Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์” สัตว์เลี้ยงน่ารักจากแดนไกล

เชื่อว่าใครต่อใครก็น่าจะเคยรู้มาบ้างแล้วว่า ในโลกของเรามีสัตว์แปลกมากมายที่แม้จะไม่ใช่นกหรือค้างคาวแต่ก็สามารถบินได้ ตั้งแต่งูบิน หนอนบิน และสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ ที่ต้องดำรงชีวิตอยู่ตามป่าลึกซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนไทยจะได้ยินแค่เพียงเรื่องราวปากต่อปากแต่ไม่เคยพบเห็น เพราะสัตว์แปลกส่วนใหญ่มักจะมีอยู่ในยุโรปหรือตั้งแต่แถบเกาะทางอินโดนีเซียเป็นต้นไป เพราะบริเวณนั้นจะเป็นพื้นที่ป่า ภูเขา และทะเลที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติมากมายแล้วทำให้ไม่แปลกหากจะมีสัตว์ที่เราไม่เคยพบเห็นอยู่เยอะ หนึ่งในนั้นที่เป็นสัตว์สุดแปลกที่เราไม่คิดว่าจะบินได้ก็คือ “กระรอกบิน” หรือ “ชูก้า ไกลเดอร์” ที่ทำให้หลายคนต้องทึ่งมากกว่าสัตว์บินได้อื่น ๆ เพราะสัตว์อื่นที่เราเจอยังใช้ทักษะเฉพาะตัวในการบินหรือหมุนกลางอากาศให้ดูเหมือนลอยได้ แต่กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์นั้นมีส่วนที่เป็นเสมือนปีกเวลาบินจริง ๆ นะ ไม่เชื่อก็มาอ่านบทความนี้ให้หายข้องใจกันเลย

ทำความรู้จักกับ “กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์”

“กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์” หรือ “กระรอกบินออสเตรเลีย” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กยาวประมาณ 12 นิ้ว น้ำหนัก 90 – 150 กรัมที่มีกระเป๋าหน้าท้อง ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับหมีโคอะล่าและจิงโจ้ ส่วนใหญ่มีขนสีเทาและขนน้ำตาลที่ฟูและนิ่มละเอียด  แน่นตั้งแต่ลำตัวไปจนถึงหาง และมีแถบสีดำหรือน้ำตาลเข้มที่เริ่มระหว่างตา และ แผ่ขยายไปจนถึงแผ่นหลัง ดวงตามีความโปนใหญ่เงางาม และที่โดดเด่นที่สุดจนใคร ๆ ก็ต้องเดินทางมาสำรวจกระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ คือ พังผืดข้างลำตัวของมันที่เมื่อเหยียดจากข้อมือไปจนถึงข้อเท้าทั้งสองข้างจะทำให้กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์บินร่อนกลางอากาศได้ไกลถึง 50 เมตรจากต้นไม้หนึ่งไปสู่อีกต้นไม้หนึ่งได้ โดยคุณสามารถพบกระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์ได้ตามเกาะแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย และปาปัวนิวกินี ประเทศอินโดนีเซียได้ นอกจากนี้ผู้คนยังนำมันมาเลี้ยงด้วย เพราะมันเป็นสัตว์ที่รักการอยู่กับมนุษย์มากซึ่งแตกต่างจากสัตว์ป่าอื่น  

การดำรงชีวิตของ “กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์”

“กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์” จะออกหากินในเวลากลางคืน และนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางวันบนต้นไม้โดยมักพรางตัวตามกิ่งไม้ที่มีใบไม้พุ่มปกคลุมเยอะ ๆ หรืออยู่ในโพรงที่พวกมันช่วยกันทำไม่ให้มีอันตราย  อยู่ร่วมกันแบบสัตว์สังคมเป็นฝูง ประมาณ 6 – 10 ตัว โดยสำหรับการกินอาหารนั้น ในช่วงอายุ 2 เดือนแรก ให้กินวันละ 4 – 6 ครั้ง เพราะอยู่ในวัยเจริญเติบโต เมื่อย่างเข้าเดือนที่ 3 ลดเหลือวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น อายุ 4 เดือนขึ้นไปให้อาหารวันละ 1 ครั้งก่อนนอน อีกทั้งพวกมันยังเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก เมื่อเริ่มมีกลิ่นตัวหรือรู้ว่ามีสิ่งสกปรกติดตามร่างกาย พวกมันก็จะรีบไปอาบน้ำตามแหล่งน้ำทันทีซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะแก่การถ่ายรูปของพวกมันในบางทีที่พวกคุณเห็นโดยบังเอิญ

อาหารสุดโปรดของ “กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์”

“กระรอกบิน ชูก้า ไกลเดอร์” มีอาหารสุดโปรดปรานที่พวกมันชื่นชอบ ได้แก่ ผลไม้รสหวานที่เสริมวิตามินได้ดีอย่างกล้วย แอปเปิ้ล มะละกอ มะม่วงสุก  แตงโม และแมลงตัวเล็ก ๆ ที่ให้สารอาหารธาตุเหล็กและโปรตีน เช่น จิ้งหรีด ตั๊กแตน หนอนนก เป็นต้น

เครดิตภาพ : line.today

#สัตว์เลี้ยง #ทริคเลี้ยงสัตว์ #กระรอกบิน

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

วิธีลดน้ำหนักสุนัขที่คุณรัก

ในการที่เราจะลดน้ำหนักสุนัข หากเป็นไปตามหลักตำราแล้วอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำนัก เพราะจะเป็นการขัดต่อการเจริญเติบโตที่เป็นธรรมชาติของสุนัขอันมาจากพลังงานของอาการที่กินเข้าไปจนทำให้ระบบผิดปกติได้ แต่ในกรณียกเว้นของเรานี้จะมีเหตุที่ว่า สุนัขของคุณต้องเป็นสุนัขที่กำลังประสบปัญหากับโรคอ้วนถึงจุดวิกฤติและติดอยู่กับพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เหมาะกับร่างกายสุนัขมากเกินไปจนอาหารอื่นกินน้อย แต่อาหารที่ไม่เหมาะกลับกินเยอะ และอีกหลายสาเหตุอันมาจากความอ้วนที่ทำให้สุนัขของคุณมีร่างกายที่อ่อนแอลงและเดิน เคลื่อนไหวท่าทางต่าง ๆ ไม่สะดวกจนอาจประสบอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ และถึงมือแพทย์ในที่สุด ฉะนั้นวิธีลดน้ำหนักจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วกับสุนัขอ้วนแบบนี้ ซึ่งจะมีวิธีการลดน้ำหนักอย่างไรให้สุนัขที่คุณรักมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นและไม่เสี่ยงต่อโรคหรืออาการทางร่างกายอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมมา?

ลดน้ำหนักสุนัขโดยให้กินอาหารพลังงานต่ำ

การลดน้ำหนักของสุนัข เราจะต้องให้สุนัขได้รับพลังงานอาหารที่ต่ำลงมา แต่ไม่ต่ำมากจนทำให้ขัดต่อธรรมชาติของการได้รับพลังงานของโภชนาการสำหรับสุนัขไป การบริโภคอาหารก็เป็นไปตามปกติอย่างในชีวิตประจำวันเลย เพียงแค่ต้องลดอาหารที่ให้พลังงานประเภทคาร์โบไฮเดรตลง เช่น ข้าว, แป้ง, เผือก, มัน, อ้อย และเพิ่มโปรตีนเพื่อพลังงานที่ดี สร้างกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน ให้ไม่อ้วนมากก็พอ

ลดน้ำหนักสุนัขโดยพาวิ่งเล่นทำกิจกรรม

การลดน้ำหนักของสุนัขที่ดี คือ เราต้องพาสุนัขออกไปวิ่งเล่นทำกิจกรรมกันนอกบ้านบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำชาเลนจ์วิ่งเก็บบอล กระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง หรือวิ่งซิกแซกก็ได้ที่จะช่วยเผาผลาญพลังงานแคลอรี่ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ให้สุนัขกินอาหารแล้วนอนอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นจะทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ทำงานได้น้อยมาก หรือหากไม่มีเวลาพาออกไปก็ทำกิจกรรมอยู่บริเวณบ้านอย่างการเปิดเพลงและให้สุนัขกระโดดไปพร้อมเจ้าของตามจังหวะก็ได้

ลดน้ำหนักสุนัขโดยเสริมแอล – คาร์นิทีนร่วม

การลดน้ำหนักขงอสุนัขอีกวิธีหนึ่งที่ไม่ทำไม่ได้ คือ ต้องมีการเสริม “แอล – คาร์นิทีน”ร่วมด้วยเพื่อให้สารตัวนี้ที่อยู่ในอาหารเสริมช่วยในด้านของการเผาผลาญและให้พลังงานแก่ร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม ทดแทนสารอาหารจากธรรมชาติที่ลดลงไปทำให้สุนัขไม่เกิดอาการหิว โดยอาหารเสริมที่มีแอล – คาร์นิทีนก็จะต้องเป็นอาหารเม็ดซึ่งเราแนะนำ “Pet Select DCM”เลย แม้ราคาจะสูง แต่สามารถช่วยลดน้ำหนักสุนัขได้ดีมากและเสริมภูมิคุ้มกันได้ด้วย

เครดิตภาพ : topdogtips.com, allaboutdogfood.co.uk

#สัตว์เลี้ยง #สุนัขแสนรู้ #ลดน้ำหนักสุนัข

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

สถานที่ที่สุนัขชอบไปรอคอยเจ้าของ

หากพูดถึงสัตว์เลี้ยวที่มีความรัก ความซื่อสัตย์ และความภักดีต่อมนุษย์แล้วล่ะก็ไม่ว่าใครย่อมจะยกย่องให้เป็นเรื่องราวของ “สุนัข”กันทั้งนั้น เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนที่เราเลี้ยงดูสุนัขมาก็ยิ่งหล่อหลอมให้สุนัขผูกพันกับเจ้าของอย่างเรามากขึ้นเท่านั้น นอกเหนือไปจากความแสนรู้ที่แม้บางครั้งเขาจะไม่เข้าใจความหมายที่เราอยากสื่อถึงแต่ก็มีสามารถรู้สิ่วที่เราต้องการสอนหรือบอกได้ผ่านการแสดงสัญญาณและแววตาของเรา ทำให้คนกับสุนัขที่เลี้ยงเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันที่แยกจากกันไม่ได้ จึงไม่แปลกหากเราจะเคยเห็นเรื่องราวของสุนัขที่รอเจ้าของมานานหลายปีจนบางตัวเสียชีวิตก็มี ซึ่งสุนัขเมื่อต้องแยกจากเจ้าของแน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกเหงาอยากเป็นคนแรกที่เห็นเจ้าของเดินกลับมาด้วยตัวเองจึงมักรอคอยที่เดิมไม่ค่อยไปไหนจนกว่าอีกฝ่ายจะกลับมาหาเหมือนเดิมซึ่งในวันนี้เราก็จะมาบอกเล่าถึงสถานที่ที่สุนัขชอบไปรอคอยเจ้าของให้พวกคุณได้รู้

สถานที่ที่เจ้าของกับสุนัขบอกลากัน

สุนัจส่วนใหญ่มักจะคิดว่าการที่เจ้าของจะกลับมาไม่ว่าวันใดก็วันหนึ่ง อีกฝ่ายย่อมจะมาที่แรกคือสถานที่ที่ต่างฝ่ายต่างลากันก่อนที่เจ้าของจะเดินทางอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นสถานีรถไฟ ป้ายรถเมล์ หรือบริเวณที่เจ้าของอีกคนพาสุนัขออกมาบอกลาเจ้าของคนนั้นที่จะเดินออกไป เมื่อสุนัขไม่รู้ว่าจะรอเจ้าของที่ไหนดี สถานที่ทางเลือกที่แน่นอนที่สุดว่าจะได้พบเจ้าของอีกครั้งคือที่สุดท้ายของการบอกลากันนั่นเอง

บ้าน คือ สถานที่หนึ่งของการรอคอยเจ้าของสำหรับสุนัข

บ้านที่สุนัขถูกเลี้ยงไว้โดยมีเจ้าของคือสถานที่ที่ทำให้เขามีความสุขและเขาก็คุ้นชินกับการอยู่ในสถานที่ชายคาเดียวกันหลังนี้มานาน บ้านจึงเป็นสถานที่ที่หากสุนัขไม่ได้ออกไปไหนมาไหนก็มักจะนั่งรอคอยเจ้าของกลับมาโดยมองผ่านประตูรั้วอย่างจดจ่อทุกครั้งในเวลาที่ว่างจนกว่าจะเห็นเจ้าของกลับมา เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดว่าเจ้าของอยู่บ้านหลังนี้มานาน ต้องมีความผูกพันและไม่ทอดทิ้งบ้านตัวเองแน่นอน

สถานที่ Outdoor ประจำของสุนัขกับเจ้าของ

สถานที่ Outdoor ที่เจ้าของเคยพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมบ่อย ๆ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่ทำให้พวกเขาผูกพันกัน หากสุนัขได้มีโอกาสออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกจึงมักจะไปนั่งรอเดินวนรอบ ๆ สถานที่นั้นเผื่อว่าเจ้าของจะกลับมาที่บ้านแล้วเดินมาตามหาสุนัขที่นี่ได้ สุนัขคิดว่าการที่มนุษย์พาเขาไปที่ไหนบ่อย ๆ นั่นอาจจะเป็นสถานที่พักผ่อนที่คนคนนั้นชอบเป็นส่วนตัวด้วย

เครดิตภาพ : pantip

#สุนัข #รอเจ้าของกลับ #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

วิธีตามหากลิ่นของสุนัขที่คุณฝึกได้

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีไหวพริบในการดมกลิ่นมาก หากมันพบว่ามีกลิ่นใดที่ไม่พึงประสงค์ก็จะตามไปตรวจสอบดูว่าสิ่งนั้นคือสิ่งใด แต่หากเขามีประสบการณ์ในการเห็นหลายสิ่งหลายอย่างมาและได้ดมกลิ่นสิ่งนั้น ๆ จนรู้แล้วว่าคือกลิ่นอะไรก็จะเข้าใจได้ทันทีว่ากลิ่นที่ดีกับกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้นคือสิ่งใด แล้วควรไปจัดการแบบไหน แน่นอนว่าแม้เขาจะเก่งกาจในการดมกลิ่นมากแค่ไหน แต่สุนัขที่ไม่มีประสบการณ์ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกสุนัขก็ไม่ต่างจากเด็กเล็กคนหนึ่งที่รู้และเข้าใจถึงสิ่งที่ดูแล้วไม่ดีต่อเขา แต่กลับไม่รู้ความหมายโดยนัยเชิงลึกว่าไม่ดีอย่างไร? ดีอย่างไร? จะทำอย่างไรหากต้องประสบกับสิ่งเหล่านี้? อีกทั้งคุณอาจจะเห็นได้ว่าสุนัขบางตัวแม้จะโตมาแล้วแต่เมื่อได้กลิ่นอะไรเขาก็ดูจะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กับกลิ่นนั้นเท่าไหร่เลย นอกจากว่าหากฉุนมากก็จะเดินหนีเท่านั้น นั่นเพราะเขาไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเมื่อได้กลิ่น คุณจึงต้องทำการฝึกสุนัขของคุณให้ตามหากลิ่นเพื่อที่เขาจะได้มีประสบการณ์ กระตือรือร้นที่จะสำรวจ และรู้ว่ากลิ่นเหล่านั้นมาจากอะไร ต้องทำสิ่งใดหากได้กลิ่นนั้น 

ฝึกสุนัขดมกลิ่นสิ่งของต่าง ๆ

การให้สุนัขดมกลิ่นสิ่งของรอบตัวในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของดอกไม้ กลิ่นอาหาร กลิ่นของเล่น รวมถึงกลิ่นของใช้ประจำและกลิ่นกายของเราจะทำให้เขาเริ่มเข้าใจว่าสิ่งของแต่ละอย่างมีกลิ่นเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป ยิ่งเป็นกลิ่นกายของมนุษย์เจ้าของตัวเองที่เขาได้กลิ่นเป็นประจำ เขาย่อมจำได้ดีกว่ากลิ่นอื่นซึ่งหากเกิดเรื่องใดขึ้นมาหรือมีอะไรหายไป เขาจะได้ตามกลิ่นถูก หรือเมื่อได้กลิ่นใดก็จะได้รู้ว่าเป็นกลิ่นของสิ่งนั้น ไม่เกิดความสับสน

ฝึกสุนัขให้ตามกลิ่นสิ่งของนั้น ๆ จนเจอ

การฝึกสุนัขให้ตามกลิ่นสิ่งของนั้น ๆ โดยการทำให้กลิ่นของสิ่งนั้น ๆ ที่สุนัขเข้าใจและคุ้นชินแล้วติดตามสิ่งต่าง ๆ ก่อนจะวางของที่มีกลิ่นเดียวกันกับของที่เราซ่อนไว้รายทางให้สุนัขดมไปเรื่อย ๆ จนสามารถเจอของที่คุณซ่อนไว้ได้จะเป็นการฝึกขั้นที่สองให้สุนัขรู้จักการตามหากลิ่นและเสริมความกระตือรือร้นให้เขาหัดสงสัย คอยระวังหากมีกลิ่นแปลกหรือกลิ่นใดที่โด่งขึ้นมา เขาก็จะได้เดินไปดูจนรู้ว่ากลิ่นเกิดจากอะไร ควรหาจากจุดใดจึงจะเจอร่องรอยจนพบต้นตอซึ่งก็สนุกสนานไม่ต่างจากนักสืบเหมือนกัน เผื่อมีเรื่องสุดวิสัยใด ๆ เกิดขึ้น สุนัขจะได้ไปแสตนด์บายรอในขณะที่ทุกคนในบ้านไม่รู้

ฝึกสุนัขให้จัดการกับของสิ่งนั้นเมื่อเจอ

ในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อสุนัขถูกฝึกให้เดินตามหาร่องรอยสิ่งของที่คุณซ่อนไว้จนเจอแล้ว คุณก็แค่สอนว่าเขาควรจะทำอะไรกับสิ่งนั้น หากเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัยกับเขาและมนุษย์ก็ต้องฝึกให้เขาอย่าผลีผลามเข้าใกล้ แต่ให้ใช้วิธีหลีกเลี่ยงและวิ่งมาบอกเจ้าของอย่างเรา แต่หากเป็นของอื่น ๆ ที่เขาเก็บออกไปได้ก็ฝึกให้เขาคาบเอาไปทิ้งได้เช่นกัน แม้แต่ของสำคัญที่เจอก็ให้คาบมาวางไว้ตรงมุมประจำของเจ้าของหรือมาให้กับตัวก็ได้ สุนัขแสนรู้อยู่แล้ว

เครดิตภาพ : pixabay

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #ดมกลิ่น #สุนัข

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

วิธีไล่สุนัขกัดกันให้รอด

นับเป็นเรื่องที่ชวนน่าปวดหัวและน่ารำคาญใจมากเมื่อเราทำธุระหรือทำกิจวัตรประจำวันสำคัญอยู่ดี ๆ ก็มีเสียงของสุนัขที่ขู่และเห่าไล่กัดกันเสียงดังจนบางทีก็รู้สึกไม่ชอบใจที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็มาเปิดศึกกันหน้าบ้านเราเสียนี่ แต่บางครั้งหากเป็นสุนัขที่เราเลี้ยงกำลังไล่กัดกับสุนัขอื่นก็อาจสร้างความกังวลให้กับเราได้ ด้วยหากสุนัขเราถูกกัดเป็นแผลเหวอหวะกลับมาก็อาจติดเชื้อต้องเสียเงินพาไปหาสัตวแพทย์อีก ซน ซ่า กล้าบ้าบิ่นกันมากใช่ไหม! แบบนี้ต้องเจอคนจริงอย่างเราซะแล้ว เมื่อเกิดเรื่องที่สุนัขกัดกันแบบนี้ขึ้นมา เราที่เป็นคนกลางต้องจัดการไล่พวกเขาให้หนีกระเจิงเพื่อล้มศึกอันยิ่งใหญ่สุดไร้สาระที่สร้างความเดือดร้อนหน่อย แต่หากจะให้เราเดินไปยืนจังก้าแล้วยกมือปัด ๆ หรือเอาไม้มาทำท่าจะยกตีให้ไปแล้วล่ะก็บางทีอาจเป็นเราเองที่ถูกเจ้าสุนัขอีกฝั่งกัดแทนที่จะเป็นสุนัขของเราก็ได้ วันนี้เราก็เลยมีวิธีเด็ด ๆ ในการไล่สุนัขที่กัดกันให้รอดทั้งเราทั้งสุนัขสองฝ่ายโดยไม่ต้องมีการเสียเลือดเสียเนื้อเลย มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

สาดน้ำไล่สุนัขที่กัดกัน

ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมวก็ย่อมต้องมีความตกใจในน้ำที่จู่ ๆ ก็ถูกสาดมาใกล้ตัวจนรู้สึกเย็นซู่ซ่าอยู่แล้ว ยิ่งเป็นน้ำจำนวนมากที่ถาโถมมาราวกับสีนามิในมุมมองของมันแล้วล่ะก็ สุนัขทุกตัวจะตกใจจนรีบวิ่งแหกกระเจิงไปคนละทิศละทางกันโดยไม่ต้องนัดหมายเลย แถมยังวิ่งหนีไปไกลด้วย คุณจะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกสุนัขกัดแต่อย่างใดเลยเพราะมันกลัวคนที่สาดน้ำใส่โดยไม่ทันตั้งตัวมากที่สุด พอวิ่งหนีก็ไม่มองแล้วว่าใครเป็นคนสาด วันนั้นพวกสุนัขก็คงจะเข็ดไปไม่กล้ามาอีกเลยแน่นอน วิธีไล่สุนัขกัดกันนี้เร็วสุดแล้ว

เป่านกหวีดไล่สุนัขที่กัดกัน

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีไหวพริบและความไวต่อคลื่นและเสียงมาก ยิ่งเป็นเสียงนกหวีดที่ดังขึ้นมาแล้วล่ะก็พวกเขาจะหยุดการกระทำที่หมายจะกัดกันทันทีแล้วหยุดฟังเสียง หากเสียงหยุดไปก็จะกลับมากัดอีกครั้ง แต่คุณก็อย่าได้ย่อท้อ ครั้งแรกแค่ลองเชิงให้พวกเขาได้ยิน ครั้งที่สองนี้จงจัดเต็มเป่านกหวีดยาวและหยุดสลับกันหลาย ๆ ครั้งให้สุนัขเกิดความตกใจพร้อมก้าวขาเข้าหาสุนัขให้มันเห็นว่าเสียงนั้นกำลังเดินหน้าเข้ามาหาพวกเขาทีละน้อยเดี๋ยวพวกเขาก็จะรีบวิ่งหนีไปเอง เป็นวิธีการไล่สุนัขกัดกันที่เหมาะจะใช้ในช่วงกลางวันและบริเวณที่มีบ้านอยู่ไม่เยอะ ไม่เช่นนั้นเพื่อนบ้านคุณอาจไม่พอใจเท่าไหร่

พาคนจำนวนมากมาตะโกนไล่สุนัขที่กัดกัน

เมื่อไล่สุนัขคนเดียวไม่สำเร็จก็ให้ไปจัดการพาคนรู้จักจำนวน 2 – 3 คนมายืนไม่ห่างจากกลุ่มสุนัขด้วยกันแล้วนับหนึ่ง สอง สามออกเสียงตะโกนไล่สุนัขกัดกันให้ดังเลย แนะนำให้ออกเสียงประสานพร้อมกันแล้วพวกสุนัขก็จะตกใจกลัวเสียงที่ดังเป็นคลื่นเหมือนอยู่ใกล้ลำโพงจนวิ่งหนีไปเอง แนะนำว่าต้องเป็นคนที่มีบุคลิกห้าวหาญหน่อย เพราะหากเป็นเด็กหรือคนที่อ่อน ๆ สุนัขจะไม่กลัวแน่นอน ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งดี

เครดิตภาพ : texvetpets.org/

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ไล่สุนัข

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“แมลงทับ” แมลงที่งามราวกับอัญมณีมรกต

โลกของเรามีสิ่งมีชีวิตมากมายที่ลักษณะสีหรือลวดลายร่างกายมีความงดงามดุจสัตว์ในโลกแห่งจินตนาการ แม้แต่แมลงเองก็มีหลากหลายชนิดที่ร่างกายมีสีสวยราวกับเพชร เกล็ดอัญมณี หรือเปล่งประกายสวยงามในที่มืดได้ บางตัวพบเห็นได้ยากในชีวิตประจำวัน แต่บางตัวก็พบเห็นได้ง่ายแต่อย่างที่สำนวนไทยกล่าวไว้ว่าของสวย ๆ งาม ๆ มักจะซ่อนเร้นกลมกลืนอยู่ภายใต้สิ่งที่ดูธรรมดา “แมลงทับ” ก็เป็นหนึ่งในแมลงที่ความงดงามที่สุดในสายตาของคนทั่วโลก พบเห็นได้ง่ายในชีวิตประจำวัน แต่มักจะหลบซ่อนตัวไม่ค่อยออกมาให้ใครได้เห็นเท่าไหร่ ทำให้เวลาที่ใครพบเห็นแมลงทับเป็นครั้งแรกก็มักจะตื่นเต้นแล้วรีบไปบอกเล่าต่อว่ามีแมลงหายากอยู่ใกล้ตัว 

เราเองก็มีประสบการณ์พบเจอกับแมลงทับครั้งแรกตอนช่วงประถมศึกษาเช่นกัน ตอนนั้นจำได้ว่ามันเป็นเวลาช่วงบ่ายอันเงียบสงบที่กำลังพักดื่มน้ำระหว่างรอเรียนวิชาต่อไป พอลงมาที่บริเวณอ่างล่างหน้าข้างอาคารเรียนก็เจอกับแมงที่สวยงามชนิดนี้จนรู้สึกตื่นเต้นรีบเอาไปเล่าให้หลายคนฟังจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะคลาสไปเลย แต่พอมาดูอีกทีก็หายไปแล้ว วันนี้หากใครที่อยากรู้เรื่องราวของ “แมลงทับ”ล่ะก็ตามมาอ่านกันเลย

ทำความรู้จักกับ “แมลงทับ”

“แมลงทับ” เป็นแมลงปีกแข็งที่มีสายพันธุ์แรกเริ่มมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ในวงศ์ Buprestidae อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก ชอบใกล้ชิดกับความชื้นตามแหล่งที่มีน้ำ ลักษณะของแมลงทับจะมีลำตัวยาวโค้งนูน ส่วนที่เป็นปีกแข็งมีความแข็งมาก มีทั้งน้ำเงิน, แดง, ดำ และเหลืองแบบเงางามประกายในความมืดได้อย่างโดดเด่น ส่วนหัวมีขนาดเล็กซ่อนอยู่ใต้อกปล้องแรกซึ่งโค้งมนเรียวไปทางหัวเชื่อมกับอกปล้องกลางกว้างกว่าส่วนอื่น ๆ ท้องมนเรียวไปทางปลายหาง ปีกแข็งหุ้มส่วนท้องจนหมด และมีหนวดที่เป็นแบบใบไม้ ด้วยความที่มีสีสันสวยงาม ในอดีตแมลงทับจึงถูกมนุษย์นำมาใช้เป็นเครื่องประดับแทนเพชรนักต่อนักจนได้มีการอนุรักษ์สัตว์และแมลงเกิดขึ้นทำให้ความนิยมนี้ลดลง

การดำรงชีวิตของ “แมลงทับ”

“แมลงทับ” จะมีระยะตัวเต็มวัย-ระยะไข่-ระยะตัวอ่อน-ระยะเข้าฝัก จวบจนถึงเมื่อถึงระยะอันสมควร มันจะเข้าสู่ผสมพันธุ์กันแล้วตัวเมียจะวางไข่ไว้ในดินราวเดือนสิงหาคม และเมื่อถึงเดือนกันยายน ทั้งเพศผู้และเพศเมียก็จะตายก่อนที่ ไข่จะถูกฟักออกเป็นตัว ลูกแมลงทับจะอาศัยการกินรากไม้ที่อยู่ในดินหาเลี้ยงชีพเองในฝักเป็นเวลาหลายเดือน จากนั้นจะเห็นตัวเต็มวัยออกมากินใบพืชราวปลายเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม จนกลับมาสู่วงจรชีวิตเดิมเหมือนพ่อแม่ของมันจนหมดอายุ แมลงทับที่ตายจะร่วงหล่นจากต้นไม้มาสู่พื้นดิน ซึ่งหากเป็นในท้องถิ่นตามภูเขาก็ยังมีชาวบ้านที่เลือกนำแมลงทับมาทำเป็นเครื่องประดับชนิดต่าง ๆ อยู่ดังเดิม 

ความสามารถพิเศษของ “แมลงทับ”

“แมลงทับ” เป็นแมลงที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวในการพุ่งทะยานบินได้อย่างรวดเร็วในระดับที่สูงมาก และเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่มันถูกรบกวนก็จะมีพฤติกรรมแกล้งตาย โดยการอยู่เฉย ๆ หรือแสร้งทำเป็นหล่นจากต้นไม้ที่เกาะอยู่เพื่อลวงศัตรูให้เข้าใจผิดว่าตายแล้วก่อนจะทำการจู่โจมอย่างไว เรียกได้ว่าเป็น “หนึ่งในแมลงเจ้าเล่ห์ที่สุดของโลก” น่าค้นหานัก

เครดิตภาพ : mgronline.com

#แมลงแปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #แมลงงาม

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

“ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ” แมลงสวยงามที่คล้ายผีเสื้อสุดแปลก

หากคุณยังคงคิดว่าบนโลกนี้มีผีเสื้อที่เป็นแมลงสวยที่สุดจนให้ฉายากับมันเป็นตัวแทนของทุกสิ่งทุกอย่างที่สวยงามแล้วล่ะก็เราขอบอกเลยว่าคุณอาจต้องรู้จักกับสัตว์โลกประเภทแมลงให้มากขึ้นกว่านี้เสียแล้ว เพราะเวลานี้โลกของเราไม่ได้มีแค่เพียงผีเสื้อซึ่งเป็นแมลงสวยงามที่สุด แต่ยังมีสัตว์ที่ตัวใหญ่กว่าผีเสื้อและมีปีกที่งดงามเหมือนกันหลากหลายสีสันด้วย เราเรียกพวกมันว่า “ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ” ฟังจากชื่อเรียกชนิดของแมลงเหล่านี้ มันอาจทำให้คุณรู้สึกหวาดกลัวและระแวงจนไม่อยากเข้าใกล้นักเมื่อคำว่า “ปีศาจ”ได้เข้ามาอยู่ในหัวจนอาจทำให้คุณคิดว่ามันมีอันตรายหรือเปล่า แต่ที่จริงตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจนั้นน่ากลัวแค่ชื่อ ในโลกนี้มันคือหนึ่งในแมลงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดและไม่ต่างกับราชินีแห่งแมลงหลากหลายพันธุ์ในป่าท้องถิ่นที่มันอยู่เลยด้วยซ้ำ 

ทำความรู้จักกับ “ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ”

“ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ” เป็นตั๊กแตนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ด้วยกัน ซึ่งลักษณะเอกลักษณ์ที่บ่งบอกให้รู้ว่ามันอยู่ในวงศ์นี้คือ ขาหน้าของมันที่ชูขึ้นสูงสองข้างแบบคนที่ตั้งท่าจะชกมวยกับคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ซึ่งขาหน้านี้สามารถใช้จู่โจมแมลงและคู่ต่อสู้โดยการดีดให้กระเด็นไปได้ แต่สำหรับคนอาจจะเจ็บเหมือนโดนยางดีด แต่ความโดดเด่นที่ทำให้ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจแตกต่างจากตั๊กแตนอื่นในวงศ์เดียวกันก็เพราะมันมีปีกขนาดใหญ่ ลวดลายเดียวกับปีกผีเสื้อที่แต่ละตัวจะสีต่างกัน บ้างก็เป็นสีเขียว บ้างก็เป็นสีชมพู และสีอื่นตามแต่ท้องถิ่นที่กำเนิด พบได้ทั่วไปตามแทนซาเนีย เอธิโอเปีย มาลาวี โซมาเลีย เคนยา และยูกันดา 

การดำรงชีวิตของ “ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ”

“ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ” มักจะอยู่อาศัยและซ่อนตัวตามดอกไม้ป่า ไร่ สวนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรชาติเพื่อหลบภัยและคอยสังเกตการณ์ดูเหยื่อที่เดินขึ้นตามดอกไม้เดียวกันกับที่มันอยู่ ดอกไม้ข้าง ๆ ใกล้กัน หรือบินมาจะถึงตัวมัน ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจก็จะทำการพุ่งกระโดดจู่โจมเหยื่ออย่างรวดเร็ว และมีการวางไข่ตามพื้นผิวดิน โดยตัวอ่อนที่ออกมาจะเป็นสีสีแดงแต้มด้วยสีขาวในช่วงแรกก่อนที่จะเติบโตมาเป็นสีเขียวตามแบบตั๊กแตนทั่วไปแล้วเมื่อช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยไกลจากอาณาเขตป่าสวนที่มันอยู่ ยกเว้นจะเกิดภัยพิบัติหรือความผิดปกติ

อาหารสุดโปรดของ “ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ”

“ตั๊กแตนตำข้าวดอกไม้ปีศาจ” มีอาหารที่พวกมันชื่นชอบโปรดปรานมากมายเป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นจิ้งหรีด, จักจั่น, ตัวห้ำ, ตั๊กแตนหนวดสั้น และแมลงอื่นในป่าท้องถิ่นที่ให้โปรตีนสูง มันสามารถกินได้หมดและยังมีการเก็บอาหารสำรองไว้ก่อนฤดูแล้งเหมือนมดด้วย

เครดิตภาพ : witter.com/samrujlok, board.postjung.com

#สัตว์แปลก #ความรู้เรื่องสัตว์ #ตั๊กแตน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

นกพูดได้ที่เลี้ยงแล้วคุณจะไม่รู้สึกเหงา

เหงาและเดียวดายหรือไม่กับทุกวันที่คุณต้องกลับมาบ้านแล้วพบว่าแม้แต่ในสถานที่สงบใจมากที่สุดก็ยังสร้างความว้าเหว่ไม่แตกต่างจากการที่เราอยู่ตัวคนเดียวในโลกอันกว้างใหญ่เลย ไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนไม่มีแรง ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้าง ฟังเพลงก็ช่วยได้แค่เวลาฟังเท่านั้น เราแค่อยากจะหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนและคนในครอบครัวที่คอยเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่างที่เราเป็น ได้พูดคุยจ้อแจ้กับเราตลอดเวลา โดยที่เราไม่ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาหรือชวนพูดเองตลอด ยิ่งเป็นคนที่พูดไม่เก่งด้วยก็ยิ่งต้องการใครสักคนที่มาเปลี่ยนแปลงชีวิตที่จำเจและหงอยเหงา แบบนี้ถึงคราวที่คุณต้องมี “นกพูดได้” เป็นสัตว์เลี้ยงชวนคุยประจำบ้านแล้วล่ะ บอกเลยว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบการอยู่คนเดียวแบบไม่มีใครเคียงข้างหรือคนที่เป็นโรคซึมเศร้า นกพูดได้ถือเป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคุณมีสีสันได้มากที่สุดเลย ไม่จำเป็นต้องอยู่กับคนที่ไม่จริงใจหากเรามองหาแล้วว่างเปล่า แค่เพียงคุณเลือก 1 ในนก 3 ชนิดที่เราแนะนำมาก็จะไม่เหงาแล้ว

“นกแก้ว” นกพูดได้น่าเลี้ยงคลายเหงา

“นกแก้ว” เป็นนกที่สามารถพูดเลียนเสียงมนุษย์ได้และสามารถจดจำการตอบโต้กันของมนุษย์จนสื่อสารเป็นประโยคยาว ๆ ได้ ยิ่งคุณชวนมันพูดเองและตอบเองบ่อย ๆ ในช่วงแรกมากเข้า ทีนี้ระยะหลังเจ้านกแก้วก็จะตอบโต้คุณได้ทุกคำเวลาพูดเลย เพราะตามจิตวิทยาแล้วหากในชีวิตประจำวันเวลาเราคุยอะไรแล้วก็มักจะติดคำประจำตัวและประโยคเดิม ๆ บ่อยซึ่งคุณจะรู้สึกเหมือนได้คุยกับเพื่อนคอเดียวกันแบบสนุกสนานในสไตล์ที่ไปด้วยกันได้ดีมาก แถมสีขนที่สวยของนกแก้วและความแสนซนชวนคุยเก่งเมื่อเห็นหน้าทุกครั้งก็ยังเป็นสีสันให้ชีวิตคลายเหงาได้ดีมากด้วย

“นกขุนทอง” นกพูดได้น่าเลี้ยงคลายเหงา

“นกขุนทอง” นกเลี้ยงชนิดนี้คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาตั้งแต่ในยุคอดีตแล้ว เพราะนอกจากเสียงร้องจะไพเราะ ขนมีสีดำแวววาวและมีหงอนสีเหลืองสวยงาม ยังสามารถพูดได้อีกด้วย แถมเวลาพูดหรือเถียงใด ๆ กัน เจ้านกขุนทองก็มักจะเป็นฝ่ายที่ชนะจากการเถียงเก่งแถมยังพูดแบบคนเสียงดังสนั่นประหนึ่งแม่ค้าปากตลาดซึ่งมันคงจะบอกเป็นนัยว่าเอาสิ! ฉันเสียงดีกว่าเธอแน่นอน เธอพูดฉันก็ยิ่งพูดเยอะถ้าคิดว่าเหงาได้ก็ลองดู อาจจะปวดหัวเวลาอยู่กับมันหน่อย แต่ก็เหมือนมีเพื่อนที่ช่างจ้ออยู่กับตัวตลอดเวลานะ

“กระตั้วสายพันธุ์มีเดียมคอคคาทู” นกพูดได้น่าเลี้ยงคลายเหงา

“กระตั้วสายพันธุ์มีเดียมคอคคาทู” เป็นนกเลี้ยงที่พูดเลียนเสียงคนได้ พูดเป็นประโยคดี และมีนิสัยแสนซนร่าเริง จุดเด่นที่ทำให้มันแตกต่างจากนกอื่น ๆ คือ การชอบเริงระบำเต้นตามสเต็ปต์ของตัวเองบ่อยครั้ง ยิ่งได้ยินเสียงเพลงมันก็ยิ่งอยากเต้นโชว์คุณให้ฟีลว่าไม่ต้องเหงานะ มา ๆ มาเต้นกับพี่สิ ใครทำให้เสียใจปล่อยมันไปอย่างที่เป็น แล้วมาระบายกันได้ทุกเมื่อ ซึ่งคนไทยปัจจุบันนิยมเลี้ยงกันมาก แต่ราคาจะค่อนข้างสูงหน่อย เท่าที่เจอก็ตัวละ 12,000 บาท

เครดิตภาพ : static.thairath.co.th/, pixabay.com/

#สัตว์พูดได้ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #นก

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ทำอย่างไรเมื่อคุณต้องหัดขี่ม้า

นับเป็นปัญหาที่ชวนให้น่าวิตกกังวลมากที่สุดเมื่อเราจำเป็นที่จะต้องหัดขี่ม้าหรืออาจจะเพราะว่าคุณมาเที่ยวแล้วได้มีโอกาสเยือนฟาร์มม้าจึงเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่จะทำกิจกรรมขี่ม้าชมไร่ชมสวนสักครั้งในชีวิตให้ได้ประสบการณ์ซึ่งม้าก็เป็นสัตว์ที่เชื่องกับมนุษย์มากหากเลี้ยงเขาดี ๆ เขาก็จะสามารถเป็นเพื่อนและลูกน้องที่ดีในการพาเราเดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องการด้วยความรวดเร็วตามแบบที่เรากำหนด ซึ่งเราสามารถขี่บนหลังเขาที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างสง่างามได้เช่นกัน แต่ด้วยความที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจึงอาจทำให้คุณรู้สึกกังวลเป็นธรรมดาว่าน้องม้าจะพยศเราหรือขืนเราหรือเปล่า เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ๆ ซึ่งบอกเลยว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นเพราะปกติแล้วคนที่ขี่ม้าครั้งแรกมักจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยเดินคุมไปด้วยตลอดเวลา แต่หากเป็นกรณีที่บ้านของคุณทำฟาร์มม้าและคุณต้องฝึกขี่ม้าแบบจริงจังก็ต้องค่อย ๆ ฝึกหัดขี่ม้าไป วันนี้เองเราก็มีทริกเด็ดมาบอกเล่าคุณในการขี่ม้าที่น่าอ่านมาก! เรามาฝึกไปพร้อม ๆ กันเถอะนะ

ทำความใกล้ชิดกับม้าก่อน

ตามธรรมชาติของม้าแล้วจะเลือกคนที่ขี่ด้วยแม้ว่าคุณจะได้รับอนุญาตจากคนที่ขี่เขาประจำแล้ว แต่เมื่อม้ารู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่บนหลังตัวเองไม่ใช่สัมผัสเดียวกันกับคนที่เคยนั่งขี่เขา เขาย่อมจะไม่ยอมให้อีกฝ่ายขึ้นมานั่งนักยกเว้นแต่คนที่ขี่จะพยายามบอกและลูบหลังให้เขาใจเย็น ไม่พยายามข่มหรือใช้สัมผัสที่รวดเร็ว รีบร้อน กดดันสำหรับม้า ควรมีทักษะความรู้ด้านการเข้าหาม้าอย่างใกล้ชิดพอสมควร ฉะนั้นการหัดขี่ม้าช่วงแรก คุณจึงต้องพยายามพาม้าเดินไปไหนมาไหนก่อน ยังไม่ต้องขี่ พยายามให้อาหารเขา ยิ้ม และลูบร่างเขาด้วยความรู้สึกเบาสบายแล้วเขาจะผูกพันกับคุณเอง

ขี่ม้าร่วมกับคนที่เชี่ยวชาญมาแล้ว

เมื่อม้าเริ่มผูกพันและรู้สึกดีกับคุณแล้ว การขี่ม้าก็จะเริ่มเกิดขึ้นแบบค่อนเป็นค่อยไปเช่นกัน ระยะแรกหากไม่ใช้วิธีการนั่งคนเดียวแล้วมีผู้เชี่ยวชาญด้านม้าคอยพาจูงและเดินคุมเคียงข้างคุณก็อาจจะให้เขาขึ้นไปนั่งบนหลังม้าด้วยกันสองคนแล้วให้เขาสอนวิธีการคุมม้าเวลาม้าเคลื่อนไหวไปข้างหน้าด้วยก็ได้เพื่อให้คุณเริ่มเกิดความชินในการฝึกแบบที่ปลอดภัย

เริ่มขี่ม้าด้วยตัวเองอย่างเชื่องช้าก่อนจะเพิ่มความเร็ว หลังจากที่ฝึกหัดคุณขี่ม้าด้วยตัวเองจนเริ่มทรงตัวและควบคุมม้าได้ดีแล้วจนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันแล้วก็ให้ฝึกขี่แบบเชื่องช้าไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับความเร็วให้มากขึ้นตามความสามารถที่คุณควบคุมเขาได้แบบพอดี ๆ ไม่ต้องข้ามสเต็ปไปเร็วแบบคนที่ชำนาญแล้วจนอาจทำให้ทรงตัวยากเมื่อมีความเร็วขึ้นและเกิดอุบัติเหตุได้ คุณมีศักยภาพในการขี่ม้าเร็วมากเท่าไหร่ให้ขี่ม้าด้วยความเร็วที่คุณควบคุมได้ก็พอ แล้วคุณจะสง่างามและม้าเองก็จะไว้ใจคุณมากขึ้น

เครดิตภาพ : .bridestonewalkers.com, .thairath.co.th

#สัตว์เลี้ยง #ทริคการเรียนขี่ม้า #ขี่ม้า

Categories
Uncategorized

“จามรี” สัตว์ท้องถิ่นคู่เคียงหิมาลัย

ทุกทวีปย่อมจะมีสัตว์เฉพาะที่กำเนิดและดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เหมาะสมกับระบบนิเวศของตัวเอง เช่นเดียวกับที่เมื่อแยกย่อยลงไปตามประเทศต่าง ๆ ทุกประเทศเองก็จะมีสัตว์ประจำชาติที่อีกประเทศหนึ่งไม่มีจนกลายเป็นความสนใจที่คนต่างชาติไม่เคยพบไม่เคยเห็นจนเกิดความสนใจอยากจะศึกษาหาความรู้ในเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ประจำชาตินั้น ๆ ว่าสัตว์แต่ละชนิดมีความพิเศษทั้งภายนอกและภายในอย่างไรบ้าง ขนาดช้างที่ไทยเรามองว่าเป็นสัตว์ธรรมดา ในบางประเทศก็กลับไม่มีด้วยเชื่อหรือเปล่า! เอาล่ะไหน ๆ วันนี้เราก็มาพูดถึงสัตว์ประจำประเทศกันแล้วทั้งทีก็อยากพาคุณมารู้จักกับ “จามรี” หนึ่งในสัตว์แปลกที่สุดซึ่งอยู่ประจำประเทศที่ติดกับเทือกเขาหิมาลัยซึ่งเรื่องราวของมันช่างน่าค้นหามาก บางคนที่เคยไปทิเบตก็อาจจะได้พบเห็น ได้ถ่ายรูปจามรีคู่กับทิวทัศน์สวย ๆ ของภูเขาหิมะมาแล้ว และบางคนก็ถึงขั้นไปรับประทานเนื้อหรือนมของจามรีที่ชนพื้นเมืองนำมันมาเป็นอาหารแล้วด้วยซ้ำ! แสดงให้เห็นว่า “จามรี” คือสัตว์สำคัญที่โลกไม่ควรมองข้ามเลย

ทำความรู้จักกับ “จามรี”

“จามรี” เป็นสัตว์แปลกในเขตเทือกเขาหิมาลัยทางตอนใต้ของเอเชียกลาง, ในที่ราบสูงทิเบต และเหนือไปจนถึงมองโกเลียและรัสเซียที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะทางแถบที่ราบสูงทิเบตนั้นจะพบได้ง่ายมากจนเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประจำประเทศเลยก็ยังได้ โดยลักษณะของจามรีจะมีความคล้ายวัวผสมกับควายของบ้านเรา แต่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากสัตว์ตระกูลวัว – ควายพันธุ์อื่นตรงที่ขนของจามรีนั้นมีความยาวระย้ามากและค่อนข้างบางเบานุ่มอ่อนเป็นสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำลงมาจนเกือบถึงข้อเท้า เขายาวและโค้งกว้างแบบกระทิง หางยาวเป็นพู่สวยงามซึ่งบางตัวก็จะมีขนสีขาวด้วย โดยผู้คนมักจะนำจามรีมาเป็นสัตว์เลี้ยงทางปศุสัตว์เพื่อใช้ประโยชน์ในการเป็นพาหนะเดินทางไม่ไกลมากในปัจจุบันและเป็นอาหารด้วย หากเป็นจามรีที่เลี้ยงไว้เป็นพาหนะก็จะมีการตกแต่งบริเวณหลังของมันที่เป็นหนอกสันโด่งให้คลุมด้วยผ้าสีสดใสและมีการติดระฆังเล็ก ๆ ให้เสียงสดใสเป็นสัญลักษณ์ป้องกันการหายตัวไปด้วย

การดำรงชีวิตของ “จามรี”

“จามรี” หากเป็นพวกที่อยู่กับป่าและภูเขามักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง เวลากลางวันจะออกมาเดินตามทุ่งหญ้าและแหล่งน้ำเพื่อหาอาหารหล่อเลี้ยงชีวิตเป็นหลักแบบเรียบง่าย ซึ่งเมื่อเห็นคนก็จะค่อนข้างตื่นกลัวง่าย โดยหากเจอการคุกคามที่สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมาด้วยจุดประสงค์ไม่ดีก็จะหันบั้นท้ายมาชนกันตีวงล้อมให้ลูกอ่อนหรือจามรีวัยอ่อนให้อยู่ตรงกลางเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกตัวเองเป็นอะไรและเป็นการขู่ให้อีกฝ่ายเห็นถึงความเอาจริงเอาจังทั้งที่มันเป็นสัตว์ไม่ดุร้ายใด ๆ เลย แต่หากเป็นจามรีที่เลี้ยงไว้ก็จะมีความเชื่องไม่ต่างกับม้าและมีความอดทนสูงในการบรรทุกสิ่งของและเดินทางไกลได้มาก

อาหารสุดโปรดของ “จามรี”

“จามรี” มีอาหารสุดโปรดปรานที่พวกมันชื่นชอบกันมาก คือ หากเป็นในฤดูหนาว พวกมันจะลงมากินหญ้าและสมุนไพรเพื่อสุขภาพตามทุ่งหญ้าในเขตที่ราบต่ำ แต่เมื่ออากาศเริ่มอุ่นลงก็จะขึ้นไปกินมอสและไลเคนบนที่ราบสูงแทน ด้วยพวกมันเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่กับการกินอาหารในอุณหภูมิที่หนาวเย็นเป็นหลัก 

เครดิตภาพ : naewna.com, pixabay

#จามรี #ความรู้ #สัตว์เลี้ยง