรก คุณก็จะสามารถขี่เขาได้ เพราะเขาจะพยศคุณและพยายามทำให้คุณเจ็บจนไม่กล้าเข้าหาเขาให้ได้ นอกจากนี้ยังชอบเอาชนะมนุษย์ ไม่ยอมแพ้กับการโน้มน้าวใจให้เป็นพวกเดียวกัน เพราะกลัวจะถูกทำให้กลายเป็นม้าเลี้ยงที่ลืมรากเหง้าตัวเองจึงเลี้ยงยากมาก แต่หากคุณเปิดโลกอีกด้านให้ม้าป่าเห็นถึงแง่บวกและโลกกว้างได้เขาก็จะเริ่มเปิดใจให้คุณเอง

ม้าป่าระยะแรกต้องเลี้ยงแบบเว้นระยะห่าง

ในระยะแรกที่นำม้าป่ามาเลี้ยง เขาจะเลือกถอยห่างและอาจจะขู่คุณได้หากเข้ามาใกล้ เพราะเขาไม่ชอบอยู่ใกล้มนุษย์แม้แต่กับม้าเลี้ยงอื่นก็ถือว่าเป็นคนละเผ่าพันธุ์กับเขาด้วย ม้าป่าจะไม่ยอมเชื่อใจสิ่งใดทั้งนั้นยกเว้นสัตว์ป่าที่หัวอกเดียวกัน คุณจึงต้องเลี้ยงม้าป่าแบบเว้นระยะห่าง คอกก็ต้องมีคอกเดี่ยวให้เขา ให้อาหารริมคอก ไม่ควรยื่นให้แบบม้าอื่น จนกว่าเขาจะปรับตัวได้ว่าทุกอย่างที่คุณทำไม่ได้สร้างปัญหา ไม่มีการบังคับ และไม่อันตราย ตรงกันข้ามยังอบอุ่นด้วย การสร้างความไว้ใจสำคัญมาก หากยังมองภาพไม่ออกแนะนำให้ดูการ์ตูนเรื่อง “Spirit: Stallion of the Cimarron สปิริต ม้าแสนรู้มหัศจรรย์ผจญภัย”ควบคู่กันไปด้วยแล้วคุณจะเข้าใจม้าป่ามากขึ้น

ม้าป่าต้องมีคอกเลี้ยงอยู่ใกล้แหล่งธรรมชาติ

ม้าป่าต้องมีคอกเลี้ยงอยู่ใกล้กับแหล่งธรรมชาติอย่างบ่อน้ำ ภูเขา หรือป่าไม้ที่ลมเย็น ๆ สามารถพัดผ่านได้ตลอดเวลา เป็นบริเวณที่คนเดินผ่านน้อย ไม่ค่อยมีบ้านอยู่ตรงข้ามคอกของเขา ยิ่งเป็นที่ร่ม ๆ มีต้นไม้ใหญ่ยิ่งดี เพราะม้าป่าจะชอบบรรยากาศที่เหมือนอยู่บ้านเกิดของตัวเอง และชอบความสงบมากกว่าเสียงอื้ออึงมาก ยิ่งได้ยินเสียงผู้คนหรือเห็นคนเดินผ่านไปผ่านมา เขาก็จะยิ่งอารมณ์เสียง่าย

เครดิตภาพ : pixabay

#ม้าป่า #การเลี้ยงม้า #ความรู้เรื่องสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การจัดบ้านที่ถูกต้องให้สุนัข

สำหรับสังคมไทยแล้ว การเลี้ยงดูสุนัขบางบ้านก้มีการทำบ้านให้สุนัขอยู่แยกต่างหากภายในบริเวณรั้วบ้านของตัวเอง แต่บางบ้านก็ปล่อยให้สุนัขได้มีอิสระในการหาที่นอนตามใจที่พวกเขาต้องการ ไม่มีบ้านเป็นหลัง แค่เพียงให้เขาได้อยู่ในการดูแลปกป้องของคุณในฐานะสุนัขที่มีเจ้าของ อยู่กินในรั้วบ้านของคุณก็เพียงพอมากแล้ว ด้วยยึดความคิดที่ว่า สุนัขไทยชอบที่จะเปลี่ยนที่นอนและมีอิสระในการเลือกตามที่เขาต้องการ แต่สำหรับหลักการเลี้ยงสุนัขที่ถูกต้องจริง ๆ คุณควรจะมีการทำบ้านให้กับสุนัขจึงจะเหมาะกับการเปิดพื้นที่ส่วนตัวให้สุนัขมีกิจกรรมที่ชอบทำในบ้านของตัวเอง ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับพื้นที่บ้านของมนุษย์ที่จำกัดอาณาเขต อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างวินัยให้แก่สุนัขได้ด้วย นี่ทำให้สุนัขของคุณได้รับบ้านของตัวเองที่อบอุ่นมากและสุขสบายอีกต่างหาก ในวันนี้เราจึงมีวิธีการจัดบ้านที่ถูกต้องของสุนัขให้คุณได้รู้

บ้านของสุนัขต้องสร้างให้มีหลังขนาดกลาง

บ้านของสุนัขจะไม่ได้เป็นหลังเล็กที่พอดีกับตัวสุนัขอย่างที่ใครหลาย ๆ คนคิด แต่จะต้องเป็นบ้านที่มีหลังขนาดกลาง สูง และมีพื้นที่มากพอให้สุนัขเข้าไปนอนและเดินทำกิจกรรมในพื้นที่มุมต่าง ๆ ของบ้านที่มีจำกัดด้วยได้ ซึ่งหากยังมองภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงกรงของสุนัขดู เป็นลักษณะแบบนั้นเลย โดยวัสดุจะใช้เป็นพลาสติกหรือเป็นไม้ก็ได้ มีความแข็งแรงเท่ากันและทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี

บ้านของสุนัขต้องมีการจัดปูเสื่อรองพื้นบ้านด้วย

บ้านของสุนัข หากคุณไม่ได้มีการทำพื้นรองบ้านไว้แล้วล่ะก็เราแนะนำให้คุณหาเสื่อน้ำมันหรือเสื่อใดก็ได้ที่มีความหนา เหนียว และใช้งานได้นานมาปูรองพื้นก็จะดีมาก เพราะสุนัขก็ต้องการสุขอนามัยที่ดีเหมือนกัน ในยามที่ฝนตกหรือพื้นชื้น คุณคงจะไม่อยากเห็นสุนัขต้องทนอยู่กับกลิ่นอับที่เหม็นตัวเองซึ่งต้องนอนอยู่บนพื้นดินหรือพื้นกระเบื้องที่เย็นชืดอย่างแน่นอน ไหนจะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยมีพิษมาได้ด้วย จึงควรมีการรองพื้นให้สุนัขนอนและมีเสริมกระดาษหนังสือพิมพ์อีกทบสำหรับสุนัขเด็ก ๆ ที่ฝึกขับถ่ายอยู่

บ้านของสุนัขต้องจัดมุมให้มีความปลอดโปร่งในโครงสร้าง

บ้านของสุนัขต้องมีการจัดมุมบ้านให้มีโครงสร้างที่ปลอดโปร่ง ไม่ใช่มีแต่ความทึบที่แสงลอดผ่านเข้ามาได้ยากหรือลอดมาแค่ทางเดียวคือหน้าทางเข้าบ้าน ควรจะมีหน้าต่างที่สามารถเปิดปิดได้ทั้งสองด้านของบ้านสุนัขด้วยควบคู่กับการจัดของเล่นสีสันสวยงามอย่างลูกบอล ของห้อยระย้า และอื่น ๆ ที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สุนัขเล่นได้อย่างสบายอารมณ์ทำให้รู้สึกสดชื่นยามมองสีสันของเล่นและธรรมชาติจากนอกบ้านตัวเองได้

เครดิตภาพ : homedit.com

#บ้านสุนัข #ความรู้บ้านน้องหมา #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 ขนมไทยที่สุนัขชอบ

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความชื่นชอบในอาหารการกินหลากหลายมากกว่าที่คุณคิด แม้ว่าบางสายพันธุ์จะชอบกินอาหารแตกต่างกัน แต่หากเป็นขนมหวานแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานแบบใดก็สามารถกินได้ทั้งนั้นหากเป็นขนมหวานที่ไม่ใช่ขนมหวานที่ผสมวัตถุดิบแปลก ๆ ที่มีความคาวแทรกแล้วล่ะก็จัดมาให้สุนัขของคุณได้เลย เพราะสุนัขไทยส่วนใหญ่เวลานี้กำลังขาดความหวานให้ร่างกายกันมาก เพราะคนไทยมักจะเน้นแต่การให้อาหารคาวอย่างพวกอาหารเม็ดและอาหารหนักท้องจากพวกโครงไก่ ข้าวที่ถูกต้มกินกับเนื้อมากมายตามบ้านเรือนและมักจะให้กินแค่นั้น สุนัขไทยจึงได้รับเฉพาะการกินของคาวตลอดเวลาทำให้บางตัวจากที่ควรมีของหวานลงท้องก็ไม่เคยได้ลิ้มลองในชีวิตสักทีจนอาจเกิดความขยาดไม่กล้าที่จะลองหากเราเอาให้กินแตกต่างจากสุนัขตะวันตกและสุนัขที่อยู่กับการเลี้ยงด้วยอาหารคาวประกอบอาหารหวานตามโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งหากคุณอยากจะปรับเปลี่ยนให้เขาได้ลองอาหารหวานบ้างแล้วล่ะก็ขนมไทยเป็นสิ่งที่เหมาะกับสุนัขมากที่สุดแล้ว เพราะจะเน้นแต่รสหวานเป็นหลักและสีสันน่ากินมาก แต่จะให้เขาเริ่มจากขนมหวานชนิดใดต้องมาดูใน 3 ขนมไทยที่สุนัขชอบตั้งแต่แรกกินกันเลย

“ขนมชั้น” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ขนมชั้น” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบได้ง่ายที่สุด เพราะมีความนุ่มของเนื้อแป้งสี่สหาย ได้แก่ แป้งมัน, แป้งข้าวโพด, แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อมที่ทำให้ตัวขนมมีความนุ่มในสัมผัสแรกจนถึงสัมผัสสุดท้ายเมื่ออยู่ในปาก กินไม่ยาก หวานหอมกลิ่นธรรมชาติจากพวกใบเตย อัญชัน และกระเจี๊ยบ แถมสีก็สะดุดตาราวกับอัญมณีด้วยแบบนี้แม้แต่สุนัขเด็กก็ยังชอบ แล้วสุนัขผู้ใหญ่จะพลาดมองข้ามไม่ยอมกินได้ยังไง

“ข้าวเหนียวเปียก” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ข้าวเหนียวเปียก” หนึ่งในขนมไทยที่สุนัขชอบ เพราะมีข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลักของขนมจึงทำให้สุนัขมีความคุ้นชินเหมือนกับเวลาที่พวกเขากินอาหารคาวมากเหมาะกับสุนัขที่ไม่คุ้นชินขนมหวานแบบสุดขั้วหรืออยู่ในขั้นที่ทดลองระยะแรก อีกทั้งยังมีความคล่องคอง่าย ได้รับความหวานจากน้ำเชื่อมข้าวเหนียวที่ชุ่มฉ่ำหอมเนื้อผลไม้ที่ใส่ลงไปเพลินปากมาก

“บัวลอย” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“บัวลอย” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบเพราะเป็นน้ำทำให้มีความอุ่นอร่อยซึ่งพวกเขามักมองว่าเหมือนตัวเองกำลังลิ้มลองนมรสใหม่ที่มีชิ้นขนมกลม ๆ หอมหวานผสมอยู่ในนั้นทำให้รู้สึกหวาน มัน โดนใจจนต้องอยากขอเจ้าของอย่างคุณกินอีกแน่นอน ยิ่งมีกลิ่นกะทิด้วย สุนัขยิ่งชอบ

เครดิตภาพ : pantip, cookpad.com

#ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ขนมไทยสุนัขชอบ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

สำหรับเจ้าของสุนัขหลายบ้านอาจจะไม่ได้ให้อาหารเฉพาะของสุนัขที่เป็นในรูปแบบอาหารเม็ดแก่เขา แต่เป็นในรูปแบบของอาหารมนุษย์ที่แบ่งส่วนหนึ่งให้เขาโดยมีอาหารที่ปรุงและผสมกับข้าวสวยให้สุนัขได้กินซึ่งสุนัขก็สามารถกินได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตรงกันข้ามการให้อาหารรูปแบบข้าวแก่สุนัขจะยิ่งนำให้สุนัขได้รับพลังงายที่เยอะและอิ่มอร่อยได้มากกว่าอาหารเม็ดด้วย นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้ออาหารเม็ดที่ราคาสูงอีกด้วย ช่วยประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ แต่ ๆ ๆ แน่นอนว่าอาหารที่ไม่ได้ถูกทมาให้เป็นของสุนัขเฉพาะด้านก็ย่อมจะมีข้อเสียอยู่เหมือนกันในกรณีที่คุณเลือกผิด อย่างประเภทอาหารปรุงสำเร็จและการใช้ประเภทข้าว ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่ากันถึงประเภทข้าวที่ไม่ควรเลือกทำให้สุนัขกิน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นกับร่างกายของสุนัขที่คุณเลี้ยงไว้ก็ได้ ฉะนั้นข้าวดังต่อไปนี้จึงควรได้รับการหลีกเลี่ยงไม่ให้เตะตาต้องใจและอยู่ห่างจากสุนัขให้มากที่สุด

“ข้าวเหนียว” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวเหนียว” ด้วยความที่สุนัขเป็นสัตว์ที่มักจะชื่นชอบการกินมูมมามและกินอย่างรวดเร็วแบบเคี้ยวกลืน ๆ แถมด้วยการเลียให้เรียบจึงอาจทำให้ข้าวเหนียวมีโอกาสที่จะไปติดตามฟัน ตามจมูก เหนือปาก และตามขนได้ง่าย ๆ จนเอาออกยาก ยิ่งเป็นสุนัขที่ขนยาวยิ่งแล้วใหญ่เลย พอข้าวเหนียวติดทีนี่จะค่อย ๆ เอาออกทีละเม็ดก็แสนจะนาน กลัวทำน้องเจ็บที่เราอาจจะเผลอมือแรงดึงขนด้วยซะนี่ แม้ว่าคุณจะพยายามต้มข้าวให้เหนียวน้อยและนิ่มแล้วแต่ยังไงก็ยังไม่เหมาะกับน้องสุนัขอยู่ดี และกินไปก็ย่อยยากด้วยจึงไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” เป็นข้าวที่อาจจะเข้าไปติดคอของสุนัขก็ได้เพราะมักจะติดกันเป็นก้อนเป็นชิ้นซึ่งสุนัขหลายตัวที่ไม่รู้ก็มักจะอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปเต็มคำทำให้เคี้ยวไม่ทันเกิดอาการข้าวติดหลอดลมได้ง่าย ๆ แล้วยิ่งเป็นแนวข้าวปั้นญี่ปุ่นที่มีไส้อยู่ข้างในแล้วเขาไม่ทันได้รู้ก็อาจเผลอกลืนเข้าไปเป็นอันตรายมาก สำหรับการให้ข้าวแก่สุนัขควรจะเป็นข้าวที่เคี่ยวหรือข้าวที่ต้มจนไม่ติดกันมากจึงจะเหมาะ ควรหลีกเลี่ยงข้าวแบบนี้มากในการให้สุนัข

“ข้าวกล้อง” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวกล้อง” เป็นข้าวที่มีเม็ดใหญ่และค่อนข้างแข็งกว่าข้าวทั่วไป อีกทั้งกลิ่นของข้าวกล้องกล้องก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ด้วยทำให้สุนัขกินแล้วอาจจะรู้สึกคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และกินอาหารในมื้อหลักน้อยลงจนร่างกายอ่อนเพลียง่ายได้ด้วย คุณจึงไม่ควรจะนำข้าวรูปแบบนี้มาให้สุนัขกิน

เครดิตภาพ : test.com, seriouseats.com

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

 3 ผักสุดโปรดที่สุนัขชื่นชอบ

แค่ได้ยินคำว่า “ผัก” หลายคนโดยเฉพาะเด็ก ๆ ก็ย่อมต้องร้องอี๋พร้อมกับหันหน้าหนีกันหมดแล้ว เพราะได้ยินทีไรก็เห็นแต่ภาพของผักใบเขียวที่มีความขมจัด พอบทจะหวานก็หวานเจื่อยแบบธรรมชาติซึ่งมีกลิ่นเขียวแทรกมาทำให้รู้สึกอยากไปล้างปากตัวเองมาก แถมผักที่ไม่ใช่ผักใบเขียวที่เป็นลูกอย่างพวกมะเขือเทศก็ยังเปรี้ยวหรือพวกหัวหอมก็ฉุนจนจามแถมยังจะเป็นลมให้ได้ ขนาดมนุษย์เราหลายคนยังไม่ชอบแบบนี้คิดหรือว่าสุนัขจะกินผักได้ บอกเลยว่าใครฟังก็ย่อมต้องขำ เพราะตั้งแต่เขี่ยผักทิ้งแล้วลองเอาให้สุนัขกินก็ยังเหลือในถาดข้าวของสุนัขเต็มเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าสุนัขที่เป็นสัตว์กินเนื้อขยะแขยงผักมากแค่ไหน ใครเอาให้กินได้มีงอนล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นการที่จะให้สุนัขกินแต่เนื้อสัตว์ทุกมื้อก็อาจทำให้เขาไม่ได้รับวิตามินเลยก็ได้ แต่หากจะให้ซื้ออาหารสุนัขที่มีการผสมผสานของอาหารมากมายสำเร็จรูปมาก็ราคาสูงอีก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำผักอร่อยที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับสุนัขซึ่งคุณอาจไม่รู้ว่าพวกสุนัขชื่นชอบผักเหล่านี้มาก!

มันเทศ

“มันเทศ” เป็นผักที่มีรสชาติไม่เหมือนผัก เพราะมีลักษณะของเนื้อที่มีรสชาติหวานมัน สัมผัสนุ่มนิ่มละมุนลิ้นเหมือนอาหารบด มีกลิ่นหอมทำให้อร่อย อีกทั้งพวกเขายังได้สารอาหารประเภทวิตามินบี วิตามินซี ไฟเบอร์ เบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเวลาให้สุนัขกินมันเทศ คุณต้องหั่นมันเทศและนำเนื้อสีเหลืองสุกออกมาบด ๆ แล้วจึงสามารถให้ร่วมกับอาหารอื่น ๆ ได้ อาจผสมลงในข้าว ผสมกับอาหารเม็ด หรือปรุงรสมันเทศเล็กน้อยแล้วให้เขากินเปล่า ๆ ก็อร่อยเหมือนกัน

แตงกวา

“แตงกวา” อาจจะเป็นผักที่ใครต่อใครก็ขยาดกับรสชาติความเขียวและความแหยะของเนื้อที่มีกลิ่นกรีน ๆ มีน้ำออกมาด้วย แต่สำหรับสุนัขนั้นเขารู้สึกว่ารสชาติของผักชนิดนี้ไม่ต่างจากผลไม้แตงโมที่เป็นหนึ่งในของโปรดเลย ด้วยน้ำที่ออกมาจากแตงกวาในระหว่างที่สุนัขกัดนั้นมีความชุ่มฉ่ำ เนื้อกัดเคี้ยวได้สะดวก ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายในช่วงอากาศร้อน อีกทั้งยังได้ประโยชน์ต่อร่างกายจากวิตามินเค, วิตามินซี, วิตามินบี 1, โพรเทสเซียม, คอปเปอร์ม, แมคนิเซียม และไบโอตินด้วย ยิ่งสุนัขอ้วนมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ก็ยิ่งควรให้เขากินแตงกวาเพื่อลดน้ำหนักมาก

ผักโขม

“ผักโขม” หนึ่งในผักที่สุนัขชอบกินมากที่สุด เพราะมีความกรอบของผักบริเวณก้านที่อร่อยตัดกับความนุ่มของตัวใบที่มีความบางซึ่งเมื่อหั่นก็จะละเอียดได้รสชาติละมุนมากเวลานำไปปรุงอาหารและค่อนข้างหวาน ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว แต่ไม่ควรให้สุนัขกินมากเกินไป เพราะเสี่ยงจะเป็นโรคไตสูงจากกรดซาลิกที่อยู่ในตัวผักชนิดนี้

เครดิตภาพ : prouddogmom.com

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ผักที่สุนัขชอบ

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“แมลงปิกัสโซ” สัตว์แดนซาฮาร่าลายงามดุจฝีมือ Paint ของศิลปิน

ในโลกของเรามีแมลงมากมายที่เป็นสีสันความสวยงามประดับโลกท่ามกลางธรรมชาติซึ่งทำให้เรารู้ว่าความสวยงามที่ให้สีสันและการมีชีวิตชีวาแบบครบสมบูรณ์แบบนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันแน่ แต่ถึงจะมีแมลงหลากหลายชนิดที่สวยงามแค่ไหนก็คงไม่สวยงามเป็นลวดลายศิลปะประหนึ่งถูกวาดและระบายด้วยฝีมือของศิลปินมนุษย์เช่นนี้อย่าง “แมลงปิกัสโซ” แน่นอน เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาดูบทความของเราก็คงคิดเหมือนกันว่ามีแมลงลวดลายแบบนี้อยู่บนโลกของเราด้วยหรือเนี่ย! ใครกันที่เป็นเจ้าของแมลงและลงแรงวาดลวดลายของมันทั่วทั้งตัวได้งดงามประณีตแบบนี้ คงเก่งน่าดู ใช่แล้ว…ผู้ที่สร้างสรรค์ความงดงามลายเพ้นต์สวย ๆ บนตัวของแมลงปิกัสโซก็คือ “พระเจ้า”นี่เอง ตามศาสนาคริสต์แล้ว พระเจ้าคือผู้ที่สร้างธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมากมายในโลก แมลงปิกัสโซเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดมาตามธรรมชาติด้วยฝีมือของพระเจ้า มันอยู่ในโลกที่เป็นอิสระโดยไม่มีเจ้าของใด ๆ ที่เป็นมนุษย์มานั่งเพ้นต์มันหรอก ธรรมชาติคือทุกอย่างที่หล่อหลอมการให้กำเนิดของเจ้าแมลงลายมหัศจรรย์นี้ หากอยากรู้เรื่องราวของแมลงปิกัสโซมากขึ้นก็ตามมาอ่านกันเลย

ทำความรู้จักกับ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” เป็นแมลงขนาด 8 มิลลิเมตรที่จัดอยู่ในวงศ์ของมวนหลังแข็ง มีลักษณะคล้ายตัวด้วงปีกแข็งแต่บริเวณหลังมีความโดดเด่นของลวดลายสวยงามที่มีลายเส้นคมชัดทั้งรูปวงกลม วงแหวน ลายขด และลายคลื่นโค้งสวยในระดับถี่ที่มีสีสันแตกต่างกันซึ่งส่วนใหญ่ที่พบกันมากจะมีลายสีเขียวแก่ สีแดง และสีแดงเป็นหลักอยู่บนพื้นหลังสีเนื้ออ่อนที่ใครต่อใครอาจคิดว่าเหมือนมีคนมาเพ้นต์ลายให้เจ้าแมลงปิกัสโซ แต่ที่จริงแล้วลวดลายบนตัวของแมลงปิกัสโซนี้มีมาตั้งแต่มันเกิดแล้ว ซึ่งด้วยลวดลายที่สวยงามดุจฝีมือสร้างสรรค์ของศิลปินดังอย่างปาโบล รุยซ์ ปิกาโซทำให้มันได้ชื่อนี้มา และพวกมันก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขตร้อนของแอฟริกามาก คุณสามารถไปสำรวจดูมันได้ที่ดังกล่าว ได้แก่ เบนิน แคเมอรูน โกตดิวัวร์ เอธิโอเปีย กานา เคนยา มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย ไนจีเรีย เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ แทนซาเนีย โตโก แซมเบีย และซิมบับเว อีกทั้งยังพบได้ในทะเลทรายซาฮาร่าด้วย 

การดำรงชีวิตของ “แมลงปิกัสโซ”

ในช่วงต้นฤดูแล้งเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม “แมลงปิกัสโซ” จะมีการพัฒนาตัวโตเต็มวัยได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 56 วันเท่านั้นนับจากวันที่มันมีคลอดออกมาในฤดูนี้ และมักจะชื่นชอบการอยู่กับใบไม้ ดอกไม้ป่า ดอกหญ้าหรือต้นหญ้าเพราะเป็นที่หลบภัยจากนักล่าแมลงอื่นได้ดีที่สุด ยิ่งการอยู่กับดอกไม้สวย ๆ ยิ่งทำให้อำพรางตัวจากลายโดดเด่นของมันได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อใดก็ตามที่ถูกจู่โจมจนหนีไปไม่ได้ แมลงปิกัสโซ่ก็จะทำการปล่อยก๊าซพิษที่มีกลิ่นเหม็นออกมาทำให้ศัตรูเกิดความงุนงงและบางทีก็เหม็นจนอีกฝ่ายตายได้เพื่อหาทางหนี คล้ายกับแมลงตด

อาหารสุดโปรดของ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” มีอาหารสุดโปรดที่ชอบกิน ได้แก่ น้ำหวานจากพืชและดอกไม้มากมายในระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่มันอยู่และน้ำจากผลไม้ที่ออกผลสุกสดใหม่ด้วย โดยจะใช้งวงในการเจาะน้ำหวานเข้าไปและดูดออกมากินอย่างจุใจจนกว่าจะอิ่ม

เครดิตภาพ : flickr.com/

#ความรู้เรื่องสัตว์ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #แมลงปิกัสโซ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

รีวิว Catit Smartsift ห้องน้ำแมวแบบคันโยก

การเลี้ยงแมวในปัจจุบันนอกจากจะต้องให้อาหาร ดูแลขนแล้ว การมีห้องน้ำแมวแบบถูกลักษณะก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แมวมีสุขภาพที่ดี ร่าเริง และไม่เจ็บป่วย เพราะฉะนั้นคนเลี้ยงแมวก็ควรจะเลือกซื้อห้องน้ำมาเพื่อให้น้องแมว นอกจากนี้ห้องน้ำสำหรับแมวยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลากหลายยี่ห้อ โดยยี่ห้อที่บทความนี้จะแนะนำก็คือ Catit Smartsift เป็นห้องน้ำแมวแบบคันโยกที่ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าจะพึ่งเริ่มใช้งานกับแมวของคุณก็ไม่ทำให้เกิดปัญหา

ริวิวห้องน้ำแมวแบบคันโยกของยี่ห้อ Catit Smartsift

สำหรับคนเลี้ยงแมวที่กำลังมองหาห้องน้ำแมวแบบใช้งานได้ง่าย ราคาไม่แพงมาก โดยเฉพาะคนที่เริ่มเลี้ยงแมวและกำลังเตรียมสิ่งของที่จำเป็นไม่ควรพลาด เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้คุณดูแลแมวได้ง่ายเพิ่มขึ้นไม่เพียงเท่านี้ยังช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกแมวของคุณด้วย

  • คุณสมบัติที่น่าสนใจ

สำหรับห้องน้ำแมวแบบคันโยกของยี่ห้อ Catit Smartsift มีขนาด 66 x 48 x 63 เซนติเมตร ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานจากแมวตัวใหญ่ หรือคนที่เลี้ยงแมวประมาณ 2-3 ตัว สามารถใช้งานได้ง่าย สามารถใส่ทรายแมวได้ทุกประเภทถือว่าดีสำหรับคนเลี้ยงแมวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห้องน้ำแมวแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นคนเลี้ยงจะต้องทำความสะอาดด้วยตนเอง มีประตูเข้าออกขนาดใหญ่ มีตัวกรองกลิ่น เพื่อให้ในห้องน้ำแมวไม่มีกลิ่นอับ รวมไปถึงในห้องของคนเลี้ยงด้วย ใช้พื้นที่ในการวางน้อย เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงในห้องนอนหรือห้องขนาดปานกลาง

  • ข้อดีของห้องน้ำแมวแบบคันโยก

ใช้งานได้ง่ายและสะดวก เพียงแค่โยกคันโยกก็จะกำจัดของเสียและจัดเก็บได้ง่าย สามารถนำไปทิ้งในชักโครกได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการกำจัดของเสียให้แก่ห้องน้ำแมว นอกจากนี้ยังมีราคาที่ไม่แพงมาก วางได้ทุกพื้นที่ของบ้าน เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเลี้ยงแมวจำนวนตั้งแต่ 2-3 ตัวขึ้นไป ถือได้ว่าดีแน่นอน อีกทั้งยังรองรับทรายได้ทุกประเภทจึงไม่เป็นปัญหาในการใช้ทรายของแมว 

สำหรับห้องน้ำแมวแบบคันโยกยี่ห้อ Catit Smartsift มีให้เลือกใช้งานหลายสีทั้งสีน้ำตาล สีเทาขาว การใช้งานก็ทำได้ง่าย เมื่อแมวเข้าไปใช้งานเรียบร้อยแล้ว คุณก็โยกคันโยก ของเสียจากแมวก็จะจับตัวเป็นก้อนและตกลงสู่ด้านล่าง และนำไปกำจัดทิ้งได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงทั่วไป หรือจะเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ คนที่เลี้ยงจะต้องเลือกห้องน้ำที่ดีที่สุดให้กับแมวของคุณ เพราะจะได้ช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีในการขับถ่ายให้แก่ลูกแมวที่คุณรัก

เครดิตภาพ : shoppee

#ทาสแมว #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ห้องน้ำแมว