Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

3 ขนมไทยที่สุนัขชอบ

สุนัขเป็นสัตว์ที่มีความชื่นชอบในอาหารการกินหลากหลายมากกว่าที่คุณคิด แม้ว่าบางสายพันธุ์จะชอบกินอาหารแตกต่างกัน แต่หากเป็นขนมหวานแล้วล่ะก็ไม่ว่าจะเป็นขนมหวานแบบใดก็สามารถกินได้ทั้งนั้นหากเป็นขนมหวานที่ไม่ใช่ขนมหวานที่ผสมวัตถุดิบแปลก ๆ ที่มีความคาวแทรกแล้วล่ะก็จัดมาให้สุนัขของคุณได้เลย เพราะสุนัขไทยส่วนใหญ่เวลานี้กำลังขาดความหวานให้ร่างกายกันมาก เพราะคนไทยมักจะเน้นแต่การให้อาหารคาวอย่างพวกอาหารเม็ดและอาหารหนักท้องจากพวกโครงไก่ ข้าวที่ถูกต้มกินกับเนื้อมากมายตามบ้านเรือนและมักจะให้กินแค่นั้น สุนัขไทยจึงได้รับเฉพาะการกินของคาวตลอดเวลาทำให้บางตัวจากที่ควรมีของหวานลงท้องก็ไม่เคยได้ลิ้มลองในชีวิตสักทีจนอาจเกิดความขยาดไม่กล้าที่จะลองหากเราเอาให้กินแตกต่างจากสุนัขตะวันตกและสุนัขที่อยู่กับการเลี้ยงด้วยอาหารคาวประกอบอาหารหวานตามโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งหากคุณอยากจะปรับเปลี่ยนให้เขาได้ลองอาหารหวานบ้างแล้วล่ะก็ขนมไทยเป็นสิ่งที่เหมาะกับสุนัขมากที่สุดแล้ว เพราะจะเน้นแต่รสหวานเป็นหลักและสีสันน่ากินมาก แต่จะให้เขาเริ่มจากขนมหวานชนิดใดต้องมาดูใน 3 ขนมไทยที่สุนัขชอบตั้งแต่แรกกินกันเลย

“ขนมชั้น” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ขนมชั้น” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบได้ง่ายที่สุด เพราะมีความนุ่มของเนื้อแป้งสี่สหาย ได้แก่ แป้งมัน, แป้งข้าวโพด, แป้งข้าวเจ้า และแป้งท้าวยายม่อมที่ทำให้ตัวขนมมีความนุ่มในสัมผัสแรกจนถึงสัมผัสสุดท้ายเมื่ออยู่ในปาก กินไม่ยาก หวานหอมกลิ่นธรรมชาติจากพวกใบเตย อัญชัน และกระเจี๊ยบ แถมสีก็สะดุดตาราวกับอัญมณีด้วยแบบนี้แม้แต่สุนัขเด็กก็ยังชอบ แล้วสุนัขผู้ใหญ่จะพลาดมองข้ามไม่ยอมกินได้ยังไง

“ข้าวเหนียวเปียก” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“ข้าวเหนียวเปียก” หนึ่งในขนมไทยที่สุนัขชอบ เพราะมีข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลักของขนมจึงทำให้สุนัขมีความคุ้นชินเหมือนกับเวลาที่พวกเขากินอาหารคาวมากเหมาะกับสุนัขที่ไม่คุ้นชินขนมหวานแบบสุดขั้วหรืออยู่ในขั้นที่ทดลองระยะแรก อีกทั้งยังมีความคล่องคอง่าย ได้รับความหวานจากน้ำเชื่อมข้าวเหนียวที่ชุ่มฉ่ำหอมเนื้อผลไม้ที่ใส่ลงไปเพลินปากมาก

“บัวลอย” ขนมไทยที่สุนัขชอบ

“บัวลอย” เป็นขนมไทยที่สุนัขชอบเพราะเป็นน้ำทำให้มีความอุ่นอร่อยซึ่งพวกเขามักมองว่าเหมือนตัวเองกำลังลิ้มลองนมรสใหม่ที่มีชิ้นขนมกลม ๆ หอมหวานผสมอยู่ในนั้นทำให้รู้สึกหวาน มัน โดนใจจนต้องอยากขอเจ้าของอย่างคุณกินอีกแน่นอน ยิ่งมีกลิ่นกะทิด้วย สุนัขยิ่งชอบ

เครดิตภาพ : pantip, cookpad.com

#ทริคการเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ขนมไทยสุนัขชอบ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

สำหรับเจ้าของสุนัขหลายบ้านอาจจะไม่ได้ให้อาหารเฉพาะของสุนัขที่เป็นในรูปแบบอาหารเม็ดแก่เขา แต่เป็นในรูปแบบของอาหารมนุษย์ที่แบ่งส่วนหนึ่งให้เขาโดยมีอาหารที่ปรุงและผสมกับข้าวสวยให้สุนัขได้กินซึ่งสุนัขก็สามารถกินได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ตรงกันข้ามการให้อาหารรูปแบบข้าวแก่สุนัขจะยิ่งนำให้สุนัขได้รับพลังงายที่เยอะและอิ่มอร่อยได้มากกว่าอาหารเม็ดด้วย นอกจากนี้คุณยังไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้ออาหารเม็ดที่ราคาสูงอีกด้วย ช่วยประหยัดเงินไปได้ตั้งเยอะ แต่ ๆ ๆ แน่นอนว่าอาหารที่ไม่ได้ถูกทมาให้เป็นของสุนัขเฉพาะด้านก็ย่อมจะมีข้อเสียอยู่เหมือนกันในกรณีที่คุณเลือกผิด อย่างประเภทอาหารปรุงสำเร็จและการใช้ประเภทข้าว ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่ากันถึงประเภทข้าวที่ไม่ควรเลือกทำให้สุนัขกิน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นกับร่างกายของสุนัขที่คุณเลี้ยงไว้ก็ได้ ฉะนั้นข้าวดังต่อไปนี้จึงควรได้รับการหลีกเลี่ยงไม่ให้เตะตาต้องใจและอยู่ห่างจากสุนัขให้มากที่สุด

“ข้าวเหนียว” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวเหนียว” ด้วยความที่สุนัขเป็นสัตว์ที่มักจะชื่นชอบการกินมูมมามและกินอย่างรวดเร็วแบบเคี้ยวกลืน ๆ แถมด้วยการเลียให้เรียบจึงอาจทำให้ข้าวเหนียวมีโอกาสที่จะไปติดตามฟัน ตามจมูก เหนือปาก และตามขนได้ง่าย ๆ จนเอาออกยาก ยิ่งเป็นสุนัขที่ขนยาวยิ่งแล้วใหญ่เลย พอข้าวเหนียวติดทีนี่จะค่อย ๆ เอาออกทีละเม็ดก็แสนจะนาน กลัวทำน้องเจ็บที่เราอาจจะเผลอมือแรงดึงขนด้วยซะนี่ แม้ว่าคุณจะพยายามต้มข้าวให้เหนียวน้อยและนิ่มแล้วแต่ยังไงก็ยังไม่เหมาะกับน้องสุนัขอยู่ดี และกินไปก็ย่อยยากด้วยจึงไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวปั้น” เป็นข้าวที่อาจจะเข้าไปติดคอของสุนัขก็ได้เพราะมักจะติดกันเป็นก้อนเป็นชิ้นซึ่งสุนัขหลายตัวที่ไม่รู้ก็มักจะอ้าปากกว้างและกัดเข้าไปเต็มคำทำให้เคี้ยวไม่ทันเกิดอาการข้าวติดหลอดลมได้ง่าย ๆ แล้วยิ่งเป็นแนวข้าวปั้นญี่ปุ่นที่มีไส้อยู่ข้างในแล้วเขาไม่ทันได้รู้ก็อาจเผลอกลืนเข้าไปเป็นอันตรายมาก สำหรับการให้ข้าวแก่สุนัขควรจะเป็นข้าวที่เคี่ยวหรือข้าวที่ต้มจนไม่ติดกันมากจึงจะเหมาะ ควรหลีกเลี่ยงข้าวแบบนี้มากในการให้สุนัข

“ข้าวกล้อง” ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

“ข้าวกล้อง” เป็นข้าวที่มีเม็ดใหญ่และค่อนข้างแข็งกว่าข้าวทั่วไป อีกทั้งกลิ่นของข้าวกล้องกล้องก็ยังไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ด้วยทำให้สุนัขกินแล้วอาจจะรู้สึกคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และกินอาหารในมื้อหลักน้อยลงจนร่างกายอ่อนเพลียง่ายได้ด้วย คุณจึงไม่ควรจะนำข้าวรูปแบบนี้มาให้สุนัขกิน

เครดิตภาพ : test.com, seriouseats.com

#ความรู้เรื่องสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ข้าวที่ไม่ควรให้สุนัขกิน

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

 3 ผักสุดโปรดที่สุนัขชื่นชอบ

แค่ได้ยินคำว่า “ผัก” หลายคนโดยเฉพาะเด็ก ๆ ก็ย่อมต้องร้องอี๋พร้อมกับหันหน้าหนีกันหมดแล้ว เพราะได้ยินทีไรก็เห็นแต่ภาพของผักใบเขียวที่มีความขมจัด พอบทจะหวานก็หวานเจื่อยแบบธรรมชาติซึ่งมีกลิ่นเขียวแทรกมาทำให้รู้สึกอยากไปล้างปากตัวเองมาก แถมผักที่ไม่ใช่ผักใบเขียวที่เป็นลูกอย่างพวกมะเขือเทศก็ยังเปรี้ยวหรือพวกหัวหอมก็ฉุนจนจามแถมยังจะเป็นลมให้ได้ ขนาดมนุษย์เราหลายคนยังไม่ชอบแบบนี้คิดหรือว่าสุนัขจะกินผักได้ บอกเลยว่าใครฟังก็ย่อมต้องขำ เพราะตั้งแต่เขี่ยผักทิ้งแล้วลองเอาให้สุนัขกินก็ยังเหลือในถาดข้าวของสุนัขเต็มเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าสุนัขที่เป็นสัตว์กินเนื้อขยะแขยงผักมากแค่ไหน ใครเอาให้กินได้มีงอนล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นการที่จะให้สุนัขกินแต่เนื้อสัตว์ทุกมื้อก็อาจทำให้เขาไม่ได้รับวิตามินเลยก็ได้ แต่หากจะให้ซื้ออาหารสุนัขที่มีการผสมผสานของอาหารมากมายสำเร็จรูปมาก็ราคาสูงอีก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำผักอร่อยที่เป็นข้อยกเว้นสำหรับสุนัขซึ่งคุณอาจไม่รู้ว่าพวกสุนัขชื่นชอบผักเหล่านี้มาก!

มันเทศ

“มันเทศ” เป็นผักที่มีรสชาติไม่เหมือนผัก เพราะมีลักษณะของเนื้อที่มีรสชาติหวานมัน สัมผัสนุ่มนิ่มละมุนลิ้นเหมือนอาหารบด มีกลิ่นหอมทำให้อร่อย อีกทั้งพวกเขายังได้สารอาหารประเภทวิตามินบี วิตามินซี ไฟเบอร์ เบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเวลาให้สุนัขกินมันเทศ คุณต้องหั่นมันเทศและนำเนื้อสีเหลืองสุกออกมาบด ๆ แล้วจึงสามารถให้ร่วมกับอาหารอื่น ๆ ได้ อาจผสมลงในข้าว ผสมกับอาหารเม็ด หรือปรุงรสมันเทศเล็กน้อยแล้วให้เขากินเปล่า ๆ ก็อร่อยเหมือนกัน

แตงกวา

“แตงกวา” อาจจะเป็นผักที่ใครต่อใครก็ขยาดกับรสชาติความเขียวและความแหยะของเนื้อที่มีกลิ่นกรีน ๆ มีน้ำออกมาด้วย แต่สำหรับสุนัขนั้นเขารู้สึกว่ารสชาติของผักชนิดนี้ไม่ต่างจากผลไม้แตงโมที่เป็นหนึ่งในของโปรดเลย ด้วยน้ำที่ออกมาจากแตงกวาในระหว่างที่สุนัขกัดนั้นมีความชุ่มฉ่ำ เนื้อกัดเคี้ยวได้สะดวก ทำให้ร่างกายรู้สึกเย็นสบายในช่วงอากาศร้อน อีกทั้งยังได้ประโยชน์ต่อร่างกายจากวิตามินเค, วิตามินซี, วิตามินบี 1, โพรเทสเซียม, คอปเปอร์ม, แมคนิเซียม และไบโอตินด้วย ยิ่งสุนัขอ้วนมีน้ำหนักเกินเกณฑ์ก็ยิ่งควรให้เขากินแตงกวาเพื่อลดน้ำหนักมาก

ผักโขม

“ผักโขม” หนึ่งในผักที่สุนัขชอบกินมากที่สุด เพราะมีความกรอบของผักบริเวณก้านที่อร่อยตัดกับความนุ่มของตัวใบที่มีความบางซึ่งเมื่อหั่นก็จะละเอียดได้รสชาติละมุนมากเวลานำไปปรุงอาหารและค่อนข้างหวาน ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว แต่ไม่ควรให้สุนัขกินมากเกินไป เพราะเสี่ยงจะเป็นโรคไตสูงจากกรดซาลิกที่อยู่ในตัวผักชนิดนี้

เครดิตภาพ : prouddogmom.com

#ทริคเลี้ยงสัตว์ #สัตว์เลี้ยงน่ารัก #ผักที่สุนัขชอบ

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

5 อันดับสายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก น่ารัก น่าเลี้ยง จนทาสต้องยอมเปย์ 

ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ใครก็สามารถหามาดูแลได้อย่างง่ายดาย แต่เชื่อหรือไม่ว่ายังมีบางสายพันธุ์ได้ชื่อว่ามีราคาที่สูงที่สุดติดอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการที่ส่งผลให้เจ้าเหมียวเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาลจนทำให้ทาสแมวทั้งหลายยินดีที่จะลงทุน ลงแรง ทุ่มเทให้พวกเขาอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้มาครอบครองแม้ว่าจะต้องเสียอะไรไปก็ตาม มาดู 5 อันดับสายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลกกันว่ามีอะไรบ้าง หากพร้อมแล้วเตรียมกระเป๋าสตางค์ให้พร้อมไปดูกันเลย

ทาสเหมียวต้องปาดเหงื่อ แต่ต้องยอมเปย์ด้วยความน่ารัก น่าเอ็นดู

1. Persian Cat เรียกได้ว่าแมวเปอร์เซีย ที่มีถิ่นฐานมาจากประเทศอิหร่านและตุรกี เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีความสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขนยาว ตากลมโต น่ารัก น่าเอ็นดู ลักษณะนิสัยขี้อ้อน ชอบคลุกคลีอยู่กับผู้คน ซุกซน และมีไหวพริบอย่างดีเยี่ยม จึงนับว่าเป็นราชินีแมวแห่งตะวันออกกลางเลยทีเดียว โดยในปัจจุบันราคาซื้อขายมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนขึ้นอยู่กับชนิด ประเภท รวมถึงความต้องการของทาสแมวที่จะนำไปเลี้ยงนั่นเอง

2. Savanah อีกหนึ่งอันดับสายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก ด้วยลักษณะพิเศษจากการผสมพันธุ์กันระหว่างแมวป่ากับแมวบ้าน จึงส่งผลให้เป็นลูกผสมที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แถมมีลวดลายคล้ายคลึงกับหญ้าแห่งทุ่งสะวันน่า จึงทำให้พวกเขามีชื่อเรียกในประเทศไทยว่า ซาวันน่าห์ นั่นเอง แถมมีนิสัยใจคอเรียบร้อย เชื่องกับผู้คนรวมถึงมีความอ่อนโยนเป็นอย่างมากจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ที่สำคัญมีราคาเริ่มต้นสูงถึง 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรืออยู่ที่ประมาณ 700,000 บาทเลยทีเดียว

3. The Ashera โดยสายพันธุ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นการผสมผสานขึ้นมาจากฝีมือของมนุษย์ โดยบริษัท แคลิฟอร์เนีย ไบโอเทค เป็นการนำแมวป่าแอฟริกัน แมวเสือดาวเอเชีย และแมวบ้านทั่วไป จนได้เจ้าเหมียวที่มีความสวยงามลงตัว และมีขนาดใหญ่โดยมีน้ำหนักมากที่สุดถึง 14 กิโลกรัมเลยทีเดียว และแน่นอนว่าราคาของพวกเขานั่นไม่ธรรมดาอยู่ที่เริ่มต้นตัวละ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 800,000 บาท เหล่าทาสต้องปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว

                  4. The Bengal บ้านเรารู้จักกันดีในชื่อแมวเบงกอล เกิดขึ้นจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวดาวกับ Egyptian Mau ซึ่งเป็นแมวพันธุ์อียิปโบราณ ทำให้ลำตัวของน้องมีสีของขนเป็นลวดลายจุด ๆ คล้ายกับแมวป่า แต่กลับมีลักษณะนิสัยซุกซน ฉลาด น่ารัก น่าเลี้ยง และอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ราคาจะขึ้นอยู่กับอายุและความสวยงามซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 10,000 บาท โดยบางตัวก็มีราคาพุ่งสูงถึงหลักแสนก็มีให้พบเห็นได้บ่อย ๆ 

5. Russian Blue แมวรัสเซียสีฟ้า ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าน่าจะมีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในเขตตอนเหนือของประเทศรัสเซีย มีนิสัยร่าเริง แจ่มใส รักสงบ ประจบเก่ง แต่มีความขี้อายนิด ๆ กลายเป็นเสน่ห์ที่หลายคนหลงใหลอยากได้มาเลี้ยงดู จนทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งอันดับสายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลกได้ไม่ยาก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 4,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 100,000 กว่าบาท เรียกได้ว่าราคาสูงลิ่วติดลมบนตลอดกาลเลยก็ว่าได้

              เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 อันดับสายพันธุ์แมวที่แพงที่สุดในโลก ที่เหล่าทาสต้องปาดเหงื่อกับราคาซื้อขายที่สูงลิ่วกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความน่ารัก น่าเอ็นดู ส่งผลให้ผู้เลี้ยงมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ ๆ มีความอบอุ่นใจ นั่นก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแล้ว และที่สำคัญต้องเลี้ยงดูพวกเขาเป็นอย่างดีด้วย จะได้ไม่เป็นภาระของผู้อื่นในอนาคต

เครดิตภาพ : medium.com / petplace.com

#แมวแพง #ความรู้เรื่องแมว #ทาสแมว

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“แมลงปิกัสโซ” สัตว์แดนซาฮาร่าลายงามดุจฝีมือ Paint ของศิลปิน

ในโลกของเรามีแมลงมากมายที่เป็นสีสันความสวยงามประดับโลกท่ามกลางธรรมชาติซึ่งทำให้เรารู้ว่าความสวยงามที่ให้สีสันและการมีชีวิตชีวาแบบครบสมบูรณ์แบบนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันแน่ แต่ถึงจะมีแมลงหลากหลายชนิดที่สวยงามแค่ไหนก็คงไม่สวยงามเป็นลวดลายศิลปะประหนึ่งถูกวาดและระบายด้วยฝีมือของศิลปินมนุษย์เช่นนี้อย่าง “แมลงปิกัสโซ” แน่นอน เชื่อว่าหลายคนที่เข้ามาดูบทความของเราก็คงคิดเหมือนกันว่ามีแมลงลวดลายแบบนี้อยู่บนโลกของเราด้วยหรือเนี่ย! ใครกันที่เป็นเจ้าของแมลงและลงแรงวาดลวดลายของมันทั่วทั้งตัวได้งดงามประณีตแบบนี้ คงเก่งน่าดู ใช่แล้ว…ผู้ที่สร้างสรรค์ความงดงามลายเพ้นต์สวย ๆ บนตัวของแมลงปิกัสโซก็คือ “พระเจ้า”นี่เอง ตามศาสนาคริสต์แล้ว พระเจ้าคือผู้ที่สร้างธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตมากมายในโลก แมลงปิกัสโซเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดมาตามธรรมชาติด้วยฝีมือของพระเจ้า มันอยู่ในโลกที่เป็นอิสระโดยไม่มีเจ้าของใด ๆ ที่เป็นมนุษย์มานั่งเพ้นต์มันหรอก ธรรมชาติคือทุกอย่างที่หล่อหลอมการให้กำเนิดของเจ้าแมลงลายมหัศจรรย์นี้ หากอยากรู้เรื่องราวของแมลงปิกัสโซมากขึ้นก็ตามมาอ่านกันเลย

ทำความรู้จักกับ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” เป็นแมลงขนาด 8 มิลลิเมตรที่จัดอยู่ในวงศ์ของมวนหลังแข็ง มีลักษณะคล้ายตัวด้วงปีกแข็งแต่บริเวณหลังมีความโดดเด่นของลวดลายสวยงามที่มีลายเส้นคมชัดทั้งรูปวงกลม วงแหวน ลายขด และลายคลื่นโค้งสวยในระดับถี่ที่มีสีสันแตกต่างกันซึ่งส่วนใหญ่ที่พบกันมากจะมีลายสีเขียวแก่ สีแดง และสีแดงเป็นหลักอยู่บนพื้นหลังสีเนื้ออ่อนที่ใครต่อใครอาจคิดว่าเหมือนมีคนมาเพ้นต์ลายให้เจ้าแมลงปิกัสโซ แต่ที่จริงแล้วลวดลายบนตัวของแมลงปิกัสโซนี้มีมาตั้งแต่มันเกิดแล้ว ซึ่งด้วยลวดลายที่สวยงามดุจฝีมือสร้างสรรค์ของศิลปินดังอย่างปาโบล รุยซ์ ปิกาโซทำให้มันได้ชื่อนี้มา และพวกมันก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ในป่าเขตร้อนของแอฟริกามาก คุณสามารถไปสำรวจดูมันได้ที่ดังกล่าว ได้แก่ เบนิน แคเมอรูน โกตดิวัวร์ เอธิโอเปีย กานา เคนยา มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย ไนจีเรีย เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ แทนซาเนีย โตโก แซมเบีย และซิมบับเว อีกทั้งยังพบได้ในทะเลทรายซาฮาร่าด้วย 

การดำรงชีวิตของ “แมลงปิกัสโซ”

ในช่วงต้นฤดูแล้งเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม “แมลงปิกัสโซ” จะมีการพัฒนาตัวโตเต็มวัยได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 56 วันเท่านั้นนับจากวันที่มันมีคลอดออกมาในฤดูนี้ และมักจะชื่นชอบการอยู่กับใบไม้ ดอกไม้ป่า ดอกหญ้าหรือต้นหญ้าเพราะเป็นที่หลบภัยจากนักล่าแมลงอื่นได้ดีที่สุด ยิ่งการอยู่กับดอกไม้สวย ๆ ยิ่งทำให้อำพรางตัวจากลายโดดเด่นของมันได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อใดก็ตามที่ถูกจู่โจมจนหนีไปไม่ได้ แมลงปิกัสโซ่ก็จะทำการปล่อยก๊าซพิษที่มีกลิ่นเหม็นออกมาทำให้ศัตรูเกิดความงุนงงและบางทีก็เหม็นจนอีกฝ่ายตายได้เพื่อหาทางหนี คล้ายกับแมลงตด

อาหารสุดโปรดของ “แมลงปิกัสโซ”

“แมลงปิกัสโซ” มีอาหารสุดโปรดที่ชอบกิน ได้แก่ น้ำหวานจากพืชและดอกไม้มากมายในระบบนิเวศป่าเขตร้อนที่มันอยู่และน้ำจากผลไม้ที่ออกผลสุกสดใหม่ด้วย โดยจะใช้งวงในการเจาะน้ำหวานเข้าไปและดูดออกมากินอย่างจุใจจนกว่าจะอิ่ม

เครดิตภาพ : flickr.com/

#ความรู้เรื่องสัตว์ #ทริคเลี้ยงสัตว์ #แมลงปิกัสโซ

Categories
สัตว์เลี้ยงน่ารัก

“วอมแบต” สัตว์อ้วนกลมน่ารักดุจตุ๊กตาหมี

เชื่อว่าตามการ์ตูนดิสนีย์หรือในสารคดีส่องสัตว์โลกมากมาย คุณน่าจะเคยเห็นเจ้าสัตว์ชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างหน้าตาอวบอ้วนคล้ายหมีแต่มีฟันคล้ายหนูทำให้มองดูแปลกดีและเด็ก ๆ มักจะชอบจนพยายามสรรหาตุ๊กตาที่มีลักษณะเหมือนเจ้าตัวนี้มากันมาก ซึ่งวันนี้หากใครยังสงสัยอยู่ว่าเจ้าสัตว์โลกน่ารักที่เราเอ็นดูมาจากรายการทีวีตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ นั้นคือตัวอะไรกันแน่ล่ะก็วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณได้รู้จักกับ “เจ้าวอมแบต”กัน เพราะนอกจากความน่ารักที่แสนแปลกจนเราอยากกอดแบบตุ๊กตาแล้ว การใช้ชีวิตประจำวันของวอมแบตก็ยังน่าสนใจไม่ต่างจากลักษณะนิสัยหรรษาในการ์ตูนที่เราเคยดูกันด้วย แต่จะเป็นความหรรษาและความอบอุ่นที่มากกว่าในรูปแบบใดบ้าง? ต้องเข้ามาอ่านกันในบทความ “วอมแบต” สัตว์อ้วนกลมน่ารักดุจตุ๊กตาหมีที่เราจะนำมาเสนอกันเลย แล้วเจ้าสัตว์ตัวนี้จะไม่ใช่สัตว์ปริศนาสำหรับคุณอีกต่อไป แต่ระวังจะตกหลุมรักมากขึ้นกว่าเดิมด้วยล่ะ!

ทำความรู้จักกับ “วอมแบต”

“วอมแบต” เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกชนิดหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่ามันไม่ต่างจากจิ้งโจ้เพราะมีกระเป๋าหน้าท้องเป็นความโดดเด่นที่พิเศษกว่าสัตว์อื่นที่ลักษณะใกล้เคียงกัน ลำตัวมีลักษณะอ้วนป้อมน้ำหนัก 40 กิโลกรัม ร่างปกคลุมด้วยขนสีน้ำตาลอ่อนบ้างก็มีสีเทาดำที่สั้นและนุ่มเหมือนตุ๊กตา หางสั้นกุดเช่นเดียวกับส่วนขาที่สั้นแต่มีเล็บแหลมคมไว้สู้กับศัตรูและข้อเท้าที่แข็งแรงสำหรับการวิ่งมาก และอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือจมูกของวอมแบตมีขนาดกลมใหญ่และมีฟันแหลมแบบหนูจึงเป็นเอกลักษณ์ของตัวมัน และมักเป็นมิตรกับหมีโคอาล่าเพราะกระจายพันธุ์มากในแถบประเทศออสเตรเลีย

การดำรงชีวิตของ “วอมแบต”

“วอมแบต” มักออกมานอกโพรงที่อยู่อาศัยในเวลากลางคืนเพื่อออกหาอาหารกินโดยโพรงของวอมแบตนั้นภายนอกอาจเห็นปากโพรงมีขนาดเล็ก แต่แท้จริงแล้วช่างน่าหรรษาและเหลือเชื่อที่มันสามารถขุดสร้างโพรงภายในใต้ดินเป็นห้อง ๆ ยาวแยกย่อยออกไปมากมายและมีจุดเชื่อมกับสถานที่ต่าง ๆ ที่ลึกลับซับซ้อนมาก แม้มันจะอาศัยอยู่เพียงตัวเดียว ไม่ค่อยเน้นการอยู่เป็นกลุ่มนักก็ตาม โดยฟากมีการเลือกคู่และผสมพันธุ์มันก็จะทำกันในโพรงก่อนจะให้ตัวเมียแยกย้ายไปอยู่อีกที่ เรียกได้ว่าฤดูสำคัญของวอมแบตมีเพียงแค่ฤดูผสมพันธุ์เท่านั้นแต่มันจะไม่ผสมพันธุ์กันบ่อย จะเน้นเว้นช่วงผสมพันธุ์กันครั้งละสองปีมากกว่า โดยเมื่อลูกโตบางทีก็จะมีการนำมาฝากไว้กับตัวผู้บ้างตัวเมียบ้างให้ดูแลจนกว่าจะโตโดยเวลาออกหาอาหารก็จะนำลูกไว้ในกระเป๋าหน้าท้องเช่นเดียวกับจิงโจ้ โดยวอมแบตจะใช้ชีวิตตามวัฏจักรเช่นนี้ไปจนกว่าจะอายุมากถึง 20 ปีจึงจะสิ้นอายุขัยลง

อาหารสุดโปรดของ “วอมแบต”

“วอมแบต” มีอาหารสุดโปรดปรานที่พวกมันชื่นชอบคล้ายกับตัวบีเวอร์ แต่จะกินอาหารได้หลากหลายกว่าโดยเน้นพืชเป็นหลัก ได้แก่ หญ้า และส่วนต่าง ๆ ของพืชพรรณไม้อย่างเปลือกไม้อ่อน ใบไม้ และรากไม้ที่มีแร่ธาตุและสารแทนนินได้รสชาติฝาดอร่อยช่วยให้พลังงานที่ดีกับวอมแบตมาก

#วอตแบต #ความรู้เรื่องสัตว์#สัตว์แปลก

Categories
Uncategorized

“หมีน้ำ” สัตว์จิ๋วแปดขาผู้มีชีวิตยืนยาวนับร้อยปี!

เชื่อหรือไม่ว่านอกจากแมงกะพรุนอมตะที่มีวงจรชีวิตย้อนกลับสุดน่าพิศวงแล้ว ในทะเลอันกว้างใหญ่ยังมีสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่น่าประหลาดใจอีกชนิดหนึ่งที่เราไม่คิดว่าจะสามารถพบมันได้อยู่ในยุคนี้อย่าง “หมีน้ำ” ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่หมีที่น่ารักมีขนฟู ๆ อย่างที่คุณคิด หากแต่เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งที่มีลักษณะอ้วนคล้ายหมีก็เท่านั้น ซึ่งชีวิตของมันทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักทรัพยากรหลายต่อหลายคนทึ่งมาแล้วกับความแข็งแกร่งที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้นานนับร้อยปีซึ่งมนุษย์เราน้อยคนนักที่จะอยู่ถึงได้ ทว่าถึงอย่างนั้นหมีน้ำก็ยังจัดอยู่ในสัตว์น้ำลึกลับที่ได้แต่มีเรื่องบอกเล่าจากคำของนักสำรวจที่เคยค้นพบ แต่ยังไม่มีภาพตัวจริงของมันเพราะมันไม่ค่อยปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าควรนำเจ้าหมีน้ำมาให้ทุกคนได้รู้โลกของมันคงจะดีเลย

ทำความรู้จักกับ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” หรือ “Tardigrada” เป็นสัตว์น้ำดึกดำบรรพ์ไร้กระดูกสันหลังยุคแคมเบรียนขนาดเล็กมากถึง 1 มิลลิเมตรที่พันธุ์ของมันยังคงกระจายในแหล่งน้ำทั่วโลก 1,000 ชนิดตั้งแต่แหล่งน้ำที่ลึกมากที่สุดจนถึงระดับที่สูงที่สุดของโลกอย่างเทือกเขาหิมาลัยมันก็ยังแข็งแกร่งมากพอที่จะสามารถอยู่ได้ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าอากาศจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนมันก็สามารถอยู่ได้อย่างสุขสบายแม้จะไม่มีน้ำสักหยดหรือแม้แต่อากาศ! จนข้อสันนิษฐานที่เกิดจากการสำรวจน้อยยังคงมีหลากหลายข้อที่ไม่ลงตัวแน่ชัดว่าร่างกายมันมีปัจจัยใดที่ทำให้เกิดความพิเศษนี้ แต่ในด้านของลักษณะมีความเชื่อว่ามันอยู่ในสายเดียวกับหนอนตัวกลม เพราะมียีนประเภท HOX ในตัวมันที่อ้วนกลมเป็นมัด ๆ มีขา 4 ขา และมีปากเป็นรูโบ๋ซึ่งสามารถดูดกลืนอาหารลงไปได้รวดเร็ว

การดำรงชีวิตของ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” มีการดำรงชีวิตที่สามารถมีอายุยืนยาวได้ถึงร้อยปีแม้ตัวจะเล็ก ชอบอาศัยอยู่กับที่ที่มองเห็นยากอย่างพวกมอส เห็ด รา ใต้น้ำ และใต้ผืนทราย แม้แต่ในทะเลที่แรงดันเยอะ หมีน้ำก็ยังสามารถทนได้ถึง 6 เท่าตัวเลย โดยการหาอาหารของมีน้ำจะใช้การเดินอย่างเชื่องช้าแต่มีความฉลาดในการมองสิ่งรอบตัวที่ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อตัวเอง และมักจะอยู่ในแบบจำศีลที่ใช้ระยะเวลานานกว่าสัตว์อื่นมากและใช้เวลามากกว่าการออกจากที่อยู่มาหาอาหารกินอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถผสมพันธุ์กับคู่ของมันได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศอีกด้วย

อาหารสุดโปรดของ “หมีน้ำ”

“หมีน้ำ” มีอาหารสุดโปรดที่พวกมันชื่นชอบมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืช สาหร่าย แบคทีเรีย โปรโตซัว โรติเฟอร์ หนอนตัวกลม และแม้แต่หมีน้ำชนิดอื่นด้วยกันเองมันก็ยังสามารถกินกันได้ เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยแคร์ใด ๆ จริง แต่กลับเก่งจนน่าอิจฉา

เครดิตภาพ : bbc.com

#หมีน้ำ #สัตว์แปลก#สัตว์น้ำ

Categories
ทริคการแต่งสวนและเลี้ยงสัตว์

บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

สุนัขมักจะชื่นชอบการนั่งเล่นเป็นชีวิตจิตใจเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องพักผ่อนหลังจากปฏิบัติภารกิจเฝ้าบ้านตอนกลางคืนมาเป็นระยะเวลานานมากจนทำให้บริเวณในบ้านช่วงเช้าจะค่อนข้างมีความเงียบสงบหน่อย เพราะเขาเองเมื่อหมดภารกิจก็อยากที่จะได้นั่งพักนอนพักชมนกชมไม้ให้สบายใจเพื่อฟื้นฟูร่างกายและเก็บแรงไว้สำหรับคืนนี้ไม่ต่างกับมนุษย์เช่นเดียวกัน เพียงแต่มนุษย์จะทำงานตอนเช้า แต่สุนัขจะทำงานตอนเย็นก็เท่านั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาทำหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วจึงต้องมีรางวัลให้เขาทุกครั้ง คือ บ้านที่น่าอยู่ภายนอกซึ่งสุนัขจะสามารถนั่งเล่นได้อย่างสบายใจ ผ่อนคลาย ถูกสุขลักษณะมากพอ อาจมีการจัดบริเวณภายนอกบ้านที่สุนัขชอบมานั่งเล่นให้กว้างขึ้นและมีพื้นที่ว่างปลอดโปร่งสำหรับเขาด้วยก็จะดี เขาจะได้ไม่ต้องรู้สึกไม่สบายเวลานั่งเล่นจนแอบย่างกรายมาภายในตัวบ้านของคุณจนมีเห็บหมัดเข้ามา หากจัดสภาพแวดล้อมใน 3 บริเวณภายนอกบ้านเหล่านี้ได้ก็ควรจัด เพราะเป็นบริเวณที่สุนัขชอบมานั่งเล่นเป็นประจำอยู่แล้ว ทุกอย่างจึงควรเรียบร้อยเข้าที่เข้าทาง

“หน้าบ้าน” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“หน้าบ้าน” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขส่วนใหญ่จะชอบมานั่งเล่นนอนเล่นกัน เพราะสุนัขจะมีนิสัยชอบสอดส่องคนแปลกหน้าและสภาพแวดล้อมที่อยู่บริเวณบ้านซึ่งเป็นจุดกว้างขวางสามารถมอบได้โดยรอบ 180 องศามากกว่าบริเวณอื่น ๆ ของตัวบ้าน ยิ่งเป็นผู้คนหรือสัตว์ที่ผ่านไปผ่านมาหน้าบ้าน สุนัขจะยิ่งชอบจับตามองความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแอบเป็นสัตว์ที่ดูเงียบ ๆ ภายนอก แต่ภายในขี้ระแวงใช้ได้เลยเหมือนกัน บริเวณหน้าบ้านจึงควรจัดให้มีร่มไม้ใหญ่หรือชายคายื่นออกมาหน่อยเพื่อบังแดดให้สุนัขก็จะดี

“ใต้ม้านั่ง” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใต้ม้านั่ง” เป็นบริเวณของบ้านที่สุนัขจะชอบมานั่งเล่นมาก เพราะนอกจากจะรู้สึกเป็นส่วนตัวและปลอดภัยแล้ว ยังได้ร่มเงาและความเย็นพื้นดินที่อยู่ใต้โต๊ะตลอดเวลาอีกด้วยจึงให้สัมผัสเหมือนนอนอยู่ในเวลากลางคืนที่ไม่มีแดด สบายจนสามารถหลับได้เพลิน ๆ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วและตื่นยากเสียด้วยบางครั้ง คุณจึงควรเคลียร์พื้นที่ใต้ม้านั่งไม่ให้มีขนสุนัขหมักหมมตามซอกโต๊ะและกวาดบ่อย ๆ เผื่อจะมีมดหรือแมลงอันตรายอยู่ใต้ม้านั่ง

“ใกล้เจ้าของ” บริเวณของบ้านที่สุนัขชอบนั่งเล่น

“ใกล้เจ้าของ” หากเป็นเวลาที่เจ้าของออกมานั่งทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นเวลานาน สุนัขก็มักจะมานั่งเล่นอยู่บริเวณของบ้านที่ตรงกันกับมุมที่เจ้าของนั่งด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจและไม่เหงาหงอยทุกครั้ง เพราะนั่งเล่นตามบริเวณต่าง ๆ ในบ้านตัวเดียวก็มีความรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่มีเพื่อนด้วย หากได้นั่งใกล้ ๆ คนที่รักก็จะมีความสุขในช่วงเวลานั้นมาก

เครดิตภาพ : architecturaldigest.com, .hgtv.com

#บริเวณที่สัตว์ชอบ #สุนัขน่ารัก #ทริคเลี้ยงสัตว์

Categories
Uncategorized

โลกสุดอันตรายของ “ปลาดุกไฟฟ้า” สัตว์ผู้เงียบขรึมแต่เก่งกาจ

“ปลาดุก” คือหนึ่งในปลาที่ผู้คนนิยมในการนำมารับประทานเป็นอาหารกันมากที่สุดและบ้างก็เลี้ยงไว้ทำฟาร์มเพื่อการค้าขายเพราะปลาดุกมีราคาขายสร้างอาชีพที่ดีมากเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศและยังเป็นปลาที่พบเจอได้ง่ายตามแหล่งน้ำอีกด้วย แต่สำหรับปลาดุกบางสายพันธุ์ก็มีข้อจำกัดในการเลี้ยงเหมือนกัน โดยเฉพาะ “ปลาดุกไฟฟ้า”ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่านอกจากปลาทะเลมากมายหลายชนิดที่มีไฟฟ้าในตัวแล้ว ในแหล่งน้ำจืดก็ยังมีปลาดุกไฟฟ้าที่เป็นคู่ปรับในอีกฟากฝั่งหนึ่งของประเภทผืนน้ำที่มีคุณสมบัติสูสีพอกันด้วย ใคร ๆ ก็ว่าปลาดุกช่างเป็นปลาที่น่าคบหา แต่ลองคุณได้จับปลาดุกขนาดยาวสีน้ำตาลนี้สิรับรองว่าความรู้สึกของคุณตอนนั้นจะเกิดความชาอย่างกะทันหันจนคิดอะไรไม่ออกแล้วเหมือนสติถูกทำให้สวิตช์ขาดไปกะทันหันเลย เพราะปลาดุกไฟฟ้าเห็นว่าดูเงียบขรึมและไม่มีพิษมีภัยแล้ว แท้จริงกลับน่ากลัวเป็นอันดับต้น ๆ ในหมู่ปลาน้ำจืดเลยก็ว่าได้ หากอยากรู้ว่าจะน่ากลัวและน่าค้นหาแค่ไหนก็มาอ่านกัน!

ทำความรู้จักกับ “ปลาดุกไฟฟ้า”

“ปลาดุกไฟฟ้า” เป็นปลาหนังน้ำจืดที่อยู่ในวงศ์ของ Malapteruridae มีกำเนิดมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ รูปร่างยาวเป็นทรงกระบอกสีน้ำตาลและสีเทามีหนังที่เรียบ มีครีบไขมันที่โดดเด่น ตามีขนาดเล็ก ริมปากหนา โดยครีบทุกครีบมีปลายครีบมนกลม ถุงลมแบ่งเป็นสองห้องยาว ลวดลายบนลำตัวที่พบเจอในปลาดุกไฟฟ้าส่วนมากจะเป็นลายแถบขาว แต่ในปลาดุกไฟฟ้าบางตัวก็จะมีลายสีขาวคล้ายรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวกลางกลีบอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่มีปลาใดเหมือนด้วย รวมถึงจุดเด่นที่คุณต้องรู้ คือ ปลาดุกไฟฟ้าสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัวได้มากถึง 350 โวลต์ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากโดยเราสามารถพบเจอกับปลาดุกไฟฟ้าได้ตามแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ซึ่งมีธรรมชาติกับระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากใช้ชีวิตประจำวันของมนุษย์ เช่น แม่น้ำไนล์, แม่น้ำคองโก, แม่น้ำแซมเบซี, แม่น้ำไนเจอร์ และแม่น้ำหลายสาย ในทวีปแอฟริกา รวมถึงทะเลสาบต่าง ๆ เช่น ทะเลสาบแทนกันยีกา หรือทะเลสาบชาด เป็นต้น

การดำรงชีวิตของ “ปลาดุกไฟฟ้า”

“ปลาดุกไฟฟ้า” มีนิสัยเงียบขรึมและโลกส่วนตัวสูง ขี้รำคาญจึงมักใช้ชีวิตสันโดษหลบซ่อนตัวอยู่ตามตอไม้หรือโพรงหินสำหรับหลบซ่อนตัว และด้วยความที่เคลื่อนไหวช้ามันจึงรู้ตัวเองดีว่ามีโอกาสจะเป็นเหยื่อของนักล่าหรือปลาอื่น ๆ ที่ใหญ่กว่าได้ จึงค่อนข้างระมัดระวังตัว หากพบเจอการจู่โจมหรือมีสิ่งมีชีวิตเข้ามาใกล้ก็ใช้ป้องกันตัวและช็อตอีกฝ่ายด้วยไฟฟ้าจนสลบ และยังเป็นปลาที่มีความระมัดระวังในการปกป้องลูกมากโดยหลังจากการผสมพันธุ์แล้ว ปลาดุกไฟฟ้าจะทำการขุดโพรงยาวถึง 3 เมตรริมตลิ่งซ่อนตัวให้ไม่มีนักล่าใดมาเห็นได้ เพราะช่วงตั้งท้องจะระวังตัวลำบากมากกว่าปกติหลายเท่า

อาหารสุดโปรดปรานของ “ปลาดุกไฟฟ้า” “ปลาดุกไฟฟ้า” มีอาหารสุดโปรดปรานที่พวกมันชื่นชอบมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์น้ำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาขนาดเล็ก, กุ้ง, สัตว์เลื้อยคลานจิ๋วในทะเล และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหลักการล่าก็ไม่ต่างกับการป้องกันตัว มันจะทำการพุ่งเข้าช็อตเหยื่อของมันให้สลับก่อนแล้วจัดการกินอย่างรวดเร็วทันที

เครดิตภาพ : th.wikipedia.org

#สัตว์น้ำ #สัตว์ทะเล #ปลาดุกไฟฟ้า

Categories
Uncategorized

“อิกัวน่าทะเล” ก็อตซิลล่าที่ซ่อนตัวสุดระทึกใต้มหาสมุทร!

เมื่อโลกของเรามาถึงจุดเปลี่ยนในหลายยุคหลายสมัยที่ผ่านพ้นมา แน่นอนว่านอกจากมนุษย์จะมีการพัฒนาความรู้และสติปัญญาที่สร้างสิ่งใหม่ ๆ มาใช้อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่มากขึ้นจนไม่คาดคิดว่าจะสามารถประดิษฐ์สิ่งที่เหลือเชื่อต่าง ๆ ขึ้นมาได้จริง แม้แต่การติดต่อบุคคลทางไกลที่อยู่คนละซีกโลกก็ยังทำได้ทุกเวลาแบบเรียลไทม์ด้วย แล้วการวิวัฒนาการของสัตว์โลกเล่าทำไมจึงจะไม่เปลี่ยนแปลง คุณไม่รู้หรอกว่าเวลานี้สัตว์ที่เราเห็นในชีวิตประจำวัน ความจริงแล้วในอีกผืนหนึ่งของสภาพแวดล้อมในโลกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้หรือไม่ บางครั้งการที่เราเห็นปลาที่ว่ายอยู่ในน้ำก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีปลาที่เดินในน้ำได้ซึ่งมีการค้นพบมาแล้วสำหรับปลาตีน ซึ่งแบบนี้หากบอกว่าใต้มหาสมุทรแห่งหนึ่งมี “อิกัวนาทะเล” ที่อาศัยอยู่โดยการหายใจใต้น้ำและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจุดที่ลึกจนคนเข้าถึงยากล่ะคุณจะเชื่อหรือไม่ว่ามันมีจริง!

ทำความรู้จักกับ “อิกัวนาทะเล”

“อิกัวนาทะเล” หรืออีกฉายาที่ผู้คนในพื้นที่ตั้งให้ คือ “อิกัวนาทะเลกาลาปาโกส” เป็นสัตว์เลื้อยคลานทะเลจำพวกกิ้งก่าชนิดหนึ่งอยู่ในวงศ์ของอิกัวนาซึ่งเหลือรอดแค่เพียงสายพันธุ์เดียวแล้วในปัจจุบันจึงกลายเป็นสัตว์อนุรักษ์ตามหมู่เกาะกาลาปากอสในเขตแดนประเทศเอกวาดอร์ ในทวีปอเมริกาใต้ที่พบเจอได้แค่บริเวณแถบนี้เท่านั้น อาจพูดได้ว่ามันคือสัตว์พื้นเมืองของที่นี่เลย โดยมีทั้งอิกัวนาทะเลขนาดเล็กและอิกัวนาทะเลขนาดใหญ่หลากหลายสีสันหลากหลายลวดลายสวยงามกันไป แต่หากเป็นอิกัวนาทะเลก็จะมีขนาดใหญ่มากจนมองใกล้ ๆ รู้สึกแลดูยักษ์คล้ายกับก็อตซิลล่าในภาพยนตร์ระดับตำนานเลย ซึ่งที่จริงก็อตซิลล่าก็ถูกอ้างอิงมาจากอิกัวนาทะเลของกาลาปากอสนี่เอง โดยลักษณะของอิกัวนาทะเลจะมีเกล็ดปกคลุมด้านหลังและด้านท้องของลำตัว หางยาวและบางชนิดก็สะบัดหางให้หลุดออกจากตัวเหมือนจิ้งจกได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วย อีกทั้งภายในร่างกายของมันยังเต็มไปด้วยเกลือจากการอยู่ในน้ำทะเลติดต่อกันเวลานาน แต่จะสามารถเอาเกลือออกได้ผ่านการพ่นออกทางรูจมูกและการจาม ฉะนั้นหากคุณเห็นว่าจู่ ๆ มันก็เหมือนจะคำรามเสียงดังก็ไม่ต้องกลัว อิกัวนาทะเลไม่ได้จะขู่คุณแต่มันกำลังเข้าสู่กระบวนการเอาเกลือออกต่างหาก

การดำรงชีวิตของ “อิกัวนาทะเล”

“อิกัวนาทะเล” มักจะชอบแหวกว่ายอยู่ในน้ำที่ลึก 9 เมตรและบางครั้งก็จะขึ้นมาหาอาหารบนบกบ้างซึ่งคุณสามารถพบเจอมันได้ตามป่าชายเลน ชายหาด หรือแอ่งน้ำขังตามริมทะเล เพราะอิกัวนาทะเลเป็นสัตว์ที่ไม่กลัวใครและกับมนุษย์ก็ไม่ได้ชอบเข้าหานัก แต่จะทำเพียงนอนอาบแดดนิ่ง ๆ เพื่อดูแลอุณหภูมิร่างกาย รักสงบ ไม่ดุร้าย ออกจากมีนิสัยน่ารักกว่าตัวเงินตัวทองของบ้านเราด้วยซ้ำ จนเมื่อถึงเวลาที่แดดร่มก็จะกลับลงไปในทะเลเหมือนเดิม

อาหารสุดโปรดของ “อิกัวนาทะเล” “อิกัวนาทะเล” มีอาหารสุดโปรดปราน ได้แก่ พืชบกและพืชน้ำมากมาย โดยเฉพาะสาหร่ายกับตะไคร่น้ำบริเวณโขดหินทะเลจะชอบเป็นพิเศษเลย เพราะระบบย่อยอาหารของอิกัวน่าทะเลจะย่อยพืชได้ดีที่สุด เห็นดูน่ากลัวแบบนี้แต่มันก็ไม่กินสิ่งมีชีวิตใด ๆ เลย คุณจึงไม่จำเป็นต้องกลัวว่าจะถูกมันทำร้ายใด ๆ บอกแล้วว่าอิกัวน่าทะเลใจดี แต่เวลานักสำรวจดำน้ำแล้วเจอมันว่ายหรือเกาะอยู่ตามลำต้นพืชน้ำก็อาจมีระทึกแบบไม่ทันตั้งตัวหน่อยพอให้ตกใจแบบหอมปอกหอมคอ

เครดิตภาพ : /hilight.kapook.com

#สัตว์น้ำ #ความรู้เรื่องสัตว์ #อิกัวน่าทะเล