Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เหตุผลที่สามารถเลี้ยงสุนัขพันธุ์เตี้ยในบ้านได้

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเวลาที่เราเข้ามาตามร้านหรือเข้ามาในบ้านของแขกบางทีก็มักจะเห็นบ้านหลังนั้นมีสุนัขพันธุ์เตี้ยถูกเลี้ยงอยู่ภายในบ้านบ่อย ๆ จนกลายเป็นภาพที่ชินตาจนคิดว่าเป็นธรรมดาแล้วที่ผู้คนจะเลี้ยงสุนัขพันธุ์เตี้ยในบ้านได้ บางครั้งเรายังเล่นกับมันด้วยความเอ็นดูเวลาคุยกับเจ้าของบ้านแบบเป็นกันเองเลย แต่หากเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่แล้วล่ะก็คงจะตกตะลึงกันน่าดู เพราะไม่ค่อยเห็นมีบ้านไหนเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่ในบ้านเท่าไหร่ ด้วยความคุ้นชินก็อาจทำให้สายสุนัขมองข้ามไปว่ามันยุติธรรมจริงหรือที่สุนัขพันธุ์เตี้ยจะสามารถถูกเลี้ยงในบ้านได้ แต่สุนัขพันธุ์ใหญ่กลับอยู่ในบ้านไม่ได้ หรือไม่ก็ทำไมถึงเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านได้ จะไม่อันตรายหรือ? เอาตามตรงก็ถูกต้องแล้วที่คุณจะสงสัยและถูกต้องแล้วที่เรานิยมนำสุนัขพันธุ์เตี้ยเข้ามาเลี้ยงในบ้าน และงดการนำสุนัขพันธุ์ใหญ่เข้ามาเพราะอะไรมาอ่านเหตุผลให้คลายความสงสัยกันได้เลย!

สุนัขพันธุ์เตี้ยตัวเล็กไม่ขวางทางเดินจึงเลี้ยงในบ้านได้

สุนัขพันธุ์เตี้ยสามารถนำมาเลี้ยงอยู่ภายในบ้านได้ง่าย เพราะตัวของมันมีขนาดเล็กและเตี้ยมาก เวลาที่เดินในบ้านจึงไม่ขวางทางเดินและไม่ทำให้บ้านที่มีเฟอร์นิเจอร์ของวางกระจัดกระจายตามมุมต่าง ๆ ในห้องเยอะอยู่แล้วต้องแคบลงด้วย ไม่เหมือนสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่หากนำมาเลี้ยงในบ้านก็ยิ่งทำให้มีทางเดินของสมาชิกในบ้านน้อยลงเมื่อมันยืนอยู่ในห้องห้องนั้นและบางทีบอกให้ถอยก็ไม่ยอมถอย แถมยังนอนไม่รู้ไม่ชี้จนก้าวข้ามผ่านตัวได้ยากอีก แต่สำหรับสุนัขพันธุ์เตี้ยเมื่อเห็นคนเขาก็จะถอยให้เราทันที เลี้ยงในบ้านได้สบายใจเลย

สุนัขพันธุ์เตี้ยมีขนไม่เยอะจึงเลี้ยงในบ้านได้

สุนัขพันธุ์เตี้ยมองดูแล้วเขาอาจจะมีขนที่ฟูยาวและมีขนเยอะกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่มากจนน่ากลัวจะทำให้คนในบ้านจามกันใหญ่หากนำมาเลี้ยง แถมจากที่ดูก็มีขนร่วงด้วย แต่ความจริงแล้วหากเปรียบเทียบกันแน่นอนว่าขนของสุนัขพันธุ์ใหญ่ย่อมจะเยอะกว่าแม้จะสั้นกว่าก็ตามและด้วยความที่ติดนิสัยชอบนั่งชอบนอนบนพื้นนานมากกว่าสุนัขพันธุ์เตี้ยทำให้ขนร่วงลงพื้นเยอะกว่าและเก็บยากกว่าสุนัขพันธุ์เตี้ยมากด้วย อีกทั้งสุนัขพันธ์ใหญ่ก็ยังมีกลิ่นตัวที่ชัดเจนกว่าอีกซึ่งอาจทำให้บรรยากาศในบ้านมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

สุนัขพันธุ์เตี้ยไม่ซนเท่าสุนัขพันธุ์ใหญ่จึงเลี้ยงในบ้านได้

สุนัขพันธุ์เตี้ยแม้จะดูไร้เดียงสาและอยู่ไม่สุข แต่ก็ไม่ซุกซนชอบปีนป่ายอยากรู้อยากเห็นเท่ากับสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีตัวสูงทำให้สามารถยื่นตัวไปตะกายหรือคว้าสิ่งของเครื่องประดับบ้านต่าง ๆ จนทำให้ของตกลงมาเสียหาย มีรอย และด้วยน้ำหนักตัวที่เยอะก็ยิ่งทำให้ของพังง่ายขึ้นอีกด้วย ตรงกันข้ามกับสุนัขพันธุ์เตี้ยที่มักชอบอยู่กับสิ่งที่ใกล้พื้นหรือหากปีนก็จะปีนไปบนโซฟาใกล้ ๆ เจ้าของเท่านั้น ไม่ค่อยยุ่งกับเครื่องเรือนใด ๆ ในบ้าน

เครดิตภาพ : huapood.com, pantip.com

#สุนัขพันธุ์เตี้ย #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #เลี้ยงสัตว์ในบ้าน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

How To ป้องกันสุนัขไม่ให้มีลูกแบบ No ทำหมัน!

จะทำอย่างไรเมื่อเราไม้ประสงค์จะเลี้ยงสุนัขที่ในอนาคตจะมีการให้กำเนิดลูก ๆ ของมันจนเป็นภาระให้เราเลี้ยง แบ่งเวลาให้กับสัตว์มากขึ้น แล้วไหนจะต้องซื้อค่าอาหารสุนัขให้พวกมันมากขึ้นอีก แค่เลี้ยงสุนัขตัวเดียวสลับกับทำงานในชีวิตประจำวันที่มีภาระต่าง ๆ ก็เหนื่อยมากพอแล้ว คำตอบที่ตรงใจทุกคนมากที่สุดแน่นอนว่าย่อมต้องเป็น “การพาสุนัขไปทำหมัน”  ซึ่งการที่สุนัขทำหมันก็ส่งผลดีให้สุนัขไม่มีลูกแม้จะผสมพันธุ์กันกี่ครั้งก็ตาม แต่เรากลับมองในอีกมุมว่าการที่สุนัขทำหมันนั้นเป็นการสร้างความกดดันในธรรมชาติการดำรงชีวิตของมันมาก เพราะในการดำเนินชีวิตของสุนัขเมื่อถึงฤดูกาบก็ต้องมีการผสมพันธุ์และมีลูกให้เห็นหน้าค่าตา ได้ผูกพันกันตามวงจรชีวิตของสัตว์ซึ่งสุนัขจะมีการผสมพันธุ์กันถี่มาก แต่หากเราทำหมันก็จะเท่ากับว่าเราขัดธรรมชาติของชีวิตสุนัขที่มันจะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หงุดหงิดง่าย และเซื่องซึมบ่อย ๆ จนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉะนั้นหากเป็นไปได้เราจึงอยากมาแนะนำวิธีป้องกันสุนัขไม่ให้มีลูกแบบไม่ต้องทำหมันก็ยังได้!

ไม่ให้สุนัขไปยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้ามมากนัก

สุนัขจะมีการผสมพันธุ์ตามฤดูหรือตามเดือนที่ธรรมชาติจะเรียกร้องมัน ฉะนั้นวิธีลดความต้องการทางเพศของสุนัขนั้นสามารถทำได้โดยการกีดกันไม่ให้สุนัขไปยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้าม เพราะยิ่งสุนัขอยู่ใกล้เพศตรงข้ามก็จะยิ่งทำให้เกิดความรักความเสน่หาจนเกี้ยวกันบ่อยทำให้สุนัขกลายเป็นว่าโหยหาอยากไปเจอกับเพศตรงข้ามในทุกวัน หากจะยอมให้สุนัขไปก็ให้เจอกันแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้งพอซึ่งต้องอยู่ในสายตาของคุณอีกทั้งยังไม่ควรให้แตะเนื้อต้องตัวกันด้วย เพื่อป้องกันการมีใจผูกรักจนผสมพันธุ์กันจนมีลูก คุณต้องคอยดูเพื่อไม่ให้สุนัขมีลูกและไม่ต้องทำหมัน

เน้นให้สุนัขทำกิจกรรมนอกบ้านคู่กับเรา

สุนัขจำเป็นต้องได้มีอิสระในการออกจากอาณาเขตรั้วสี่เหลี่ยมภายในบริเวณบ้านที่มันอยู่มานานและเห็นโลกภายนอกบ้าง การป้องกันไม่ให้สุนัขของคุณไปเที่ยวหาสุนัขเพศตรงข้ามแล้วมีการผสมพันธุ์โดยไม่รู้ตัวล่ะก็คุณควรจะเป็นคนที่พาสุนัขออกไปเดินเล่นด้วยตัวเองแบบเดินจูงไปเที่ยวนอกบ้านด้วยกัน ไม่ควรปล่อยให้มันหนีออกไปเองคนเดียวเพื่อที่คุณจะได้ควบคุมสุนัขตัวเองอยู่ ป้องกันสุนัขไม่ให้มีลูกด้วยวิธีธรรมชาติไม่ต้องทำหมันได้

ส่งเสริมความสุขของสุนัขกับเราให้แน่นแฟ้นเป็นหลัก

สุนัขจะไม่ค่อยสนใจสังคมของสุนัขด้วยกันมากนักหากคุณเน้นหันเหความสนใจของมันให้มาอยู่กับคุณแทนเป็นหลัก โดยอาจพาสุนัขของคุณทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันภายในบริเวณบ้านและเล่นด้วยตลอดเวลาจนสนิทกันแบบเพื่อนแก้เหงาก็จะทำให้สุนัขเกิดติดคุณจนไม่อยากออกไปไหนเลย ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถป้องกันสุนัขไม่ให้มีลูกได้ด้วยวิธีธรรมชาติไม่ต้องทำหมัน

เครดิตภาพ : pixabay

#การเลี้ยงสัตว์ #ป้องกันสุนัขให้ไม่มีลูก #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เนื้อดิบไม่เหมาะที่จะเป็นอาหารสุนัข

หลายคนคิดว่าการให้อาหารสุนัขด้วยเนื้อดิบอาจไม่เป็นอันตรายอะไรกับพวกมัน แต่จากการศึกษาพบว่า ในเนื้อดิบเต็มไปด้วยแบคทีเรียจำนวนมากซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่อสุนัขได้

นักวิจัยชาวสวีเดนได้ทำการวิจัยผลิตภัณฑ์เนื้อดิบเลี้ยงสุนัข จำนวน 60 ยี่ห้อที่วางจำหน่ายในยุโรป พบการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น อีโคไล ซัลโมเนลลา คลอสติเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ และแคมไพโลแบคเตอร์ ซึ่งสามารถก่อให้เกิดโรคได้ทั้งในสุนัขและมนุษย์ 

การพบเชื้ออีโคไลในเนื้อดิบเลี้ยงสุนัข แสดงถึงการปนเปื้อนของอุจจาระ เนื่องจากแบคทีเรียชนิดดังกล่าวพบได้ในระบบทางเดินอาหารของสัตว์ อีกทั้งยังบ่งชี้สุขอนามัยที่ไม่ดีในกระบวนการแปรรูปเนื้อดิบด้วย

เนื้อดิบเลี้ยงสุนัข เป็นเนื้อดิบสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์โดยคุณภาพจะแตกต่างจากเนื้อสัตว์ที่มนุษย์บริโภค เพราะเนื้อที่มนุษย์บริโภคจะถูกควบคุมคุณภาพอย่างหนาแน่น ด้วยการทดสอบการปนเปื้อนของแบคทีเรียเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์ ขณะที่เนื้อสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์มักไม่ถูกควบคุมคุณภาพหรือผ่านกระบวนการทดสอบแบคทีเรียเท่าใดนัก

เนื้อดิบมีความเสี่ยงต่อมนุษย์อย่างไร

การให้สัตว์เลี้ยงกินเนื้อดิบเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดโรคได้ โดยสัตว์เลี้ยงจะสัมผัสกับของเหลวในเนื้อสัตว์ และปากของสุนัขเมื่อกินเนื้อดิบก็จะกักเก็บแบคทีเรียไว้ในปาก ถ่ายทอดสู่มนุษย์ผ่านการเลียและการจูบ ดังนั้น เมื่อคุณมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

สุนัขสามารถกินเนื้อดิบได้หรือไม่

สุนัขสามารถกินเนื้อดิบได้ เพราะกระเพาะอาหารและลำไส้ถูกออกแบบมาให้มีความแตกต่างจากมนุษย์โดยมันสามารถย่อยเนื้อดิบได้ ในขณะเดียวกันการกินเนื้อดิบก็อาจเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อแบคทีเรีย เช่น อีโคไล ซัลโมเนลลา คลอสติเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ และแคมไพโลแบคเตอร์ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษและท้องร่วงได้

เมื่อสุนัขกินเนื้อดิบและต้องเผชิญกับอาการป่วยทำให้มันต้องพึ่งการรักษาด้วยสเตียรอยด์หรือเคมีบำบัด ซึ่งจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ลดลงในอนาคตด้วย

อย่างไรก็ตาม จึงไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงกินเนื้อดิบ เนื่องจากเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคระบบทางเดินอาหาร ท้องร่วง อาหารเป็นพิษได้ ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

การให้สัตว์เลี้ยงรับประทานอาหารจำพวกเนื้อ ควรปรุงให้สุก เพื่อสุขอนามัยที่ดีและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค นอกจากนี้ การได้รับโปรตีนจากเนื้อสัตว์อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของสุนัข จึงควรเสริมด้วยอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นหรือภาวะขาดสารอาหาร

แม้ว่าในประเทศไทยจะยังไม่พบปัญหาจากการใช้เนื้อดิบในการเลี้ยงสุนัข แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข จึงควรระมัดระวังในการปรุงอาหารจำพวกเนื้ออยู่เสมอ

เครดิตภาพ : playbarkrun.com, theconversation.com

#เนื้อดิบไม่ใช่อาหารสุนัข #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #การเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“ด้วงเต่าทอง” ด้วงสีประกายแสงใสที่น่าสนใจ

เมื่อโลกของเราอยู่ในยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความเจริญมากขึ้น สัตว์มากมายก็ยิ่งต้องหลบซ่อนตัวเองเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของพวกมันอยู่ตามป่าลึกมากขึ้นจนสัตว์ที่เราเคยเห็นในชีวิตประจำวันสมัยก่อนบางชนิดก็ไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้วจนเราอาจคิดกันไปเองว่ามันอาจจะสูญพันธุ์กันไปหมดแล้ว ทั้งที่ความจริงมันก็แค่พยายามจะซ่อนตัวจากอันตรายไม่ให้ผู้บุกรุกตามหามันจนเจอและทำร้ายมันก็เท่านั้น ฉะนั้นหากไม่ใช่สัตว์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับการอยู่กับคนได้ คุณก็ไม่ต้องคิดเลยว่าเพียงแค่ไปทำกิจกรรมตามเส้นทางเดินสำรวจป่าแล้วจะพบเจอกับสัตว์ที่ยากเจอได้ นอกเสียจากว่าคุณจะตั้งหมู่คณะแล้วเดินขึ้นเขาเข้าป่าลึกเพื่อผจญภัยตามหาความหมายของชีวิตที่แสนน่าเบื่อกับวงจรที่วนลูปเดิม ๆ ซึ่งได้ให้เวลาหยุดวงจรนั้นพักใหญ่แล้วบางทีไม่แน่หรอก ทันทีที่คุณเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นก็อาจจะยิ่งได้เห็นสิ่งที่อยากเห็นมากขึ้นก็ได้ อย่างน้อยก็มี “ด้วงเต่าทอง” ที่คุณมีโอกาสพบเห็นได้มากแล้วหนึ่งชนิด ยิ่งเข้าป่าก็ยิ่งเห็นด้วงเต่าทองแปลก ๆ เยอะซึ่งวันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับโลกของความหลากหลายในเต่าทองมากขึ้น

ทำความรู้จักกับ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” หรือ “ด้วงเต่าลาย” เป็นแมลงปีกแข็งสีสันสดใสเป็นประกายที่นอกจากจะมีสีสันแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นสีเหลือง สีแดง สีส้ม และสีน้ำตาลที่เหมือนธรรมชาติแล้ว ทุกตัวยังจะมีลายจุดสีดำอยู่บนหลังของมันที่เป็นสีสันแต่งแต้มด้วย ซึ่งถือเป็นแมลงที่งดงามที่สุดในวงศ์ Coccinellidae และไม่น่าเชื่อว่าตามป่าเขาจะมีด้วงเต่าทองที่ตัวใสจนเห็นร่างกายอ้วนป้อมภายในของมันด้วยจนทำให้มันถูกจัดอยู่ในแมลงที่มีความหลากหลายในสายพันธุ์ซึ่งแปลกที่สุดในโลกแม้จุดจะเหมือนกัน เมื่อหุบปีกเข้าหากันจะจดกับด้านหลังทำให้มองคล้ายหลังเต่า มีหนวดแบบลูกตุ้ม และหากเป็นด้วงเต่าทองตามบ้านจะเข้ากับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

การดำรงชีวิตของ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” ,มีวงจรชีวิตที่สั้น พวกมันมักจะชอบพรางตัวอยู่ตามใบไม้หรือก้านดอกไม้ในสวนหรือตามป่าลึก โดยวัฏจักรของมันจะเริ่มจากการเป็นตัวหนอนที่เมื่อฟักออกจากไข่จะใช้วิธีการเจาะและดูดอาหารแร่ธาตุจากเหยื่อ และเมื่อโตมันก็เป็นนักล่าที่เก่งกาจในการจู่โจมได้โดยไม่เกรงกลัวใครแม้จะเป็นแมลงที่ใหญ่เพราะมันบินได้เร็วและมีไหวพริบเฉพาะตัว

อาหารสุดโปรดของ “ด้วงเต่าทอง”

“ด้วงเต่าทอง” มีอาหารสุดโปรดปรานที่มันชื่นชอบมากมาย ได้แก่ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอย เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยอ่อน ไข่ของผีเสื้อ หนอนขนาดเล็ก และแมลงหวี่ขาว รวมถึงพืชบางชนิดและเชื้อราที่มีความชื้นจะมีแร่ธาตุชั้นดีที่ทำให้มันเติบโตแข็งแรงมาก

เครดิตภาพ : pixabay

#ด้วงเต่าทอง #ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้ไหม?

ล่าสุดเคยมีข่าวออกมาว่าสุนัขกับแมวติดโควิดทำให้ชาวโลกต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แน่นอนว่าในใจของทุกคนย่อมคิดเหมือนกันว่า “ถ้าสุนัขกับแมวติดโควิดกันได้ แบบนี้โลกเราคงมาถึงจุดวิกฤติที่แท้ทรูแล้ว”เพราะการจะทำให้สุนัขกับแมวห่างหายจากโควิดได้ก็ต้องใช้วิธีป้องกันรักษาระยะห่างที่ไม่ต่างกับคนคือห้ามให้สุนัขกับแมวออกนอกบ้านเพื่อไม่ให้มีการที่ติดเชื้อไวรัส Covid-19 กัน หากเป็นคนอาจจะทำใจไม่ให้ออกนอกบ้านเมื่อไม่จำเป็นได้ แต่สำหรับสุนัขกับแมวที่ชีวิตกับหัวใจหลักของความสุขที่พวกเขามี คือ การได้ออกไปเล่นกับเพื่อนฝูงด้วยกันอย่างอิสระตามเวลาที่ตัวเองหมดหน้าที่ช่วงกลางวันแล้วกลับบ้านมาช่วงเย็นแบบนี้ จู่ ๆ จะให้มาขัดขวางการความสุขของพวกเขาเป็นเวลานานแค่ไหนก็ตอบไม่ได้แบบนี้อาจจะทำให้เกิดความเครียดอย่างหนักต่อสุนัขกับแมวได้เลย แล้วจะทำอย่างไรดี สุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้จริงหรือเป็นแค่ข่าวที่คนคิดกันไปเองกันแน่? เพราะแม้จะมีข่าวออกมาแต่ก็มีกระแส 2 กระแสที่ว่ามันไม่ใช่โควิดแต่เป็นเชื้อไวรัสที่ติดแค่ในสัตว์ อีกทั้งยังไม่อันตรายและอีกข่าวก็ว่ามันเป็นโควิดที่แพร่กระจายสู่คนได้ สรุปแล้วสุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้ไหม? ขอตอบว่า “สุนัขกับแมวไม่สามารถติดโควิดแบบที่คนอื่นคิดได้แน่นอน” ด้วยเหตุผล 3 ข้อนี้

ไวรัสโควิดมีในสุนัขกับแมวจริง แต่ไม่สามารถติดสู่คนได้

ไวรัส Covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในกลุ่มคนโดยมีต้นกำเนิดมาจากอู่ฮั่น ประเทศจีนนั้นเป็นไวรัสโคโรนาคนละสายพันธุ์กันกับที่มีในสุนัขกับแมว เพราะไวรัสโคโรนาในสุนัขกับแมวที่จริงมีมาก่อนโคโรนาไวรัสของคนนานนับตั้งแต่อดีตแล้ว โดยสุนัขจะมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ชื่อสายพันธุ์ว่า “Canine coronavirus” ซึ่งจะมีอาการจาม หายใจติดขัด ไอ มีน้ำมูกคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และแมวจะมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ชื่อสายพันธุ์ว่า “Feline coronavirus” อาการจะมีน้ำมูก ตาแฉะ คลื่นไส้ น้ำหนักลด ปวดท้องรุนแรงกว่าสุนัขซึ่งไวรัสนี้จะติดเฉพาะในสัตว์ตามกลุ่มไม่สามารถแพร่กระจายสู่คนได้

สุนัขกับแมวไม่สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดของคนได้

เนื่องจากเป็นคนละสปีชีส์และมีพันธุกรรมที่แตกต่างกันทำให้ไม่สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดที่เป็นสายพันธุ์ของคนได้ทั้งสายพันธุ์ที่มาจากอู่ฮั่นจนถึงสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่กลายพันธุ์จากผลการสำรวจเวลานี้พบว่ายังไม่มีเชื้อใดที่เข้าสู่สุนัขกับแมวจรจัดเลย ผลการตรวจยังมีผลปกติจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าสุนัขกับแมวคุณจะยังปลอดภัยจากไวรัสโควิด 

สุนัขกับแมวมีอัตราการติดเชื้อไวรัสน้อย

จากผลการสำรวจแม้ว่าสุนัขกับแมวจะติดไวรัสโควิดสายพันธุ์ของคนได้แต่อัตราการติดเชื้อก็จะยากกว่าการที่คนติดจากคนด้วยกันมาก ด้วยภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันระหว่างคนกับสัตว์ทำให้หากติดจริงก็จะมีเชื้อที่เข้าสู่ร่างกายไม่ถึงครึ่งเท่านั้นจึงยังพูดได้ว่าสุนัขกับแมวไม่สามารถติดโควิดได้เพราะอัตรายังน้อยมาก

เครดิตภาพ : sanook.com, pharmacy.mahidol.ac.th

#สัตว์ติดโควิดได้ไหม #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ของเล่นที่นกแก้วชอบ

นกแก้วเป็นนกที่มีความขี้เล่นมากที่สุดในหมู่นกชนิดอื่น นอกจากเป็นมิตรกับมนุษย์ ยังรู้จักความขี้กวนจนทำให้บางครั้งเจ้าของก็อยากจะดุมัน แต่ก็รู้ดีว่าเมื่อดุแล้วเจ้านกแก้วก็ยังจะพยายามหาทางคุยจ้อโต้เถียงกับเจ้าของแบบรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างอยู่ดีจนเราต้องเป็นฝ่ายหยุดพูดเอง ไม่อย่างนั้นนกแก้วก็คงจะคุยจ้อไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดลงให้เราได้ ซึ่งนอกจากจะช่างพูดช่างคุย ช่างเป็นมิตร นิสัยร่าเริงแล้วก็ยังไม่ค่อยชอบกันหยุดอยู่กับที่ด้วย มันมักจะหาของเล่นหรือไม่ก็ปีนไปอยู่ส่วนนั้นส่วนนี้ของกรงบ้างเป็นปกติ หากคิดจะเลี้ยงนกแก้วก็ต้องมีของเล่นสนุก ๆ ให้เขาด้วย ไม่อย่างนั้นนกแก้วจะรู้สึกไม่มีความสุขและอาจทำให้สัตว์เลี้ยงที่ช่างคุยอย่างเป็นมิตรกลายเป็นสัตว์ขี้โมโหและอันตรายกับคุณได้ ด้วยเหตุนี้ในกรงนกแก้วตามบ้านเรือนต่าง ๆ จึงไม่เคยว่างเปล่า นอกจากอาหารแล้วก็จะมีของเล่นมากมายที่ติดตั้งสำหรับให้นกแก้วเล่นประหนึ่งกำลังอยู่ในสวนสนุกเลย ซึ่งจะมีของเล่นอะไรบ้างที่นกแก้วชอบ เรามาดูกันดีกว่า

“ลูกบอล” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“ลูกบอล” เป็นของเล่นที่นกแก้วชื่นชอบมากจนถึงขั้นติดตัวไว้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในกรงหรือไปที่ไหนก็ต้องมีลูกบอลขนาดเล็กติดตัวไปให้มันเล่นเสมอ โดยควรเป็นลูกบอลที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าจะเป็นลูกบอลยางที่ยืดหยุ่นและนุ่มนิ่ม เพราะขากับกรงเล็บของนกแก้วค่อนข้างมีน้ำหนักกับความใหญ่ที่มากจึงอาจทำให้ลูกบอลหมดสภาพหรือพังเร็วได้ ยิ่งนกแก้วมักชอบเล่นลูกบอลแบบแรง ๆ โดยการใช้ปากไถลูกบอลไปตามทิศทางต่าง ๆ และคาบลูกบอลด้วยยิ่งต้องเป็นลูกบอลที่แข็งแรงพอจะอยู่ได้นานเลย

“เชือกร้อยแบบมีสีสัน” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“เชือกร้อยแบบมีสีสัน” เป็นหนึ่งในของเล่นที่นกแก้วชื่นชอบมาก เพราะนกแก้วเป็นสัตว์ตัวของมันมีสีสันสวยงามหลากหลายตัดกันจึงคุ้นชินกับธรรมชาติของสีสันสดใด เมื่อมันได้อยู่กับของเล่นที่มีสีสันสดใสหลายสีไม่ว่าจะเป็นสีอ่อนหรือสีเข้มก็มักจะถูกใจมาก และมันยังชอบการผาดโผนบนที่สูงสุดเสียวด้วย เชือกร้อยแบบมีสีสันที่ห้อยระย้าในกรงจึงเป็นความชอบของมันมาก

“ลูกข่าง” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“ลูกข่าง” เป็นของเล่นสุดท้าทายที่นกแก้วชอบมาก เพราะลักษณะของลูกข่างจะมีความใหญ่และใต้ฐานจะเล็ก ๆ ทำให้เด้งได้เวลาที่นกแก้วคาบและโยนเล่นมันก็จะคืนกลับมาเป็นสภาพที่คล้ายตุ๊กตาล้มลุกมีความน่าสนใจมาก แต่ต้องเป็นลูกข่างขนาดเล็กจึงจะมีน้ำหนักที่เบาพอให้นกแก้วคาบและกลิ้งเล่นได้ ซึ่งหากไม่อยากไปหาซื้อหรือเสียเงินก็สามารถทำเองจากฝาขวดน้ำได้ง่าย ๆ

เครดิตภาพ : pptvhd36.com, petsradar.com

#ของเล่นที่นกแก้วชอบ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงกุ้งฝอย

กุ้งฝอยเป็นกุ้งน้ำจืด พบได้ตามแหล่งน้ำทั่วไปทั่วทุกภาคในประเทศไทย คนไทยนิยมรับประทานกุ้งฝอยกันเป็นจำนวนมาก นำมาทำเป็นอาหารได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น กุ้งเต้น อันนี้ถือว่าเป็นเมนูเด็ดเลยก็ว่าได้ ทอดมันกุ้ง น้ำพริกกุ้งฝอย กุ้งปอยทอดกรอบและเมนูอื่นๆ กุ้งฝอยถือว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารค่อนข้างสูง มีทั้งโปรตีน และแคลเซียม รวมถึงสารอาหารอื่นๆ นอกจากกุ้งฝอยจะเป็นที่นิยมรับประทานกันแล้ว ยังเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่เกษตรกรนิยมเลี้ยงกันอีกด้วยเนื่องจากกุ้งฝอยเลี้ยงง่ายสร้างรายได้สูง เพราะเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมากเพราะกุ้งฝอยตามธรรมชาติไม่เพียงพอต่อการบริโภคของผู้คน จึงมีการเลี้ยงกุ้งฝอยกันมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดนั้นเอง ซึ่งราคาของกุ้งฝอยนั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 บาทกันเลยทีเดียวถือว่าราคาค่อนข้างสูงไม่แพ้กุ้งประเภทอื่นๆกันเลยทีเดียว นอกจากเลี้ยงง่ายแล้วยังสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

การเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์ 

เกษตรกรหลายๆท่านหันมาเลี้ยงกุ้งฝอยกันมากขึ้นเพราะเลี้ยงง่าย รายได้ดี เป็นที่ต้องการของตลาดและมีตลาดรองรับทั้งปี แถมมีราคาสูงอีกด้วย ซึ่งการเลี้ยงกุ้งฝอยนั้นสามารถเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ได้ วีธีการเลี้ยงกุ้งฝอยง่ายมากค่ะ เพียงแค่นำกุ้งฝอยจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาพักไว้ในกระชัง 1 คืน หลังจากนั้นให้เลือกกุ้งตัวเมีย ที่มีไข่ แยกออกมาอนุบาลในกระชังผ้าในบ่อซีเมนต์ให้อาการเช้า-เย็นวันล่ะ 2 ครั้ง ประมาณ 3- 4 วันไข่กุ้งก็จะฟักเป็นตัว หลังจากนั้น แยกแม่กุ้งกับลูกที่เพิ่งฟักออก เพื่อนำไปอนุบาลอีกที การอนุบาลควรจะอนุบาลในกระชังผ้า การอนุบาลเราต้องแยกขนาดของกุ้งเพื่อความสะดวกในการเพาะเลี้ยงต่อไป ส่วนอาหารสำหรับลูกกุ้งที่เราอนุบาลนั้นอาทิตย์แรกควรให้อาหารเป็นไข่แดงตัมสุก หรือไรน้ำจืด เมื่ออนุบาลครบ 1 เดือนแล้ว ก็นำมาเลี้ยงในบ่อซีเมนต์หรือกระชังได้เลย การเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อซีเมนต์จะให้อาหารเป็นอาหารสำเร็จรูป ระยะเวลาในการเลี้ยง ประมาณ 3-4 เดือนก็สามารถจับจำหน่ายได้แล้ว

เทคนิคง่ายๆในการเร่งให้กุ้งฝอยวางไข่

กุ้งฝอย ชอบน้ำไหลเพราะน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่ กุ้งชอบน้ำไหลชอบเล่นน้ำ เมื่อมีน้ำไหลกุ้งจะดีดตัวทำให้ไข่หลุดลงมา เราต้องสร้างน้ำไหลให้กับกุ้งที่เลี้ยงในบ่อด้วยบการใช้สายยางเปิดน้ำแรงๆทำให้น้ำไหลเวียนในบ่อเปิดแรงๆประมาณ 10-20 นาทีเพื่อเป็นการเร่งการวางไข่ให้กุ้งนั้นเอง นอกจากการเลี้ยงกุ้งฝอยในบบ่อซีเมนต์แล้ว ยังสามารถเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อดินได้ด้วยนะคะ ส่วนอาหารกุ้งที่เลี้ยงในบ่อดินใช้แบบเดียวกันกับที่ใช้เลี้งกุ้งในบ่อซีเมนต์ค่ะ

เครดิตภาพ : kasettumkin.com, coachnong.com

#ทริคการเลี้ยงสัตว์ #ความรู้สัตว์น้ำจืด #การเลี้ยงกุ้งฝอย

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 สัญญาณที่แมวต้องการบอกจากการร้อง

หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่ขี้งอแงชอบร้องให้ได้ยินบ่อย ๆ แล้วล่ะก็ทุกคนน่าจะนึกถึงแมวที่เป็นสัตว์ตัวไม่ใหญ่แต่ชอบร้องเสียงดังถี่ ๆ ติดกันจนทำให้แม้แต่คนที่กำลังยุ่งอยู่สุดท้ายก็ต้องหยุดฟังเพราะได้ยินเสียงบ่อย ๆ และบางทียิ่งเห็นมนุษย์สนใจ แมวก็ยิ่งจะร้องเหมียว ๆ เสียงดังมากขึ้นพร้อมกับทำตาแป๋วดูน่ารักซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าการที่แมวร้องเช่นนี้เป็นธรรมชาติของเขาเองหรือร้องเพราะมีสาเหตุกันแน่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าความจริงแมวไม่ใช่สัตว์ที่ช่างร้องช่างเรียกอย่างที่ใคร ๆ คิดกันหรอกนะคะ หากสังเกตดี ๆ ก็จะรู้ว่าแมวมักจะร้องออกมาบางเวลาเท่านั้น แต่แค่เขาเป็นสัตว์ที่ร้องนานแบบติดต่อกันกว่าจะหยุดลงได้ทำให้หลายคนคิดกันไปอีกแบบ แน่นอนว่าการที่แมวร้องนั้น เขาย่อมจะมีเหตุผลมากพอในการบอกมนุษย์อย่างเราให้รู้ เพียงแต่แมวต้องการจะบอกอะไรให้รู้บ้างมาดูกันเลย

“ความหิว” ทำให้แมวร้องบอกคุณ

แมวเป็นสัตว์ที่ไม่กินจุเหมือนอย่างสุนัข และไม่กินอาหารระหว่างมื้อพร่ำเพรื่อด้วย แต่บทพอจะหิวขึ้นมา แมวก็จะร้องเสียงดังไม่หยุดเพื่อขออาหารกินพร้อมกับมองหน้ามนุษย์เพื่อจะสื่อสารว่า “หาของให้ฉันกินหน่อยสิคุณมนุษย์ ตอนนี้ฉันหิวมากเลย ถ้าเธอยังไม่มีอะไรมาให้ฉันกิน ฉันต้องแย่แน่ ๆ ช่วยหน่อยนะ ถ้าไม่ช่วยฉันก็จะร้องแบบนี้จนกว่าเธอจะสนใจหรืออาจมีใครสักคนที่ผ่านมาทางนี้แล้วสนใจให้อาหารฉันบ้าง” ยิ่งเขาร้องเสียงอ่อนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหมายความว่าแมวตัวนี้หิวมากเท่านั้น มันจึงไม่แปลกที่เรามักจะให้อาหารกับแมวทันทีโดยไม่รู้ความหมาย สัมผัสได้ชัดแค่ว่าน้องต้องการความช่วยเหลือก็เท่านั้น

“สถานการณ์แปลกที่เกิดขึ้น” ทำให้แมวร้องบอกคุณ

แมวเป็นสัตว์ที่ทำงานเป็นยามเฝ้าบ้านได้ดีไม่ต่างกับสุนัขเลย แต่ยามตัวเล็กนี้จะทำการเฝ้าบนบ้านในขณะที่สุนัขจะทำการเฝ้าด้านล่างบ้าน แมวจะคอยดูว่าในบ้านของคุณมีสัตว์ร้ายหรือแมลงมีพิษใด ๆ เข้ามาหรือไม่ หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นก็จะทำการร้องเสียงดังในจังหวะถี่มากกว่าปกติและเสียงสูงอยู่ในคีย์เดียวกันและเดินไม่หยุดนิ่งหรืออาจมองไปยังทิศทางที่มีสิ่งผิดปกติหรือสถานการณ์แปลกเกิดขึ้นเพื่อบอกเจ้าของให้รู้ได้

“การเรียกร้องความสนใจ” ทำให้แมวร้องบอกคุณ

หากเป็นเวลาที่ไม่มีสถานการณ์ใด ๆ แล้วแมวขึ้นมานั่งบนตักคุณพร้อมกับคลอเคลียร้องออกมาแบบช้า ๆ ไม่ได้ถี่มากและร้องไปหยุดไปสลับกันย่อมเป็นสัญญาณที่บอกว่าเขาตั้งใจจะเรียกร้องความสนใจจากคุณ ด้วยนิสัยของแมวเป็นสัตว์ที่ต้องการให้คนรักมาก ๆ และขี้เหงาเป็นที่หนึ่ง การร้องจึงไม่ต่างกับการอ้อนเลย

เครดิตภาพ : petsocietythailand.com, th.wikipedia.org, smkmodelkhaschalok.com

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #แมวร้องบอกอะไรบ้าง

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

สิ่งที่บ่งบอกธรรมชาติของสุนัขจากเรื่อง “Lady and the tramp”

“วันนี้คือค่ำคืนอันรื่นรมย์สวยงามที่พวกเราเรียก…เบลานอตเต้” เชื่อว่าสายรักสุนัขหลายคนที่ชื่นชอบการอยู่กับสุนัขมาตั้งแต่เด็กก็คงจะไม่พลาดดูการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับสุนัขกันอยู่แล้วจนอาจรู้จักเพลงนี้ที่เรานำมาเกริ่นไว้ตั้งแต่บรรทัดแรกอย่างแน่นอน เพราะมันคือเพลงดังจากการ์ตูนชีวิตของสุนัขสุดแสนโรแมนติกอมตะในรอบปีซึ่งโด่งดังในอดีตที่ชื่อว่า Lady and the tramp” หรือที่คนไทยอาจเรียกว่า “ทรามวัยกับไอ้ตูบ” โดยมีด้วยกันสองภาค แต่ที่โด่งดังและกายเป็นตำนานเห็นทีก็คงหนีไม่พ้นภาคแรกที่เป็นเรื่องราวความรักของสุนัขบ้านเพศเมียชื่อ “เลดี้” กับอดีตหัวหน้าสุนัขกองขยะชื่อ “แทรมป์” คู่เจ้าของฉากสุดหวานที่กินเส้นสปาเกตตี้เส้นเดียวกันแล้วจูบหลังร้านตรอกร้านอาหารท่ามกลางดาวที่กระจ่างเต็มท้องฟ้าและดนตรีคลาสสิกไพเราะที่เจ้าของร้านทั้งสองเล่นให้แก่ดินเนอร์ของทั้งคู่จนตราตรึงใจคนดูมาจนถึงตอนนี้ แต่นอกจากความรักของสุนัขที่เราได้ประทับใจแล้ว การ์ตูนเรื่อง “Lady and the tramp” ก็ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นตัวของสุนัขใน 3 มุมมองที่คนเลี้ยงสุนัขควรจะได้รู้ด้วย

การบ่งบอกนิสัยของสุนัขบ้านกับสุนัขจรจัดจากเรื่อง “Lady and the tramp”

จากเรื่อง “Lady and the tramp” เราจะได้เห็นนิสัยที่แตกต่างกันของสุนัขบ้านกับสุนัขจรจัด ซึ่งสุนัขบ้านจะมีความสงบเสงี่ยม มีความเป็นมิตรกับมนุษย์ เห็นอกเห็นใจคนเป็นมนุษย์และพร้อมจะช่วยเหลือมากกว่าการอยู่ในฐานะสุนัจเฝ้าบ้านเท่านั้น แต่พวกเขายอมอยู่บ้านด้วยความเต็มใจที่จะทำหน้าที่ตอบแทนที่มนุษย์เลี้ยงดูพวกเขาให้ปลอดภัยมาตลอด และสุนัขจรจัดจะมีความลำเอียงและมักมองว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่น่าคบหา ชอบเอาเปรียบสุนัข และทำร้าย ทั้งที่ความจริงแล้วตัวเองเป็นพวกที่มักจู่โจมสร้างความเดือดร้อนให้แก่มนุษย์ก่อนเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีความกล้าหาญและยอมเสียสละ เมื่อเลดี้กับแทรมป์ได้มาอยู่ใกล้ชิดกันและเข้าสู่โลกของกันและกันจึงได้เติมเต็มกันให้เข้าใจมากขึ้น

วิธีจัดสภาพแวดล้อมการเลี้ยงสุนัขจากเรื่อง “Lady and the tramp”

จากเรื่อง “Lady and the tramp” ทำให้เรารู้ว่าการจัดสภาพแวดล้อมเลี้ยงดูสุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สุนัขจะรู้สึกมีความสุขกับการอยู่ในบ้านหรือไม่ก็เกิดจากความเอาใจใส่ของเรา หากเราที่เป็นมนุษย์มีความเมตตา รู้จักชวนสุนัขพูดคุย ทักทาย ทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่ลำเอียง เข้มงวด และไม่วางกรอบให้เขามากแบบตามใจตัวเองเกินไป รู้จักเวลาที่เหมาะจะปล่อยให้เขาออกไปใช้ชีวิตอิสระตามธรรมชาติของสุนัขและรู้เวลาที่จะทำให้เขาจำหน้าที่ของตัวเองได้เมื่อถึงเวลาก็จะทำให้สุนัขมีความสุข สิ่งสำคัญที่ต้องมี คือ ความเชื่อใจในตัวสุนัขที่คุณเลี้ยง

ครอบครัวของสุนัขบ้านจากเรื่อง “Lady and the tramp

จากเรื่อง “Lady and the tramp” จะเห็นได้ว่าแม้สุนัขแต่ละตัวจะมีที่มาที่ไปแรกเริ่มมาจากต่างที่ต่างทาง บางตัวก็มาจากร้านขายสุนัข ฟาร์มสุนัข และบางตัวก็เคยเป็นสุนัขจรจัดมาก่อน แต่เมื่อได้เข้ามาเป็นสุนัขบ้านที่มีมนุษย์เลี้ยงดูแล้วก็จะไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป เพราะมนุษย์ก็ต้องการสุนัขมาคอยเป็นคนดูแลและคลายความเหงา ส่วนสุนัขก็ต้องการได้รับความปลอดภัยและที่อยู่ อีกทั้งยังได้อยู่กับความรักด้วยจึงเป็นครอบครัวของกันและกัน อย่าได้คิดว่าเขาคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในฐานะผู้รับใช้เราเท่านั้น

เครดิตภาพ : looper.com,.newsweek.com

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #Lady and the tramp

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 เหตุผลที่สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้าน

ช่างน่าปวดหัวเสียจริงกับการที่เจ้าของอย่างเราต้องคอยตามไปเรียกหรือตามหาให้สัตว์เลี้ยงให้กลับบ้าน แม้แต่ตอนจะปิดบ้านออกไปก็ต้องคอยระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงแอบออกไปได้เพราะไม่อย่างนั้นมันก็คงจะกลับบ้านไม่เป็นเวลาอีกตามเคยจนเล่นเอาเป็นห่วงกันหลายคน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของบ้านบางคนที่มีภาระหน้าที่ในการงานของตัวเองและงานบ้านเยอะจำเป็นต้องล่ามโซ่สัตว์เลี้ยงหรือกักขังไว้ในกรงไม่ให้แอบหนีออกจากบ้านได้ แต่ความจริงแล้วหากคุณมองตาของสัตว์เลี้ยงทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวก็จะเห็นถึงความไม่ชอบ ความเศร้า และความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นกับมัน ยิ่งคุณทำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยากออกจากบ้านมากขึ้น อยากรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไรที่ทำให้สัตว์เลี้ยงบางตัวชอบหนีออกจากบ้านมากกว่าอยู่ในบ้านเสียอีกทั้งที่อยู่ในบ้านก็ดูปลอดภัย และคุณก็เลี้ยงมันดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ความจริงบางมุมคุณอาจจะมองข้ามไปได้ เอาเป็นว่ามาดู 3 เหตุผลที่สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้านกันเลยดีกว่า

สัตว์เลี้ยงอยากเข้าสังคมกับเพื่อนจึงชอบหนีออกจากบ้าน

ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมเท่านั้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงเองก็ต้องการที่จะมีสังคมของเขาเช่นเดียวกันแม้ว่าเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องประจำอยู่ในบ้านของคุณแต่ก็ไม่ใช่ว่าหน้าที่ของเขาจะต้องอยู่แต่ในบ้านทั้งวันทั้งคืนแบบที่เจ้าของคิด เขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะได้ออกไปวิ่งเล่นและสร้างปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงบ้างเพื่อให้มีความสุขและมันคือธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงที่พื้นเพก็ไม่ได้อยู่ในรั้วบ้านอยู่แล้ว และมักใช้ชีวิตเป็นฝูงมากกว่า สัตว์เลี้ยงจึงชอบหนีออกจากบ้านเมื่อถึงเวลาที่ไม่ใช่หน้าที่ของเขา

คนเลี้ยงเข้มงวดมากไปทำให้สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้าน

อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการที่สัตว์ยังชอบหนีออกจากบ้านก็เพราะว่าเขาถูกเจ้านายตัวเองเลี้ยงแบบเข้มงวดมากเกินไป ตั้งแต่การกักบริเวณที่เขาสามารถเดินไปเดินมาในบ้านได้แล้วยังมอบภาระหน้าที่ให้เขาเฝ้าบ้านตลอดทั้งวันทั้งคืนแถมล็อกประตูรั้วเวลาไม่อยู่ต้องไปทำงานอีก บอกเลยว่าสุนัขที่ยิ่งอยู่บ้านซึ่งเจ้านายเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการอยู่ที่ทำงานล่ะก็เขาจะมีอารมณ์กดดันเวลาอยู่บ้านมาก อารมณ์ไม่ต่างกับเวลาที่คนคนหนึ่งติดในลิฟต์นาน ๆ ร่วมหลายชั่วโมงเลย ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสจึงมักชอบหนีออกจากบ้านตลอด ขอแค่เวลาเล็กน้อยก่อนที่คุณจะมาตามกลับไปให้ได้อยู่นอกรั้วบ้างก็ยังดี

สัตว์เลี้ยงอยากค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้แก่ตัวเองบ้างจึงชอบหนีออกจากบ้าน

เมื่อโลกภายนอกมีหลายสิ่งหลายในสภาพแวดล้อมที่ชวนให้น่าสำรวจและค้นหาสิ่งใหม่ ๆ มากกว่าในบริเวณบ้านของคุฯ แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงเองก็ย่อมอยากจะออกไปค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องวนลูปอยู่แต่กับการนั่ง ๆ นอน ๆ ในบ้านและมองแต่บ้านที่อยู่มานานจนชาชินแบบนี้ สัตว์เลี้ยงของคุณจึงชอบหนีออกจากบ้าน

เครดิตภาพ : truevalue.com,thaihealth.or.th

#เหตุผลสัตว์หนีออกจากบ้าน #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้