Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ปฏิกิริยาที่แตกต่างของ “คนที่สุนัขไว้ใจ” กับ “คนที่สุนัขไม่ไว้ใจ”

หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า สุนัขเป็นสัตว์ที่มีเซ้นส์แรงในการมองมนุษย์ที่ลึกเข้าไปได้ถึงจิตใจภายในเลยเพียงแค่มองเท่านั้น คุณคิดถูกแล้วที่มีสุนัขอยู่ในบ้านเพราะเขาจะคอยทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องสแกนคนกลาย ๆ ให้แก่คุณได้เป็นอย่างดี เวลาที่คุณพาแขกเข้าบ้านในเบื้องต้นที่สุนัขเห็นคนคนนั้นเขาย่อมแสดงท่าทีออกมาบอกคุณได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคุณจะสนใจและยอมรับในเซ้นส์ของมันได้หรือไม่ แต่เราอยากให้คุณเชื่อว่าเขาสามารถบอกคุณได้จริง ๆ ว่าแต่เราจะรู้ได้อย่างไรเล่าว่าปฏิกิริยาแบบใดที่บ่งบอกว่าแขกคนนั้นคือ “คนที่สุนัขไว้ใจ” หรือ “คนที่สุนัขไม่ไว้ใจ” เราจะมาอธิบายแบบสรุปง่าย ๆ ให้คุณเข้าใจเอง

คนที่สุนัขไว้ใจ

“คนที่สุนัขไว้ใจ” ในเบื้องต้นสุนัขก็จะเห่าอีกฝ่ายในฐานะคนแปลกหน้าที่กำลังเข้ามาในบ้านตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งระดับเสียงและน้ำเสียงการเห่าของเขาจะไม่ได้ออกมาในทางที่ตกใจหรือแบบตะคอกด้วยความไม่ชอบ แต่จะเป็นการเห่ารับเท่านั้น อาจมีการเดินตามมาเล็กน้อย แต่ก็อาจจะแค่เว้นระยะห่างหรือเป็นการมาเลีย ๆ ดม ๆ เฉย ๆ พอเดินเข้าใกล้ทางเข้าตัวบ้าน น้องสุนัขของคุณก็จะเดินช้าลงและเลิกเห่าไปเอง ซึ่งพอมาดูอีกทีช่วงขากลับที่แขกคุณออกจากบ้าน สุนัขก็อาจมีการเห่าเหมือนเดิม ทว่าคราวนี้เขาจะแค่ยืนดูหรือไม่ก็นั่ง ๆ นอน ๆ เห่าอย่างนั้นประมาณว่าเจอคนแปลกหน้า ขอส่งท้ายให้ก่อนกลับแล้วกันเท่านั้นเอง

คนที่สุนัขไม่ไว้ใจ

“คนที่สุนัขไม่ไว้ใจ” เมื่อเขาเข้ามาในบ้านของคุณแล้ว สุนัขจะเห่าด้วยน้ำเสียงที่ดังสนั่นกว่าการเห่าแขกแปลกหน้าหรือเห่าสุนัขด้วยกันทั่วไปมาก บางตัวอาจจะมีการร้องในลำคอแบบข่มฮึ่ม ๆ กัดฟันจ้องอีกฝ่ายตาไม่กะพริบด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังจะวิ่งเข้ามาเพื่อตั้งท่ากระโดดใส่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรแบบรวดเร็วด้วย ซึ่งปฏิกิริยาเช่นนี้หากสุนัขคุณไม่ใช่สุนัขที่ดุร้ายหรือไล่กัดใครก็บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาไม่ไว้ใจในคนคนนี้มาก ยิ่งเดินเข้าใกล้บ้านมากแค่ไหน สุนัขของคุณก็จะยิ่งวิ่งมาขวางอีกฝ่ายไว้มากเท่านั้นด้วยความกลัวว่าคุณอาจจะได้รับอันตรายจากคนคนนี้เมื่อเดินเข้าไปในบ้านหรืออาจเกิดสถานการณ์ไม่ดีขึ้น แม้ว่าคุณจะตั้งท่าดุน้องสุนัขแล้ว เขาก็จะไม่ฟังคุณเลย นี่คือสัญญาณผิดปกติที่เขาตั้งใจส่งให้คุณรู้

ฉะนั้นหากคุณอยากรู้ว่าแขกของคุณภายในมีจุดประสงค์ที่ดีจริงหรือไม่ก็ลองเชิญชวนเขาให้เข้ามาคุยกันที่บ้านดูสิ น้องสุนัขจะเป็นคนบอกคุณได้เบื้องต้นได้ แล้วหลังจากนั้นคุณก็ลองสังเกตพฤติกรรมของอีกฝ่ายดู อยู่กับเขาด้วยความไม่ไว้ใจเกินไปจะดีที่สุด

เครดิตภาพ : pixabay

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #สุนัข #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“หนอนแอนตาร์กติก” สิ่งมีชีวิตเงางามที่คุณอาจสะพรึงในทะเลลึก

ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศยามเช้าค่อนข้างหนาวทำให้เราที่ตื่นมาเขียนบทความพลันนึกถึงสัตว์ทะเลอยู่บ่อย ๆ เอาจริงเราก็รู้ล่ะว่าตัวเองดูจะเขียนถึงสัตว์ทะเลเยอะแล้ว แต่ก็อย่างว่าเนอะ…แม้จะเขียนเยอะแค่ไหนแต่สัตว์ทะเลก็ยังคงอยู่ในหัวข้อที่มีคนจับตามองและรออ่านกันด้วยความสนใจอยู่เสมอ เพราะใต้มหาสมุทรอันลึกล้ำยากแท้หยั่งถึงมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่ซ่อนตัวอยู่และรอให้เราไปค้นหาพวกมันเพื่อบอกให้รู้ว่าโลกมนุษย์ไม่ได้มีแต่สิ่งมีชีวิตที่ดูธรรมดาอย่างปลาต่าง ๆ แบบที่เราเห็นเสมอ แต่สัตว์ทะเลหลายตัวที่ถูกค้นพบมาใหม่ต่างก็มีความแปลกแหวกแนวที่สามารถสู้กับความแปลกประหลาดของสัตว์นอกโลกที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ไซไฟได้ดีเช่นกัน วันนี้เองเราก็เลยถือโอกาสนำเรื่องราวของหนึ่งในสัตว์แปลกใต้ทะเลลึกอย่าง “หนอนแอนตาร์กติก” ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของเจ้าสัตว์ที่สวยงามเป็นเงาพริ้งแต่แฝงด้วยความสะพรึงในรูปลักษณ์เล็กน้อยนี้

ทำความรู้จักกับ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” หรือชื่อวิทยาศาสตร์คือ “Eulagisca Gigantea” เป็นหนอนทะเลขนาดเล็กลำตัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดทับซ้อนยาวขนาด 8 นิ้วที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติกที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นยะเยือกภายใต้ระดับความลึกประมาณ 40 ถึง 700 เมตร มีลักษณะโดดเด่นของลำตัวกับหน้าท้องที่แบนราบคล้ายวงรีและมีขากับขนสีทองเหลืองอร่ามประกายแสงในที่มืดเงางามคล้ายขนแปรงมากถึง 40 คู่ ไม่มีตา แต่มีส่วนศีรษะซึ่งรับประสาทสัมผัสทุกด้านกับปากที่มีฟันแหลมคมทั้งส่วนบนและส่วนล่างซึ่งเชื่อมกับขากรรไกรใหญ่ที่แข็งแรงดูสะพรึง หากดูนาน ๆ อาจจะรู้สึกว่าเจ้าหนอนแอนตาร์กติกมีลักษณะในอีกมุมที่คล้ายกับตะขาบบนบกเลย

การดำรงชีวิตของ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” มีพฤติกรรมชอบซ่อนตัวอยู่ใต้ตะกอนในรูที่ขุดและใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไม่เป็นกลุ่มเป็นฝูงคล้ายกับสัตว์ทะเลทั่วไป โดยเมื่อหิวมันก็จะพุ่งจู่โจมเหยื่อที่เป็นสัตว์ทะเลตัวเล็กกว่าหรือขนาดเท่ากันโดยไม่มีกำหนดเวลาระยะกลางวันหรือกลางคืน ซึ่งวิธีการกินจะใช้ปากที่มีลักษณะเป็นท่อดูดส่วนหนึ่งของเหยื่อให้ติดกับก่อนจะใช้ฟันบริเวณงวงฉีกกัดเหยื่อทันที มันจะอยู่ของมันเองอย่างสงบในเวลาปกติ แต่เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ก็จะมีนิสัยที่ก้าวร้าวและเอาแต่ใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งเกิดความกระตือรือร้นในการผสมพันธุ์กับเพศตรงข้ามจนดำเนินการได้รวดเร็วก่อนที่พอหมดฤดูก็จะแยกย้ายไปอยู่ที่ของตัวเองดังเดิมและปล่อยไข่ให้ลอยตามน้ำแล้วค่อย ๆ เติบโตเป็นตัวอ่อนเองจนโตได้อย่างอิสระ

อาหารสุดโปรดของ “หนอนแอนตาร์กติก”

“หนอนแอนตาร์กติก” มีอาหารสุดโปรดที่มันชื่นชอบมาก ได้แก่ แมงมุมทะเล, หนอนทะเลด้วยกันเองแต่เป็นพันธุ์อื่น, กุ้ง – กั้ง และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ที่ตัวเล็ก แต่จะไม่ชอบกินปลานักหากเลือกได้ ซึ่งมันเป็นสัตว์ที่ถูกให้ฉายาว่าหนอนขากรรไกรแกร่งมากที่สุดอีกชนิดหนึ่งของมหาสมุทรเลย

เครดิตภาพ : bbs.boingboing.net

#สัตว์แปลก #สัตว์ใต้น้ำ #หนอนแอนตาร์กติก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เพื่อนสุนัขสี่ขา ที่มีมิตรกับผู้เลี้ยงมากที่สุด

เป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องกินจุ และเป็นมิตรอย่างมาก สุนัขสายพันธ์นี้มีหน้าตาที่ดูเป็นมิตมากๆร อีกทั้งยังเป็นสุนัข ที่มีความฉลาด และแสนรู้ อีกทั้งเจ้าลาบราดอร์นี้ ก็ยังมีความเป็นมิตรกับเด็กๆ และสามารถเข้ากันได้ดีกับสุนัขตัวอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่ฝึกง่าย ซึ่งทำให้สามารถที่จะเป็นเพื่อนกับผู้เลี้ยง และครอบครัวได้อย่างดีเยี่ยม ลาบราดอร์จึงเป็นสัตว์เลี้ยง ที่ผู้คนมักจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่ชอบการออกกำลังกาย แต่ก็ไม่ได้ชอบออกมาก โดยจะอยู่ในระดับกลางๆเท่านั้น เพราะด้วยธรรมชาติ ที่มีความกระตือรือร้น และถ้าหากเขาออกกำลังกายไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็อาจจะทำให้มีนิสัยกัด แทะ ขุด หรืออาจจะเห่ามากไป ซึ่งอาจจะดูขัดกับนิสัยของเขา ที่มีความฉลาดและแสนรู้ แต่ยังไงเขานั้นก็เป็นเพียงแค่สัตว์เลี้ยง และต้องการความเอาใจใส่ ซึ่งเขานั้นพูดไม่ได้ จึงต้องแสดงออกด้วยท่าทีแทน ดังนั้น เมื่อเรารับน้องมาเลี้ยงแล้ว เราต้องมีความเอาใจใส่น้อง และพร้อมที่จะดูแลเขา

ลักษณะทั่วไปของเจ้าสุนัขแสนรู้ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์(Labrador Retriever)

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ที่มีลักษะณะหูพับลง แนบกับด้านข้างของหัว และจะมีขนาดหูที่พอดี ส่วนช่วงหัวนั้นจะมีขนาด ที่ใหญ่และกว้าง ส่วนลำตัวก็จะยาวเล็กน้อย ช่วงอกกว้างและหนา มีขนสองชั้นมันเงา โดยขนชั้นนอกจะมีลักษณะสั้นและหนา ส่วนขนชั้นในนั้นจะนุ่ม และจะมีสีของขนอยู่ด้วยกันหลายสี อย่างเช่น สีดำ สีช็อกโกแลต และสีเหลือง เป็นต้น มีหางที่กลมใหญ่และเรียว ส่วนในเรื่องของน้ำหนักนั้น ระหว่างตัวผู้กับตัวเมียจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็จะไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น โดยตัวผู้นั้นจะมีน้ำหนักอยู่ที่จำนวน 29-36 กิโลกรัม และจะมีความสูงอยู่ที่ 57-62 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 25-31 กิโลกรัม และมีความสูงที่ 55-59 เซนติเมตร ส่วนในเรื่องของช่วงอายุนั้น เจ้าลาบราดอร์จะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12ปี

สิ่งที่ต้องทำเมื่อรับเจ้า ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) สุนัขแสนรู้ยอดนิยม

ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะกินเก่งมากๆ แต่การให้อาหารนั้น จะต้องดูตามช่วงอายุของน้อง โดยจะให้อาหารวันละสองมื้อในปริมาณ 2.5-3 ถ้วยตวง และลาบราดอร์นั้น จะมีช่วงวัยของการเจริญเติบโต อยู่ที่อายุ 4-7 เดือน ซึ่งจะโตเร็วมากๆ และเป็นช่วงที่ทำให้อ่อนแอ การให้อาหารจึงควรเน้นที่คุณภาพ และแคลอรีต่ำ เพื่อจะได้ช่วยชะลอการเจริญเติบโตของสุนัข ไม่ให้เร็วเกินไป และยังช่วยป้องกันโรคที่จะเกิดขึ้นตามมาได้ด้วย
ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever) เป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง เราคนเลี้ยงจึงควรพาเขาออกไปทำกิจจกรรม เพื่อให้เขาได้ใช้พลังของเขา และปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ อย่างเช่น พาเขาไปเดินเล่น ให้ได้ประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้ายังเป็นสุนัขที่เด็กอยู่ เรานั้นก็ไม่ควรที่จะพาเขาออกไปนานเกิน เพราะอาจจะทำให้เหนื่อยง่าย

เครดิตภาพ : pixabay

#ลาบราดอร์ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“แมลงปิกัสโซ” สัตว์แดนซาฮาร่าลายงามดุจฝีมือ Paint ของศิลปิน

ในโลกของเรามีแมลงมากมายที่เป็นสีสันความสวยงามประดับโลกท่ามกลางธรรมชาติซึ่งทำให้เรารู้ว่าความสวยงามที่ให้สีสันและการมีชีวิตชีวาแบบครบสมบูรณ์แบบนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันแน่ แต่ถึงจะมีแมลงหลากหลายชนิดที่สวยงามแค่ไหนก็คงไม่สวยงามเป็นลวดลายศิลปะประหนึ่งถูกวาดและระบายด้วยฝีมือของศิลปินมนุษย์เช่นนี้อย่าง “แมลงปิกัสโซ” แน่นอน เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาดูบทความของเราก็คงคิดเหมือนกันว่ามีแมลงลวดลายแบบนี้อยู่บนโลกของเราด้วยหรือเนี่ย! ใครกันที่เป็นเจ้าของแมลงและลงแรงวาดลวดลายของมันทั่วทั้งตัวได้งดงามประณีตแบบนี้ คงเก่งน่าดู ใช่แล้ว…ผู้ที่สร้างสรรค์ความงดงามลายเพ้นต์สวย ๆ บนตัวของแมลงปิกัสโซก็คือ “พระเจ้า”นี่เอง ตามศาสนาคริสต์แล้ว พระเจ้าคือผู้ที่สร้างธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมากมายในโลก แมลงปิกัสโซเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดมาตามธรรมชาติด้วยฝีมือของพระเจ้า มันอยู่ในโลกที่เป็นอิสระโดยไม่มีเจ้าของใด ๆ ที่เป็นมนุษย์มานั่งเพ้นต์มันหรอก ธรรมชาติคือทุกอย่างที่หล่อหลอมการให้กำเนิดของเจ้าแมลงลายมหัศจรรย์นี้ หากอยากรู้เรื่องราวของแมลงปิกัสโซมากขึ้นก็ตามมาอ่านกันเลย

ทำความรู้จักกับ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” เป็นแมลงขนาด 8 มิลลิเมตรที่จัดอยู่ในวงศ์ของมวนหลังแข็ง มีลักษณะคล้ายตัวด้วงปีกแข็งแต่บริเวณหลังมีความโดดเด่นของลวดลายสวยงามที่มีลายเส้นคมชัดทั้งรูปวงกลม วงแหวน ลายขด และลายคลื่นโค้งสวยในระดับถี่ที่มีสีสันแตกต่างกันซึ่งส่วนใหญ่ที่พบกันมากจะมีลายสีเขียวแก่ สีแดง และสีแดงเป็นหลักอยู่บนพื้นหลังสีเนื้ออ่อนที่ใครต่อใครอาจคิดว่าเหมือนมีคนมาเพ้นต์ลายให้เจ้าแมลงปิกัสโซ แต่ที่จริงแล้วลวดลายบนตัวของแมลงปิกัสโซนี้มีมาตั้งแต่มันเกิดแล้ว ซึ่งด้วยลวดลายที่สวยงามดุจฝีมือสร้างสรรค์ของศิลปินดังอย่างปาโบล รุยซ์ ปิกาโซทำให้มันได้ชื่อนี้มา และพวกมันก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขตร้อนของแอฟริกามาก คุณสามารถไปสำรวจดูมันได้ที่ดังกล่าว ได้แก่ เบนิน แคเมอรูน โกตดิวัวร์ เอธิโอเปีย กานา เคนยา มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย ไนจีเรีย เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ แทนซาเนีย โตโก แซมเบีย และซิมบับเว อีกทั้งยังพบได้ในทะเลทรายซาฮาร่าด้วย 

การดำรงชีวิตของ “แมลงปิกัสโซ”

ในช่วงต้นฤดูแล้งเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม “แมลงปิกัสโซ” จะมีการพัฒนาตัวโตเต็มวัยได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 56 วันเท่านั้นนับจากวันที่มันมีคลอดออกมาในฤดูนี้ และมักจะชื่นชอบการอยู่กับใบไม้ ดอกไม้ป่า ดอกหญ้าหรือต้นหญ้าเพราะเป็นที่หลบภัยจากนักล่าแมลงอื่นได้ดีที่สุด ยิ่งการอยู่กับดอกไม้สวย ๆ ยิ่งทำให้อำพรางตัวจากลายโดดเด่นของมันได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อใดก็ตามที่ถูกจู่โจมจนหนีไปไม่ได้ แมลงปิกัสโซ่ก็จะทำการปล่อยก๊าซพิษที่มีกลิ่นเหม็นออกมาทำให้ศัตรูเกิดความงุนงงและบางทีก็เหม็นจนอีกฝ่ายตายได้เพื่อหาทางหนี คล้ายกับแมลงตด

อาหารสุดโปรดของ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” มีอาหารสุดโปรดที่ชอบกิน ได้แก่ น้ำหวานจากพืชและดอกไม้มากมายในระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่มันอยู่และน้ำจากผลไม้ที่ออกผลสุกสดใหม่ด้วย โดยจะใช้งวงในการเจาะน้ำหวานเข้าไปและดูดออกมากินอย่างจุใจจนกว่าจะอิ่ม

เครดิตภาพ : flickr.com/

#ความรู้เรื่องสัตว์ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #แมลงปิกัสโซ

Categories
Uncategorized

“หมีน้ำ” สัตว์จิ๋วแปดขาผู้มีชีวิตยืนยาวนับร้อยปี!

เชื่อหรือไม่ว่านอกจากแมงกะพรุนอมตะที่มีวงจรชีวิตย้อนกลับสุดน่าพิศวงแล้ว ในทะเลอันกว้างใหญ่ยังมีสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่น่าประหลาดใจอีกชนิดหนึ่งที่เราไม่คิดว่าจะสามารถพบมันได้อยู่ในยุคนี้อย่าง “หมีน้ำ” ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่หมีที่น่ารักมีขนฟู ๆ อย่างที่คุณคิด หากแต่เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีลักษณะอ้วนคล้ายหมีก็เท่านั้น ซึ่งชีวิตของมันทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักทรัพยากรหลายต่อหลายคนทึ่งมาแล้วกับความแข็งแกร่งที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้นานนับร้อยปีซึ่งมนุษย์เราน้อยคนนักที่จะอยู่ถึงได้ ทว่าถึงอย่างนั้นหมีน้ำก็ยังจัดอยู่ในสัตว์น้ำลึกลับที่ได้แต่มีเรื่องบอกเล่าจากคำของนักสำรวจที่เคยค้นพบ แต่ยังไม่มีภาพตัวจริงของมันเพราะมันไม่ค่อยปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าควรนำเจ้าหมีน้ำมาให้ทุกคนได้รู้โลกของมันคงจะดีเลย

ทำความรู้จักกับ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” หรือ “Tardigrada” เป็นสัตว์น้ำดึกดำบรรพ์ไร้กระดูกสันหลังยุคแคมเบรียนขนาดเล็กมากถึง 1 มิลลิเมตรที่พันธุ์ของมันยังคงกระจายในแหล่งน้ำทั่วโลก 1,000 ชนิดตั้งแต่แหล่งน้ำที่ลึกมากที่สุดจนถึงระดับที่สูงที่สุดของโลกอย่างเทือกเขาหิมาลัยมันก็ยังแข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถอยู่ได้ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนมันก็สามารถอยู่ได้อย่างสุขสบายแม้จะไม่มีน้ำสักหยดหรือแม้แต่อากาศ! จนข้อสันนิษฐานที่เกิดจากการสำรวจน้อยยังคงมีหลากหลายข้อที่ไม่ลงตัวแน่ชัดว่าร่างกายมันมีปัจจัยใดที่ทำให้เกิดความพิเศษนี้ แต่ในด้านของลักษณะมีความเชื่อว่ามันอยู่ในสายเดียวกับหนอนตัวกลม เพราะมียีนประเภท HOX ในตัวมันที่อ้วนกลมเป็นมัด ๆ มีขา 4 ขา และมีปากเป็นรูโบ๋ซึ่งสามารถดูดกลืนอาหารลงไปได้รวดเร็ว

การดำรงชีวิตของ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” มีการดำรงชีวิตที่สามารถมีอายุยืนยาวได้ถึงร้อยปีแม้ตัวจะเล็ก ชอบอาศัยอยู่กับที่ที่มองเห็นยากอย่างพวกมอส เห็ด รา ใต้น้ำ และใต้ผืนทราย แม้แต่ในทะเลที่แรงดันเยอะ หมีน้ำก็ยังสามารถทนได้ถึง 6 เท่าตัวเลย โดยการหาอาหารของมีน้ำจะใช้การเดินอย่างเชื่องช้าแต่มีความฉลาดในการมองสิ่งรอบตัวที่ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อตัวเอง และมักจะอยู่ในแบบจำศีลที่ใช้ระยะเวลานานกว่าสัตว์อื่นมากและใช้เวลามากกว่าการออกจากที่อยู่มาหาอาหารกินอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถผสมพันธุ์กับคู่ของมันได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศอีกด้วย

อาหารสุดโปรดของ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” มีอาหารสุดโปรดที่พวกมันชื่นชอบมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืช สาหร่าย แบคทีเรีย โปรโตซัว โรติเฟอร์ หนอนตัวกลม และแม้แต่หมีน้ำชนิดอื่นด้วยกันเองมันก็ยังสามารถกินกันได้ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยแคร์ใด ๆ จริง แต่กลับเก่งจนน่าอิจฉา

เครดิตภาพ : bbc.com

#หมีน้ำ #สัตว์แปลก#สัตว์น้ำ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้ไหม?

ล่าสุดเคยมีข่าวออกมาว่าสุนัขกับแมวติดโควิดทำให้ชาวโลกต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน แน่นอนว่าในใจของทุกคนย่อมคิดเหมือนกันว่า “ถ้าสุนัขกับแมวติดโควิดกันได้ แบบนี้โลกเราคงมาถึงจุดวิกฤติที่แท้ทรูแล้ว”เพราะการจะทำให้สุนัขกับแมวห่างหายจากโควิดได้ก็ต้องใช้วิธีป้องกันรักษาระยะห่างที่ไม่ต่างกับคนคือห้ามให้สุนัขกับแมวออกนอกบ้านเพื่อไม่ให้มีการที่ติดเชื้อไวรัส Covid-19 กัน หากเป็นคนอาจจะทำใจไม่ให้ออกนอกบ้านเมื่อไม่จำเป็นได้ แต่สำหรับสุนัขกับแมวที่ชีวิตกับหัวใจหลักของความสุขที่พวกเขามี คือ การได้ออกไปเล่นกับเพื่อนฝูงด้วยกันอย่างอิสระตามเวลาที่ตัวเองหมดหน้าที่ช่วงกลางวันแล้วกลับบ้านมาช่วงเย็นแบบนี้ จู่ ๆ จะให้มาขัดขวางการความสุขของพวกเขาเป็นเวลานานแค่ไหนก็ตอบไม่ได้แบบนี้อาจจะทำให้เกิดความเครียดอย่างหนักต่อสุนัขกับแมวได้เลย แล้วจะทำอย่างไรดี สุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้จริงหรือเป็นแค่ข่าวที่คนคิดกันไปเองกันแน่? เพราะแม้จะมีข่าวออกมาแต่ก็มีกระแส 2 กระแสที่ว่ามันไม่ใช่โควิดแต่เป็นเชื้อไวรัสที่ติดแค่ในสัตว์ อีกทั้งยังไม่อันตรายและอีกข่าวก็ว่ามันเป็นโควิดที่แพร่กระจายสู่คนได้ สรุปแล้วสุนัขกับแมวสามารถติดโควิดได้ไหม? ขอตอบว่า “สุนัขกับแมวไม่สามารถติดโควิดแบบที่คนอื่นคิดได้แน่นอน” ด้วยเหตุผล 3 ข้อนี้

ไวรัสโควิดมีในสุนัขกับแมวจริง แต่ไม่สามารถติดสู่คนได้

ไวรัส Covid-19 ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกในกลุ่มคนโดยมีต้นกำเนิดมาจากอู่ฮั่น ประเทศจีนนั้นเป็นไวรัสโคโรนาคนละสายพันธุ์กันกับที่มีในสุนัขกับแมว เพราะไวรัสโคโรนาในสุนัขกับแมวที่จริงมีมาก่อนโคโรนาไวรัสของคนนานนับตั้งแต่อดีตแล้ว โดยสุนัขจะมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ชื่อสายพันธุ์ว่า “Canine coronavirus” ซึ่งจะมีอาการจาม หายใจติดขัด ไอ มีน้ำมูกคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ และแมวจะมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสที่ชื่อสายพันธุ์ว่า “Feline coronavirus” อาการจะมีน้ำมูก ตาแฉะ คลื่นไส้ น้ำหนักลด ปวดท้องรุนแรงกว่าสุนัขซึ่งไวรัสนี้จะติดเฉพาะในสัตว์ตามกลุ่มไม่สามารถแพร่กระจายสู่คนได้

สุนัขกับแมวไม่สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดของคนได้

เนื่องจากเป็นคนละสปีชีส์และมีพันธุกรรมที่แตกต่างกันทำให้ไม่สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดที่เป็นสายพันธุ์ของคนได้ทั้งสายพันธุ์ที่มาจากอู่ฮั่นจนถึงสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่กลายพันธุ์จากผลการสำรวจเวลานี้พบว่ายังไม่มีเชื้อใดที่เข้าสู่สุนัขกับแมวจรจัดเลย ผลการตรวจยังมีผลปกติจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าสุนัขกับแมวคุณจะยังปลอดภัยจากไวรัสโควิด 

สุนัขกับแมวมีอัตราการติดเชื้อไวรัสน้อย

จากผลการสำรวจแม้ว่าสุนัขกับแมวจะติดไวรัสโควิดสายพันธุ์ของคนได้แต่อัตราการติดเชื้อก็จะยากกว่าการที่คนติดจากคนด้วยกันมาก ด้วยภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันระหว่างคนกับสัตว์ทำให้หากติดจริงก็จะมีเชื้อที่เข้าสู่ร่างกายไม่ถึงครึ่งเท่านั้นจึงยังพูดได้ว่าสุนัขกับแมวไม่สามารถติดโควิดได้เพราะอัตรายังน้อยมาก

เครดิตภาพ : sanook.com, pharmacy.mahidol.ac.th

#สัตว์ติดโควิดได้ไหม #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ของเล่นที่นกแก้วชอบ

นกแก้วเป็นนกที่มีความขี้เล่นมากที่สุดในหมู่นกชนิดอื่น นอกจากเป็นมิตรกับมนุษย์ ยังรู้จักความขี้กวนจนทำให้บางครั้งเจ้าของก็อยากจะดุมัน แต่ก็รู้ดีว่าเมื่อดุแล้วเจ้านกแก้วก็ยังจะพยายามหาทางคุยจ้อโต้เถียงกับเจ้าของแบบรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างอยู่ดีจนเราต้องเป็นฝ่ายหยุดพูดเอง ไม่อย่างนั้นนกแก้วก็คงจะคุยจ้อไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดลงให้เราได้ ซึ่งนอกจากจะช่างพูดช่างคุย ช่างเป็นมิตร นิสัยร่าเริงแล้วก็ยังไม่ค่อยชอบกันหยุดอยู่กับที่ด้วย มันมักจะหาของเล่นหรือไม่ก็ปีนไปอยู่ส่วนนั้นส่วนนี้ของกรงบ้างเป็นปกติ หากคิดจะเลี้ยงนกแก้วก็ต้องมีของเล่นสนุก ๆ ให้เขาด้วย ไม่อย่างนั้นนกแก้วจะรู้สึกไม่มีความสุขและอาจทำให้สัตว์เลี้ยงที่ช่างคุยอย่างเป็นมิตรกลายเป็นสัตว์ขี้โมโหและอันตรายกับคุณได้ ด้วยเหตุนี้ในกรงนกแก้วตามบ้านเรือนต่าง ๆ จึงไม่เคยว่างเปล่า นอกจากอาหารแล้วก็จะมีของเล่นมากมายที่ติดตั้งสำหรับให้นกแก้วเล่นประหนึ่งกำลังอยู่ในสวนสนุกเลย ซึ่งจะมีของเล่นอะไรบ้างที่นกแก้วชอบ เรามาดูกันดีกว่า

“ลูกบอล” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“ลูกบอล” เป็นของเล่นที่นกแก้วชื่นชอบมากจนถึงขั้นติดตัวไว้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในกรงหรือไปที่ไหนก็ต้องมีลูกบอลขนาดเล็กติดตัวไปให้มันเล่นเสมอ โดยควรเป็นลูกบอลที่มีความแข็งแรงทนทานมากกว่าจะเป็นลูกบอลยางที่ยืดหยุ่นและนุ่มนิ่ม เพราะขากับกรงเล็บของนกแก้วค่อนข้างมีน้ำหนักกับความใหญ่ที่มากจึงอาจทำให้ลูกบอลหมดสภาพหรือพังเร็วได้ ยิ่งนกแก้วมักชอบเล่นลูกบอลแบบแรง ๆ โดยการใช้ปากไถลูกบอลไปตามทิศทางต่าง ๆ และคาบลูกบอลด้วยยิ่งต้องเป็นลูกบอลที่แข็งแรงพอจะอยู่ได้นานเลย

“เชือกร้อยแบบมีสีสัน” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“เชือกร้อยแบบมีสีสัน” เป็นหนึ่งในของเล่นที่นกแก้วชื่นชอบมาก เพราะนกแก้วเป็นสัตว์ตัวของมันมีสีสันสวยงามหลากหลายตัดกันจึงคุ้นชินกับธรรมชาติของสีสันสดใด เมื่อมันได้อยู่กับของเล่นที่มีสีสันสดใสหลายสีไม่ว่าจะเป็นสีอ่อนหรือสีเข้มก็มักจะถูกใจมาก และมันยังชอบการผาดโผนบนที่สูงสุดเสียวด้วย เชือกร้อยแบบมีสีสันที่ห้อยระย้าในกรงจึงเป็นความชอบของมันมาก

“ลูกข่าง” ของเล่นที่นกแก้วชอบ

“ลูกข่าง” เป็นของเล่นสุดท้าทายที่นกแก้วชอบมาก เพราะลักษณะของลูกข่างจะมีความใหญ่และใต้ฐานจะเล็ก ๆ ทำให้เด้งได้เวลาที่นกแก้วคาบและโยนเล่นมันก็จะคืนกลับมาเป็นสภาพที่คล้ายตุ๊กตาล้มลุกมีความน่าสนใจมาก แต่ต้องเป็นลูกข่างขนาดเล็กจึงจะมีน้ำหนักที่เบาพอให้นกแก้วคาบและกลิ้งเล่นได้ ซึ่งหากไม่อยากไปหาซื้อหรือเสียเงินก็สามารถทำเองจากฝาขวดน้ำได้ง่าย ๆ

เครดิตภาพ : pptvhd36.com, petsradar.com

#ของเล่นที่นกแก้วชอบ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 เหตุผลที่สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้าน

ช่างน่าปวดหัวเสียจริงกับการที่เจ้าของอย่างเราต้องคอยตามไปเรียกหรือตามหาให้สัตว์เลี้ยงให้กลับบ้าน แม้แต่ตอนจะปิดบ้านออกไปก็ต้องคอยระวังไม่ให้สัตว์เลี้ยงแอบออกไปได้เพราะไม่อย่างนั้นมันก็คงจะกลับบ้านไม่เป็นเวลาอีกตามเคยจนเล่นเอาเป็นห่วงกันหลายคน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้าของบ้านบางคนที่มีภาระหน้าที่ในการงานของตัวเองและงานบ้านเยอะจำเป็นต้องล่ามโซ่สัตว์เลี้ยงหรือกักขังไว้ในกรงไม่ให้แอบหนีออกจากบ้านได้ แต่ความจริงแล้วหากคุณมองตาของสัตว์เลี้ยงทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวก็จะเห็นถึงความไม่ชอบ ความเศร้า และความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นกับมัน ยิ่งคุณทำแบบนี้ก็ยิ่งทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณอยากออกจากบ้านมากขึ้น อยากรู้หรือเปล่าว่าเพราะอะไรที่ทำให้สัตว์เลี้ยงบางตัวชอบหนีออกจากบ้านมากกว่าอยู่ในบ้านเสียอีกทั้งที่อยู่ในบ้านก็ดูปลอดภัย และคุณก็เลี้ยงมันดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ความจริงบางมุมคุณอาจจะมองข้ามไปได้ เอาเป็นว่ามาดู 3 เหตุผลที่สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้านกันเลยดีกว่า

สัตว์เลี้ยงอยากเข้าสังคมกับเพื่อนจึงชอบหนีออกจากบ้าน

ไม่ใช่แค่มนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมเท่านั้น แม้แต่สัตว์เลี้ยงเองก็ต้องการที่จะมีสังคมของเขาเช่นเดียวกันแม้ว่าเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องประจำอยู่ในบ้านของคุณแต่ก็ไม่ใช่ว่าหน้าที่ของเขาจะต้องอยู่แต่ในบ้านทั้งวันทั้งคืนแบบที่เจ้าของคิด เขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะได้ออกไปวิ่งเล่นและสร้างปฏิสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงบ้างเพื่อให้มีความสุขและมันคือธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงที่พื้นเพก็ไม่ได้อยู่ในรั้วบ้านอยู่แล้ว และมักใช้ชีวิตเป็นฝูงมากกว่า สัตว์เลี้ยงจึงชอบหนีออกจากบ้านเมื่อถึงเวลาที่ไม่ใช่หน้าที่ของเขา

คนเลี้ยงเข้มงวดมากไปทำให้สัตว์เลี้ยงชอบหนีออกจากบ้าน

อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการที่สัตว์ยังชอบหนีออกจากบ้านก็เพราะว่าเขาถูกเจ้านายตัวเองเลี้ยงแบบเข้มงวดมากเกินไป ตั้งแต่การกักบริเวณที่เขาสามารถเดินไปเดินมาในบ้านได้แล้วยังมอบภาระหน้าที่ให้เขาเฝ้าบ้านตลอดทั้งวันทั้งคืนแถมล็อกประตูรั้วเวลาไม่อยู่ต้องไปทำงานอีก บอกเลยว่าสุนัขที่ยิ่งอยู่บ้านซึ่งเจ้านายเป็นคนเอาจริงเอาจังกับการอยู่ที่ทำงานล่ะก็เขาจะมีอารมณ์กดดันเวลาอยู่บ้านมาก อารมณ์ไม่ต่างกับเวลาที่คนคนหนึ่งติดในลิฟต์นาน ๆ ร่วมหลายชั่วโมงเลย ฉะนั้นเมื่อมีโอกาสจึงมักชอบหนีออกจากบ้านตลอด ขอแค่เวลาเล็กน้อยก่อนที่คุณจะมาตามกลับไปให้ได้อยู่นอกรั้วบ้างก็ยังดี

สัตว์เลี้ยงอยากค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้แก่ตัวเองบ้างจึงชอบหนีออกจากบ้าน

เมื่อโลกภายนอกมีหลายสิ่งหลายในสภาพแวดล้อมที่ชวนให้น่าสำรวจและค้นหาสิ่งใหม่ ๆ มากกว่าในบริเวณบ้านของคุฯ แน่นอนว่าสัตว์เลี้ยงเองก็ย่อมอยากจะออกไปค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ต้องวนลูปอยู่แต่กับการนั่ง ๆ นอน ๆ ในบ้านและมองแต่บ้านที่อยู่มานานจนชาชินแบบนี้ สัตว์เลี้ยงของคุณจึงชอบหนีออกจากบ้าน

เครดิตภาพ : truevalue.com,thaihealth.or.th

#เหตุผลสัตว์หนีออกจากบ้าน #ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงแสนรู้

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

รับผิดชอบให้เหมาะสมเมื่อสุนัขของเราไปกัดผู้อื่น

นับเป็นเหตุการณ์เกินคาดฝันที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดเมื่อมีสุนัขกัดคน ซึ่งหากเป็นเราก็ย่อมต้องโกรธและเจ็บจนนึกถึงเจ้าของสุนัขที่ปล่อยให้ออกมาวิ่งไล่กัดเราก่อนเป็นอันดับแรกเลย บางคนหากโกรธจัดก็อาจถึงขนาดเรียกไปคุยกันที่สถานีตำรวจและขอให้จ่ายเงินในจำนวนมากได้ เพราะความผิดก็ว่าไปตามความผิดไม่ว่าเจ้าของสุนัขจะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ทว่าหากเหตุการณ์ที่พลิกผันวันใดวันหนึ่งเมื่อสุนัขที่ไปกัดคนอื่นคือสุนัขของเราที่เป็นเจ้าของเสียเองล่ะ จะทำอย่างไรดีในการรีบผิดชอบความเสียหายและการบาดเจ็บที่เขาได้รับเพราะความประมาทของเราให้เหมาะสมก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจัด ไปดูวิธีแก้ปัญหารับผิดชอบที่เหมาะสมกันเลยดีกว่าทุกคน เพราะถึงอย่างไรเราก็เชื่อว่าหากคุยกันดี ๆ ด้วยเหตุผล ไม่มีการใช้อารมณ์ก็ย่อมที่จะทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลงไปในทางที่ดีได้ ค่อย ๆ เจรจากันอย่าให้เป็นเรื่องราวเลย

รับผิดชอบโดยดูแลสุนัขของเราด้วยความไม่ประมาทอีก

เมื่อคุณรู้ว่าสุนัขของเราชอบออกจากบ้านไปกัดคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้ว คราวนี้ก็ต้องเอาใจใส่ในสุนัขของตัวเองมากขึ้นไม่ให้เขาสามารถออกจากบ้านได้อีกหากไม่มีคุณไปด้วย โดยการที่ปิดประตูรั้วและหาสิ่งของมาอุดรูที่สุนัขตัวเองอาจจะแอบหนีออกไปได้ให้หมด จัดบรรยากาศมุมการเล่นของสุนัขแบบ Outdoor ให้เขารู้สึกมีความสุขกับการอยู่บ้านได้โดยไม่เบื่อหน่ายหรือเงียบเหงา แล้วเขาจะไม่อารมณ์เสียและมองเจ้าของไม่ดีแน่นอน และหากออกไปข้างนอกก็ควรมีสายจูงเพื่อควบคุมไม่ให้เขาไปกัดคนอื่นอีก ไม่ควรใส่ตะกร้อครอบปากเพราะจะทำให้เขาอึดอัดและมองคุณที่เป็นเจ้าของในแง่ร้ายได้ง่าย

การจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก ๆ ในการเดินทางมาเจรจากับคนที่ถูกสุนัขของเรากัดก่อนที่เขาจะให้ไปที่สถานีตำรวจและเรียกเงินในจำนวนที่เยอะด้วยความโกรธ เราต้องเป็นน้ำให้เขาคลายไฟในใจลงเสียก่อนด้วยรอยยิ้มบางและคำขอโทษ หลังจากนั้นก็ค่อยเสนอตัวเองไปว่าจะออกค่ารักษาให้ทั้งหมดซึ่งน่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่เขาย่อมสัมผัสได้ว่าคุณรู้สึกผิดจริง ๆ 

รับผิดชอบโดยการฝึกให้สุนัขของเรารู้จักการเข้าสังคม

การที่สุนัขของคุณมักชอบวิ่งไล่กัดคนจนเป็นนิสัยนั่นเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่และการมองมนุษย์ในแบบของสัตว์ที่เห็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างเป็นศัตรู ไว้ใจไม่ได้ คุณจึงควรเอาใจใส่และสั่งสอนประสบการณ์เมื่อรับเขามาเป็นสัตว์เลี้ยงแล้วก็ต้องทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีพิษมีภัยต่อมนุษย์ทุกคนจริง ๆ โดยการพาสุนัขของคุณออกไปเดินเล่นในที่ที่มีคนบ่อย ๆ ให้เขาคุ้นชินกับการเห็นคน ได้รู้ว่าอยู่เฉย ๆ ก็ไม่มีใครจะทำอะไรเขาเลย แล้วสุนัขจะมองมนุษย์ในแง่ที่ดีมากขึ้น เลิกหวาดระแวงจนไม่กัดใครมั่ว ๆ อีกแล้ว

รูปภาพประกอบ : Pixabay

#รับผิดชอบสัตว์เลี้ยงตนเอง #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สัตว์เลี้ยงป่วย ปัญหาโลกแตกรับมือยากของคนเลี้ยงสัตว์

สัตว์เลี้ยงนั้นแม้ว่าจะมีความใกล้ชิดกับเจ้าของมากเพียงใดก็ตามแต่ด้วยความที่พวกเขาไม่สามารถสื่อสารกับเราได้ เวลาที่เกิดอาการเจ็บป่วยเจ้าของจึงรู้สึกทุกข์ใจเป็นพิเศษ ไม่เพียงแต่เพราะเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงเท่านั้น แต่ถ้าหรือไม่ว่าค่ารักษาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะหากต้องแอดมิดแล้วถือว่าแพงกว่าค่ารักษาของคนหลายเท่า ยิ่งถ้าเป็นสัตว์เลี้ยง Exotic  ที่ต้องใช้สัตวแพทย์เฉพาะทางราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว สัตว์เลี้ยงป่วยจึงเรียกได้ว่าเป็นปัญหาโลกแตกสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์เลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากสัตว์เลี้ยงของคุณยังสุขภาพดี ร่าเริง แข็งแรง ขอให้รักษาสุขภาพของเขาให้ดีไปเรื่อยๆ ดีกว่าต้องมารับมือเวลาที่เขาป่วย

สิ่งที่ควรจัดการเมื่อต้องประสบปัญหาสัตว์เลี้ยงป่วย

  1. หยุดถามแล้วพาไปหาหมอ เราทราบดีว่าคนเลี้ยงสัตว์เมื่อพบว่าสัตว์เลี้ยงป่วยต้องรู้สึกกังวลอยู่แล้วแต่การตั้งกระทู้ถามตามอินเทอร์เน็ตหรือ Social Network ต่างๆ นั้นไม่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงหายดีขึ้นมา ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อพบว่าพวกเขาป่วยให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
  2. จัดเตรียมค่าใช้จ่ายให้พอดี ค่ารักษาสัตว์เลี้ยงมีราคาที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นในช่วงที่จัดเลี้ยงเกิดการเจ็บป่วยคนเลี้ยงต้องจัดการเรื่องการเงินให้ดี จัดเตรียมค่าใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลให้พอดี 
  3. ศึกษาวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงที่ป่วย เมื่อประสบปัญหาแล้ววิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงของเราจะต้องเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยา การทำแผล ผู้เลี้ยงต้องทำการศึกษาว่าจะดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไรต่อไปเพื่อให้พวกเขาหายดี 
  4. เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน อะไรก็เกิดขึ้นได้เมื่อสัตว์เลี้ยงตัวเล็กของเราป่วย ดังนั้นเจ้าของจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินให้พร้อมเสมอ ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเกิดอาการโคม่าขึ้นมาจะได้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที

ดูแลจิตใจอย่างไรเมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย

สัตว์เลี้ยงบางประเภทนั้นเมื่อป่วยแล้วโอกาสที่จะเสียชีวิตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่ยังเป็นเด็ก หรือสัตว์เลี้ยงที่มีร่างกายไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลายๆ คนที่เลี้ยงสัตว์นั้นจะรักเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวนั้นเป็นลูก การที่ต้องทนเห็นสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราต้องทรมานเจ็บปวดร่างกายจากอาการเจ็บป่วย เจ้าของเองก็รู้สึกเศร้าเสียใจและรู้สึกแย่ต่อตนเองไม่น้อยไปกว่ากัน แต่เชื่อหรือไม่ว่าเหล่าสัตว์เลี้ยงของเรานั้นสามารถรู้สึกได้ว่าเจ้าของกำลังรู้สึกอย่างไร หากพวกเขาสัมผัสได้ว่าเราเศร้ากำลังใจในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ของพวกเขาก็จะลดน้อยถอยลงไป เจ้าของต้องไม่รู้ว่าสัตว์เลี้ยงให้ความสุขกับเราได้มากแค่ไหน ดังนั้นแม้แต่ในช่วงเวลาที่สัตว์เลี้ยงป่วยเราก็ควรให้เขามีความสุขมากที่สุด โดยเริ่มจากการที่ตนเองต้องมีความสุขก่อน เลิกจมกับความทุกข์ สร้างกำลังใจให้ทั้งตนเองและสัตว์เลี้ยงให้สามารถก้าวผ่านเวลาที่แสนจะโหดร้ายนี้ไปให้ได้

#เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย #สัตว์เลี้ยงแสนรู้ #การดูแลสัตว์เลี้ยง