Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

รีวิว Catit Smartsift ห้องน้ำแมวแบบคันโยก

การเลี้ยงแมวในปัจจุบันนอกจากจะต้องให้อาหาร ดูแลขนแล้ว การมีห้องน้ำแมวแบบถูกลักษณะก็เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แมวมีสุขภาพที่ดี ร่าเริง และไม่เจ็บป่วย เพราะฉะนั้นคนเลี้ยงแมวก็ควรจะเลือกซื้อห้องน้ำมาเพื่อให้น้องแมว นอกจากนี้ห้องน้ำสำหรับแมวยังมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลากหลายยี่ห้อ โดยยี่ห้อที่บทความนี้จะแนะนำก็คือ Catit Smartsift เป็นห้องน้ำแมวแบบคันโยกที่ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าจะพึ่งเริ่มใช้งานกับแมวของคุณก็ไม่ทำให้เกิดปัญหา

ริวิวห้องน้ำแมวแบบคันโยกของยี่ห้อ Catit Smartsift

สำหรับคนเลี้ยงแมวที่กำลังมองหาห้องน้ำแมวแบบใช้งานได้ง่าย ราคาไม่แพงมาก โดยเฉพาะคนที่เริ่มเลี้ยงแมวและกำลังเตรียมสิ่งของที่จำเป็นไม่ควรพลาด เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้คุณดูแลแมวได้ง่ายเพิ่มขึ้นไม่เพียงเท่านี้ยังช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีให้แก่ลูกแมวของคุณด้วย

  • คุณสมบัติที่น่าสนใจ

สำหรับห้องน้ำแมวแบบคันโยกของยี่ห้อ Catit Smartsift มีขนาด 66 x 48 x 63 เซนติเมตร ถือว่ามีขนาดที่ใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานจากแมวตัวใหญ่ หรือคนที่เลี้ยงแมวประมาณ 2-3 ตัว สามารถใช้งานได้ง่าย สามารถใส่ทรายแมวได้ทุกประเภทถือว่าดีสำหรับคนเลี้ยงแมวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห้องน้ำแมวแบบธรรมดา ไม่ใช่แบบอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นคนเลี้ยงจะต้องทำความสะอาดด้วยตนเอง มีประตูเข้าออกขนาดใหญ่ มีตัวกรองกลิ่น เพื่อให้ในห้องน้ำแมวไม่มีกลิ่นอับ รวมไปถึงในห้องของคนเลี้ยงด้วย ใช้พื้นที่ในการวางน้อย เหมาะสำหรับคนที่เลี้ยงในห้องนอนหรือห้องขนาดปานกลาง

  • ข้อดีของห้องน้ำแมวแบบคันโยก

ใช้งานได้ง่ายและสะดวก เพียงแค่โยกคันโยกก็จะกำจัดของเสียและจัดเก็บได้ง่าย สามารถนำไปทิ้งในชักโครกได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเวลาในการกำจัดของเสียให้แก่ห้องน้ำแมว นอกจากนี้ยังมีราคาที่ไม่แพงมาก วางได้ทุกพื้นที่ของบ้าน เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเลี้ยงแมวจำนวนตั้งแต่ 2-3 ตัวขึ้นไป ถือได้ว่าดีแน่นอน อีกทั้งยังรองรับทรายได้ทุกประเภทจึงไม่เป็นปัญหาในการใช้ทรายของแมว 

สำหรับห้องน้ำแมวแบบคันโยกยี่ห้อ Catit Smartsift มีให้เลือกใช้งานหลายสีทั้งสีน้ำตาล สีเทาขาว การใช้งานก็ทำได้ง่าย เมื่อแมวเข้าไปใช้งานเรียบร้อยแล้ว คุณก็โยกคันโยก ของเสียจากแมวก็จะจับตัวเป็นก้อนและตกลงสู่ด้านล่าง และนำไปกำจัดทิ้งได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงทั่วไป หรือจะเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ คนที่เลี้ยงจะต้องเลือกห้องน้ำที่ดีที่สุดให้กับแมวของคุณ เพราะจะได้ช่วยเพิ่มสุขภาพที่ดีในการขับถ่ายให้แก่ลูกแมวที่คุณรัก

เครดิตภาพ : shoppee

#ทาสแมว #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ห้องน้ำแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สัญญาณการนอนที่บ่งบอกว่าสุขภาพสุนัขผิดปกติ

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างเมื่อร่างกายมีความปกติบางทีพวกเขาก็อาจไม่รู้ตัวเพราะโรคหรือความเจ็บป่วยที่แฝงอยู่ภายในนั้นยังไม่แสดงออกมาให้พวกเขาเห็นได้ แต่ถึงแม้พวกเขาจะเริ่มรู้ว่าตัวเองมีสุขภาพร่างกายที่ผิดปกติแต่ก็ไม่สามารถบอกใครได้นอกจากพยายามหาอาหารจากธรรมชาติมากินเป็นยารักษาตัวเองซึ่งบางทีก็รักษาตามลำดับหายได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วแบบนี้หากเกิดกรณีที่สุนัขของเรามีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาป่วย แน่นอนว่าอาการเจ็บป่วยในภาพรวมจะส่งสัญญาณมาผ่านทางเวลาใดเวลาหนึ่งของสุนัขได้ซึ่งเพียงแค่เราสังเกตก็จะรู้ถึงความผิดปกติ เวลานั้นคือ เวลาที่สุนัขของคุณนอนหลับนั่นเอง หากคุณรู้สึกว่าสุนัขเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ดูซึมลงในหลายวันมานี้ก็ให้นึกไว้ก่อนว่าต้องมีอาการผิดปกติในสุขภาพร่างกายหรือไม่ก็จิตใจแล้ว ซึ่งหากจะเริ่มการันตีได้ว่าเป็นในเรื่องความผิดปกติของสุขภาพร่างกายก็ต้องสำรวจสัญญาณการนอนที่ออกมาจากสุนัข ดังต่อไปนี้ หากพบให้รีบพาเขาไปหาสัตวแพทย์เพื่อตรวจอาการป่วยเลย จะได้ทันท่วงทีก่อนมีอันตราย

“ละเมอ” สัญญาณการนอนที่บ่งบอกว่าสุนัขป่วย

สัญญาณการละเมอที่เกิดขึ้นในสุนัขอาจไม่ใช่เรื่องปกติเสมอไปอย่างที่คุณคิด เพราะแม้ว่าอาการละเมอจะเกิดจากความฝันสำหรับคน แต่สำหรับสุนัขแล้ว การละเมอนั้นเป็นไปได้ยากมากเพราะจิตวิทยาและการรับรู้ของสุนัขกับมนุษย์มีความแตกต่างกัน หากสุนัขจะละเมอแล้วล่ะก็จะมีแค่เพียงนานทีและจะเป็นการละเมอที่ดังแบบครางครวญจนหากเป็นบ้านที่เปิดแบบ Open-Air ก็อาจได้ยินเสียงของสุนัขคุณละเมอดังมาจากด้านนอกของบ้านได้เลย นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการเหนื่อยจัดของสุนัขที่ต้องพักผ่อนมาก แสดงว่าเขาต้องมีอาการป่วยบางอย่างที่ทำให้ร่างกายเสียพลังงานเกินไปอย่างแน่นอน ควรรีบไปตรวจสุขภาพร่างกายที่ผิดปกติทันที

“หายใจแรง” สัญญาณการนอนที่บ่งบอกว่าสุนัขป่วย

สุนัขเป็นสัตว์ที่นอนหายใจแรงและเร็วมาก หากสังเกตดี ๆ เวลาที่สุนัขนอนหลับเราก็มักจะเห็นท้องของสุนัขกระเพื่อมไปมาแบบเร็วกว่าคน แต่ก็ไม่ได้เร็วแบบถี่มากแบบเป็นคลื่นต่อเนื่องเหมือนแทบไม่ได้หยุดหายใจสูดลมเข้าให้ลึกและมีการหายใจที่แรงจนร่างสั่นไปทั้งตัวขนาดนั้น และสุนัขบางตัวก็จะนอนดิ้นด้วยนอกจากหายใจแรง เป็นสัญญาณการนอนหลับที่บ่งบอกว่าสุขภาพร่างกายสุนัขอาจมีความผิดปกติด้านระบบการหายใจได้

“สะดุ้งกลางคัน” สัญญาณการนอนที่บ่งบอกว่าสุนัขป่วย

การที่สุนัขมีสัญญาณสะดุ้งกลางคันเป็นประจำในขณะที่หลับทั้งที่ยังไม่มีใครไปจับ ไม่ได้เผลอนอนแล้วไปโดนสิ่งของใดที่จี้จุดทำให้ตื่นอย่างรวดเร็ว จู่ ๆ นอนดี ๆ ในที่กว้าง สุนัขของคุณก็สะดุ้งขึ้นมาเหมือนถูกใครมาขัดจังหวะการนอนก่อนจะหันมามองซ้ายมองขวา แบบนี้อาจเป็นสัญญาณในด้านของความเหนื่อยล้า หัวใจ หรือระบบประสาทที่ต้องรีบพบแพทย์ได้

เครดิตภาพ : petmaya.com

#สัญญาณบอกสุนัขผิดปกติ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #การเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำไมใครต่อใครถึงตกเป็นทาสแมวกันเยอะ?

เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมมีแต่คำเรียกคนรักแมวว่า “ทาสแมว”กัน? ทำไมต้องจำกัดคำหน้าว่า “ทาส”ในสัตว์เพียงชนิดเดียวนี้ด้วยในเมื่อก็มีสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ ที่ผู้คนชอบกันไม่แพ้แมวมากมาย หรือว่าแมวจะมีพลังมนต์สะกดในการทำให้ผู้คนตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้นเหมือนกับโฆษณาหนอนใบชาเขียวกรีนที เอาจริง ๆ น้องแมวก็ไม่ได้มีมนต์สะกดใด ๆ หรอกนะ เขาก็เป็นเพียงสัตว์ตัวหนึ่งที่น่ารักไม่ต่างจากสุนัขหรือหนูแฮมสเตอร์เลย เพียงแต่ว่าเป็นตัวเราเองที่มีใจอ่อนไหวให้กับแมวที่ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดก็รู้สึกอยากมอบความรักให้กับเขาไปหมดจนไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็น่าหลงใหลประหนึ่งหากจะเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ยอมตกเป็นทาสให้กับความรักที่อยากมอบให้เขามากกว่ามอบให้สัตว์อื่นเลยอารมณ์นั้น แต่หากจะให้ชัดเจนมากขึ้นว่าที่มาของการตกเป็นทาสแมวนั้นมีต้นเหตุมาจากสิ่งใดในตัวแมวบ้างก็มาอ่านในบทความนี้กันเลย

แมวเป็นสัตว์ที่อ้อนเสียงหวานเก่ง

เสียงของแมวช่างแตกต่างจากเสียงของสัตว์อื่นตรงที่ทุกครั้งเวลาเขาร้องหากเป็นลูกแมวก็จะมีเสียงที่แหลมและร้อง “เมี้ยว”ซึ่งดูให้อารมณ์แบบเสียงร้องของเด็กทารกที่ยังคงไร้เดียงสาน่าดูแลทะนุถนอมไม่ให้คลาดสายตา และแม้จะเติบโตมาก็ยังมีเสียงร้อง “แม๊ว” ที่ฟังกี่ครั้งก็ยังคงไพเราะหวานเหมือนเสียงคนอ้อนเราให้ตกหลุมรักจนอยากเป็นทาสแมวมาก ยิ่งเวลาที่เขาอยากให้เราเอาใจโดยการร้องเสียงแม๊ว ๆ แบบอ่อนลงก็ยิ่งฟังดูน่าเห็นใจน่าสงสารจนใจอ่อนได้ตลอดเลย

แมวเป็นมิตรกับทุกคน

แมวเป็นมิตรกับมนุษย์ทุกคนและเข้ากับคนได้มากกว่าสุนัขอีก จะมีแค่แมวบางตัวที่อาจเคยเจอคนมาทำร้ายหรือเพิ่งออกจากคอมฟอร์ตโซนการดูแลของแม่แมวมาจึงทำให้ค่อนข้างมีนิสัยขี้ระแวงคนและหนีอย่างรวดเร็วหากเข้าใกล้ แต่ลองได้สนิทกันแล้วสิ แมวจะอยากอยู่ติดกับเจ้าของอย่างเราไม่ห่างไปไหนเลย แถมยังมักจะเดินตามด้วยเวลาที่จะออกจากบ้านพร้อมส่งสายตาขอร้องว่าอย่าไปอีก บางทีทำกิจกรรมเครียด ๆ หรือรู้สึกท้อแท้ แมวก็จะขึ้นมานั่งบนตักพร้อมคลอเคลียเราเป็นประจำราวกับเขารู้ว่าเรากำลังต้องการใครสักคนมาปลอบโยนความรู้สึกทำให้ตัวเองสุขใจเหมือนมีเพื่อนรู้ใจมาก แบบนี้จะไม่ต้องเป็นทาสแมวได้อย่างไรกัน

แมวมีขนนุ่มน่ากอด

นอกจากเสียงร้องที่ออกอ้อนและความเอาใจใส่ในตัวมนุษย์ของแมวแล้ว แมวยังมีขนที่นุ่มราวกับกระต่ายหรือตุ๊กตาที่เคลื่อนไหวได้อย่างน่ารัก แถมตัวก็อุ่น เวลาหนาวอยู่นี่สามารถกอดแมวให้อุ่นได้เลยซึ่งเขาเองก็ชอบให้เราทำแบบนี้ด้วย ไม่มีสัตว์เลี้ยงใดจะขนนุ่มมากกว่าแมวแล้วไม่ว่าจะเป็นแมวจนฟูหรือขนเรียบก็มีขนหนานุ่มลายสวยลื่นมือสัมผัสสบายอ่อนโยนเวลาเล่นมากจนตกเป็นทาสแมวเข้าเต็ม ๆ

เครดิตภาพ : allaboutcats.com,.petguide.com

#สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทำไมคนนิยมเลี้ยงแมว #ทาสแมว

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

5 อันดับนกที่พูดได้ที่คนนิยมเลี้ยง

เดี๋ยวนี้หลายคนนิยมที่จะที่เลี้ยงนก เพราะพวกมันนั้น มีความฉลาด สามารถพูดโต้ตอบกับเราได้ และบางชนิดถึงขั้นเลียนแบบเสียงของมนุษย์ที่มันใกล้ชิดได้จนหลายคนหลงใหลมัน อีกด้วย แน่นอนว่านกพวกนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในตระกูลนกแก้ว วันนี้จึงจะมาทำความรู้จักกับสายพันธุ์นกพูดได้ที่ถือว่าฉลาดเป็นอันดับต้น ๆ ในโลกใบนี้

5 อันดับนกที่พูดได้ และยังฉลาดที่สุดในโลกนกแก้วอเมซอนสีน้ำเงิน (Blue-Fronted Amazon)

นกแก้วอเมซอนสีน้ำเงินเป็นสัตว์เลี้ยงยอดฮิตอีกชนิด มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ที่มาของชื่อนกแก้วอเมซอนสีน้ำเงินก็เพราะ สีน้ำเงินบนหัวของมันนั่นเอง เจ้านกชนิดนี้พวกมันจะผูกพันนกับคนที่เลี้ยงเพียงคนเดียว แถมเป็นนกที่พูดมากสุด ๆ และมันยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย

2.นกกระตั้ว (Cockatoo)

เชื่อว่าหลายคนก็คงรู้จักนกชนิดนี้นกกระตั้วนั้นเป็นนกสังคมสูงมาก มีความฉลาดรวมถึงมีทักษะในการการพูด เมื่อได้รับการฝึกฝนก็สามารถเรียนรู้ได้ไว เพราะมันมีความสามารถในการจดจำคำพูดจากเจ้าของเพื่อใช้ในการสื่อสารได้

  • นกแก้วอิเล็คตัส (Eclectus Parrot)

นกแก้วจากเกาะนิวกินีที่มีทักษะการพูดและจำคำศัพท์เป็นอย่างดี พวกมันสามารถที่จะฟังและจำจดการออกเสียงแล้วนำมาเลียนแบบได้อย่างชัดเจน บางตัวเก่งถึงขั้นขนาดเรียนรู้ที่จะร้องเพลงได้ทั้งเพลงด้วยซ้ำ

นกแก้วอะเมซอนสีเหลืองเป็นหนึ่งในนกแก้วอเมซอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นสัตว์ที่มีไหวพริบรวดเร็ว มีสติปัญญาและความสามารถในการพูดที่โดดเด่นซึ่งทำให้เป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยม สำหรับเจ้าของที่ต้องการสร้างความผูกพันที่ดีกับนกของพวกเขาแต่เป็นนกที่มีนิสัยเกเร ขี้หงุดหงงิดไม่ชอบให้ใครไปแหย่หรือกวนมัน จึงอาจไม่ค่อยจะเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูก เพราะอาจจะโดนมันจิกได้

  • นกแก้วเทาแอฟริกา (African Grey Parrot)

ได้รับการยกให้เป็นนกพูดได้และฉลาดสุดๆ สามารถเรียนรู้ได้เร็วมาก และจะผูกพันกับเชื่อฟังกับคนเลี้ยงแค่คนเดียวเป็นนกแก้วที่เคยมีการถ่ายทำคลิปลงใน tiktok ด้วย จะได้รับการติดตามมากทีเดียว โดยเจ้านกแก้วเทานี้จะพบได้ในป่าของแอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง ราคาก็แพงพอตัวอยู่ 

สำหรับใครที่กำลังมองหานกช่างพูดสักตัวมาอยู่เป็นสมาชิกในบ้านก็ควรศึกษาถึงเรื่องของนกสายพันธุ์ที่จะเลี้ยงให้เข้าใจให้มากสุดก่อนนำมาเลี้ยง เพราะราคาแต่ละตัวนั้นแรงเอาการอยู่ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเปล่านั่นเอง

#นกที่คนนิมยมเลี้ยง #ทริคเลี้ยงสัตว์ #นกที่พูดได้

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สุนัขแบบใดที่ไม่เลือกกินอาหาร

โดยปกติแล้วสุนัขเป็นสัตว์ที่กินง่ายอยู่ง่ายหากเป็นของกินที่พวกเขาต้องการโดยธรรมชาติตามความเป็นสัตว์
สปีชีส์ของตัวเองอยู่แล้ว แต่สำหรับมนุษย์เราที่นำสุนัขไปเลี้ยงแล้วต้องให้เขาปรับตัวอยู่กับอาหารที่อร่อยในแบบที่มนุษย์สามารถหามาให้ได้ในบางครั้งก็อาจทำให้เรามองว่าพวกสุนัขเป็นสัตว์ที่เลือกกินอาหารและกินยาก หากไม่ใช่อาหารที่เป็นไปตามธรรมชาติของเขาบางตัวก็จะไม่กินเลยจนเกิดความรู้สึกปวดหัวกับการเลือกกินอาหารของสุนัขมาก แต่บางตัวใครจะไปรู้ว่าสามารถกินอาหารได้ง่ายมาก ซึ่งการที่จะเลือกเลี้ยงสุนัขสำหรับบางคนที่ไม่ค่อยมีเงินมากพอจะซื้ออาหารที่เป็นแบบที่เขาชอบ ทว่าเอาแค่เขาได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตก็ดีมากแล้ว พวกเขาย่อมต้องการคุณสมบัติการไม่เลือกกินของสุนัขมาด้วยมากซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการสำรวจสักระยะว่าสุนัขที่คุณต้องการ เขาเลือกกินอาหารหรือไม่ ว่าแต่สุนัขแบบใดล่ะที่บ่งบอกให้คุณรู้ได้ชัดเจนที่สุดว่าเขาไม่เลือกกินอาหาร?

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะสามารถกินอาหารคาวได้

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะมีพฤติกรรมการกินอาหารคาวแบบมนุษย์ที่ผู้คนมาให้กินได้โดยไม่มีท่าทีอิดออด เรียกได้ว่าเมื่อวางให้แล้วก็สามารถดินได้อย่างเอร็ดอร่อยเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าว เนื้อสัตว์ กระดูก และอื่น ๆ ที่เป็นอาหารคาว ยกเว้นหากคุณเห็นเขาไม่กินพวกผักนั่นคือเรื่องปกติของสุนัขทุกตัวที่จะกินผักไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นสัตว์ที่เกิดมาเพื่อกินเนื้อ แค่เพียงเขากินอาหารคาวได้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าเขาไม่เลือกกินอาหาร

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะสามารถกินของหวานได้

สุนัขปกติจะไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่นัก เพราะเป็นรสชาติที่โด่งจนทำให้พวกเขารู้สึกเวียนศีรษะและปวดศีรษะได้ และส่วนใหญ่สุนัขตามธรรมชาติจะติดอยู่กับรสทั่วไปอย่างเค็มเป็นหลัก แต่หากคุณเห็นสุนัขตัวหนึ่งกินของหวานอย่างพวกขนมหวาน คุกกี้ หรือขนมเบเกอรี่ต่าง ๆ ที่เหลือได้แล้วล่ะก็นั่นหมายความว่าสุนัขตัวนั้นไม่เลือกกินอาหารและกินได้หลากหลายทีเดียว

สุนัขที่ไม่เลือกกินอาหารจะมีร่างกายอ้วน

สุนัขเป็นสัตว์ที่อ้วนยาก เพราะพวกเขาจะกินไม่ค่อยจุเท่าไหร่ แต่หากคุณเห็นลักษณะทางกายภาพของสุนัขตัวนั้น ๆ มีความอ้วนท้วมนั่นหมายความว่าเขาเป็นสุนัขที่ไม่เลือกกินอาหาร ด้วยรูปร่างที่อ้วนนั้นบ่งบอกได้ถึงพฤติกรรมการไม่เลือกกินของเขาที่สามารถกินอาหารได้ทุกชนิดทั้งของคาว ของหวาน และอาหารสุนัขทั่วไปซึ่งค่อนข้างเอร็ดอร่อยทีเดียวและกินบ่อยด้วยทำให้ได้รับพลังงานมากกว่าสุนัขทั่วไป

เครดิตภาพ : .loveyourdog.com, .eurekalert.org

#สุนัขที่ไม่เลือกกิน #อาหารสัตว์ #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีป้องกันไม่ให้สุนัขกลัวเสียงพลุ

การห้ามไม่ให้มีเสียงดังจนสุนัขของคุณเองต้องตกใจเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่เสียงพลุที่คนอื่นจุดกันตามเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลองย่อมเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถห้ามให้จุดได้ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสุนัขทุกตัวจะกลัวเสียงพลุที่ดังจนสติกระเจิดกระเจิงขนาดไหน เพราะหูของสุนัขนั้นไวต่อเสียงต่าง ๆ มากกว่ามนุษย์หลายเท่า ขนาดเราที่ได้ยินเสียงพลุดังบางครั้งก็ยังตกใจเลย แล้วสุนัขที่เราเลี้ยงล่ะ เขาจะขวัญเสียขนาดไหนที่ต้องอยู่กับเสียงพลุที่เขาหนวกหูเสมือนฝันร้ายยามกลางคืนที่อาจจะทำให้เขาตกใจทั้งแสงสีเสียงและบางตัวก็วิ่งหายจนวันต่อมาก็ยังไม่กลับมาทำให้ต้องพากันออกไปตามหาก็มี มันอาจจะเป็นวิธียากสักหน่อยในการหลีกเลี่ยงเขาจากเสียงพลุที่ดังสนั่น ยกเว้นแค่ให้เขาได้ยินและอยู่ในความตกใจเสียงพลุที่เกิดขึ้นน้อยลงก็เท่านั้น ซึ่งจะมีวิธีใดบ้างที่จะปกป้องสุนัขของเราไม่ให้กลัวเสียงพลุมากไปกว่านี้ได้?

จัดกรงคลุมผ้าให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ

การให้สุนัขอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเสมือนบ้านของตัวเองในตอนกลางคืนก่อนที่จะมีการจุดพลุภายในกรงที่เหมือนเป็นบริเวณส่วนตัวไม่มีใครเข้ามาทำอะไรได้ย่อมจะทำให้สุนัขรู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้น สามารถป้องกันไม่ให้สุนัขกลัวจนเผลอวิ่งออกไปไหนมาไหนหลงทิศจนไม่กลับมาได้ อีกทั้งการคลุมผ้าหนาครอบกรงสุนัขไว้อีกชั้นก็ยังสามารถช่วยลดความน่าตกใจของแสงสีเสียงจากพลุที่จะเกิดขึ้นมาทำให้สุนัขไม่ตกใจเสียงพลุมากได้ด้วย อีกทั้งยังรู้สึกว่าไม่มีใครจะทำอะไรเขาได้หากอยู่ในกรง

จำกัดพื้นที่ Outdoor ให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ

การจำกัดพื้นที่กลางแจ้งที่สุนัขอยู่โดยหาไม้กระดานหรือสิ่งของมากั้นเป็นประตูไม่ให้ออกจากอาณาเขตส่วนหนึ่งของบ้านที่จำกัดไว้จะทำให้เขาไม่วิ่งหนีเสียงพลุจนตกใจและเป็นการจำกัดให้เขามีบริเวณที่อยู่ในส่วนที่อาจได้ยินเสียงพลุน้อย เป็นส่วนของบริเวณบ้านที่ทึบ เสียงลอดเข้ามาได้ไม่ดังนักซึ่งจะทำให้สุนัขไม่ตกใจเสียงพลุมากเท่ากับบริเวณอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีเลย

กอดสุนัขให้สุนัขไม่ต้องกลัวเสียงพลุ 

ในกรณีที่หากคุณเลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านอยู่แล้วก็จะยิ่งช่วยให้ได้ยินเสียงพลุน้อยลงแตกต่างจากภายนอกได้ส่วนหนึ่งแล้ว และอีกส่วนคือความรักที่คุณมอบให้สุนัขผ่านอ้อมกอดเมื่อมีการจุดพลุดังขึ้นมา คุณต้องกอดเขาไว้ให้แน่นพร้อมพูดข้างหูใกล้ ๆ ให้เขาสบายใจว่า “ไม่ต้องกลัวนะ เราอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อน เดี๋ยวเสียงก็หายไปแล้ว” เขาจะคลอเคลียที่แขนคุณและคลายความกลัวทุกอย่างลงไปได้ดีมาก

เครดิตภาพ : .theukfireworkcompany.co.uk, fireworksnation.com

#สุนัขกับเสียงพลุ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

คำพูดที่สัตว์เลี้ยงอยากได้ยิน

ในชีวิตคนเราทุก ๆ วันย่อมจะต้องมีการแสดงความรู้สึกรักหรือบอกรักกันวันละครั้งหากเป็นคนที่สนิทกันมาก ไม่เช่นนั้นก็อาจทำให้ 1 วันของตัวเองที่ต้องใช้ชีวิตเหมือนอยู่ได้ด้วยร่างกาย แต่ขาดซึ่งกำลังใจเมื่อต้องเจอกับความกดดันและความเครียดต่าง ๆ ที่เข้ามาจนทำงานออกมาไม่ดี หมดไฟ รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หรือมีแต่ความหงุดหงิด ไม่อยากพูดกับใครด้วย แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ต้องแสดงออกใด ๆ มาก แค่คุณอยู่กับเขาและมองเขาพร้อมยิ้มให้ในทุกวันแค่นั้น เขาก็มีความสุขมากแล้ว อีกทั้งหากคุณไม่มีกำลังใจ กลับเป็นพวกเขาเสียเองที่จะให้กำลังใจคุณ แล้วแบบนี้คุณจะไม่ตอบแทนเขาด้วยการบอกรักบ่อย ๆ บางหรือ? 

ถึงสัตว์จะไม่ได้เข้าใจการสื่อสารของมนุษย์ แต่แน่นอนว่าพวกเขามีความสามารถพิเศษในการสัมผัสอารมณ์หวังดีและความรักที่เรามีให้เขาผ่านน้ำเสียงและจังหวะการพูดได้เป็นอย่างดีเลย  ฉะนั้นไม่ว่าจะพูดคำใดเขาย่อมสัมผัสความหมายที่แตกต่างกันได้ผ่านสิ่งเหล่านี้อย่างน่าอัศจรรย์ ฉะนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้ขอให้คุณบอกรักเขา แต่ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของก็ควรมอบ 3 คำพูดเหล่านี้ให้สัตว์เลี้ยงบ้าง เพราะเขาย่อมอยากจะได้ยินมัน

หิวไหม?

“หิวไหม?” คำคำนี้เป็นคำที่สัตว์เลี้ยงอยากได้ยินเป็นอันดับแรก เพราะชีวิตเขานอกจากการที่เจ้าของแสดงความรัก ความห่วงใยโดยการปล่อยให้เขาได้มีพื้นที่อิสระในการออกไปวิ่งเล่นแล้ว การที่ถามเขาในเรื่องของความรู้สึกที่อยากกินอาหารเองก็เป็นการบอกได้ว่าเจ้าของเอาใจใส่ในความรู้สึกรวมถึงสุขภาพของเขาแค่ไหน ซึ่งมันช่างเต็มตื้นในใจจนเขาไม่ตอบรับไม่ได้เลย ยิ่งฟังยิ่งทำให้เขารักคุณมากกว่าเดิมอีก

เหงาไหม?

“เหงาไหม?” เป็นคำพูดกับสัตว์เลี้ยงที่บอกให้เขารู้ได้ว่าคุณรักเขาและคิดถึงความสุขตามธรรมชาติของเขาในทุกเวลา แม้จะรู้ว่าความสุขของสัตว์เลี้ยงกับมนุษย์แตกต่างกันตามชีวิต แต่คุณก็ยังรู้จักเรียนรู้ เข้าอกเข้าใจความเหงาของเขาในสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องอยู่ตัวเดียวในบ้าน ไม่ได้ออกไปเจอสังคมสัตว์ชนิดเดียวกัน และอื่น ๆ อีกมากมายที่น้อยนักที่มนุษย์จะมาให้ความสนใจกับความเหงาเบื้องลึกของสัตว์เลี้ยงที่เข้าใจยาก คำนี้ล่ะที่เขาอยากได้ยินเหมือนกัน

รักเจ้านะ

“รักเจ้านะ” เป็นคำบอกรักที่เขาอยากได้ยินตรง ๆ แค่สั้นแต่ก็ได้ใจความที่ทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกเจ้าของอย่างคุณได้ชัดเจน ทำให้สัตว์เลี้ยงรู้ว่าสำหรับคุณแล้ว เขามีค่าเป็นทั้งสมาชิกในครอบครัว เพื่อน และผู้ที่คอยอยู่เคียงข้างเวลาทุกข์ สุข และเบื่อได้ตลอด ไม่มีวันไหนที่คุณจะมองข้ามหรือเห็นว่าเขาไม่มีตัวตนเลย เขาเองก็อยากบอกคุณว่า “รักเจ้านายนะ” เช่นกัน

เครดิตภาพ : happydogmom.com, dogster.com

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #คำพูดที่สัตว์อยากได้ยิน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

เจ้าของต้องเฝ้าระวัง! 3 โรคที่สุนัขแก่เสี่ยงจะเป็นได้ง่าย

ช่างเป็นเรื่องที่น่าห่วงไม่แพ้มนุษย์วัยชราสำหรับสุนัขแก่ที่อายุเยอะมากแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาก็ย่อมจะมีอาการเจ็บป่วยตามสภาพร่างกายอย่างที่ควรจะเป็น สุนัขบางตัวก็เจ็บป่วยในระดับเบาด้วยความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก่อน แต่ก็มีสุนัขแก่อีกไม่น้อยที่เมื่อถึงวัยอันสมควรก็จะมีภูมิคุ้มกันและสมรรถภาพทางร่างกายที่แข็งแรงลดน้อยลงทำให้มีโรคมากมายเข้ามาแทรกแซงได้ง่าย ๆ ซึ่งคุณที่เป็นเจ้าของก็ไม่ควรวางใจกับการใช้ชีวิตประจำวันของสุนัขแก่ที่คุณเลี้ยงอีกต่อไปแล้ว ด้วยว่าการใช้ชีวิตประจำวันที่บางทีดูผิดแผกไปเล็กน้อยในสายตาคุณ บางทีมันอาจเป็นสัญญาณของ 3 โรคนี้ที่สุนัขแก่ส่วนใหญ่มักจะต้องเผชิญจนเป็นอันตรายได้ง่าย ๆ หากคุณพบว่าสุนัขตัวเองอาจเป็น 1 ใน 3 โรคนี้หรือพบว่ามีโอกาสเป็นไปได้หมดก็ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนเลยก่อนที่จะไม่ทันการณ์ อย่างน้อยให้เขาอยู่ในการดูแลรักษาก็ดีกว่าปล่อยปละเขาให้ทรมานจากโรคที่มาย่างกรายเต็มที่ 

“ข้ออักเสบ” โรคสุดฮิตของสุนัขแก่

“ข้ออักเสบ” เป็นโรคที่พบได้บ่อยอันดับ 1 ในสุนัขแก่ ที่พวกเขาก็ไม่ต่างจากคนสูงวัยที่เมื่อร่างกายผ่านกาลเวลามายาวนาน กระดูกที่เคยแข็งแรงหลายส่วนก็เริ่มเสื่อมโทรมและเปราะบางง่าย ด้วยการสร้างสารเสริมบำรุงกระดูกและข้อมีความลดน้อยลง ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อตรงบริเวณข้อเสื่อมสภาพจนสุนัขมีการเคลื่อนไหวร่างกายไม่เป็นปกติ เช่น การเดินที่ช้าลง ทรงตัวเวลาลุกยาก ล้มง่าย และบางครั้งอาจจะเจ็บปวดแปลบบริเวณข้อบ่อย ๆ โดยเฉพาะในสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่ข้อต่อต่าง ๆ ต้องมีการรับน้ำหนักตัวมาก ทำให้ข้อบวมได้ง่าย

“ไตวายเรื้อรัง” โรคสุดฮิตของสุนัขแก่

“ไตวายเรื้อรัง” เป็นโรคที่พบได้บ่อยอันดับ 2 ในสุนัขแก่ ด้วย “ไต” ที่เป็นอวัยวะสำคัญของสิ่งมีชีวิตจะมีอายุไม่ต่างจากร่างกายทำให้เวลาผ่านไปและใช้งานมาหนักการกรองและขับของเสียออกในรูปปัสสาวะที่สุนัขมีกระบวนการทำงานที่มากกว่ามนุษย์มากจึงเสื่อมสภาพลงตามอายุเร็วจนทำงานได้น้อยลงไปกว่า 75% แล้ว ซึ่งผลจากโรคนี้จะทำให้สุนัขหิวน้ำบ่อยและปัสสาวะมากกว่าเมื่อก่อน อ่อนเพลียง่าย ซึม และเบื่ออาหารจนเริ่มไม่ค่อยอยากลุกไปไหน

“ภาวะอ่อนแรง” โรคสุดฮิตของสุนัขแก่

“ภาวะอ่อนแรง” เป็นโรคที่พบได้บ่อยอันดับ 3 ในสุนัขแก่ อันเกิดจากระบบอวัยวะภายในร่างกายหลายอย่างที่ทำงานอ่อนประสิทธิภาพลงจนทำให้ร่างกายองค์รวมของสุนัขอ่อนเพลีย หายใจติดขัด ไม่มีแรง เช่น สุนัขที่มีอาการแทรกซ้อนหลายโรคอย่างโรคหัวใจ โรคไตในสุนัข หรือแม้แต่โรคติดเชื้อต่าง ๆ ซึ่งคนละอย่างกับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงในสุนัขที่หลายคนมักคิดว่าเป็นโรคเดียวกัน เพราะโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจะเกิดจากระบบประสาทเป็นหลักซึ่งพบได้ในสุนัขทุกวัย ไม่ได้เกิดจากการแทรกซ้อนของโรคหลายโรคในสุนัข

เครดิตภาพ : productnation.co, jojohouse.com

#เฝ้าระวังโรคจากสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทริคการเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีดูแลสุขภาพปากและฟันสุนัข

การให้ความสำคัญกับการกินอาหารเพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้มีการตรวจสอบสุขภาพปากและฟันของสุนัข อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพโดยรวมของพวกมันได้ เพราะหากสุนัขมีอาการปวดฟัน เหงือกอักเสบ หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปากและฟัน ย่อมส่งผลต่อการใช้ชีวิต เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน เนื่องจากอาจนำไปสู่การอักเสบ และเหงือกร่นได้ 

วิธีการดูแลสุขภาพปากและฟันสุนัขทำได้ด้วยการหมั่นทำความสะอาดปากและฟันสุนัขอยู่เสมอซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ดังนี้

การแปรงที่บ้าน

ควรทำความสะอาดฟันสุนัขสัปดาห์ละสองครั้ง ด้วยแปรงขนนุ่มและยาสีฟันสำหรับสุนัข วิธีการแปรงฟันสุนัขเริ่มต้นจากการค่อย ๆ จับจมูกและสอดแปรงเข้าไประหว่างริมฝีปาก เพื่อแปรงฟันบนและล่างตามแนวของเหงือก อย่างไรก็ตาม ลูกสุนัขมีจำนวนฟันที่มากกว่าและมีแนวโน้มที่จะเป็นฟันผุมากกว่า ดังนั้นการแปรงฟันสุนัขอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดการเกิดฟันผุได้ดีอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์ที่ช่วยกำจัดคราบหินปูน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์สัตวเลี้ยงั่วไป และระมัดระวังของเล่นหรืออาหารที่มีความแข็ง เนื่องจากมันจะทำให้สุนัขของคุณฟันหักได้ ดังนั้น จึงควรเลือกของเล่นที่ทำจากยางหรือซิลิโคน หลีกเลี่ยงการกินกระดูกชนิดต่าง ๆ 

ตรวจสุขภาพปากและฟันเป็นประจำทุกปี

สัตว์เลี้ยงควรได้รับการตรวจช่องปากและฟันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เป็นประจำทุกปี โดยสัตวแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพปากและฟัน ตลอดจนเอกซเรย์เพื่อหาความผิดปกติในช่องปากและฟัน นอกจากนี้ หากพบว่าสัตว์เลี้ยงมีคราบหินปูนจำนวนมาก จะทำการขูดออกทันที หรือหากมีฟันผุก็จะพิจารณาถอนออกทันที เพื่อให้สัตว์เลี้ยงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ นอกจากจะช่วยลดการเกิดฟันผุและโรคต่าง ๆ ได้แล้ว การรักษาความสะอาดช่องปากและฟันยังช่วยให้สัตวแพทย์ตรวจหาความผิดปกติบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว เช่น มะเร็งในช่องปาก เป็นต้น

จับตาดูความผิดปกติ

แม้ว่าคุณจะทำตามที่กล่าวมาทั้งหมด แต่ปัญหาทางทันตกรรมก็อาจเกิดขึ้นได้ และการค้นหาความผิดปกติสามารถช่วยสัตว์เลี้ยงของคุณได้ โดยสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดของปัญหาช่องปากและฟัน คือ ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น เหงือกแดง หรือมีเลือดออก น้ำลายไหลมาก มีความรู้สึกไว เมื่อคุณพยายามสัมผัสบริเวณปาก

สิ่งเหล่านี้เป็นเบาะแสสำคัญที่บ่งบอกว่าสุนัขกำลังเผชิญกับปัญหาปากและฟัน เมื่อเป็นเช่นนี้สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ เพื่อทำการตรวจและรักษาต่อไป

เครดิตภาพ : netgelvin.com,

#การดูแลช่องปากสุนัข #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ขั้นตอนในการเลี้ยงกระต่ายน้อย แสนรักให้ปลอดภัย

กระต่ายกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะมีความน่ารัก และเลี้ยงง่าย ถ้าเป็นยุคก่อนกระต่ายจะเป็นสัตว์ป่าที่มักจะถูกล่าจากนักล่าหรือสัตว์กินเนื้ออยู่เสมอ รวมไปถึงมนุษย์ในบางช่วงก็นิยมจับกระต่ายมาเป็นอาหารด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันผู้คนหันมาเลี้ยงกันมากขึ้น ทำให้มันกลายเป็นสัตว์เลี้ยงน่าสนใจอีกประเภท ใครกำลังสนจะเลี้ยงกระต่ายกันอยู่ลองตามไปดูกันต่อดีกว่าเราควรต้องดูแลในเรื่องใดบ้าง 

1. การที่เราคิดจะเลี้ยงกระต่ายน้อยสักตัวนั้น เราควรเป็นคนช่างสังเกตอาการต่างๆ ของเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ไม่ค่อยกินน้ำ กินอาหารได้น้อย มีขนร่วงมากกว่าปติ ซึมไม่ค่อยเล่น เกิดแผลตามที่ต่างๆ บริเวณร่างกาย มีขี้มูกขี้ตา และถ้าในกรณีที่ตาเป็นฝ้าจะมีน้ำตาไหล เนื่องจากเยื่อบุตาอักเสบ ขนทิ่มตา ท่อน้ำตาตัน อาการเหล่านี้ ผู้เลี้ยงควรพากระต่ายไปพบสัตว์แพทย์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติและทำการรักษาต่อไป  การเลี้ยงกระต่ายเราควรระมัดระวังโรคต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเป็นพิเศษ เพราะบางโรคสามารถติดต่อจากสัตว์มาสู่คนได้ โดยเฉพาะถ้าที่บ้านมีเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เพราะมีหลายคนเช่นกันที่มีอาการแพ้ขนกระต่าย   

2. สถานที่เลี้ยงหรือบริเวณที่กระต่ายอยู่ต้องมีอากาศถ่ายเทสะดวก สะอาด เป็นพื้นที่แห้ง ไม่ร้อนจัด ไม่ชื้นแฉะ ลมไม่พัดแรง อาจเลี้ยงให้อยู่ในกรง เพื่อความปลอดภัย แต่ควรปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นออกกำลังกายรอบบริเวณบ้านบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ควรปล่อยให้วิ่งตามลำพัง เพราะอาจจะถูกทำร้ายจากสัตว์อื่นที่หลงเข้ามาในบริเวณบ้านเราได้ การได้วิ่งเล่นยังมีส่วนช่วยให้กระต่ายน้อยมีอารมณ์ดี แจ่มใส ไม่รู้สึกเหงา 

3. การให้อาหารควรเป็นหญ้าสดหรือหญ้าแห้งเป็นอาหารหลัก เพราะหญ้าจะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระต่ายมาก และยังช่วยให้ขับถ่ายเป็นปกติ สำหรับน้ำดื่มต้องมีวางทิ้งไว้ และทำการเปลี่ยนบ่อยๆ น้ำต้องสะอาด  

4. ถ้าที่บ้านมีเด็กและผู้สูงอายุที่ชอบเล่นใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำไม่เฉพาะแต่กระต่าย ควรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค สำหรับกระต่ายจะสามารถฉีดได้เมื่ออายุครบ 4 เดือนขึ้นไป  

5. ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว กระต่ายมักจะเป็นหวัดและเกิดอาการปอดบวมได้ง่าย รวมทั้งมีปัญหาผิวหนังที่เกิดจากความอับชื้นและเชื้อรา ในช่วงนี้ผู้เลี้ยงควรเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ 

ทั้งหมดเป็นขั้นตอนการดูแลกระต่ายน้อยแสนรัก ที่ดูเหมือนอาจจะมีหลายอย่าง แต่เชื่อเถอะว่าไม่ยุ่งยากเกินไปสำหรับคุณอย่างแน่นอน เพียงเท่านี้กระต่ายน้อยของคุณก็จะมีสุขภาพดี ร่าเริง แจ่มใสอย่างที่ต้องการกันแล้วค่ะ 

เครดิตภาพ :  pixabay.com

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #กระต่าย #สัตว์เลี้ยงน่ารัก