Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ขั้นตอนฝึกลูกสุนัขลาบราดอร์

สุนัขลาบราดอร์เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่มักถูกเลือกและนำมาเลี้ยงภายในบ้าน เพราะมีนิสัยค่อนข้างน่ารัก ซุกซน ขี้เล่น เป็นมิตรกับผู้คน และซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งด้วยความที่เขาซุกซนนี่เองที่อาจก่อความวุ่นวายให้กับเราได้ เพราะถ้าไม่ได้รับการฝึกหรือถูกเลี้ยงอย่างตามใจ เขาจะไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง บางครั้งอาจดื้อ และซนจนอาจเกิดอันตรายต่อตัวเองและผู้เลี้ยงได้ ดังนั้นจะให้ดีเราควรรู้จักฝึกเขากันด้วย โดยส่วนมากแล้วจะเริ่มฝึกกันที่ช่วงอายุประมาณ 2 เดือน ขึ้นไป ซึ่งถ้าน้อยไปกว่านี้ เขาจะยังเล็กเกินไป ในช่วงนั้นลูกสุนัขส่วนมากจะใช้เวลากับการนอน และตื่นขึ้นมาเพื่อดูดนมแม่ เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเจริญเติบโตได้ดี ใครกำลังคิดจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้กันอยู่ ลองมาดูขั้นตอนในการฝึกกันดีกว่าค่ะ

1. การฝึกในช่วงอายุประมาณ 2 เดือน จนถึง 3 เดือน หัดกินอาหารเป็นเวลา วิ่งเล่นหรือเดิน เพื่อเป็นการออกกำลังกาย และนอนในที่จัดเตรียมไว้ รวมทั้งควรฝึกให้รู้ว่าอะไรทำได้ และอะไรทำไม่ได้ เพื่อจะได้ไม่รบกวนเรา หรือคนในบ้าน รวมไปถึงแขกที่มาเยือน และในช่วงวัยนี้เขาจะเริ่มจดจำ เราสามารถฝึกให้จำคำง่ายๆ อย่างเช่น การสวัสดี สอนให้เขารู้จักยกขาหน้าขึ้นมาแล้วเราพูดว่าสวัสดี พร้อมกับให้รางวัลเป็นขนมหรืออาหารที่เขาชอบ ทำบ่อยๆ เพียงไม่กี่ครั้ง ลูกสุนัขจะจำได้เอง พอพูดว่าสวัสดีหรือขอมือเขาจะยกขึ้นมา บางครั้งเวลาต้องการอาหารหรือกลัวถูกทำโทษก็จะยกขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ

2. ในช่วง 3 เดือน ไปจนถึงประมาณ 6 เดือน ฝึกให้รู้จักคำสั่งในการนั่ง หมอบ รอ เดินเข้ามาหาเวลาเรียก และหยุดเห่า ในช่วงนี้ยังสามารถฝึกให้เขารู้จักการอยู่ร่วมกับผู้อื่นไม่ว่าคนหรือสัตว์เลี้ยง ถ้าเลี้ยงในระบบปิดอาจจะฝึกยากหน่อย แต่ก็สามารถทำได้ โดยพาเขาไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะหรือสถานที่ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเขาไปได้ 

3. ในช่วงตั้งแต่ 6 เดือน จนถึงประมาณ 10 เดือน ฝึกการใช้คำสั่งยากๆ เช่น ให้นั่งหรือยู่นิ่งๆ เป็นเวลานาน เมื่อเราสั่ง ฝึกจับมือ ฝึกม้วนตัว ฝึกกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง และ ฝึกว่ายน้ำ เป็นต้น 

การฝึกที่ยากขึ้นบางอันเราอาจไม่สามารถสอนเขาได้ และอาจเกิดอันตราย ดังนั้นถ้าต้องการให้เขาทำได้อาจพาไปฝึกกับโรงเรียนฝึกสุนัข ที่เปิดให้บริการทางด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งในบ้านเราปัจจุบันก็มีอยู่หลายที่ แต่ควรเลือกแบบที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับกันด้วย เพื่อให้น้องหมาของเราได้รับการฝึกจริงๆ และไม่ถูกทารุณกรรมเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้ อย่างที่เราเคยเห็นเป็นข่าวกันมาบ้างแล้ว 

เครดิตภาพ : wall.alphacoders.com, it.gde-fon.com

#สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #ลูกสุนัขลาบราดอร์​ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

รีวิว อาหารแมว ถูกใจทั้งทาสทั้งแมว

มือใหม่หัดเลี้ยงแมวคงมีคำถามอยู่ในใจใช่ไหมล่ะคะว่าควรเลือกอาหารแบบไหนให้น้องแมวของเราดี อาหารแบบไหน ยี่ห้อไหนที่จะถูกใจและมีประโยชน์ที่สุดสำหรับเจ้าแมวเหมียวของเรา เนื่องจากในท้องตลาดตอนนี้มีให้เลือกอยู่มากมายหลายยี่ห้อเต็มไปหมดแล้วทาสแมวจะเลือก อาหารแมวยี่ห้อไหนดี วันนี้เราเลยจะมา รีวิวอาหารแมว ที่ทาสหลายคนเลือกซื้อ จะมียี่ห้อไหนบ้างนั้นไปดูกัน

1.WHISKAS แบบเม็ด พ็อกเกต สูตรแมวโต รสปลาทู ราคา 539 บาท

วิสกัสอาหารแมวที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็น ซึ่งเค้าการันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 ในไทย ที่ช่วยให้แมวของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีขนสวยเงางาม สูตรนี้เหมาะสำหรับแมวที่มีอายุ1 ปีขึ้นไป สูตรนี้มีโซเดียมสูง น้องแมวที่มีโรคนิ่วหรือโรคไตควรหลีกเลี่ยง แต่กรณีแมวที่สุขภาพแข็งแรงปกติสามารถทานได้ค่ะ แต่ไม่ไม่ต้องกังวลนะคะเพราะว่าอาหารแมวที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปก็จะมีโซเดียมสูงทั้งนั้น

2.Purina One Kitten เพียวริน่าวัน อาหารลูกแมว ราคา 249 บาท

เป็นยี่ห้อแรกๆ ที่ทาสแมวจะต้องนึกถึง อย่างที่ทราบกันดีว่าอาหารสำหรับลูกแมวนั้นต้องเน้นโปรตีน ซึ่งสูตรนี้ก็ได้ให้โปรตีนสูงถึง 40% จึงเหมาะกับวัยเจริญเติบโตสุด ๆ มีส่วนผสมที่ช่วยให้ย่อยได้ง่าย มี Calcium และ Phosphorus เสริมสร้างกระดูกและข้อต่อให้แข็งแรง สูตรนี้ยังสามารถใช้ได้กับลูกแมวทุกสายพันธุ์ด้วยนะคะ

ปริมาณ : 3 kg

3.Royal Canin Kitten อาหารสำหรับลูกแมว ราคา 529 บาท

สูตรนี้เป็นอาหารสำหรับลูกแมววัย 4-12 เดือน ที่ต้องการโปรตีนคุณภาพสูง อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆอีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการกระตุ้นภูมิต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีปริมาณไฟเบอร์สูง ที่จะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารอีกด้วย

4.Me-O Cat Food Gourmet ราคา 320 บาท

สำหรับยี่ห้อนี้ต้องบอกก่อนเลยค่ะว่าทาสแมวโดนใจทั้งคุณภาพและราคาที่ดีไม่แพงมาก มีโปรตีนจากเนื้อปลาและนมซึ่งเหมาะมากกับน้องแมวช่วงวัยรุ่น มี Omega 3,6 และแร่ธาตุสังกะสีมีคุณสมบัติช่วยพัฒนาระบบประสาทสมองและบำรุงขนให้นุ่มสวย

มีปริมาณของโซเดียมที่น้อยมากอีกทั้งยังลดความเสี่ยงของการเกิดก้อนนิ่วในน้องแมวอีกด้วย

ปริมาณ : 2.8 kg

5.Tiffany Cat ราคา 850 บาท

เป็นอาหารแมว ที่ถูกและดี อีกตัวนึงเลยค่ะ สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรป้องกันปัญหาก้อนขนอุดตัน สูตรนี้ที่มีไฟเบอร์จากเซลลูโลส จะช่วยกำจัดก้อนขน ขับถ่ายได้อย่างง่ายดายและจุดเด่นของอาหารแมว Tiffany Cat คือน้ำมันที่สกัดจากดอกอีฟนิ่งพริมโรส ดอกทานตะวันและปลาแซลมอนมีส่วนสำคัญในการลดอาการปวด,บวมและต้านการอักเสบจากการติดเชื้อต่าง ๆ มีกรดไขมันที่จำเป็น และช่วยรักษาภูมิแพ้

ปริมาณ : 10 kg 

เครดิตภาพ : shopee

#สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #รีวิวอาหารแมว

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

5 อาหารมนุษย์ที่น้องหมากินได้มีไหม ถ้ามี คืออะไร

กราบสวัสดีครับทุดคน วันนี้ผมจะมาเหลาเรื่องอาหารมนุษย์ที่น้องหมากินได้มีไหม เพราะหลายครั้งที่เราก็คงไม่ได้ให้อาหารเม็ดน้องทาน รวมถึงอาจจะเป็นค่านิยมของคนไทยบางส่วนที่มักจะให้น้องทานอะไรที่เหมือนๆ คน หรือน้องเรียกร้องด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตาว่าอยากทานอาหารมนุษย์ ดังนั้นวันนี้เราจึงจัดลิสต์ 5 อาหารมนุษย์ที่น้องหมากินได้มาให้ดู เพื่อความปลอดภัยของน้อง ใครที่พร้อมแล้วไปดูกันได้เลยครับ

แครอท

อาหารสุขภาพที่ไม่ใช่แค่สำหรับมนุษย์ แต่สำหรับสุนัขเองก็เหมือนกัน เพราะว่าแครอทอุดมไปด้วยวิตามิน A ซึ่งดีต่อสุขภาพและภูมิคุ้มกันของสุนัข นอกจากนี้การเคี้ยวแครอทก็ยังเป็นการช่วยกำจัดเศษอาหารในฟันของสุขนัข เป็นการรักษาสุขภาพฟันของน้องได้อย่างดีเยี่ยม

ปลา

ในที่นี้ไม่ได้หมายรวมแค่ปลาเฉยๆ เท่านั้น แต่หมายถึงกุ้งด้วยเหมือนกัน เพราะอาหารจำพวกนี้มีโปรตีนสูง อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และวิตามิน B ซึ่งช่วยในเรื่องของความดันโลหิต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเป็นปลาที่ปรุงสุกแล้วเท่านั้น เพราะปลาดิบจะส่งผลเสียต่อลำไส้ของน้องหมา อาจทำให้น้องมีอาการท้องอือ ท้องเสีย หรืออาเจียนได้

ไก่

อาหารยอดฮิตที่เราต่างก็รู้ๆ กันดีว่าน้องหมาสามารถทานได้แน่นอน ที่สำคัญที่สุดือในกรณีที่น้องหมารู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบในช่องท้อง การทานไก่ต้มที่ปราศจากการปรุงรสสามารถช่วยได้บรรเทาอาการดังกล่าวได้

ข้าวขาว

ข้าวขาวปรุงสุกเรียกได้ว่าเป็นอาหารคู่สุนัขของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะดีต่อสำไส้ของสุนัข ในขณะเดียวกันก็เป็นสาเหตุของน้ำตาลในเส้นเลือดของสุนัขด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นสำหรับน้องหมาที่จ้ำม่ำกว่าปกติก็ไม่ควนทานในปริมาณมาก เพราะข้าวที่มีน้ำตาลจะทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดของสุนัขสูงขึ้นซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ

หมู

หมูปราศจากการปรุงรสถือได้ว่าเป็น 1 ในท๊อปของอาหารที่ดีต่อสุขภาพของน้องหมาที่สุด แต่ก็ไม่ควรให้น้องทานในปริมาณมาก เพราะหมูมีสัดส่วนของไขมันเป็นจำนวนมาก ไม่ดีต่อสุขภาพของสุนัข และแฮมกับเบคอนซึ่งถือว่าเป็นหมูชนิดหนึ่งก็ไม่ควรนำมาเป็นอาหารกับสุนัขด้วยเช่นกันเพราะโซเดียมสูง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับทุกคน อาหารของเราๆ ที่นำมาเสนอให้ในวันนี้ทั้ง 5 ชนิด มีใครเคยนำเอาไปให้น้องหมาทานกันบ้างหรือเปล่า งานนี้ไม่ได้จะมาบ่นแต่จะมาบอกว่าทำถูกแล้วครับเพราะว่าอาหารเหล่านี้คืออาหารมนุษย์ที่น้องหมากินได้จริงๆ ขอแค่ทำตามคำแนะนำที่วางเอาไว้และทานในปริมาณที่เหมาะสม เพียงเท่านี้น้องหมาของทุกคนก็จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อยู่เล่นกับเราไปนานๆ แล้วแหละ

ที่มาภาพ : Foodnetwork, FirstCry Parenting, Maangchi, Minimalist Baker, Blau’s Saukville Meats, Dogs LoveToKnow

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #อาหารน้องหมากินได้ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“สุนัขกระโดดเกาะ” แปลความหมายในเชิงใดได้บ้าง?

ลักษณะนิสัยของสุนัขเมื่อเห็นเจ้าของกลับมาบ้านหรืออกมาข้างในจุดที่เขาสามารถมองเห็น ใกล้ตัวได้ เขาก็มักจะเข้ามากระโดดกอดคุณอยู่เสมอ เชื่อเลยไม่ว่าจะเป็นสุนัขบ้านใดก็ต้องมีลักษณะเดียวกันทั้งนั้น ซึ่งพอสุนัขแสดงปฏิกิริยาท่าทางแบบนี้แล้วเจ้าของบ้านบางคนก็รำคาญน้อง บางคนก็ผลักน้องออก บางคนก็เล่นกับเขาแบบติดลมยาว ๆ ไปเลย แต่คุณคิดจริงหรือว่าการที่สุนัขกระโดดเกาะคุณจะเป็นการทักทายอย่างเดียว แน่นอนว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์และมีความฉลาดอยู่ภายในอย่างที่หลายคนมักจะมองข้ามจึงคิดว่าเขาแค่จะกวนใจเราเล่น ๆ เท่านั้น ทั้งที่การที่สุนัขกระโดดเกาะอาจจะมีความนัยแฝงที่คุณอาจคิดไม่ถึงอยู่ก็ได้ หกอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างวันนี้เราจะมาบอกกัน คิดว่าการกระทำของน้องจะตรงกับข้อใดที่เราบอกมามากสุดก็ลองสังเกตแววตาและการร้องของเขาดูนะ คุณเป็นเจ้าของสุนัข…ราเชื่อว่าคุณจะสามารถรู้ได้อยู่แล้ว

“ความหิว” ทำให้สุนัขกระโดดเกาะเรา

การที่สุนัขกระโดดเกาะเราย่อมมีความหมายแฝงว่าเขาอาจรู้สึกหิวโหยอยู่ก็เป็นได้ ดูจากความรนรานของสุนัขคุณที่หากเขาแลบลิ้นยาวทำเสียงแฮ่ ๆ ๆ ด้วยน้ำลายที่เริ่มจะหยดคุณก็ลองถามเขาดู หากเขาเห่ารับหรือทำท่าทีแลบลิ้นมากกว่าเดิมก็มีความเป็นไปได้ เพราะสุนัขมักจะต้องรับประทานอาหารที่ตรงเวลา แต่หากน้องไปวิ่งเล่นนาน ๆ ก็อาจจะทำให้หิวเร็วก่อนเวลาได้ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมบางวันเขาก็รีบมาขออาหารคุณ หากเขาไม่มาขอแบบปกติแต่มาในลักษณะกระโดเกาะแสดงว่าคุณยังไม่ได้ทำให้เขาเห็นว่าวันนี้มีอาหารประจำมื้อให้ สุนัขก็กลัวไม่ได้อาหารเหมือนกันนะ

“การอยากได้รับความสนใจ” ทำให้สุนัขกระโดดเกาะเรา

การที่สุนัขกระโดดเกาะเราพร้อมกับส่ายหางและพยายามดีดตัวหาในขณะที่มือเกาะตัวเราไว้แล้วแสดงว่าเขาอาจต้องการจะอยากให้คุณเล่นกับเขาก็เป็นได้ ลองนึกดูว่าคุณไม่ค่อยมีเวลามาชวนเขาเล่น ชวนเขาทำกิจกรรม หรือพูดคุยกับเขาน้อยหรือเปล่าในช่วงนี้ น้องเขาอาจจะเหงาจนทนไม่ไหวต้องเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแบบจู่โจมเองแบบนี้อย่างน้อยเล่นกับเขาหน่อยก็ดีนะ ยิ่งจ้องตาแป๋วด้วยนี่ใช่เลย

“การอยากให้ลูบหัว” ทำให้สุนัขกระโดดเกาะเรา

การที่สุนัขกระโดดเกาะเราอาจหมายความว่าอยากให้เราลูบหัวก็ได้ หากเขาทำท่าเสริมโดยการซุกหน้ากับร่างกายของเราแล้วคลอเคลียเบา ๆ คล้ายแมวหรือพยักหน้าถี่ ๆ ก็เป็นไปได้มากที่ข้อสันนิษฐานนี้จะเป็นไปได้ บางทีสุนัขก็รู้สึกเหงา ยิ่งเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยชอบออกไปไหน ติดบ้านก็มักจะชอบอยู่ใกล้คุณมากจนอยากให้คุณทำให้เขารู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาด้วยการลูบหัวก็เป็นได้ เพราะมันแสดงว่าคุณยอมรับเขาเป็นคนในครอบครัวเสมอ

เครดิตภาพ : pixabay

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #สุนัขกระโดดเกาะ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ทำไมผู้คนถึงหลงใหลใน “เสียงร้องของนกไนติงเกล”

“ฟังนกไนติงเกล ฟังเสียงไนติงเกล ช่างหวานเพราะเสนาะใจ” เพลงการ์ตูนดิสนีย์เรื่อง “ซินเดอเรลล่า”หวนเข้ามาในโสตการนึกถึงทันทีที่ตัวเองได้มีโอกาสมาพูดถึง “นกไนติงเกล” นกยุโรปที่ได้ชื่อว่า “มีเสียงร้องไพเราะที่สุดของโลก” จนบางคนถึงขนาดพยายามตามหาเมื่อนำนกไนติงเกลมาเลี้ยงเป็นสีสันความสุนทรีย์ใจให้สมาชิกในบ้านกันเลยทีเดียว แต่ให้เขาอยู่กับป่าไม้ที่ตัวเองรักจะดีที่สุด เพราะแม้จะร้องเสียงไพเราะแค่ไหน แต่หากได้อยู่แต่ในกรงทองล่ะก็น้ำเสียงของนกไนติงเกลก็อาจจะแผ่วลงบ่งบอกถึงความเศร้าโศกที่ต้องจากครอบครัวและเพื่อนฝูงก็เป็นได้ เราควรจะฟังจากธรรมชาติของเขาที่อยากร้องให้คุณฟังเองจะดีที่สุด แล้วคุณอยากรู้หรือไม่ว่าทำไมผู้คนทั่วโลกถึงได้หลงใหลใน “เสียงร้องของนกไนติงเกล”กันนักจนมีการปล่อยเพลงกับกาพย์กลอนบอกเล่าเสียงสวรรค์ของนกไนติงเกลขึ้นมามากมาย มาร่วมไขสาเหตุไปพร้อมกันในบทความนี้เลย

นกไนติงเกลมีน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

นกไนติงเกลเป็นนกที่มีเสียงหลากหลายโทนในการร้องตั้งแต่โทนเสียงแหลมถี่ ๆ ไปจนถึงโทนเสียงอ่อนเล็ก ๆ ดูน่ารักได้ ทำให้เวลาฟังแล้วรู้สึกไม่เบื่อเลยสักนิด หากเปรียบกับอากาศก็เหมือนกับการได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบายและอบอุ่นภายในวันเดียวกันเลย ใครที่ได้ฟังเสียงนกไนติงเกลเป็นประจำจะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีและผ่อนคลายความเครียดได้มาก ซึ่งนกชนิดอื่นนั้นน้อยนักจะมีเอกลักษณ์ในโทนเสียงหลากหลายเหมือนนกไนติงเกล จึงเป็นสาเหตุให้เสียงนกไนติงเกลมีความไพเราะน่าหลงใหลและสงบใจได้ดีด้วย

นกไนติงเกลมีเสียงที่ร้องออกมาเป็นชั้น

นกไนติงเกลเป็นนกที่มีเสียงร้องไม่ได้ถี่แบบเรียบ ๆ แต่เสียงจะมีระดับการเปล่งออกมาตั้งแต่ชั้นที่ขีดต่ำจนถึงโวคอลสูงซึ่งจะค่อย ๆ ไต่ระดับมาจนดังก้องไปทั่วทั้งป่าและจากนั้นจึงจะร้องเปล่งเสียงถี่ ๆ สูงต่ำสลับกันไปเหมือนเวลาที่นักร้องกำลังเล่นลูกคอเวลาร้องเพลง หากให้เปรียบกับนักร้องเพลงแบบใดก็คงไม่พ้นนักร้องโอเปร่าที่มีการเปล่งเสียงทรงพลังก้องทั่วโรงละคร อีกทั้งยังมีศิลปะในการถ่ายทอดทำนองความไพเราะของเพลงที่ลึกซึ้งตามโน้ตในระหว่างเปิดปากให้กว้างด้วย ต้นกำเนิดของโอเปร่าส่วนหนึ่งจึงมาจากเสียงร้องของนกไนติงเกลที่ผู้คนหลงใหลกันนั่นเอง

นกไนติงเกลสามารถใช้ความสามารถพิเศษจากเสียงร้องได้

เสียงร้องที่น่าหลงใหลของนกไนติงเกลนั้นนอกจากจะไพเราะสำหรับมนุษย์แล้ว ในหมู่นกด้วยกันเองก็ยังสามารถสร้างความหลงใหลได้ด้วยความสามารถพิเศษในการร้องเฉพาะบางเสียงเพื่อเกี้ยวพาราสีนกตัวเมียซึ่งจะทำเช่นนั้นในช่วง ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนกไนติงเกลตัวผู้ที่ร้องอยู่เรื่อยๆ จวบจนถึงเวลาที่ทำรัง วางไข่ และเลี้ยงลูกเลย เป็นครอบครัวนกที่อยู่ท่ามกลางเสียงเพลงได้อย่างมีศิลปะเสียจริง

เครดิตภาพ : ladnydom.pl,th.womanexpertus.com,pikist.com

#เสียงนกไนติเกล #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

เอาใจทาสแมว รวมเรื่องเกี่ยวกับแมว ที่เหล่าทาสอาจยังไม่รู้

สวัสดีค่ะเหล่าทาสแมวทั้งหลาย ทั้งทาสแมวตัวยง และทาสแมวมือสมัครเล่น วันนี้อยากจะเอาใจทาสแมวทั้งหลายด้วยการรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับแมว ที่เหล่าทาสอาจยังไม่รู้ มาฝากกันนะคะ เพราะเชื่อได้เลยว่าบางอย่างนั้นเราต้องนึกไม่ถึงอย่างแน่นอน 

รวมเรื่องเกี่ยวกับแมว ที่เราได้นำมาฝากทาสแมวในวันนี้นั้น เพราะต้องการให้ทาสแมวอย่างเราๆนั้น เข้าใจในตัวของเจ้านายหรือแมวอย่างแท้จริง เพราะแมวยังมีเรื่องให้เราคาดไม่ถึงอีกเยอะ

  • แมวมีเซนส์เกี่ยวกับแผ่นดินไหว้เป็นอย่างดี

เหล่าทาสทั้งหลายรู้หรือไม่ว่าใต้อุ้งเท้าของแมวนั้นเซนซิทีฟเป็นอย่างมาก ดังนั้นแมวทุกตัวจะสามารถรับรู้ได้หากจะเกิดแผ่นดินไหว และหากเราพบว่าพฤติกรรมของแมวนั้นแปลกๆไปละก็ ให้เตรียมตัวถึงบางสิ่งบางอย่างไว้ได้เลย

  • ฝันของเหล่าเจ้าแมว

แมวก็มีฝันเหมือนกันนะเจ้าทาส โดยฝันของแมวนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในสภาวะที่ผ่อนคลาย และร่างกายหลับลึก แถมในแมวนั้นยังมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับในเวลาที่คนเรากำลังฝันนั่นเอง

  • ความสามารถด้านการย่อยอาหาร

ทาสรู้หรือไม่ว่า กระเพาะอาหารของแมวนั้นสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยที่ไม่ต้องเคี้ยวเลยแหละ

  • ลงโทษเราหรอทาส เราไม่รู้หรอก

สำหรับแมวของใครที่ดื้อมาก ดื้อแบบสุดๆนั้น คงจะมีหลายครั้งที่เราหมั่นเขี้ยวและคิดที่จะลงโทษ แต่ทาสต้องเตรียมใจไว้อย่างหนึ่งนะ เพราะว่าการที่เราลงโทษแมวนั้น ไม่ส่งผลอะไรเลย เพราะแมวนั้นไม่มีทางเข้าใจในสิ่งที่เรากำลังทำอย่างเด็ดขาด ดังนั้นและหากเราต้องการฝึกให้แมวของเรานั้นทำตามคำสั่งของเรา ต้องใช้วิธีการให้รางวัลแทน

  • แมวทักทายกันด้วยการแตะจมูกนะทาส

ไม่ต้องสงสัยแล้วหากพบว่าแมวของคุณนั้นเอาจมูกไปแตะกับจมูกของแมวตัวอื่นนั้น เพราะอาการดังกล่าวนี้เป็นการทักทายกันตามฉบับของแมวเท่านั้นเอง แต่พวกมันจะทำกิริยาดังกล่าวนี้กับแมวที่รู้สึกคุ้นเคยเท่านั้นนะ เพื่อเป็นการถามไถ่ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างเท่านั้นเอง

  • ตั้งใจฟังเวลาแมวสื่อสารด้วยนะ

ทาสทั้งหลายรู้หรือไม่ว่าแมวนั้นก็สื่อสารกับเราเหมือนกันนะ โดยให้ลองสังเกตว่าแมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกันตลอด ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ที่พวกมันยังเล็ก โดยแมวนั้นรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ตลอดเพื่อใช้สื่อสารกับเรา 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับรวมเรื่องเกี่ยวกับแมวที่ได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ เราหวังว่าเหล่าทาสทั้งหลายคงจะมีความเข้าใจในตัวเจ้านายของเรามากขึ้นแล้วนะคะ และอย่าลืมเลี้ยงและดูแลเจ้านายของเราเป็นอย่างดีนะคะ

#รวมเรื่องเกี่ยวกับแมว #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ทำไมสุนัขกับแมวจึงไม่ถูกกัน?

หลายคนอาจรู้กันอยู่แล้วว่า “สุนัข” กับ “แมว” มักจะไม่ค่อยถูกกันหากเปรียบเทียบก็เหมือนลิ้นกับฟันที่พบกันเมื่อไหร่ก็รู้เรื่อง ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพลาดท่าให้กันอยู่ตลอดเวลา ไม่พลาดทางกายก็พลาดทางใจจนเกิดเรื่องราวปั่นป่วนในบ้านของผู้เลี้ยงบ่อยครั้งไม่เว้นแต่ละวันเลยทีเดียว แม้จะเลี้ยงพวกเขามาคู่กันตั้งแต่เด็กก็ยังมีเรื่องให้ทะเลาะและฟัดเหวี่ยงกันบ่อย ๆ หากเขาเป็นสุนัขกับแมว ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นการไม่ถูกกันแบบแกล้งแหย่ ๆ แบบสะใจหรือไม่ถูกแบบเกลียดจนไม่อยากให้มีอีกฝ่ายอยู่ในบ้านกันเลยก็เท่านั้น เพราะอะไรกันนะที่ทำให้สัตว์ที่มี 4 ขาและจนที่นุ่มน่ารักมองดูลักษณะโดยรวมแล้วไม่ค่อยต่างกันนักกลับไม่ถูกกันขนาดนี้ เรารู้ว่าหลายคนสงสัย…ฉะนั้นไปหาคำตอบในบทความพร้อม ๆ กันเถอะ

สุนัขกับแมวมีนิสัยต่างกัน

สุนัขกับแมวเป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยไม่แตกต่างกันแม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน แต่สำหรับตัวของสุนัขนั้นจะชอบเที่ยวออกจากบ้านแค่เฉพาะในเวลากลางวันและไปเพียงไม่นาน ส่วนใหญ่ก็จะรีบกลับเข้าบ้านมาอยู่กับเจ้าของเพื่อนั่งพักผ่อนคอยตรวจดูความผิดปกติภายในบ้านเหมือนยามหากได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงผิดปกติก็จะเห่าเรียกเจ้าของทันที แม้แต่เวลาที่มีแขกมาบ้าน รักสันโดษ ส่วนแมวมักจะเป็นสัตว์ที่ชอบเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ตลอดเวลาหากเราไม่ได้เลี้ยงภายในบ้าน รักอิสระสูง แต่พอบทจะได้กลับมาหาเจ้าของนี่ก็คลอเคลียให้เขาชอบเป็นที่หนึ่งเลย เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ขี้อ้อนเก่ง ล่าสัตว์เล็กดี แต่ก็ขี้กลัวง่ายกว่าสุนัขมาก และเจ้าเล่ห์สุด ๆ จึงทำให้สัตว์ที่มีความซื่อตรงกับสัตว์เจ้าเล่ห์อย่างสุนัขกับแมวมักจะไม่ถูกกัน

สุนัขกับแมวมีขนาดตัวคนละแบบกัน

แม้ว่าภาพรวมของสุนัขกับแมวจะดูคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วสัตว์ทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะร่างกายที่ต่างกันมาก โดยสุนัขจะมีลำตัวที่อวบกว่าแมวและดูมีเนื้อมีหนังที่แข็งแรงกว่า ตัวก็สูงสง่า มีสายตาที่ว่องไว แตกต่างกับแมวที่ตัวเตี้ย มีขนาดเล็ก กล้ามเนื้อลำตัวก็ดูผอมบาง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถใช้ความที่ขาเล็กและตัวเล็กกว่าวิ่งได้ว่องไวราวกับเสือจนหลายครั้งสุนัขที่ต้องการไล่จับสัตว์ตัวเล็กกว่าก็ตามจับไม่ทัน ด้วยตามธรรมชาติของสัตว์ใหญ่นั้นมักจะมองสัตว์เล็กเป็นเหมือนเหยื่ออยู่แล้วจึงทำให้สุนัขกับแมวไม่ถูกกันเท่าไหร่

สุนัขกับแมวมักมีความอิจฉาในรักที่เจ้าของมีให้เสมอ ในกรณีที่บ้านหลังหนึ่งเลี้ยงสุนัขกับแมวไว้คู่กันอาจจะทำให้เกิดการอิจฉากลัวว่าเจ้าของจะแย่งความรักที่มีให้ต่อตัวเองได้ และยิ่งเป็นสัตว์คนละชนิดอยู่แล้วจึงทำให้สุนัขกับแมวไม่ถูกกัน มักจะไล่ล่ากันบ่อย ๆ ส่วนแมวก็มักจะเป็นฝ่ายร้องยั่วสุนัขให้โมโหบ่อย ๆ ตรงนี้เจอบ่อยมากจากประสบการณ์ตรง เรียกได้ว่าหากไม่เกลียดแบบแค้นก็เป็นการเกลียดหน้ากันเฉย ๆ ล่ะ

เครดิตภาพ : pixabay

#สุนัขกับแมว #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีจัดการขนของสุนัขและแมวแบบง่ายๆ

เชื่อเลยว่าสำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้านนั้นคงจะปวดหัวไม่น้อยเลยกับปัญหาขนของเหล่าสัตว์เลี้ยงที่มักจะฟุ้งกระจายอยู่เต็มห้องไปหมด บ้างก็ติดตามโซฟาบ้าง บ้างก็อยู่ตามพรมที่พื้น โดยเฉพาะช่วงผลัดขนของเหล่าสัตว์เลี้ยงละก็ รับรองว่าปวดหัวมากอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงลิสต์มาพร้อมแล้วกับวิธีจัดการขนของสุนัขและแมวแบบง่ายๆ วิธีไม่ยุ่งยากมาฝากเพื่อนๆทุกคนกันค่ะ

โดยวิธีจัดการขนของสุนัขและแมวแบบง่ายๆ วิธีไม่ยุ่งยากที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้นั้นเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังประหยัดเวลาอีกด้วย มาฝากทุกคนกัน เพื่อช่วยแก้ปัญหากวนใจที่มีอยู่ให้ลดลง จะมีวิธีไหนบ้าง ไปติดดตามกันเลยค่ะ

  • เริ่มจากการที่เรานั้นหมั่นแปรงขนให้น้องหมาและน้องแมวอยู่สม่ำเสมอค่ะ เพราะการที่เราแปรงขนให้น้องหมาน้องแมวบ่อยๆนั้นจะช่วยลดการร่วงของเส้นขนไปติดตามที่ต่างๆได้อย่างมากทีเดียวค่ะ
  • ใช้แกนของม้วนกระดาษทิชชู่ พันด้วยเทปใส โดยให้หงายด้านกาวของเทปใสนั้นออกมา ได้ผิวด้านกาวนั้นอยู่ด้านนอก จากนั้นนำไปกลิ้งตามเสื้อผ้าเพื่อเป็นการทำความสะอาดขนของน้องหมาและน้องแมวที่ติดตามเสื้อผ้าของเราค่ะ
  • ใช้นำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ หรือใช้น้ำสบู่ จากนั้นนำไปชุบเข้าด้วยกันกับผ้าเนื้อนุ่ม จากนั้นนำมาเช็ดทำความสะอาดตามโต๊ะ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ที่มีขนของน้องหมาและน้องแมวติดอยู่
  • ใช้ถุงมือยางที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวมากกว่าปกติ ลูบไปตามสถานที่ต่างๆไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆที่มีขนของน้องหมาและน้องแมวติดอยู่ ก็จะสามารถช่วยทำความสะอาดได้เช่นเดียวกันค่ะ
  • หรือหากพบว่าขนของน้องหมาหรือน้องแมวนั้นไปติดอยู่ในที่ที่ทำความสะอาดได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นโซฟา เบาะผ้า หรือว่าจะเป็นพรมนั้น ลองหาแปรงสำหรับกำจัดขนน้องหมาและน้องแมวโดยเฉพาะมาอยู่ติดบ้านไว้ เพื่อไว้ใช้สำหรับทำความสะอาด เพราะหากว่าเรามีขนของสัตว์เลี้ยงฟุ้งกระจายอยู่เต็มบ้านละก็อาจนำมาสู่โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น ภูมิแพ้ เป็นต้น

เป็นยังไงกันบ้างคะกับวิธีจัดการขนของสุนัขและแมวแบบง่ายๆ วิธีไม่ยุ่งยากที่เราได้นำมาฝากทุกคนกัน หวังว่าคงจะช่วยลดปัญหากวนใจเกี่ยวกับขนของเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณลงบ้าง ต่อไปนี้เหล่าสัตว์เลี้ยงก็จะสามารถอยู่ร่วมกันกับครอบครัวได้เป็นอย่างดีแล้ว

#วิธีจัดการขนของสุนัขและแมว #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

5 ประโยชน์ดีๆ จากการมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน

หลายคนคงจะคิดว่าการที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านก็เพียงเพื่อจะช่วยในการเฝ้าบ้านเพียงเท่านั้น หรือเป็นเพื่อนของเราในยามที่เรารู้สึกเหงาเวลาที่อยู่บ้านเท่านั้น แต่จริงๆแล้วแล้วสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีประโยชน์ต่อเรามากกว่าที่พวกเราคิดอย่างมาก วันนี้เราจึงมี5 ประโยชน์ดีๆ จากการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านมาฝากเพื่อนๆทุกคน เพื่อที่จะได้รู้ว่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นมีประโยชน์ต่อเรามากแค่ไหน

โดย5 ประโยชน์ดีๆ จากการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านนั้น โดยได้มีการสำรวจและพบว่า คนที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้านนั้นพบว่ามีความสุขมากกว่าคนทั่วไปถึง 90 % เลยทีเดียว

  1. สัตว์เลี้ยงนั้นช่วยให้เรามีอารมณ์ที่แจ่มใส

มีผลวิจัยที่ชี้ชัดแล้วว่าการที่เรามีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้านนั้น ทุกๆครั้งที่คุณได้ใช้เวลาร่วมกันกับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณนั้น คุณจะรู้สึกมีความสุขเพิ่มมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกปลอดภัยอีกด้วย เนื่องจากเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณนั้นจะมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า สารออกซิโทซิน ซึ่งเป็นสารแห่งคววามสุข ที่จะหลั่งออกมาแล้วทำให้เรารู้สึกดีตามไปด้วย

  1. ช่วยให้คุณได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

เพราะเหล่าสัตว์เลี้ยงตัวป่วนของคุณนั้นไม่ยอมอยู่เฉยๆเอาซ่ะเลย พวกมันต้องการที่จะวิ่งเล่นอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะสุนัข นั่งจึงทำให้คุณต้องพาพวกมันออกไปเดินเล่นอยู่บ่อยๆ ทำให้คุณเองก็ได้ออกกำลังกายไปด้วย ส่งผลให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย

3. ช่วยให้คุณนั้นสามารถทำงานได้ดีขึ้น

โดยมีผลการวิจัยที่บ่งชี้ว่า การที่คุณมีเหล่าสัตว์เลี้ยงอยู่ในบ้านนั้น มันจะช่วยให้คุณมีความเครียดลดลง มีความสุขเพิ่มมากขึ้น มีจิตใจที่อ่อนโยนและแจ่มใส ส่งผลให้สามารถทำงานได้อย่างสร้างสรรค์ และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

4. ช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักนั้นดีขึ้น

มีผลวิจัยบ่งชี้ว่าคู่รักที่มีสัตว์เลี้ยงร่วมกันนั้นพบว่าจะมีความดันที่ต่ำกว่าคู่ที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง และพบว่ายังมีความสุขมากกว่าและความเครียดน้อยกว่าอีกด้วย

5. ช่วยให้เราสมหวังในเรื่องความรักได้อีกด้วย

นั่นก็เพราะว่าคนที่มีความชอบในอะไรคล้ายๆกัน มักจะถูกดึงดูดเข้าหากันได้ง่าย หรือบางคนใช้เหล่าสัตว์เลี้ยงนี่แหละเป็นเหมือนกามเทพน้อย และคอยช่วยให้ทอดสะพานไปถึงคนที่พวกเขาแอบปิ๊ง โดยหาประเด็นพูดคุยผ่านเจ้าเหล่าสัตว์เลี้ยงพวกนั้น จนนำไปสู่การสานต่อความสัมพันธ์ในที่สุด

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ5 ประโยชน์ดีๆ จากการมีสัตว์เลี้ยงในบ้านที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ เห็นหรือยังคะว่าการที่เรามีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่บ้านนั้น มีประโยชน์ต่อเรามากแค่ไหน ดังนั้นแล้วลองหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาดูแล และให้ความรักกับมันกันนะคะ

#ประโยชน์จากการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

พฤติกรรมของสุนัขแบบนี้ หมายความว่ายังไงกันนะ

หลายคนคงเคยสังเกตอาหารของสุนัขคุณใช่มั้ยคะ บางครั้งพวกมันก็กระดิกหาง บางครั้งพวกมันก็ชูหาง บางครั้งพวกมันก็นอนหมอบ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นที่พวกมันแสดงออกมานั่นเองค่ะ ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าพวกมันนั้นมีอุปนิสัยอย่างไร หรือว่าพวกมันต้องการอะไร หรือกำลังรู้สึกอะไรอยู่บ้าง วันนี้เราจึงมีเหล่าพฤติกรรมของเหล่าสุนัขว่าพฤติกรรมของสุนัขแบบนี้ หมายความว่ายังไงกันนะ มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

โดยเราจะมาทำความเข้าใจบรรดาเจ้าตูบของพวกเรากันว่าพฤติกรรมของสุนัขแบบนี้ หมายความว่ายังไงกันนะ เพื่อที่เราจะได้มีความเข้าอกเข้าใจในเหล่าเจ้าตูบมากขึ้น ว่าซึ่งที่พวกเขาแสดงออกมานั้นพยายามจะบอกอะไรเรากันแน่

  1. นอนหงาย

หากเจ้าตูบของคุณนั้นแสดงอาการแบบว่า กะพริบตาและทำตาหยีนั้น นั่งกำลังแปลว่าเจ้าตูบนั้นกำลังมีความสุขอย่างมากมาย หรือบางครั้งอาจจะดูเหมือนมันกำลังยิ้มอยู่ด้วยนะ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเวลาที่เราลูบหัวลูบตัว หรือเกาคอเกาพุงให้นั่นเอง

2. นอนหงาย

การที่เจ้าตูบของเรานอนหงานอ้าซ่านั้น แสดงให้เรารู้ว่าเจ้าตูบของเรานั้นรู้สึกไว้ใจและรู้สึกปลอดภัยกับเรามากแค่ไหน เพราะท่าทางแบบนี้นั้นมีไว้เพื่อใช้ประจบเจ้านายที่มันรักและก็ไว้ใจเป็นอย่างมากนั่นเอง

3. แยกเขี้ยวขู่

หากพบว่าวันดีคืนดีเจ้าตูบของเรานั้นอยู่ดีๆก็มีอาการแยกเขี้ยวขู่ขึ้นมา มันแสดงถึงอาการที่ไม่ค่อยพอใจนักของเจ้าตูบเรานั่นเองค่ะ โดยมักจะแสดงออกมาเวลาที่เจ้าตูบของเรากำลังโกรธ หรือกำลังรู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังถูกคุกคามอยู่นั่นเองค่ะ

4. หูตั้ง ยกหางขึ้นตั้งตรง

หากเทียบกับคนแล้วคนจะเหมือนกับนักวิ่งที่เตรียมตัวออกวิ่งยังไงอย่างงั้นเลย เพราะการที่เจ้าตูบของคุณแสดงท่าทางแบบนี้ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าเจ้าตูบนั้นกำลังระวังตัวและพร้อมที่จะจู่โจมกับอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มันคิดว่าเป็นศัตรูของมันนั่นเอง

5. อยู่ดีๆก็หางตก และซุกหว่างขาของเรา

หากพบว่าอยู่ดีเจ้าตูบของเรานั้นอยู่ดีๆก็หางตก และซุกหว่างขาของเรา อาจแปลได้ว่าเจ้าตูบของเรานั้นกำลังรู้สึกหวาดกลัว หรือไม่มั่นใจ และมีความอึดอัด หรือในบางครั้งอาจแปลได้ว่าเขากำลังมีอาการเจ็บป่วยอยู่ด้วยก็ได้

เป็นยังไงกันบ้างคะกับพฤติกรรมของสุนัขแบบนี้ หมายความว่ายังไงกันนะที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เราคงจะมีความเข้าอกเข้าใจในสุนัขของเรามากขึ้นแล้วใช่มั้ยละคะ เพราะเหล่าสุนัขนั้นเขาก็มีจิตใจเหมือนกันกับเราที่อยากให้เราได้เข้าใจเขาเหมือนกัน

#พฤติกรรมสุนัข #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #สัตว์เลี้ยงแสนรู้